กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (China’s Ministry of Industry and Information Technology) กล่าวย้ำเมื่อวันที่ 26 มกราคม ว่า มีแผนลดการผลิตเหล็กประจำปีของจีน จากปี 2021 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก่อนปี 2030 และในที่สุดก็จะมีการปลดปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์ก่อนปี 2060.
          อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวของตลาดส่วนใหญ่ยังคงสงสัย เนื่องจากความต้องการเหล็กทั้งในและต่างประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2021 ซึ่งหมายความว่าการลดลงของผลผลิตเหล็กอาจส่งผลให้ราคาเหล็กของจีนพุ่งสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตในประเทศและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ซึ่งสวนทางกับแผน 5 ปีฉบับที่ 14 ของจีนเพื่อที่จะพัฒนาทั้งสองภาคส่วนต่อไป
          ทางกระทรวงกล่าวว่า การผลิตเหล็กจะถูกจำกัด โดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของโรงงานเหล็กในการปล่อยก๊าซคาร์บอน การปล่อยมลพิษ และการใช้พลังงานทั้งหมด
          ในการประมูลเพื่อให้ได้การผลิตเหล็กในประเทศจะอยู่ภายใต้การควบคุมในระยะยาว นอกจากนี้จีนจะยังคงเข้มงวดข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนกำลังการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า และเร่งการรวมกลุ่มในอุตสาหกรรมเหล็ก ทางกระทรวงกล่าว
          แหล่งข่าวในตลาดหลายแห่งคาดว่า มาตรการโดยละเอียดสำหรับการลดกำลังการผลิตเหล็กในปี 2021 จะออกมาหลังจากการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติและการประชุมปรึกษาทางการเมืองของจีน ซึ่งจัดขึ้นที่ปักกิ่งตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม
          “ ฉันไม่รู้ว่าจะสามารถลดกำลังการผลิตเหล็กได้อย่างไรในปี 2021 เนื่องจากความต้องการเหล็กน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้” แหล่งข่าวจากโรงเหล็กรายหนึ่งกล่าว
          GDP ของจีนในปี 2021 คาดว่าจะเติบโต 7% -9% เมื่อเทียบกับปี 2020 ด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรซึ่งถือเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีน ยังคงมีการใช้งานเหล็กอย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้ การเติบโตของ GDP ที่ 7% -9% จะบ่งบอกถึงการเติบโตของอุปสงค์เหล็กในระดับหนึ่งแหล่งข่าวกล่าว
          แหล่งข่าวในตลาดหลายแห่งกล่าวว่า จีนอาจลดหรือแม้กระทั่งยกเลิกการคืนภาษีการส่งออก (export tax rebates) เหล็กในปี 2021 เพื่อลดการส่งออกเหล็กและกีดกันการผลิตเหล็กทางอ้อม