.
อยากสิกลับไปซบอุ่นไอบ้านนา ยามที่ใจเหนื่อยล้าเรี่ยวแรงเหี่ยวเฉา... เพลงถูกเปิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ฟังจบแล้วก็กดฟังใหม่ รถราที่เคยวิ่งสวนกันจนแทบเวียนหัว ตอนนี้ถนนโล่งเงียบอย่างกับทางไปนา ตลาดสดที่ผู้คนเดินกันขวักไขว่ตอนนี้เงียบสนิท ไม่มีใครมาเดินจับจ่ายใช้สอยเลย
ทุกคนกลับบ้านไปเติมความสุข เติมพลัง เติมความรักในวันสงกรานต์กันหมด แต่ในขณะเดียวกันยังมีบางคนที่กำลังนั่งทำงาน ไม่มีวันสำคัญ ไม่มีวันอะไรเลย วันไหน ๆ ก็ทำงาน
เสียงเพลงเปิดขับกล่อมไปเรื่อย ๆ จบแล้วก็เปิดใหม่ เปิดฟังใหม่อยู่อย่างนั้น ไม่ยอมเปลี่ยนเพลง ฟังเพื่อซ้ำเติมจิตใจที่เหี่ยวเฉาให้ห่อเหี่ยวไปอีก ฟังอยู่ดี ๆ น้ำใส ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นที่ขอบตา ล้นเอ่อพร้อมจะไหลได้ทุกเมื่อ หากเจ้าตัวอนุญาตให้มันไหล ลำคอตีบตันเหมือนมีอะไรมาอุดไว้ มันจุกที่ลิ้นปี่ ได้แต่ยิ้มให้กับความรู้สึกนั้น
คิดฮอดทางเข้าบ้าน คิดฮอดเฮือนซาน คิดฮอดพ่อแม่ คิดฮอดมูพวก คิดฮอด... สายตาทอดมองออกไปไกล ๆ มวลน้ำก่อตัวขึ้นมาที่ขอบตาอีกแล้ว คราวนี้เม็ดใหญ่และเยอะกว่าเดิม ทำให้ขอบตารองรับน้ำตาไม่ไหว มันไหลลงมาที่แก้ม ทำให้ต้องรีบถอดแว่นเช็ดออก และก็หัวเราะ หึหึ ในลำคอเบา ๆ ให้ตัวเอง นึกตลกตัวเองก็มิปาน
พ่อแม่จะคิดถึงลูกไหมนะไม่ได้กลับบ้าน เหงาบ้างไหมที่ลูกไม่ได้กลับไปหาเหมือนลูกบ้านอื่น เพื่อน ๆ คงสนุกกันน่าดู พากันไปเล่นที่ไหน บ้านของใคร ตอนเย็นจะพากันเข้าไปในเมืองหรือเปล่า ไปเล่นสาดน้ำที่ถนนข้าวก่ำหรือเปล่า แต่สงกรานต์วันแรกพวกเธอไม่นิยมออกนอกหมู่บ้าน เล่นกันที่บ้านก่อน เมากันบ้างหรือยัง ถึงโตแล้วใช่ว่าเทศกาลแบบนี้จะไม่ออกมารวมตัวกัน
เสียงเพลงขับกล่อมให้จิตใจเหี่ยวเฉา ทว่ามีความสุขพิลึกที่ได้ฟัง อีกมุมของเพลงเหมือนมันคอยซ้ำเติมให้เจ็บปวดคิดถึงร้องไห้ แต่อีกมุมมันกลับให้ความสุขมหาศาลที่ได้ฟัง
บางครั้งก็น้อยใจโชคชะตา ตั้งคำถามซ้ำไปซ้ำมากับตัวเอง ทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ ทำไมต้องทำอาชีพนี้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้อง...
แต่ที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว พอใจในชีวิตตัวเองถึงแม้ไม่เป็นดั่งฝันก็ตาม
ทว่าวันนี้มันกลับอยากคิดแบบเด็กน้อย คิดแบบคนไม่มีเหตุผล งอแงว่าฉันอยากกลับบ้าน อยากไปเล่นสงกรานต์ อยากไปเจอเพื่อน อยากหยุด
“เธอเราอยากกลับบ้าน” เป็นคำพูดที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะทราบเหตุผลดีและเข้าใจ และยอมรับว่ามันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
“อยากกลับเหมือนกัน” เขาตอบ หันมามองด้วยแววตาที่สัมผัสได้ถึงการอยากกลับบ้านเช่นกัน เขายิ้มให้เธอ ก่อนที่จะหันกลับไปเช็ดรองเท้า ขัดทำความสะอาดก่อนจะใส่ออกไปทำงาน
หลับตานึกถึงบ้าน เห็นภาพเก่า ๆ ที่เคยสัมผัส มันยังหลงเหลือกลิ่นอายของความสุขให้นึกถึง แค่ได้นึกถึงก็พอใจ ก็มีความสุข ภาพทุกอย่างยังชัดเจนในหัว
ไม่ได้กลับบ้านไม่เป็นไร เล่นสงกรานต์ทิพย์ก็ได้ สาดน้ำทิพย์ก็ได้ ปะแป้งผู้บ่าวทิพย์ก็ได้ แดนซ์ทิพย์ก็ได้ 😏😒😞
เมือบ้าน
อยากสิกลับไปซบอุ่นไอบ้านนา ยามที่ใจเหนื่อยล้าเรี่ยวแรงเหี่ยวเฉา... เพลงถูกเปิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ฟังจบแล้วก็กดฟังใหม่ รถราที่เคยวิ่งสวนกันจนแทบเวียนหัว ตอนนี้ถนนโล่งเงียบอย่างกับทางไปนา ตลาดสดที่ผู้คนเดินกันขวักไขว่ตอนนี้เงียบสนิท ไม่มีใครมาเดินจับจ่ายใช้สอยเลย
ทุกคนกลับบ้านไปเติมความสุข เติมพลัง เติมความรักในวันสงกรานต์กันหมด แต่ในขณะเดียวกันยังมีบางคนที่กำลังนั่งทำงาน ไม่มีวันสำคัญ ไม่มีวันอะไรเลย วันไหน ๆ ก็ทำงาน
เสียงเพลงเปิดขับกล่อมไปเรื่อย ๆ จบแล้วก็เปิดใหม่ เปิดฟังใหม่อยู่อย่างนั้น ไม่ยอมเปลี่ยนเพลง ฟังเพื่อซ้ำเติมจิตใจที่เหี่ยวเฉาให้ห่อเหี่ยวไปอีก ฟังอยู่ดี ๆ น้ำใส ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นที่ขอบตา ล้นเอ่อพร้อมจะไหลได้ทุกเมื่อ หากเจ้าตัวอนุญาตให้มันไหล ลำคอตีบตันเหมือนมีอะไรมาอุดไว้ มันจุกที่ลิ้นปี่ ได้แต่ยิ้มให้กับความรู้สึกนั้น
คิดฮอดทางเข้าบ้าน คิดฮอดเฮือนซาน คิดฮอดพ่อแม่ คิดฮอดมูพวก คิดฮอด... สายตาทอดมองออกไปไกล ๆ มวลน้ำก่อตัวขึ้นมาที่ขอบตาอีกแล้ว คราวนี้เม็ดใหญ่และเยอะกว่าเดิม ทำให้ขอบตารองรับน้ำตาไม่ไหว มันไหลลงมาที่แก้ม ทำให้ต้องรีบถอดแว่นเช็ดออก และก็หัวเราะ หึหึ ในลำคอเบา ๆ ให้ตัวเอง นึกตลกตัวเองก็มิปาน
พ่อแม่จะคิดถึงลูกไหมนะไม่ได้กลับบ้าน เหงาบ้างไหมที่ลูกไม่ได้กลับไปหาเหมือนลูกบ้านอื่น เพื่อน ๆ คงสนุกกันน่าดู พากันไปเล่นที่ไหน บ้านของใคร ตอนเย็นจะพากันเข้าไปในเมืองหรือเปล่า ไปเล่นสาดน้ำที่ถนนข้าวก่ำหรือเปล่า แต่สงกรานต์วันแรกพวกเธอไม่นิยมออกนอกหมู่บ้าน เล่นกันที่บ้านก่อน เมากันบ้างหรือยัง ถึงโตแล้วใช่ว่าเทศกาลแบบนี้จะไม่ออกมารวมตัวกัน
เสียงเพลงขับกล่อมให้จิตใจเหี่ยวเฉา ทว่ามีความสุขพิลึกที่ได้ฟัง อีกมุมของเพลงเหมือนมันคอยซ้ำเติมให้เจ็บปวดคิดถึงร้องไห้ แต่อีกมุมมันกลับให้ความสุขมหาศาลที่ได้ฟัง
บางครั้งก็น้อยใจโชคชะตา ตั้งคำถามซ้ำไปซ้ำมากับตัวเอง ทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ ทำไมต้องทำอาชีพนี้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้อง... แต่ที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว พอใจในชีวิตตัวเองถึงแม้ไม่เป็นดั่งฝันก็ตาม
ทว่าวันนี้มันกลับอยากคิดแบบเด็กน้อย คิดแบบคนไม่มีเหตุผล งอแงว่าฉันอยากกลับบ้าน อยากไปเล่นสงกรานต์ อยากไปเจอเพื่อน อยากหยุด
“เธอเราอยากกลับบ้าน” เป็นคำพูดที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะทราบเหตุผลดีและเข้าใจ และยอมรับว่ามันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
“อยากกลับเหมือนกัน” เขาตอบ หันมามองด้วยแววตาที่สัมผัสได้ถึงการอยากกลับบ้านเช่นกัน เขายิ้มให้เธอ ก่อนที่จะหันกลับไปเช็ดรองเท้า ขัดทำความสะอาดก่อนจะใส่ออกไปทำงาน
หลับตานึกถึงบ้าน เห็นภาพเก่า ๆ ที่เคยสัมผัส มันยังหลงเหลือกลิ่นอายของความสุขให้นึกถึง แค่ได้นึกถึงก็พอใจ ก็มีความสุข ภาพทุกอย่างยังชัดเจนในหัว
ไม่ได้กลับบ้านไม่เป็นไร เล่นสงกรานต์ทิพย์ก็ได้ สาดน้ำทิพย์ก็ได้ ปะแป้งผู้บ่าวทิพย์ก็ได้ แดนซ์ทิพย์ก็ได้ 😏😒😞