กระบี่ มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลสวยๆ แหล่งกำเนิดต้นน้ำ ถ้ำ วัดวาอาราม หรือแม้กระทั่งคาเฟ่วิวดีๆ แต่ละที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ผมจึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ ของกระบี่ มาไว้ที่นี่ที่เดียว ให้เพื่อนๆ ใช้เป็นข้อมูลในการวางโปรแกรมการท่องเที่ยวกระบี่ครับ
1. เกาะห้อง
เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จุดที่น่าสนใจของเกาะห้องคืออ่าวบิเละ ซึ่งเป็นอ่าวรูปทรงโค้ง 2 อ่าวเรียงตัวเชื่อมต่อกันจนดูคล้ายกับนกที่กำลังโบยบิน หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต เป็นเกาะที่ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 Dream Destination กาลครั้งหนึ่งต้องไป ของ ททท. เมื่อราวๆ ปี 2557 ด้วยครับ
หากใครมีเรี่ยวแรง แนะนำให้เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวเกาะห้องซึ่งตั้งอยู่บนเขา เส้นทางเดินขึ้นจุดชมวิว เดินง่ายแต่ค่อนข้างสูงชัน ด้านบนจะมองเห็นป่าเกาะมุมสูงแบบ 360 องศา บอกเลยว่าเมื่อได้เห็นวิวที่อยู่ตรงหน้าแล้วหายเหนื่อยเลยครับ แต่อย่าลืมพกยาดมติดตัวไปด้วย ได้ใช้แน่นอน
2. ทะเลใน
ทะเลใน หรือลากูน ทางเข้าออกลากูนมีเพียงช่องทางเดียว โดยมีความกว้างประมาณ 10 เมตร ด้านในของลากูนถูกโอบล้อมด้วยหน้าผาชัน ยามน้ำลงจะเห็นน้ำใส ทรายขาว เราสามารถลงไปยืนในทะเลในได้เลย แต่ถ้าหากน้ำขึ้นก็จะเห็นน้ำทะเลออกสีเขียวมรกตครับ
3. เกาะเหลาลาดิง
เกาะเหลาลาดิง หรือเกาะพาราไดซ์ เกาะลับเล็กๆ ที่แฝงไว้ด้วยความสวยงามของหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด และมีความเงียบสงบส่วนตัว
4. เกาะผักเบี้ย
เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง โดยมีแนวชายหาดไม่กว้างนัก ในช่วงที่น้ำทะเลลงจะมีสันทรายคล้ายๆ ทะเลแหวก ทอดยาวไปยังอีกเกาะหนึ่งซึ่งเรียกว่าเกาะผักเบี้ยเช่นกัน สามารถเดินถึงกันได้ในช่วงเวลาที่น้ำลงเท่านั้น
สำหรับการท่องเที่ยวเกาะห้อง ทะเลใน เกาะเหลาลาดิง และ เกาะผักเบี้ย สามารถเหมาเรือจากหาดทับแขก ผ่านคุณศักดิ์สิทธิ์ 089-5868058 ในราคาลำละ 1,800 บาท (ต่อนักท่องเที่ยว 2 คน) ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 20 นาที หรือจะไป Joy Trip กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ โดยซื้อแพคเกจทัวร์จากบริษัทท่องเที่ยวแถวอ่าวนางก็ได้ครับ การนั่งเรือจากหาดทับแขกจะใกล้กว่านั่งเรือจากอ่าวนางครับ
5. เกาะพีพีดอน
เกาะพีพีดอน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะพีพี เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงาม น้ำใส ใจกลางของเกาะอยู่บริเวณอ่าวต้นไทร จุดนี้จะเป็นศูนย์รวมรีสอร์ทและร้านอาหาร หากใครมีเวลาและกำลังวังชาเยอะ แนะนำให้เดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ด้านบนจะมองเห็นความสวยงามของเวิ้งอ่าวต้นไทรและเวิ้งอ่าวโละดาลัม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะพีพีดอนครับ
6. อ่าวปิเละ ลากูน
อ่าวปิเละ ลากูน เป็นเวิ้งอ่าวขนาดใหญ่ที่แวดล้อมด้วยหน้าผาสูงของเกาะพีพีเล น้ำมีสีเขียวมรกต สวยงามมากๆ ครับ
7. อ่าวมาหยา
อ่าวมาหยา เป็นส่วนหนึ่งของเกาะพีพีเล ความสวยงามของอ่าวมาหยาดังไกลไปทั่วโลก เพราะอ่าวแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลีวู้ดอย่าง The Beach ปัจจุบันอ่าวมาหยายังปิดเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู แต่สามารถจอดเรือชมความสวยงามอยู่ห่างๆ ครับ
8. ถ้ำไวกิ้ง
ถ้ำไวกิ้ง เป็นส่วนหนึ่งของเกาะพีพีเลเช่นกัน ถ้ำไวกิ้งเป็นถ้ำที่มีการสัมปทานรังนก ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมภายในถ้ำ แต่สามารถจอดเรือชมอยู่ห่างๆ ได้ครับ
9. เกาะไม้ไผ่
เกาะไม้ไผ่ เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน เป็นเกาะที่เงียบสงบ หาดทรายขาว น้ำทะเลใสมากๆ นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังหลากหลายชนิด จนได้รับการขนานนามว่า ดงปะการังแสนไร่
การมาเที่ยวเกาะพีพีดอน อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา ถ้ำไวกิ้ง และเกาะไม้ไผ่ สามารถซื้อแพคเกจ One day Trip จากแถวๆ อ่าวนาง หรือจะเหมาเรือหางยาวของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา ก็ได้ครับ
10. ทะเลแหวก
ทะเลแหวก ช่วงที่น้ำทะเลลด เราจะเห็นสันทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ เข้าไว้ด้วยกัน แต่ในช่วงที่น้ำทะเลขึ้น สันทรายก็จะจมหายไป มองเห็นทั้งสามเกาะแยกออกจากกัน นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้น
11. เกาะไก่
เกาะไก่ เป็นหนึ่งในเกาะที่ทำให้เกิดทะเลแหวก ที่เกาะนี้มีชื่อว่าเกาะไก่ ก็เพราะด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ มองดูคล้ายๆ คอไก่ครับ
การเดินทางมาเที่ยวทะเลแหวก เกาะไก่ สามารถซื้อแพคเกจ One day Trip หรือจะเหมาเรือหางยาวของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา หรือแถวอ่าวนางก็ได้ครับ
12. หาดถ้ำพระนาง
ถ้ำพระนาง เป็นถ้ำตื้นๆ เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของพระนางอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวเรือแถวนี้เคารพสักการะ ด้านในถ้ำจะมีศาลของเทพธิดา และมีปลัดขิกหลากหลายขนาดนับร้อยๆ อัน ที่ชาวบ้านนำมาแก้บน ในช่วงเย็น สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ด้วยครับ
13. หาดทับแขก
หาดทับแขก คำว่า “ทับแขก” มาจากคำว่า “ทับ” หมายถึง “บ้าน” และคำว่า “แขก” หมายถึง “ผู้มาเยี่ยมเยือน” เสน่ห์ของหาดทับแขกคือ หมู่เกาะห้อง 13 เกาะ ที่ชาวบ้านเรียกว่าป่าเกาะ ซึ่งหมายถึงเกาะจำนวนมากมาย ทอดตัววางเรียงอยู่ด้านหน้าหาด อยู่ทางทิศตะวันตก มีเกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ขวางบังคลื่นลมราวกับกำแพงที่ธรรมชาติสร้างไว้ ทำให้หาดทับแขกเป็นเสมือนหาดไร้คลื่นทะเล ไม่มีไอน้ำเค็มเหมือนเช่นหาดอื่นๆ
ช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์จะตก ผมแนะนำว่าไม่ควรพลาดมานั่งชมบรรยากาศของหมู่เกาะห้องนะครับ ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า แสงของดวงอาทิตย์จะเริ่มอ่อนกำลังลง และสาดส่องมายังหมู่เกาะทั้ง 13 ทำให้หมู่เกาะทั้ง 13 เหมือนจะเปล่งแสงสีทองออกจากเกาะกันเลยทีเดียว ตำแหน่งของเกาะแต่ละเกาะที่อยู่ใกล้ ไกลกัน ทำให้มองเห็นเป็น Layer อย่างสวยงาม เกาะไหนที่อยู่ใกล้เรา จะเป็นสีเข้ม ส่วนเกาะไหนที่อยู่ไกลเรา จะเป็นสีจางๆ สวยงามอย่าบอกใครเชียว ความสวยงามจะเริ่มตั้งแต่แสงของดวงอาทิตย์ที่เริ่มอ่อนกำลังลง จนทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์ที่กลมโต ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าไป และหลังจากนั้นก็จะได้เห็นแสงสีที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นอีกครั้ง สวยงามจนสะกดให้ผมตกอยู่ในภวังค์เลยครับ
14. หาดนพรัตน์ธารา
หาดนพรัตน์ธารา อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวบ้านเรียกหาดแห่งนี้ว่า “หาดคลองแห้ง” เพราะช่วงที่น้ำลง น้ำคลองที่ไหนมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด กลายเป็นหาดทรายทอดตัวลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง ช่วงที่น้ำลงเราสามารถเดินไปยังเกาะเล็กๆ ด้านหน้าหาดได้เลยครับ
15. Tew Lay Bar
Tew Lay Bar เป็นคาเฟ่ที่มีพื้นที่ให้นั่งแบบชิลๆ เยอะมาก แถมมีมุมถ่ายรูปไว้อวดเพื่อนๆ เพียบ..... มีทั้งมุมรังนก มุมชิงช้า และอีกมุมที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง นั่นคือ ที่นั่งไม้บนกิ่งไม้ที่ยื่นยาวลงไปในทะเล ใครมา Tew Lay Bar แล้วไม่ได้มาถ่ายภาพมุมนี้ ถือว่ามาไม่ถึง Tew Lay Bar ครับ Tew Lay Bar เปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-23.00 น. หากใครมาเที่ยวที่ไร่เลย์แล้ว ไม่อยากให้พลาดที่นี่ครับ
การเดินทางมา Tew Lay Bar สามารถมาได้ทางเดียว คือการนั่งเรือเท่านั้น สะดวกสุดคือนั่งเรือจากอ่าวน้ำเมา นั่งเรือประมาณ 10 นาที เพื่อมาลงยังท่าเรือไร่เลย์ฝั่งตะวันออก จากท่าเรือเดินเลี้ยวขวา เลาะทะเลมาเรื่อยๆ จนสุดเส้นทางครับ ระยะทางไกลพอสมควร แต่เดินมาถึงแล้วได้เจอวิวสวยๆ แบบนี้ คุ้มค่าเหนื่อยครับ
16. อ่าวท่าเลน
อ่าวท่าเลน เป็นอ่าวเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงไม่เล็กเหมือนขนาดของอ่าว แต่อ่าวท่าเลนมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกในเรื่องธรรมชาติที่สวยงาม มีทั้งป่าชายเลนที่สมบูรณ์และยังมีภูเขาหินปูนมากมาย จึงเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกนิยมมาพายคายัคเพื่อชมทิวทัศน์ของอ่าวท่าเลน โดยช่วงแรกเราจะต้องพายคายัคออกจากท่าเรือ มุ่งตรงไปยังป่าชายเลน ช่วงนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องพายผ่านกระแสน้ำทะเลครับ
แต่เมื่อพายเข้ามาในพื้นที่ของป่าชายเลนแล้ว จะพายได้ง่ายขึ้น น้ำจะนิ่ง ไม่มีคลื่นลม พายลัดเลาะไปตามป่าโกงกาง ได้เรียนรู้ระบบนิเวศของป่าชายเลน สำหรับระยะทางในการพายจะเริ่มต้นที่ 4-6 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางเราจะได้พบกับไฮไลต์ต่างๆ มากมาย เช่น ถ้ำลอด ลากูนกลางทะเล ชายหาดเล็กๆ ป่าเกาะหินปูน ถือเป็นการออกกำลังกายไปพร้อมๆ กับการได้ซึมซับกับธรรมชาติเป็นอย่างมากครับ
[CR] "กระบี่" 35 จุดเช็คอิน ห้ามพลาด !!!
หากใครมีเรี่ยวแรง แนะนำให้เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวเกาะห้องซึ่งตั้งอยู่บนเขา เส้นทางเดินขึ้นจุดชมวิว เดินง่ายแต่ค่อนข้างสูงชัน ด้านบนจะมองเห็นป่าเกาะมุมสูงแบบ 360 องศา บอกเลยว่าเมื่อได้เห็นวิวที่อยู่ตรงหน้าแล้วหายเหนื่อยเลยครับ แต่อย่าลืมพกยาดมติดตัวไปด้วย ได้ใช้แน่นอน
สำหรับการท่องเที่ยวเกาะห้อง ทะเลใน เกาะเหลาลาดิง และ เกาะผักเบี้ย สามารถเหมาเรือจากหาดทับแขก ผ่านคุณศักดิ์สิทธิ์ 089-5868058 ในราคาลำละ 1,800 บาท (ต่อนักท่องเที่ยว 2 คน) ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 20 นาที หรือจะไป Joy Trip กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ โดยซื้อแพคเกจทัวร์จากบริษัทท่องเที่ยวแถวอ่าวนางก็ได้ครับ การนั่งเรือจากหาดทับแขกจะใกล้กว่านั่งเรือจากอ่าวนางครับ
การมาเที่ยวเกาะพีพีดอน อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา ถ้ำไวกิ้ง และเกาะไม้ไผ่ สามารถซื้อแพคเกจ One day Trip จากแถวๆ อ่าวนาง หรือจะเหมาเรือหางยาวของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา ก็ได้ครับ
การเดินทางมาเที่ยวทะเลแหวก เกาะไก่ สามารถซื้อแพคเกจ One day Trip หรือจะเหมาเรือหางยาวของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา หรือแถวอ่าวนางก็ได้ครับ
ช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์จะตก ผมแนะนำว่าไม่ควรพลาดมานั่งชมบรรยากาศของหมู่เกาะห้องนะครับ ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า แสงของดวงอาทิตย์จะเริ่มอ่อนกำลังลง และสาดส่องมายังหมู่เกาะทั้ง 13 ทำให้หมู่เกาะทั้ง 13 เหมือนจะเปล่งแสงสีทองออกจากเกาะกันเลยทีเดียว ตำแหน่งของเกาะแต่ละเกาะที่อยู่ใกล้ ไกลกัน ทำให้มองเห็นเป็น Layer อย่างสวยงาม เกาะไหนที่อยู่ใกล้เรา จะเป็นสีเข้ม ส่วนเกาะไหนที่อยู่ไกลเรา จะเป็นสีจางๆ สวยงามอย่าบอกใครเชียว ความสวยงามจะเริ่มตั้งแต่แสงของดวงอาทิตย์ที่เริ่มอ่อนกำลังลง จนทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์ที่กลมโต ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าไป และหลังจากนั้นก็จะได้เห็นแสงสีที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นอีกครั้ง สวยงามจนสะกดให้ผมตกอยู่ในภวังค์เลยครับ
การเดินทางมา Tew Lay Bar สามารถมาได้ทางเดียว คือการนั่งเรือเท่านั้น สะดวกสุดคือนั่งเรือจากอ่าวน้ำเมา นั่งเรือประมาณ 10 นาที เพื่อมาลงยังท่าเรือไร่เลย์ฝั่งตะวันออก จากท่าเรือเดินเลี้ยวขวา เลาะทะเลมาเรื่อยๆ จนสุดเส้นทางครับ ระยะทางไกลพอสมควร แต่เดินมาถึงแล้วได้เจอวิวสวยๆ แบบนี้ คุ้มค่าเหนื่อยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้