ศรีราชา & เกาะสีชัง Ep.2
By Auntie & Yayee
กาลครั้งหนึ่ง @ เกาะสีชัง Ep.1
เมื่อนึกถึงเกาะที่สวยงามน่าเที่ยวทางภาคตะวันออกของประเทศไทย ส่วนใหญ่จะนึกถึงเกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด ที่อยู่ไกลออกไป แต่เมื่อเอ่ยถึงเกาะสีชังที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่เอื้อม บางคนก็ไม่รู้จัก บางคนก็คิดว่าไม่มีอะไรน่าเที่ยว แต่สำหรับเราแล้วแม้เกาะสีชังจะไม่ได้มีที่เที่ยวมากมายนัก แต่มีความสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศ ชาร์จพลังงานให้ตัวเอง ถ้ามีเวลาไม่มาก อยากพักผ่อนสบายๆ เกาะสีชังก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพแค่ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น
สมัยก่อนเวลามาเที่ยวเกาะสีชังจะไปเช้าเย็นกลับ ขับรถมาจากกรุงเทพฯแต่เช้า มาจอดรถที่ท่าเรือเกาะลอย แล้วนั่งเรือโดยสารไปที่เกาะ เที่ยวเสร็จก็ลงเรือกลับเข้าฝั่งศรีราชา นึกย้อนกลับไปครั้งสุดท้ายที่มาเที่ยวเกาะสีชังก็เกินสิบปีแล้ว ครั้งนี้เราจะไปเกาะสีชังด้วยรูปแบบที่แตกต่างออกไป เด็กเล็กไปได้ ผู้สูงอายุไปก็สะดวกสบายดี จะเป็นอย่างไร ก็ติดตามกันได้เลย
เนื่องจากชาวคณะของเรามีทั้งหลานเล็กอายุ 2 ขวบกว่าจนถึงคุณปู่ อายุ 80 กว่า เลยเลือกการเดินทางที่สบายๆไม่รีบร้อน ออกจากกรุงเทพฯสายๆ แวะเที่ยวมาเรื่อยๆ ถึงศรีราชาตอนบ่ายๆ มาพักตั้งหลักที่โรงแรมโนโวเทลมารีน่าศรีราชา&เกาะสีชัง โรงแรมที่จุดประกายให้อยากกลับไปเกาะสีชังอีกครั้ง
ท่าเรือ และ speed boat ของโรงแรม
โรงแรมโนโวเทลมารีน่าศรีราชาและเกาะสีชัง มีโรงแรมอยู่ที่ฝั่งศรีราชา และฝั่งเกาะสีชัง ให้เลือกพักได้ตามสะดวก ในครั้งนี้เลือกที่จะพักฝั่งศรีราชา 1 คืน และไปพักที่เกาะสีชัง 2 คืน ถามว่าเกาะสีชังมีที่เที่ยวเยอะขนาดต้องให้พัก 3 วัน 2 คืน เลยรึ ก็เปล่าจริงๆเที่ยววันเดียวก็หมด แต่เรามีเวลาเยอะและอยากพักพ่อนสบายๆ ซึมซับบรรยากาศทั้งในโรงแรมและบนเกาะ แบบไม่รีบร้อน ก็เลยเลือกแบบนี้
หลังจากพักค้างคืนที่ฝั่งศรีราชาหนึ่งคืน ก็เตรียมตัวเดินทางไปเกาะสีชัง เราจองเรือของโรงแรมรอบ 11.00 น. ไว้ จึงต้อง check out ห้องที่ศรีราชา ประมาณ 10.30 น. และ check in ห้องพักฝั่งเกาะสีชังจากศรีราชาไปพร้อมกันเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะออกตั๋วเรือให้เราไปเตรียมตัวลงเรือ speed boat จากท่าเรือ Pier 339 ของโรงแรม
ชุมชนบริเวณใกล้ท่าเรือของโรงแรม
ภายในเรือจุผู้โดยสารให้ 25 คน มีเสื้อชูชีพของผู้ใหญ่ให้พร้อม แต่สำหรับเด็กเล็กเราเตรียมมาเอง เกาะสีชังเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ที่อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชา 12 กิโลเมตร เดินทางด้วย speed boatใช้เวลา 20 นาที ทิวทัศน์ระหว่างทาง เป็นภาพการไปเกาะที่แปลกที่สุด เพราะไม่ใช่มีแต่ทะเลเวิ้งว้าง เหมือนเกาะอื่นๆ แต่มีฉากเป็นเรือสินค้าที่จอดนิ่งสนิทเต็มทะเล
โรงแรมโนโวเทล เกาะสีชัง
เมื่อเรือเทียบท่า Pier 333 เจ้าหน้าที่ของโรงแรมเอารถกอล์ฟมารอรับอยู่แล้ว พาขึ้นไปรับ key card ที่ Lobby แล้วไปส่งที่ห้องพักถ้าพักในโซนวิลล่า ห้องพักของฝั่งเกาะสีชังจะแบ่งออกเป็นห้องพักบนอาคารที่อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกาย ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ แต่ถ้าพักโซนวิลล่า ก็จะมีความเป็นส่วนตัวแต่ห่างจากสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ไม่ได้ลำบาก ถ้าเดินไม่ไหวก็มีรถกอล์ฟบริการรับส่ง
ท่าเรือ Pier 333 ของโรงแรมฝั่งเกาะสีชัง
จุดพักคอยลงเรือ นั่งเล่นชมวิว
ห้องออกกำลังกาย
ทางเดินไปห้องอาหาร
บรรยากาศในล็อบบี้มองเห็นทะเล
สนามเด็กเล่น มุมโปรดของเด็กน้อย
ท่าเรือ Pier 333
ระหว่างที่รอเข้าห้องพักนั้นก็เดินเล่น ดูบรรยากาศรอบๆโรงแรม เป็นสถานที่ที่มีความสงบ วิวสวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างยิ่ง
ลงไปนั่งหรือนอนถ่ายรูปได้ แบบหวิวๆ มองลงไปเห็นน้ำทะเลใสๆ
ทางขึ้นไปล็อบบี้ และ ห้องอาหาร
ทางเดินริมทะเล หน้า Pool Villa
Island Premier Villa
บรรยากาศ Pool Villa หันหน้าหาวิวทะเลเต็มๆ
เดินจนรอบโรงแรมแล้วก็เข้าไปดูในห้องพักของเราบ้างว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากเราไปเป็นครอบครัวใหญ่ เลยจอง Grand Pool Villa ที่มี 2 ห้องนอน และ Premier villa ที่อยู่ใกล้กัน เดินไปมาหากันได้สะดวก
ห้องน้ำแยกเป็น 2 ฝั่ง ห้องสุขา และ ห้องอาบน้ำ
ว่ายน้ำเสร็จแล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำได้เลย
เสร็จแล้วมาดูอีกห้องหนึ่งบ้าง ภายในห้องนอนเล็ก จะหน้าตาเหมือนกับ Premier Villa แต่มีขนาดเล็กกว่า ห้องทั้งสองห้อง สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง จากทางประตูที่ใช้ key card และจากประตูกระจกฝั่งระเบียง
ห้องสุขาและห้องอาบน้ำแยกจากกัน
นอนชมวิวทะเล
ระเบียงนั่งเล่นหลังห้องช่วง 14.00 - 17.00 น. ทางโรงแรมมี afternoon tea ให้สั่งจองได้ จัดมาเป็นกระเช้าอย่างอลังการทีเดียว ทั้งขนมไทยและเทศ เช่น ปลาแห้งแตงโม ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง สะเต๊ะ มาการอง ฝอยทอง อร่อยหมดทุกอย่าง ไม่มีภาพเพราะลืมถ่ายรูปไว้ กว่าจะนึกได้ก็เหลือแค่น้ำชาติดกาเท่านี้
วันนี้วิ่งเล่น พักผ่อนในโรงแรมเต็มๆวัน มื้อเที่ยงรับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมไปแล้ว ถึงภายในโรงแรมจะมีห้องอาหารเพียงห้องเดียว มาอยู่หลายวันก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเบื่ออาหารโรงแรม เพราะสามารถสั่งอาหารทะเลจากร้านข้างนอกโรงแรมให้มาส่งที่โรงแรมได้ จะขอเบอร์ร้านจากทางโรงแรมก็ได้ หรือจะหาเองจากร้านดังๆในเกาะสีชังก็ได้ บางร้านมีบริการส่งโดยไม่คิดค่าส่ง ถ้าไม่มีอุปกรณ์จาน ชาม สามารถยืมทางโรงแรมได้ บางร้านก็จัดเตรียมมาให้พร้อมไม่ต้องรบกวนทางโรงแรม
มุมมหาชน
สระว่ายน้ำที่มีบริการพิเศษ Floating Breakfast
วิวยามเย็นจากระเบียงห้อง
วิวยามเย็นจากฝั่งห้องนอนหลัก
นั่งมองวิวจากระเบียงห้องเพลินๆ ทะเลเงียบสงบ มีเรือสินค้าลอยลำ มากมายในทะเล วันนี้หมดวันแล้วอำลาไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเที่ยวรอบเกาะสีชังในวันรุ่งขึ้น
ตอนถัดไป "กาลครั้งหนึ่ง @ เกาะสีชัง Ep. 2"
ตอนก่อนหน้า "ศรีราชา & เกาะสีชัง"
บันทึกแห่งการเดินทางของสาวสองวัย: ศรีราชา & เกาะสีชัง Ep.2
By Auntie & Yayee
สมัยก่อนเวลามาเที่ยวเกาะสีชังจะไปเช้าเย็นกลับ ขับรถมาจากกรุงเทพฯแต่เช้า มาจอดรถที่ท่าเรือเกาะลอย แล้วนั่งเรือโดยสารไปที่เกาะ เที่ยวเสร็จก็ลงเรือกลับเข้าฝั่งศรีราชา นึกย้อนกลับไปครั้งสุดท้ายที่มาเที่ยวเกาะสีชังก็เกินสิบปีแล้ว ครั้งนี้เราจะไปเกาะสีชังด้วยรูปแบบที่แตกต่างออกไป เด็กเล็กไปได้ ผู้สูงอายุไปก็สะดวกสบายดี จะเป็นอย่างไร ก็ติดตามกันได้เลย
เนื่องจากชาวคณะของเรามีทั้งหลานเล็กอายุ 2 ขวบกว่าจนถึงคุณปู่ อายุ 80 กว่า เลยเลือกการเดินทางที่สบายๆไม่รีบร้อน ออกจากกรุงเทพฯสายๆ แวะเที่ยวมาเรื่อยๆ ถึงศรีราชาตอนบ่ายๆ มาพักตั้งหลักที่โรงแรมโนโวเทลมารีน่าศรีราชา&เกาะสีชัง โรงแรมที่จุดประกายให้อยากกลับไปเกาะสีชังอีกครั้ง
หลังจากพักค้างคืนที่ฝั่งศรีราชาหนึ่งคืน ก็เตรียมตัวเดินทางไปเกาะสีชัง เราจองเรือของโรงแรมรอบ 11.00 น. ไว้ จึงต้อง check out ห้องที่ศรีราชา ประมาณ 10.30 น. และ check in ห้องพักฝั่งเกาะสีชังจากศรีราชาไปพร้อมกันเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะออกตั๋วเรือให้เราไปเตรียมตัวลงเรือ speed boat จากท่าเรือ Pier 339 ของโรงแรม
ตอนถัดไป "กาลครั้งหนึ่ง @ เกาะสีชัง Ep. 2"
ตอนก่อนหน้า "ศรีราชา & เกาะสีชัง"