รู้ในวิถีจิตหลังๆว่า จิตเป็นกุศล หรือ จิตเป็นกุศล
_เมื่อพิจารณาต่อ อกุศลที่เกิดขึ้นเป็น โลภมูลจิต โทสะมูลจิต หรือเป็น โมฆะโมฆะมูลจิต
_อภิชฌา และ โทมนัส เกิดได้ตลอด
_พิจารณาต่อ ว่า ชอบ ก็ โลภะเกิด ไม่ชอบก็โทสะเกิด
_มีสติขั้นๆเด็กๆอย่างนี้ก็ระลึกขึ้นมาได้ว่า ต้องระวัง กายกรรม วจีกรรม ไม่ให้เป็น กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
_ก็พิจารณาต่อ( ตัวอย่าง )เสียงดัง ก็ไม่เห็นจะต้องโกรธเลย เพราะมันเป็นแค่ะเสียง กระทบกับ โสตปสาท ทำให้โสตวิญญาณ เกิด
_ด้วยยังมี สติ ไม่ดีพอที่จะรู้เท่าทันได้ทันในวิถีจิตอันแรก จึงต้องอาศัย การจำได้ในธรรมมะเรื่องนั้นแล้วนำมาโยนิโสมนสิการตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนและพระอาจารย๋ที่เชื่อถือได้ และกัลยาณมิตรที่เชื่อถือได้ที่ได้อรรถกถาไว้ให้
_ก็เพียร สังวรณ์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ระวังไม่ให้เป็นไปตามความอยากเท่าที่จะทำได้
_ก็เพียรรักษาศีลให้ครบ5ในทุกเวลา เช่นเมื่อมีเหตุเกิดต้องให้ทำร้าย แต่ละเว้นไม่ทำร้ายได้ เป็นต้น
_อกุศลใดที่ไม่เคยเกิดก็พยายามอย่าให้มันเกิด
_อกุศลใดที่เกิดแล้วก็พยายามให้มันลดลงๆ
_กุศลใดที่ยังไม่เคยเกิดก็พยายามให้เกิด
_กุศลใดที่เกิดแล้วก็ให้ตั้งมั่นเจริญๆขึ้น
_มีเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขากับทุกๆคนอันนี้มีเผลอบ้างเยอะหน่อย
_มีหิริและโอตตัปปะ
_สิ่งใด ที่คิด ที่ทำ ที่พูด แล้วไม่เบียดเบียนคนอื่น พิจารณาแล้ว ดีแล้ว ก็จงทำ
_ชีวิตมีความสุขบนพื้นฐานของการมีความรู้ทางธรรมะที่ถูกต้องแล้วหาได้ยากยิ่ง
_พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า ทำกรรมดี ผลที่ได้รับคือความสุข
_เรียนพระอภิธรรมมาแล้ว เข้าใจแค่บางส่วน มีชีวิตได้อย่างนี้ ถือว่าสมควรแล้วตามสภาพ
_ยังมีกุศลอีกหลายอย่างที่ต้องทำให้มีมากขึ้นจนบริบูรณ์ เช่น ศรัทธา หากบริบูรณ์ไม่ทันพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็ต้องมี ชาติ ชรา มรณะอีก
_เรียนพระอภิธรรมมาก็ได้แค่นี้เอง สำหรับผม
เรียนพระอภิธรรมได้แค่นี้เองสำหรับตัวผม
_เมื่อพิจารณาต่อ อกุศลที่เกิดขึ้นเป็น โลภมูลจิต โทสะมูลจิต หรือเป็น โมฆะโมฆะมูลจิต
_อภิชฌา และ โทมนัส เกิดได้ตลอด
_พิจารณาต่อ ว่า ชอบ ก็ โลภะเกิด ไม่ชอบก็โทสะเกิด
_มีสติขั้นๆเด็กๆอย่างนี้ก็ระลึกขึ้นมาได้ว่า ต้องระวัง กายกรรม วจีกรรม ไม่ให้เป็น กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
_ก็พิจารณาต่อ( ตัวอย่าง )เสียงดัง ก็ไม่เห็นจะต้องโกรธเลย เพราะมันเป็นแค่ะเสียง กระทบกับ โสตปสาท ทำให้โสตวิญญาณ เกิด
_ด้วยยังมี สติ ไม่ดีพอที่จะรู้เท่าทันได้ทันในวิถีจิตอันแรก จึงต้องอาศัย การจำได้ในธรรมมะเรื่องนั้นแล้วนำมาโยนิโสมนสิการตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนและพระอาจารย๋ที่เชื่อถือได้ และกัลยาณมิตรที่เชื่อถือได้ที่ได้อรรถกถาไว้ให้
_ก็เพียร สังวรณ์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ระวังไม่ให้เป็นไปตามความอยากเท่าที่จะทำได้
_ก็เพียรรักษาศีลให้ครบ5ในทุกเวลา เช่นเมื่อมีเหตุเกิดต้องให้ทำร้าย แต่ละเว้นไม่ทำร้ายได้ เป็นต้น
_อกุศลใดที่ไม่เคยเกิดก็พยายามอย่าให้มันเกิด
_อกุศลใดที่เกิดแล้วก็พยายามให้มันลดลงๆ
_กุศลใดที่ยังไม่เคยเกิดก็พยายามให้เกิด
_กุศลใดที่เกิดแล้วก็ให้ตั้งมั่นเจริญๆขึ้น
_มีเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขากับทุกๆคนอันนี้มีเผลอบ้างเยอะหน่อย
_มีหิริและโอตตัปปะ
_สิ่งใด ที่คิด ที่ทำ ที่พูด แล้วไม่เบียดเบียนคนอื่น พิจารณาแล้ว ดีแล้ว ก็จงทำ
_ชีวิตมีความสุขบนพื้นฐานของการมีความรู้ทางธรรมะที่ถูกต้องแล้วหาได้ยากยิ่ง
_พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า ทำกรรมดี ผลที่ได้รับคือความสุข
_เรียนพระอภิธรรมมาแล้ว เข้าใจแค่บางส่วน มีชีวิตได้อย่างนี้ ถือว่าสมควรแล้วตามสภาพ
_ยังมีกุศลอีกหลายอย่างที่ต้องทำให้มีมากขึ้นจนบริบูรณ์ เช่น ศรัทธา หากบริบูรณ์ไม่ทันพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็ต้องมี ชาติ ชรา มรณะอีก
_เรียนพระอภิธรรมมาก็ได้แค่นี้เอง สำหรับผม