Internet of Things ไม่ใช่แค่การเชื่อมต่อ แต่นี่คือปฏิสัมพันธ์

กระทู้สนทนา


ถ้าพูดถึงอินเทอร์เน็ต หลายคนคงนึกถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อการสื่อสาร รวมถึงการเป็นเครือข่ายเชื่อมต่อเรากับฐานข้อมูลต่างๆ ที่เราสามารถเข้าถึงได้ผ่านการเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ปัจจุบันนอกจากเราจะเข้าถึงฐานข้อมูลแล้ว เรายังใช้ระบบอินเทอร์เน็ตในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ไปจนถึงการบริการอื่นๆ มากมาย ที่สามารถจัดการได้อย่างเสร็จสรรพผ่านสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว และวันนี้เราได้ยินคำว่า Internet of Things หรือ IoT กันบ่อยมากขึ้น ซึ่งหลายๆ คนใช้สิ่งนี้เพื่อเปลี่ยนบ้านเป็น Smart Home (สมาร์ทโฮม) คงสงสัยกันสินะว่าสิ่งนี้คืออะไร เกี่ยวข้องอะไรกับเราหรือเปล่า แล้วแตกต่างอย่างไรกับอินเทอร์เน็ตบ้านที่ใช้กัน แล้วเจ้าสิ่งนี้จะมาช่วยให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้นหรือจริงหรือไม่ จริงๆ แล้ว Internet of Things หรือ IoT ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถูกนิยามใช้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1999 โดย เควิน แอซตัน (Kevin Ashton)



ถ้าอธิบายกันแบบสั้นๆ Internet of Things คือการเชื่อมต่อ “อุปกรณ์” กับ “อุปกรณ์” ผ่านระบบเครือข่าย “อินเทอร์เน็ต” และดึงข้อมูลมาจากฐานข้อมูลต่างๆ นำมาประมวณผล และสั่งการออกมานั่นเอง ไม่ใช่แค่การสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเปิด หรือปิดแทนรีโมทคอนโทรลเท่านั้น แต่ Internet of Things เป็นมากกว่านั้น แล้วจะมาช่วยสร้างความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับไลฟ์สไตล์ของเราอย่างไรกัน มาดูกันเลย



7 โมงเช้าวันอาทิตย์ แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้าสู่หน้าต่างห้องนอนของน้องแอปเปิ้ล ตกกระทบอุปกรณ์วัดแสงแดดริมหน้าต่าง และมันได้ส่งสัญญาณเข้าสู่สมาร์ทวอทช์ที่น้องแอปเปิ้ลใส่อยู่ ซึ่งปฎิทินในสมาร์ทวอทช์ฟ้องว่าเป็นวันอาทิตย์นะ เช็คจากฐานข้อมูลของน้องแอปเปิ้ลแล้ว น้องแอปเปิ้ลจะตื่นนอนสายกว่าปกติ และวันนี้ก็ไม่มีนัดใดๆ ในตอนเช้า แล้วยังตรวจพบว่าน้องแอปเปิ้ลกำลังหลับอย่างสบาย ดังนั้นสมาร์ทวอทช์ของน้องแอปเปิ้ลจึงสั่งการระบบกันสานไฟฟ้าให้ยื่นกันสานออกไปบังแสงแดด ไม่ให้แสงแดดส่องมารบกวนการนอนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลาผ่านไปราว 9 โมงเช้า สมาร์ทวอทช์ของน้องแอปเปิ้ลตรวจสอบพบว่า น้องแอปเปิ้ลกำลังจะตื่นแล้ว จึงได้สั่งการให้เครื่องต้มกาแฟเริ่มทำงาน สั่งให้เครื่องเสียงบรรเลงเพลงโปรดเพื่อช่วยปลุกให้น้องแอปเปิ้ลค่อยๆ ตื่น กลิ่นกาแฟกับเสียงเพลงทำให้น้องแอปเปิ้ลรู้สึกตัวตื่นขึ้นรับเช้าวันอาทิตย์อันสดใส สดชื่นพร้อมไปอาบน้ำและทำธุระยามเช้า และขณะที่น้องแอปเปิ้ลอาบน้ำ อุณหภูมิในห้องเริ่มสูงขึ้นจากอากาศร้อนของช่วงสายๆ เครื่องวัดอุณหภูมิภายนอกบ้านจึงรีบสั่งการให้เครื่องปรับอากาศในห้องนอนทำงานอีกครั้ง เพื่อช่วยให้อากาศในห้องเย็นลง เมื่อน้องแอปเปิ้ลอาบน้ำเสร็จออกมาแต่งตัว อากาศในห้องก็ยังเย็นสบายแต่งตัวได้แบบไม่เสียเหงื่อกันเลย



วันนี้น้องแอปเปิ้ลมีนัดทานข้าวเที่ยงที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมือง ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนของน้องแอปเปิ้ลที่รู้ตารางนัดหมายอยู่แล้วด้วยการต่อเชื่อมเข้ากับเครือข่ายตรวจเช็คข้อมูลสภาพจราจรจากที่บ้านไปยังห้างดังกล่าวตลอดเวลา วันอาทิตย์นี้ดูเหมือนว่าการจราจรจะคับคั่งเป็นพิเศษ สมาร์ทโฟนของน้องแอปเปิ้ลจึงได้แจ้งข้อความเตือนให้น้องแอปเปิ้ลล่วงหน้าว่า หากต้องการไปให้ถึงที่นัดหมายทันเวลา ควรออกจากบ้านไม่เกิน 11 โมงเช้า นี่ก็ราวๆ 10.30 น. ยังพอมีเวลาอ้อยอิงแต่งตัวหรืออาจดื่มกาแฟอีกสักแก้ว ระหว่างนั้นสมาร์ทโฟนได้สื่อสารกับรถของน้องแอปเปิ้ล เพื่อตรวจเช็คระบบต่างๆ และเตรียมการเปิดเครื่องปรับอากาศให้ภายในรถเย็นสบายก่อนการเดินทาง แล้วพบว่าลมยางล้อด้านซ้ายอ่อนกว่าปกติ ดังนั้นรถของน้องแอปเปิ้ลจึงแจ้งเตือนมายังสมาร์ทโฟนให้น้องแอปเปิ้ลออกเดินทางก่อนกำหนด รวมถึงค้นหาและวางเส้นทางไปยังสถานบริการที่มีปั๊มเติมลมบนหน้าจอวิทยุพร้อมนำทางทันทีที่น้องแอปเปิ้ลสตาร์ทรถ นับว่าโชคดีที่ระบบแผนที่พบสถานบริการระหว่างเส้นทางจะไปห้าง น้องแอปเปิ้ลเลยไม่จำเป็นต้องย้อนไปเติมลมที่ปั๊มน้ำมันขาประจำ



แน่นอนว่าการไปห้างในวันหยุดนั้น การหาที่จอดรถเป็นเรื่องไม่สนุก ระหว่างขับรถ น้องแอปเปิ้ลได้รับข้อความว่า สมาร์ทโฟน ของน้องแอปเปิ้ลได้ทำการจองที่จอดรถล่วงหน้าในห้างฯ ไว้ให้แล้ว โดยเชื่อมต่อข้อมูลบัตรเครดิตของน้องแอปเปิ้ลที่บันทึกไว้ และบังเอิญบัตรเครดิตนี้มีสิทธิพิเศษในการสำรองที่จอดรถล่วงหน้าในห้างแห่งนั้น ทันทีที่น้องแอปเปิ้ลขับเข้าห้าง ระบบนำทางในรถก็แสดงข้อมูลแผนที่พื้นที่จอดเฉพาะของสิทธิพิเศษนี้ รวมถึงแจ้งหมายเลขช่องจอด เมื่อน้องแอปเปิ้ลขับถึง ระบบสัญญาณของช่องจอดรับรู้ว่าสมาร์ทโฟนของน้องแอปเปิ้ลอยู่หน้าช่องจอดแล้ว จึงเปิดไม้กั้นขึ้นให้น้องแอปเปิ้ลนำรถเข้าจอดได้สะดวกสบาย

หลังจากเอนจอยมื้อเที่ยง พร้อมเมาส์มอยกับเพื่อนๆ เรียบร้อย ระหว่างขับรถกลับบ้าน ระบบนำทางในรถได้รับข้อมูลจากศูนย์จราจรว่า มีรถบรรทุกจอดเสียกีดขวางการจราจร ดังนั้นระบบนำทางในรถจึงได้เสนอเส้นทางใหม่ที่เลี่ยงการติดขัดให้น้องแอปเปิ้ลกลับถึงบ้านได้อย่างรวดเร็ว ได้พักผ่อนสบายๆ ก่อนลงมือทำมื้อเย็นแบบง่ายๆ นั่งกินจิบไวน์ชมบรรยากาศสวนหลังบ้าน ช่วงเย็นๆ ของทุกวัน ระบบรดน้ำอัตโนมัติจะทำการรดน้ำสนามหญ้าให้น้องแอปเปิ้ล แต่เย็นนี้น้องแอปเปิ้ลสังเกตว่า ระบบรดน้ำเพียงไม่กี่นาที ซึ่งน้อยกว่าเวลาปกติที่ตั้งไว้ น้องแอปเปิ้ลเลยเข้าไปตรวจเช็คระบบในแอปพลิเคชัน จึงพบว่าคืนนี้ จะมีฝนตก ระบบรดน้ำอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายตรวจสภาพอากาศจึงรดน้ำน้อยกว่าปกติ ช่วยลดค่าน้ำให้น้องแอปเปิ้ลได้ดีทีเดียว



ตกค่ำลมเย็นๆ ที่ฝนที่กำลังจะมา ประกอบกับดื่มชิลล์ไวน์เยอะไปนิ๊ด น้องแอปเปิ้ลเลยรีบขึ้นอาบน้ำ เสร็จแล้วก็ไปเอกเขนกบนเตียงนุ่ม จนเผลอหลับไปโดยลืมล็อคประตูหลังบ้าน ไม่ต้องกังวลเพราะระบบสมาร์ทโฮมของน้องแอปเปิ้ล เชื่อมต่อกับสมาร์ทวอทช์ที่ข้อมือ ร่วมถึงระบบเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวในบ้าน และประตูระบบล็อคอัตโนมัติ ทุกระบบที่ว่ามาพบความผิดแปลกว่าในเวลาที่ดึกขนาดนี้ ประตูยังไม่ได้ล๊อค และไม่มีการเคลื่อนไหวในบ้าน แถมสมาร์ทวอทช์ของน้องแอปเปิ้ลยังบ่งบอกว่าน้องแอปเปิ้ลกำลังหลับสนิทมาก ดังนั้นระบบสมาร์ทโฮมจึงทำการล็อคประตูหลังบ้านให้เป็นที่เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย… พรุ่งนี้เป็นเช้าวันจันทร์ คราวนี้ก็มาลุ้นกันว่า การจราจรจะเป็นอย่างไร น้องแอปเปิ้ลจะถูกปลุกอีกครั้งด้วยกลิ่นกาแฟและเสียงเพลงเมื่อใด แต่แน่นอนว่าสมาร์ทวอทช์ของน้องแอปเปิ้ลจะเลือกเวลาปลุกอันเหมาะสมในจังหวะที่น้องแอปเปิ้ลอยู่ในสภาวะหลับตื้น เพื่อความสดชื่นสดใสในเช้าวันใหม่อย่างแน่นอน

ที่เล่ามานี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในศักยภาพของ Internet of Things พอจะเข้าใจกันบ้างแล้วใช่มั้ย เพื่อเป็นการไม่ตกเทรนด์ ลองเลือกหาอุปกรณ์ที่เหมาะกับตัวเองสัก 2 – 3 ชิ้น ยังไม่ต้องถึงขนาดอย่างน้องแอปเปิ้ลก็ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกอัพความทันสมัยให้กับตัวเองโดยเริ่มที่บ้านก่อนก็ได้


HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่