https://www.thairath.co.th/news/foreign/2075930

เมืองเพิร์ทของออสเตรเลีย มีคำสั่งล็อกดาวน์ครั้งใหม่ หลังพบว่าผู้ที่เคยถูกกักตัวในโรงแรม ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังครบระยะกักตัว และออกจากโรงแรมไปแล้ว
 
คำสั่งล็อกดาวน์ล่าสุดของเมืองเพิร์ท จะมีผลเป็นระยะเวลา 3 วัน หลังพบว่าผู้ที่เคยกักตัวในโรงแรมซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่กักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติของทางการ พบเชื้อโควิด-19 หลังจากที่ครบกำหนดกักตัว 14 วันออกไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา โดยผู้ที่ใกล้ชิดกับชายคนดังกล่าวในเมืองเพิร์ท เพิ่งตรวจพบเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ทำให้นี่เป็นเคสแรกของการติดเชื้อภายในพื้นที่ในรอบ 12 เดือนจนนำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์ โดยในขณะนี้ทางการท้องถิ่นกำลังเร่งติดตามผู้ใกล้ชิดรายอื่นๆ ที่มีการติดต่อกับชายคนดังกล่าวในช่วงระยะ 5 วันที่เขามาพักในเมืองเพิร์ท ก่อนที่เขาจะบินต่อไปยังเมืองเมลเบิร์น และตรวจพบว่าติดเชื้อเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเขายังคงถูกแยกกักตัวไว้เพื่อทำการรักษา
นาย มาร์ก แม็คโกวาน ผู้ว่าการรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลียระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าว จะส่งผลให้ประชาชนในเมืองเพิร์ท ต้องอยู่แต่ภายในบ้านเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันศุกร์เป็นต้นไป ส่วนร้านอาหารและผับต่างๆจะขายอาหารได้เฉพาะแบบสั่งกลับบ้านเท่านั้น ส่วนสถานบันเทิงต่างๆต้องปิดบริการ โดยผลจากการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะทำให้เมืองเพิร์ทต้องงดการจัดงานวันแอนแซ็ค หรือวันทหาผ่านศึกออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ซึ่งตรงกับวันที่ 25 เมษายนนี้

นาย มาร์ก แม็คโกวาน ผู้ว่าการรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลียระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าว จะส่งผลให้ประชาชนในเมืองเพิร์ท ต้องอยู่แต่ภายในบ้านเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันศุกร์เป็นต้นไป ส่วนร้านอาหารและผับต่างๆจะขายอาหารได้เฉพาะแบบสั่งกลับบ้านเท่านั้น ส่วนสถานบันเทิงต่างๆต้องปิดบริการ โดยผลจากการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะทำให้เมืองเพิร์ทต้องงดการจัดงานวันแอนแซ็ค หรือวันทหาผ่านศึกออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ซึ่งตรงกับวันที่ 25 เมษายนนี้
โดยการตรวจพบผู้ติดเชื้อในครั้งนี้ได้สร้างความกังวลให้แก่ทางการออสเตรเลียอีกครั้ง หลังสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดีอยู่ในอันดับต้นๆของโลก โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ไม่ถึง 30,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวมราว 900 ศพ จากประชากรทั้งประเทศ 25 ล้านคน โดยเฉพาะมาตรการในการกักตัวในโรงแรมที่หลายครั้งพบว่ามีการระบาดจากผู้ติดเชื้อรายหนึ่งไปยังผู้ที่ถูกกักตัวในห้องที่อยู่ติดกัน รวมทั้งยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศอินเดียจนทำให้รัฐบาลกลางต้องประกาศคุมเข้มนักเดินทางจากอินเดียเป็นพิเศษ.

----------------------------------------

ญี่ปุ่นจ่อประกาศ 'ภาวะฉุกเฉินโควิด-19' รอบสาม ในโตเกียวและ 3 จังหวัดตะวันตก
https://news.trueid.net/detail/eDMAPYJvVGwD

ข่าววันนี้ โตเกียว, 23 เม.ย. (ซินหัว) --สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รอบสามในกรุงโตเกียวและอีก 3 จังหวัดทางตะวันตก ได้แก่ จังหวัดโอซากา จังหวัดเกียวโต และจังหวัดเฮียวโงะ ตั้งแต่วันอาทิตย์ (25 เม.ย.) จนถึงวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งจะครอบคลุมช่วงวันหยุดยาวหรือโกลเดน วีค (Golden Week) ของประเทศ ท่ามกลางจำนวนผู้ป่วยที่ยังเพิ่มขึ้น
 
 
โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะเข้าร่วมการประชุมกับคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโรคโควิด-19 วันศุกร์นี้ (23 เม.ย.) เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยการประชุมมีขึ้นขณะที่หลายจังหวัดเรียกร้องให้บังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดซึ่งรุนแรงเกินกว่ามาตรการกึ่งฉุกเฉินที่บังคับใช้ก่อนหน้านี้จะคุมได้
 
สุงะกล่าวว่าวันหยุดโกลเดน วีค เป็นช่วงที่ชาวญี่ปุ่นมักเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงจะมีการบังคับใช้มาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดทุกวิถีทาง
 
 
จังหวัดโอซากา ซึ่งแซงหน้ากรุงโตเกียวกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อไม่นานมานี้ ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 1,167 ราย เมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) หลังจากตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ 1,242 รายเมื่อวันพุธ (21 เม.ย.) และมียอดผู้ป่วยใหม่สูงกว่าระดับ 1,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่สาม
 
ฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอซากา ระบุว่าควรเริ่มบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเร่งคุมการระบาดให้ทันท่วงที โดยระบบดูแลสุขภาพของจังหวัดอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมานี้ เพราะผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น
 
โยชิมุระกล่าวกับรัฐบาลกลางว่าเขาวางแผนสั่งให้บาร์และร้านอาหารในบางพื้นที่ ตลอดจนห้างสรรพสินค้าและสวนสนุก ระงับให้บริการชั่วคราวเพื่อคุมไม่ให้ระบาดเพิ่ม รวมถึงต้องการให้จำกัดการเดินทางของประชาชนเพิ่มเติมภายใต้ภาวะฉุกเฉินรอบใหม่ที่กำลังจะถูกบังคับใช้ โดยอาจขอความร่วมมือโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดให้จัดการเรียนการสอนทางออนไลน์ชั่วคราว
 
นอกจากนั้น โยชิมุระยังวางแผนขอความร่วมมือบาร์และร้านอาหารปิดให้บริการในช่วงสุดสัปดาห์และระงับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
 
 
ภายใต้ภาวะฉุกเฉินรอบใหม่นี้ รัฐบาลมหานครโตเกียวจะขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการชั่วคราวเช่นกัน รวมถึงขอให้บาร์และร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปิดให้บริการ
 
เมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) โตเกียวรายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 861 ราย ถือเป็นยอดผู้ป่วยรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่ภาวะฉุกเฉินรอบสองถูกยกเลิกไป โดย ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว กล่าวว่าเราไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยมาตรการที่ผ่านมาได้ และจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการที่เด็ดขาดมากขึ้น
 
ญี่ปุ่นกำลังเผชิญการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดสูง โดยคณะผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุขประเมินว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในจังหวัดโอซากาและจังหวัดเฮียวโงะ ซึ่งกรุงโตเกียวก็มีผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
 
ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดซึ่งเผยแพร่เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดี เปิดเผยว่าญี่ปุ่นพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในรอบวัน เพิ่ม 5,499 รายทั่วประเทศ ซึ่งสูงเกินตัวเลข 5,000 รายเป็นครั้งที่สองในรอบ 3 เดือน ส่วนยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 9,828 ราย