เกมที่ 10. Pistol Whip
เป็นเกมแนว Music Rhythm ที่ถือว่าได้รับความนิยมสูงอันดับต้น ๆ ใน VR โดยอาวุธหลักคือปืน ให้ความรู้สึกในการหลบกระสุน เหมือนในหนัง The matrix ได้แบบเท่ห์มาก
วิธีเล่น
- ยิงศัตรูที่โผล่ออกมา และหลบไม่ให้ศัตรูยิงมาโดน รีโหลดกระสุน ง่าย ๆ ด้วยการปล่อยมือลงไปข้างลำตัว
จุดเด่น
- เป็นเกมที่มี Mode เนื้อเรื่องด้วย
- เสียงเพลง เข้ากับบรรยากาศของเกม และแต่ละฉากได้เป็นอย่างดี
- เป็นเกมที่ทำให้ได้ขยับร่างกาย เป็นการออกกำลังเบา ๆ ไม่หนัก
- เกมได้รับความนิยมสูง ถึงจะออกมานานแล้ว แต่ผู้พัฒนาก็ยังมีการอัพเดทอยู่เรื่อย ๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกมที่ 11. Stride
สำหรับเกมเมอร์ เราเรียกมันว่า Mirror Edge Version VR สำหรับคนทั่ว ๆ ไป มันคือ Free Running บนหลังคาตึกสูงระฟ้า ที่เพิ่มการห้อยโหนและการยิงเข้ามาด้วย
วิธีเล่น
- วิ่ง กระโดด ปีนป่าย ห้อยโหน หลบ ไสลด์ ยิง
จุดเด่น
- เป็นการจำลองการเล่น Free Running บนตึกสูงได้ดี เพราะในชีวิตจริงคงมีไม่กี่คน ที่จะได้ทำอะไรแบบนี้
- การออกแบบการเคลื่อนที่ในเกม ด้วยการแกว่งแขน ถือว่าเป็นการออกแบบที่ดี เข้ากันกับรูปแบบของเกม และ VR ได้อย่างดี
- นอกจาก Mode การเล่นคนเดียว ที่ตอนนี้มีอยู่ 3 Mode คือ Arena, Endless และ Time run กำลังจะมี Mode เนื้อเรื่องเข้ามาเพิ่มในเร็ว ๆ นี้ สำหรับ Mode Multiplayer ก็ดีมาก มีคนจริง ๆ เข้าไปวิ่งหนี วิ่งไล่จับมากมาย
*** ข้อควรระวังของเกมนี้คือเป็นเกมที่เหมาะกับคนที่เคยเล่น VR มาซักพักนึง เข้าใจการทำงานของ VR เพราะเล่นไปซักพักอาจจะหลงทิศ ทำให้ชนกับสิ่งของรอบตัวได้ และเวลาตกจากที่สูงในเกม หากไม่เข้าใจการทำงานของ VR อาจจะล้มหัวทิ่มได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกมที่ 12. Knock Out League
เกมชกมวยสากล ที่เป็นธีมออกแนวการ์ตูน
วิธีเล่น
- เป็นเกมแนวชกมวย แต่ไม่ได้สมจริง จะต้องเน้นสังเกตุนักมวยคู่แข่งแต่ละตัว ว่าชกอย่างไร และก็จับจังหวะในการชกต่อย หรือหลบให้ถูกจังหวะ ถ้าเป็นเกมเมอร์รุ่นเก่า นี่คือเกมที่เหมือนเกม Punch Out ในรูปแบบ VR
จุดเด่น
- กราฟฟิก ตัวนักมวยแบบแน่น ๆ น่ารัก ๆ
- เวลาชกเสร็จแต่ละครั้ง จะมีการประมาณจำนวนแคลอรี่ที่ใช้ในการเล่นครั้งนั้นให้ดูด้วย
- มีคู่ชกมากถึงประมาณ 20 ตัว เล่นกันไปได้ยาว ๆ กว่าจะเล่นจบ คงผลาญไขมันได้เป็นพัน ๆ แคลอรี่
- Mode Trainning ที่มีอยู่ 3-4 รูปแบบ นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี
ตัวเกม ไม่ได้เน้นการต่อยมวยแบบสมจริง หากต้องการการชกมวยที่สมจริงใน VR มีเกมที่ออกมาแล้ว และจะแนะนำในลำดับถัด ๆ ไป และเนื่องจากตัวเกมไม่ได้เน้นสมจริง ในการชกแต่ละครั้ง จะมีเวลาให้ 6 นาที ถ้าไม่สามารถชนะได้ภายใน 6 นาที ถือว่าเราแพ้เลย ดังนั้นถ้ายังจับจุดไม่ได้ ก็อาจจะแพ้บ่อย และเลิกเล่นไปเสียก่อน
แนะนำเกม VR เพื่อเป็นทางเลือกในการออกกำลังกาย 1 เดือน ไม่ซ้ำ (ตอนที่ 4/10)
เป็นเกมแนว Music Rhythm ที่ถือว่าได้รับความนิยมสูงอันดับต้น ๆ ใน VR โดยอาวุธหลักคือปืน ให้ความรู้สึกในการหลบกระสุน เหมือนในหนัง The matrix ได้แบบเท่ห์มาก
วิธีเล่น
- ยิงศัตรูที่โผล่ออกมา และหลบไม่ให้ศัตรูยิงมาโดน รีโหลดกระสุน ง่าย ๆ ด้วยการปล่อยมือลงไปข้างลำตัว
จุดเด่น
- เป็นเกมที่มี Mode เนื้อเรื่องด้วย
- เสียงเพลง เข้ากับบรรยากาศของเกม และแต่ละฉากได้เป็นอย่างดี
- เป็นเกมที่ทำให้ได้ขยับร่างกาย เป็นการออกกำลังเบา ๆ ไม่หนัก
- เกมได้รับความนิยมสูง ถึงจะออกมานานแล้ว แต่ผู้พัฒนาก็ยังมีการอัพเดทอยู่เรื่อย ๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกมที่ 11. Stride
สำหรับเกมเมอร์ เราเรียกมันว่า Mirror Edge Version VR สำหรับคนทั่ว ๆ ไป มันคือ Free Running บนหลังคาตึกสูงระฟ้า ที่เพิ่มการห้อยโหนและการยิงเข้ามาด้วย
วิธีเล่น
- วิ่ง กระโดด ปีนป่าย ห้อยโหน หลบ ไสลด์ ยิง
จุดเด่น
- เป็นการจำลองการเล่น Free Running บนตึกสูงได้ดี เพราะในชีวิตจริงคงมีไม่กี่คน ที่จะได้ทำอะไรแบบนี้
- การออกแบบการเคลื่อนที่ในเกม ด้วยการแกว่งแขน ถือว่าเป็นการออกแบบที่ดี เข้ากันกับรูปแบบของเกม และ VR ได้อย่างดี
- นอกจาก Mode การเล่นคนเดียว ที่ตอนนี้มีอยู่ 3 Mode คือ Arena, Endless และ Time run กำลังจะมี Mode เนื้อเรื่องเข้ามาเพิ่มในเร็ว ๆ นี้ สำหรับ Mode Multiplayer ก็ดีมาก มีคนจริง ๆ เข้าไปวิ่งหนี วิ่งไล่จับมากมาย
*** ข้อควรระวังของเกมนี้คือเป็นเกมที่เหมาะกับคนที่เคยเล่น VR มาซักพักนึง เข้าใจการทำงานของ VR เพราะเล่นไปซักพักอาจจะหลงทิศ ทำให้ชนกับสิ่งของรอบตัวได้ และเวลาตกจากที่สูงในเกม หากไม่เข้าใจการทำงานของ VR อาจจะล้มหัวทิ่มได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกมที่ 12. Knock Out League
เกมชกมวยสากล ที่เป็นธีมออกแนวการ์ตูน
วิธีเล่น
- เป็นเกมแนวชกมวย แต่ไม่ได้สมจริง จะต้องเน้นสังเกตุนักมวยคู่แข่งแต่ละตัว ว่าชกอย่างไร และก็จับจังหวะในการชกต่อย หรือหลบให้ถูกจังหวะ ถ้าเป็นเกมเมอร์รุ่นเก่า นี่คือเกมที่เหมือนเกม Punch Out ในรูปแบบ VR
จุดเด่น
- กราฟฟิก ตัวนักมวยแบบแน่น ๆ น่ารัก ๆ
- เวลาชกเสร็จแต่ละครั้ง จะมีการประมาณจำนวนแคลอรี่ที่ใช้ในการเล่นครั้งนั้นให้ดูด้วย
- มีคู่ชกมากถึงประมาณ 20 ตัว เล่นกันไปได้ยาว ๆ กว่าจะเล่นจบ คงผลาญไขมันได้เป็นพัน ๆ แคลอรี่
- Mode Trainning ที่มีอยู่ 3-4 รูปแบบ นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี
ตัวเกม ไม่ได้เน้นการต่อยมวยแบบสมจริง หากต้องการการชกมวยที่สมจริงใน VR มีเกมที่ออกมาแล้ว และจะแนะนำในลำดับถัด ๆ ไป และเนื่องจากตัวเกมไม่ได้เน้นสมจริง ในการชกแต่ละครั้ง จะมีเวลาให้ 6 นาที ถ้าไม่สามารถชนะได้ภายใน 6 นาที ถือว่าเราแพ้เลย ดังนั้นถ้ายังจับจุดไม่ได้ ก็อาจจะแพ้บ่อย และเลิกเล่นไปเสียก่อน