อันดับแรกที่ได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกโกรธ แต่ก็คิดว่าปล่อยให้เขาพูดแบบนี้ไปดีกว่า เราจะได้รู้ว่าเขามีนิสัยอย่างไร จริงมั้ย ???
" เรื่องมีอยู่ว่า นางสาวเอ( นามสมมุติ) เป็นมือที่สามระหว่างความรักของนางสาวบีและนายซี ( นามสมมุติ) นางสาวเอได้เข้าในชีวิตสองคนนี้ จากการเป็นรุ่นน้องในกลุ่มที่เพิ่งรุ้จักกัน นางสาวเอได้ตกหลุมรักนายซี จนทำให้นายซีและนางสาวบีได้แยกทางกัน ต่อมานางสาวเอและนายซีได้คบมาสักพักหนึ่งก็ไปกันไม่รอดก็เลยต้องแยกทางกัน แต่เรื่องนี้ยอมรับว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรื่องนี้โทษทั้งผู้หญิงที่เป็นมือที่สามกับผู้ชายที่ไม่รุ้จักหักห้ามใจตัวเอง จนทำให้คนอื่นเสียใจ แต่เรานีกว่าเรื่องมันจะจบไปแล้วแบบเงียบๆๆ แต่ก็ไม่วายได้ยืนคำพูดนี้จากมือที่สามที่พูดว่า " ตังก็ไม่มีเลี้ยงผู้หญิง ขายของไปวันๆ กับห้องเช่าเก่า ๆ " ก่อนที่คุณจะพูดคำนี้ออกไปอ่ะก่อนหน้านี้คุณก็นอนกับผุ้ชายในห้องเก่าๆๆ ไม่ใช่หรอ? หรือผู้ชายไม่เอาแล้วจึงพูดจาเหยียดคนอื่นแบบนี้ อยากถามความรู้สึกพี่พี่พอได้ยินคำพูดเหล่านี้รู้สึกยังไง อยากได้แง่คิดหลาย ๆๆ มุมมองเพราะรู้สึกว่าสมัยนี้นังมีคนที่ชอบเหยียดหยามคนอื่นอีกหรอค่ะ
พี่พี่คืดยังไงกับคำพูดที่พูดว่า " ตังก็ไม่มีเลี้ยงผู้หญิง ขายของไปวันๆ กับห้องเช่าเก่า ๆ "
" เรื่องมีอยู่ว่า นางสาวเอ( นามสมมุติ) เป็นมือที่สามระหว่างความรักของนางสาวบีและนายซี ( นามสมมุติ) นางสาวเอได้เข้าในชีวิตสองคนนี้ จากการเป็นรุ่นน้องในกลุ่มที่เพิ่งรุ้จักกัน นางสาวเอได้ตกหลุมรักนายซี จนทำให้นายซีและนางสาวบีได้แยกทางกัน ต่อมานางสาวเอและนายซีได้คบมาสักพักหนึ่งก็ไปกันไม่รอดก็เลยต้องแยกทางกัน แต่เรื่องนี้ยอมรับว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรื่องนี้โทษทั้งผู้หญิงที่เป็นมือที่สามกับผู้ชายที่ไม่รุ้จักหักห้ามใจตัวเอง จนทำให้คนอื่นเสียใจ แต่เรานีกว่าเรื่องมันจะจบไปแล้วแบบเงียบๆๆ แต่ก็ไม่วายได้ยืนคำพูดนี้จากมือที่สามที่พูดว่า " ตังก็ไม่มีเลี้ยงผู้หญิง ขายของไปวันๆ กับห้องเช่าเก่า ๆ " ก่อนที่คุณจะพูดคำนี้ออกไปอ่ะก่อนหน้านี้คุณก็นอนกับผุ้ชายในห้องเก่าๆๆ ไม่ใช่หรอ? หรือผู้ชายไม่เอาแล้วจึงพูดจาเหยียดคนอื่นแบบนี้ อยากถามความรู้สึกพี่พี่พอได้ยินคำพูดเหล่านี้รู้สึกยังไง อยากได้แง่คิดหลาย ๆๆ มุมมองเพราะรู้สึกว่าสมัยนี้นังมีคนที่ชอบเหยียดหยามคนอื่นอีกหรอค่ะ