[SR] รีวิวครั้งแรก: ประสบการณ์ไปใช้บริการ Thermal Experience @ Sindhorn Wellness by Resense โรงแรมสินธร เคมปินสกี้

ก่อนโควิดระลอกล่าสุด เราได้จองนัดไปใช้บริการ Thermal Experience  ที่เป็นส่วนหนึ่งในบริการ wellness ของ Sindhorn Wellness by Resense  โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ https://sindhornwellness.com/ไปใช้บริการที่นี่ เพราะได้ลุ้นรับรางวัล voucher ฟรีมูลค่า 1,200 บาท เมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนไปทานข้าวที่ เวลา สินธร วิลเลจ (Velaa Sindhorn Village)  Community Mall ริมถนนหลังสวน 

เพี้ยนแข็งแรงช่วงเวลาโควิด ทำให้ที่นี่จำกัดต้องจำนวนคนเข้าใช้บริการ เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างกัน  ตอนที่เราไป มีคนเข้าใช้บริการน่าจะไม่ถึง 10 คน เข้าใจว่ามีทั้งคนต่างชาติและชาวไทยที่พักที่โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ อยู่แล้ว  รวมทั้งคนที่เพิ่งเคยเข้ามา check in ลองใช้บริการที่นี่ครั้งแรก 

กดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 9  ของโรงแรมก็จะเข้าถึงโซนที่เป็นของ Sindhorn Wellness by Resense  ที่เราไปค้นมาว่าเพิ่งได้รับรางวัลสปาเปิดใหม่ยอดเยี่ยมประจำปี 2563 สดๆ ร้อนๆ จาก Destination Deluxe Awards  ....บรรยากาศต้อนรับดีมาก  น้องๆ เป็นกันเอง  ไม่ต้องเดินตัวเกร็ง 


  ชั้ น 9 โซนด้านหน้าก่อนเข้าใช้บริการ Sindhorn Wellness by Resense


ตกแต่งโทนขรึม ๆ หรูหรา แต่ได้ฟิลของความเป็นกันเอง  

Mood and Tone ของที่นี่เป็นแนวหรู ออกแนวขรึมๆ ดูลึกลับ ให้ความรู้สึกสงบ แต่ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสุดๆ  เรายื่น voucher ให้ปุ๊บ น้องก็พาเดินชมส่วนต่าง ๆ เริ่มจาก Relaxation Lounge ที่มีโซฟาหนังสีขาว มีผนังกั้นระหว่างกัน ดูออกว่าได้ผ่านการออกแบบที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากๆ  เหมาะสำหรับมานั่งเล่น หรือนอนยาวได้เล้ย (ลืมถ่ายรูปล่ะ) เพี้ยนมองบน     ...จากนั้นน้องก็พาเราเดินไปบรีฟไปถึงโซนอื่นๆ  เน้นโซนที่เรียกว่า Thermal Experience  อารมณ์เหมือนตอนน้องเซลล์นำชมฟิตเนสนั่นแหละ…แต่จะเป็นยังไง ไปดูกันเล้ย... 


Mood and Tone ทางเดิน ก่อนที่เราจะไปเจอประสบการณ์ที่เรียกว่า Thermal Experience

อันดับแรกเลย เราต้องเปลี่ยนชุดที่ Changing rooms  ในล๊อคเกอร์มีพร้อมทั้งชุดคลุม (Bathrobe) รองเท้าหนีบ และไม้แขวนเสื้อทั้งแบบแขวนและแบบหนีบ  ใช้ระบบล๊อคดิจิทัลคล้องข้อมือ ทนร้อน กันน้ำ ไม่ต้องกลัวหล่นหาย สะดวกสุด ๆ  
พร้อมแล้ว...ไปกันเล้ย



ด้วยความที่ชอบอะไรที่ร้อนๆ  ห้องแรกที่เข้าเลยคือ ห้องซาวน่าเกลือหิมาลายัน แล้วสลับกับห้องเย็นที่อุณหภูมิ -5 องศา (ลืมถ่ายรูปห้องนี้) ได้ฟิลเหมือนกำลังนั่งอยู่ในตู้เย็น เดินสลับไปมาหลายครั้งทีเดียว เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด...สบายตัวสุดๆ  


ชอบเลยห้องนี้...ซาวน่าเกลือหิมาลายัน ตกแต่งผนังเกลือแบบสลับสี  สะอาด...น่าเข้าสุดๆ  


เคาน์เตอร์ผ้าขนหนู  ผ้าเย็น  น้ำดื่มใส่แตงกวาฝาน   มีเจ้าหน้าที่มาดูแลความเรียบร้อยตลอดเลย  เพี้ยนชนแก้ว

ลองเล่นไปเรื่อยๆ ...   
อีกห้องคือ RASUL ROOM  เป็นห้องสตีม มีที่นั่งแบบอาราบิกที่ไม่ได้มีไอน้ำเยอะ ๆ เหมือนห้องสตีมแบบเต็มรูปแบบ ห้องนี้มีแค่ 2 ที่นั่ง ถ้าชอบบรรยากาศแบบที่ไม่เงียบเกินไป ก็มีปุ่มให้กดเพลงบรรเลงด้วย แถมมีไฟสลับสีไปเรื่อย ๆ ได้ไม่เบื่อ อยากเอาน้ำราดตัว ก็มีฝักบัวให้ใช้ด้วย...แปลกไปอีกแบบ 


RASUL ROOM   ห้องที่เปลี่ยนสีได้ทั้งฟ้า เขียว ชมพู...ไม่มีเบื่อเลย 

อย่างที่บอกตอนแรก คือเราชอบห้องที่ร้อน ๆ แนวไอน้ำ ถัดมาอีกห้องที่ชอบคือ Aroma Steam Room  คือร้อนแบบจริงจัง แต่ร้อนไม่บาดตัวนะ เพราะเคยไปโรงแรมบางที่ ร้อนบาดตัวมาก ต้องรีบออก  อันนี้คือ ร้อนแบบสบาย ๆ ตัว มีกลิ่นอโรมาของยูคาลิปตัส คือชอบมากห้องนี้  อยู่ได้นานทีเดียว 

Aroma Steam Room  เข้าห้องนี้บ่อยที่สุด มีกลิ่นอโรมาหอมยูคาลิปตัส 


ถัดมาห้องฝั่งตรงข้ามคือห้อง Bio Sauna  เราว่าเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่สุดละ ตรงส่วนเตาถ่านซาวน่ามีสมุนไพรวางไว้ด้วย ไม่แน่ใจว่าคือ โรสแมรี มั้ย? ถ้าใครรู้ บอกด้วยจ๊ะ...ห้องนี้ถ้านั่งหันหน้าออกประตู จะเห็นทะลุถึงวิวเมืองเลยล่ะ  ส่วนด้านบนเพดาน เค้ามีออกแบบเป็นดาวหลายๆ ดวง  มองดูเพลินไปเลย 


Bio Sauna  ได้วิวเมือง และยังเพลินไปกับดาวบนเพดาน 

อยู่ห้องร้อน ๆ มานาน  ลองเดินมาเล่นไปห้องเย็น ๆ มั่ง... เพี้ยนส่อง

ที่ชอบสุด ๆ คือ ได้เล่นกับถังเย็น Cold Bucket Shower แค่ดึงโซ่ที่ผูกติดกับถัง ฟิลเหมือนเล่นในสวนสนุก ตื่นเต้นเร้าใจดี  เดาไม่ถูกว่าความเย็นมันจะมากระทบเราแบบเต็ม ๆ เลยมั้ย  หรือถ้าชอบแนวซอฟท์กว่านี้อีกหน่อย ต้องห้องนี้เลย  Experience Shower  (ลืมถ่ายอีกล่ะ) สัมผัสกับระบบฝอยน้ำกระจาย 5 ทิศทางทั้งด้านหน้า ด้านบนล่างซ้ายขวา 


อยากเล่นกับถัง  Cold Bucket  หรืออยากสบายตัวจากฝักบัวรอบทิศทางกับ Experience Shower แล้วแต่เลย  

เล่นสนุกมามากพอล่ะ...ต้องมานั่งพักผ่อนแบบชิว ชมวิวเมืองกับที่นั่งแบบ Tepidarium Loungers  ที่เป็นเซรามิคทั้งตัวแบบอุ่น ๆ  อุณหภูมิที่นั่งจะอยู่ที่ 37-38 องศาเซลเซียส...นั่งได้ยาว ๆ ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจได้ดีทีเดียว 

Tepidarium Loungers  นั่งสบาย จนอยากหลับเลย 
เพี้ยนฝันดี
หลังจากนี้ก็ Thermal  Experience ห้องต่าง ๆ วนไปได้หลาย ๆ รอบเลย...   
เสร็จแล้วก็อย่าลืมโดดลงสระว่ายน้ำ outdoor ของโรงแรมความยาว 25 เมตรมุมกว้าง เห็นวิวสวยของสวนลุมพินี ที่เค้าเปิดตั้งแต่เช้า 8.30 น.จนถึง 4 ทุ่ม  


เปิดประตูมา ลงสระว่ายน้ำ outdoor  ต่อได้เลย ส่วนตัวสุดๆ  

เรียกได้ว่าที่นี่ Sindhorn Wellness by Resense จัดเต็มสำหรับการสอดแทรกประสบการณ์แนวสุขภาวะ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ดีท๊อกร่างกาย และผ่อนคลายกับการเล่นกับอุณหภูมิสลับร้อนเย็น ไม่มีเบื่อเลย...เราอยู่ได้นานถึงเกือบ 3 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าทีเดียว 

Do and Don’t  
-พกพวกทูพีช หรือชุดว่ายน้ำ แล้วแต่ชอบมาด้วยนะ นอกนั้นที่นี่จัดให้หมด 
-หลังจากใช้บริการส่วน Thermal Experience แล้ว อย่าลืมเปิดประตูลงสระว่ายน้ำ outdoor ของโรงแรม  
-คนที่มีโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ  โรคความดัน โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือกำลังตั้งครรภ์  แนะนำให้เลี่ยงเข้าใช้ห้องซาวน่าหรือห้องอบไอน้ำ  
-เห็นว่ามีห้องสปาทรีตเมนต์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มาให้บริการที่นี่อีก 18 ห้อง รวมไปถึงห้องสวีทส่วนตัว และมีทรีตเมนต์ให้เลือกอีกด้วย  แต่เข้าใจว่าเพราะยังอยู่ในช่วงโควิด เลยยังไม่มีนโยบายเปิดบริการส่วนนี้ 

เรียกว่าคิดครบจริง ๆ กับเครื่องปั่นแห้งชุดเปียก พร้อมถุงใส่ชุดเปียกกลับบ้านได้เลย  

เครื่องปั่นชุดเปียก และถุงใส่ชุดเปียก 


เพี้ยนปักหมุด
รีวิวนี้เป็นครั้งแรกที่เอามาเล่าให้เพื่อน ๆ ใน Pantip 
ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ...หากมีผิดพลาดเรื่องข้อมูลใด ๆ ต้องขออภัยด้วยน๊า


**ฝากติดตามทุกเรื่องเล่าแนว Health - Lifestyle - Food  ของเราได้ที่ Blockdit >> https://www.blockdit.com/babybird.looknok  ด้วยน๊า
ชื่อสินค้า:   Sindhorn Wellness by Resense โรงแรมสินธร เคมปินสกี้
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่