จากที่ได้เข้า วงการ VR ด้วยความบังเอิญ เมื่อหลังปีใหม่ 2021 ตอนนี้ ผ่านมา 3 เดือนกว่า ซื้อเกมส์ VR ใน Stream ไป ประมาณ 170 เกมส์ และใน Oculus Store อีก 4- 5 เกมส์ จึงขอมาแชร์เกมส์ ใน Steam VR ที่ชอบ มาก ๆ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับ คนที่อาจจะไม่สามารถซ์ื้อเกมส์ได้เยอะ ๆ หรือกำลังจะเช้าวงการ VR ในอนาคต (เมื่อ 3 เดือนก่อน ที่เพิ่งเริ่มเลน เคยริวิวไปแล้ว 1 ครั้ง ตอนนั้น พูดถึงเฉพาะเกมส์ Eleven Tennis เท่านั้น
https://ppantip.com/topic/40456351)

1. Eleven Tennis (คะแนน : 9/10) :
เกมส์นี้ อาจจะเล่นเยอะ เพราะเป็นคนเล่นปิงปองเก่ง (ระดับแชมป์กีฬาสี, เกือบเป็นตัวแทนโรงเรียน มัธยม) เลยเล่นบ่อยเป็นพิเศษ และใช้เป็นเกมส์ warm up ก่อนที่จะเริ่มเล่น เกมส์ออกกำลังกาย อื่น ๆ ที่หนัก ๆ
ช้อดี : ระบบ Physic ดีมาก, ,มีคนเล่นด้วย แทบตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ข้อเสีย : มีคนที่ฝีมือ ประมาณ 1800 - 2000 กว่า ค่อนข้างน้อย (คนที่เข้ามาครั้งแรก จะมีคะแนนอย่ 1500) ทำให้หาคนเล่นสูสีค่อนข้างยาก (ฝีมือผมประมาณ 1900)
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
2. Beat Saber (คะแนน : 10/10)
เกมส์สำหรับ ทกเพศทุกวัย เกมส์ที่เหมาะต่อการชักจูง คนเข้าสู่วงการ VR ดูผ่าน Youtube อาจจะยังรู้สึกว่าสนุกอย่างไร แต่เมื่อได้สวมหัวซักครั้ง รับรองจะเข้าใจ
ข้อดี : เป็นการใช้ดนตรี และการเคลื่อนไหวร่างกาย และ VR ที่เข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อ
ข้อเสีย :
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
3. Audio Trip (คะแนน : 9/10)
เป็นเกมส์แนว Music Rhythm คล้าย ๆ Sync Raider แต่รู้สึกว่า มันส์กว่า
ข้อดี : เพลงลงตัวกับจังหวะของเกมส์มาก ๆ เมื่อเล่นแล้ว ไม่สามารถที่จะห้ามตัวเอง ไม่ให้เต็นได้
ข้อเสีย : เนื่องจาก ยังเป็น Early Access จำนวนเพลง ยังน้อยไปหน่อย ควรมีเพลงเพิ่ม หรือขายเป็น DLC ก็ได้
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
4. Sync Raider (คะแนน : 9/10)
เป็นเกมส์แนว Music Rhythm คล้าย ๆ Aduio Trip แต่ออกมาก่อน
ข้อดี : มีเพลงเยอะมาก และเพลงเพราะ ๆ เยอะ
ข้อเสีย : จังหวะของเกมส์ ยังไม่ทำให้รู้สึกว่าอยากเต็น เน้นขยับเฉพาะแขนมากกว่า
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES (แนะนำให้ปรับความยาก เป็น Hard เพื่อความสนุก)
5. Mini Montor Racing X (คะแนน : 9/10)
เกมส์แข่งรถ ที่ Surprise มาก ๆ ไม่คิดว่า จะสนุกขนาดนี้
ข้อดี : มีหลายโหมด ในการเล่น ทั้งแข่งปรกติ, เล่นแบบ Mario Kart, หรือใช้รถแข่งแบบฟุตบอล, จำนวนสนามแข่งมีเยอะ, ดนตรีมัน, มีมุมกล้องหลากหลาย, Effect ดีมาก ทั้งควัน ทั้งประกายไฟล้อ
ข้อเสีย : น่าจะมีการซื้อของแต่งแบบลึก ๆ และน่าจะมีสนามแบบใหญ่ ๆ
6. Ragnarock (คะแนน : 9/10)
เกมส์ Music Rhythm ที่มาพร้อมกับเพลง Power Metal แถบแสกนดิเนเวีย ซึ่งถือได้ว่า เป็น Music Rhythm ม้ามืด แห่งปี 2020
ข้อดี : ให้อารมส์การตีกลอง ที่มันมาก ๆ, เล่นบ่อย ๆ กล้ามท้องอาจจะขึ้นได้
ข้อเสีย : ฉากค่อนข้างน้อย (แต่ก็มีการ update อยู่เรื่อย ๆ ต่อไปน่าจะดีขึ้น)
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
7. Half life ALYX (คะแนน 11/10)
ที่สุดของ เกมส์ VR โคตร Immersive (อิมเมอซีฟ)
8. Star Trek Big crew (คะแนน 8/10)
การได้เป็นกับตันยานอวกาศ แล้วท่องไปใน Galaxy ไม่ใช่เรื่องที่อยู่แค่ในหนังอีกต่อไป
ข้อดี : เหมือนเข้าไปอยู่ในยานอวกาศ และได้ท่องอวกาศ อย่างแท้จริง
ข้อเสีย : ต้องใช้ภาษาอังกฤษที่แข็งแรงพอสมควรจึงจะเล่นได้ และ Function สั่งการด้วยเสียง ผ่าน IBM Watson ถูกยกเลิกไปแล้ว
9. Moss : (คะแนน 8/10)
เกมส์หนูผจญภัย ที่ใช้เทคนิค VR แสดงผลได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อดี : ภาพดีงามมาก ถ้าเกมส์ Platform อืน ๆ ทำภาพออกมาแบบเกมส์นี้ ก็จะดีมาก ตัวละครทำออกมาได้น่ารัก
ข้อเสีย : ปริศนาบางอัน แปลก ๆ
10. Space Pirate Trainner (คะแนน 9/10)
เกมส์ยิง แบบ Galaga ในยุค VR
ข้อดี : เล่นแล้วรู้สึกเท่ห์มาก ๆ โดยเฉพาะจังหวะหลบกระสุนแบบ Matrix กราฟฟิกถือว่ายังสวยมาก แม้เกมส์จะออกมาหลายปี
ข้อเสีย : ไม่มีเนื้อเรื่อง
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
11. Blastion (คะแนน 9/10)
เกมส์ยิง ดวลกัน 1 ต่อ 1 ที่ระยะห่างประมาณ 2-3 เมตร มีแถบบาร์ แพ้ ชนะ เหมือนเกมส์ต่อสู่
ข้อดี : มีอาวุธที่หลากหลาย เกมส์การเล่นรวดเร็ว ต้องเคลือนไหวตัวอยู่ตลอด เพื่อหลบกระสุนที่ยังเข้ามา ภาพสวย
ข้อเสีย : ไม่มีเนื้อเรื่อง และระยะห่าง ใกล้เกินไป ถ้าห่างอีกซัก 1 เมตร น่าจะดีกว่านี้
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
หมายเหตุ :
1. คะแนนทั้งหมด ให้ตามจำนวนชั่วโมงที่เล่นถึง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเล่นมากกว่านี้
2. Video ที่แนบ จะดูแล้วเหมือนเกมส์ทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อได้เล่นเอง มุมมองแบบ VR จะให้ความรู้สึก คนละเรื่องกับใน Video เลย
แชร์เกมส์ที่ชอบ หลังจากเล่น Oculus Quest 2 มา 3 เดือน
1. Eleven Tennis (คะแนน : 9/10) :
เกมส์นี้ อาจจะเล่นเยอะ เพราะเป็นคนเล่นปิงปองเก่ง (ระดับแชมป์กีฬาสี, เกือบเป็นตัวแทนโรงเรียน มัธยม) เลยเล่นบ่อยเป็นพิเศษ และใช้เป็นเกมส์ warm up ก่อนที่จะเริ่มเล่น เกมส์ออกกำลังกาย อื่น ๆ ที่หนัก ๆ
ช้อดี : ระบบ Physic ดีมาก, ,มีคนเล่นด้วย แทบตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ข้อเสีย : มีคนที่ฝีมือ ประมาณ 1800 - 2000 กว่า ค่อนข้างน้อย (คนที่เข้ามาครั้งแรก จะมีคะแนนอย่ 1500) ทำให้หาคนเล่นสูสีค่อนข้างยาก (ฝีมือผมประมาณ 1900)
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
2. Beat Saber (คะแนน : 10/10)
เกมส์สำหรับ ทกเพศทุกวัย เกมส์ที่เหมาะต่อการชักจูง คนเข้าสู่วงการ VR ดูผ่าน Youtube อาจจะยังรู้สึกว่าสนุกอย่างไร แต่เมื่อได้สวมหัวซักครั้ง รับรองจะเข้าใจ
ข้อดี : เป็นการใช้ดนตรี และการเคลื่อนไหวร่างกาย และ VR ที่เข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อ
ข้อเสีย :
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
3. Audio Trip (คะแนน : 9/10)
เป็นเกมส์แนว Music Rhythm คล้าย ๆ Sync Raider แต่รู้สึกว่า มันส์กว่า
ข้อดี : เพลงลงตัวกับจังหวะของเกมส์มาก ๆ เมื่อเล่นแล้ว ไม่สามารถที่จะห้ามตัวเอง ไม่ให้เต็นได้
ข้อเสีย : เนื่องจาก ยังเป็น Early Access จำนวนเพลง ยังน้อยไปหน่อย ควรมีเพลงเพิ่ม หรือขายเป็น DLC ก็ได้
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
4. Sync Raider (คะแนน : 9/10)
เป็นเกมส์แนว Music Rhythm คล้าย ๆ Aduio Trip แต่ออกมาก่อน
ข้อดี : มีเพลงเยอะมาก และเพลงเพราะ ๆ เยอะ
ข้อเสีย : จังหวะของเกมส์ ยังไม่ทำให้รู้สึกว่าอยากเต็น เน้นขยับเฉพาะแขนมากกว่า
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES (แนะนำให้ปรับความยาก เป็น Hard เพื่อความสนุก)
5. Mini Montor Racing X (คะแนน : 9/10)
เกมส์แข่งรถ ที่ Surprise มาก ๆ ไม่คิดว่า จะสนุกขนาดนี้
ข้อดี : มีหลายโหมด ในการเล่น ทั้งแข่งปรกติ, เล่นแบบ Mario Kart, หรือใช้รถแข่งแบบฟุตบอล, จำนวนสนามแข่งมีเยอะ, ดนตรีมัน, มีมุมกล้องหลากหลาย, Effect ดีมาก ทั้งควัน ทั้งประกายไฟล้อ
ข้อเสีย : น่าจะมีการซื้อของแต่งแบบลึก ๆ และน่าจะมีสนามแบบใหญ่ ๆ
6. Ragnarock (คะแนน : 9/10)
เกมส์ Music Rhythm ที่มาพร้อมกับเพลง Power Metal แถบแสกนดิเนเวีย ซึ่งถือได้ว่า เป็น Music Rhythm ม้ามืด แห่งปี 2020
ข้อดี : ให้อารมส์การตีกลอง ที่มันมาก ๆ, เล่นบ่อย ๆ กล้ามท้องอาจจะขึ้นได้
ข้อเสีย : ฉากค่อนข้างน้อย (แต่ก็มีการ update อยู่เรื่อย ๆ ต่อไปน่าจะดีขึ้น)
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
7. Half life ALYX (คะแนน 11/10)
ที่สุดของ เกมส์ VR โคตร Immersive (อิมเมอซีฟ)
8. Star Trek Big crew (คะแนน 8/10)
การได้เป็นกับตันยานอวกาศ แล้วท่องไปใน Galaxy ไม่ใช่เรื่องที่อยู่แค่ในหนังอีกต่อไป
ข้อดี : เหมือนเข้าไปอยู่ในยานอวกาศ และได้ท่องอวกาศ อย่างแท้จริง
ข้อเสีย : ต้องใช้ภาษาอังกฤษที่แข็งแรงพอสมควรจึงจะเล่นได้ และ Function สั่งการด้วยเสียง ผ่าน IBM Watson ถูกยกเลิกไปแล้ว
9. Moss : (คะแนน 8/10)
เกมส์หนูผจญภัย ที่ใช้เทคนิค VR แสดงผลได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อดี : ภาพดีงามมาก ถ้าเกมส์ Platform อืน ๆ ทำภาพออกมาแบบเกมส์นี้ ก็จะดีมาก ตัวละครทำออกมาได้น่ารัก
ข้อเสีย : ปริศนาบางอัน แปลก ๆ
10. Space Pirate Trainner (คะแนน 9/10)
เกมส์ยิง แบบ Galaga ในยุค VR
ข้อดี : เล่นแล้วรู้สึกเท่ห์มาก ๆ โดยเฉพาะจังหวะหลบกระสุนแบบ Matrix กราฟฟิกถือว่ายังสวยมาก แม้เกมส์จะออกมาหลายปี
ข้อเสีย : ไม่มีเนื้อเรื่อง
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
11. Blastion (คะแนน 9/10)
เกมส์ยิง ดวลกัน 1 ต่อ 1 ที่ระยะห่างประมาณ 2-3 เมตร มีแถบบาร์ แพ้ ชนะ เหมือนเกมส์ต่อสู่
ข้อดี : มีอาวุธที่หลากหลาย เกมส์การเล่นรวดเร็ว ต้องเคลือนไหวตัวอยู่ตลอด เพื่อหลบกระสุนที่ยังเข้ามา ภาพสวย
ข้อเสีย : ไม่มีเนื้อเรื่อง และระยะห่าง ใกล้เกินไป ถ้าห่างอีกซัก 1 เมตร น่าจะดีกว่านี้
เป็นเกมส์ ที่เหมาะสำหรับการ Workout : YES
หมายเหตุ :
1. คะแนนทั้งหมด ให้ตามจำนวนชั่วโมงที่เล่นถึง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเล่นมากกว่านี้
2. Video ที่แนบ จะดูแล้วเหมือนเกมส์ทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อได้เล่นเอง มุมมองแบบ VR จะให้ความรู้สึก คนละเรื่องกับใน Video เลย