วันนี้ของอนุญาตแชร์ประสพการณ์การเตรียมตัวสอบ Investment Consultant license ทั้ง 3 ฉบับด้วยตนเองครับ โดยผมได้ใช้เวลาเตรียมตัวและสอบทั้ง 3 ใบอนุญาตในเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ โดยเลือกช่วงเวลาสอบจากสนามสอบที่เปิดรอบๆจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดที่ผมอาศัยอยู่
การสมัครสอบ
ผู้สนใจเข้าสอบสามารถเข้าไปดูตารางจัดสอบได้จากเว็บไซต์ของสถาบันจัดสอบ ผมเข้าใจว่าสถาบันที่จัดสอบใบอนุญาตทั้ง 3 ฉบับนี้มีอยู่ 2 ที่คือ ATI และ AIMC โดยตารางสอบส่วนภูมิภาคจะออกช่วงกลางเดือนก่อนหน้าเดือนที่ต้องการสอบ เช่น ถ้าจะสอบเดือนมีนาคม ตารางสอบส่วนภูมิภาคจะออกช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่ถ้าเป็นส่วนของกรุงเทพจะมีสอบเกือบทุกวันครับ
ผมได้เลือกตารางสอบตามนี้ เนื่องจากสะดวกในการเดินทางไปสอบ และมีเวลาให้อ่านหนังสือ เนื่องจากผมไม่มีโอกาสไปติวในกรุงเทพ แต่ถ้าท่านไหนมีโอกาสไปติวก็จะช่วยได้มากครับ แต่ค่าติวดูๆแล้วแพงมาก
P1 : Plain Product สมัครสอบวันที่ 25 กพ.2564 สอบ 13 มีค. 2564 สนามสอบ จ.สุราษฎร์ธานี (ATI จัดสอบ)
P2 : ตราสารที่มีความซับซ้อน สมัครสอบวันที่ 14 มีค.2564 สอบ 27 มีค.2564 สนามสอบ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (ATI จัดสอบ)
P3 : สัญญาซื้อขายล่วงหน้า สมัครสอบวันที่ 27 มีค.2654 สอบ 3 เม.ย.2564 สนามสอบจังหวัดตรัง (AIMC จัดสอบ)
หนังสือที่แนะนำให้อ่าน
หนังสือชุดหลักสูตรผู้แนะนำการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในชุดนี้จะมีด้วยกัน 5 เล่มโดย 3 เล่มจะอยู่ในส่วนของ P1 ส่วนของ P2 และ P3 จะชุดวิชาละ 1 เล่มครับ หนังสือของ P2 และ P3 จะหายากหน่อยครับ ซึ่งผมได้มาจากศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ของศูนย์หนังสือมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ช่วยเหลือดีมากๆครับ โดยแนะนำให้อ่านทุกเล่มครับ แต่แค่รอบเดียวพอให้ทราบหลักการคร่าวๆ
อันนี้เป็นหนังสืออ่านเสริมของหลักสูตร P1 ครับ จะมีสรุปเนื้อหาของ P1 ไว้ค่อนข้างดีครับ และมีข้อสอบให้ทำด้วย แนะนำให้ทำข้อสอบทุกข้อ ทำซ้ำสัก 2-3 รอบครับ หนังสือนี้ผมสั่งจาก ATI ครับ
หนังสือชุดสรุปเนื้อหาและตะลุยโจทย์ของพ่อบ้านนักลงทุนครับ อันนี้ก็ค่อนข้างดีแต่บางเนื้อหาเค้าจะสรุปแบบรวบรัดตัดความไปหน่อย ไม่แนะนำให้อ่านก่อนถ้าไม่ได้อ่านเนื้อหาในเล่มหลักครับ จะงงเอาง่ายๆ ส่วนข้อสอบจะมีเฉลยละเอียดให้เฉพาะส่วนที่มีการคำนวณครับ ถ้าสงสัยส่วนบรรยายอาจต้องกลับเปิดข้อสงสัยในตัวเล่มสรุป หรือเล่มของตลาดหลักทรัพย์ครับ ในส่วนนี้ทางสำนักพิมพ์แถมชุดจำลองการสอบออนไลน์ให้ทำได้ 4 ครั้งต่อหลักสูตรครับ ซึ่งช่วยได้เยอะมาก แต่จะมีแค่ผลว่าผ่าน(ได้คะแนนเกิน70%) หรือไม่ผ่านครับไม่มีเฉลย
การแบ่งเวลาอ่านและการสอบ
อันนี้ให้เป็นแนวทางเฉยๆนะครับ เนื่องจากผมมีเวลาจำกัด ตารางการทำงานค่อนข้างแน่น และผมสามารถอ่านหนังสือได้หลังจากส่งลูกเข้านอนแล้ว โดยผมจะอ่านหนังสือวันละ 4 ชม. (21.00-01.00) เกือบทุกวัน วันไหนง่วงก็ถือเป็นวันพักครับ
P1 : ใช้เวลาค่อนข้างเยอะเนื่องจากเนื้อหาเยอะมาก ต้องทำข้อสอบให้ผ่านอย่างน้อย 70% ในส่วนของจรรยาบรรณ(ส่วนที่2) และเฉลี่ยทั้งหมดต้องได้อย่างน้อย 70% (1+2+3) ผมใช้เวลาอ่านส่วนนี้ประมาณ 10 วันครับ (หักวันพักออกแล้ว) ทำแบบฝึกหัดหลายๆรอบครับ แล้ววันก่อนสอบให้มาอ่านทบทวนเรื่องจรรยาบรรณอีกครั้ง เนื่องจากถ้าส่วนนี้ตกคือสอบไม่ผ่านครับถึงแม้คะแนนรวมจะเกิน 70% ข้อสอบมี 100 ข้อ แนะนำให้ทำส่วนที่2 เรื่องจรรยาบรรณก่อนครับ เอาตอนสมองโล่งยังไม่โดนทำร้ายจากส่วนคำนวณ มีเวลาทำ 150 นาที แบ่งเป็น 3 ส่วนตามนี้ครับ
ส่วนที่ 1 ความรู้พื้นฐาน 30 ข้อ
ส่วนที่ 2 จรรยาบรรณ 20 ข้อ
ส่วนที่ 3 ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตลาดทุน(ตราสารทั่วไป) 50 ข้อ
ข้อสอบชุดนี้ผมใช้เวลาทำ 60 นาทีครับ
P2 : อันนี้ใช้เวลาไม่ได้เยอะมาก เพียงแต่จะเน้นประมวลผลและทำความเข้าใจครับ เนื่องจากเนื้อหาจะยากกว่า P1 หน่อยแต่ตัวเนื้อหาไม่เยอะครับ ผมใช้เวลาอ่านจริงๆ 5 วันครับ (หนังสือกว่าจะหาได้ กว่าจะส่งมา) แนะนำให้ทำแบบฝึกหัดหลายๆรอบครับ เกณฑ์ผ่านเหมือนเดิม 70% ครับ ข้อสอบมีแค่ 25 ข้อ มีเวลาทำ 40นาทีครับ แบ่งเป็น
ส่วนที่ 1 ตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง,มีความซับซ้อน 10 ข้อ
ส่วนที่ 2 กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูง,มีความซับซ้อน 10 ข้อ
ส่วนที่ 3 การให้คำแนะนำในการลงทุน 5 ข้อ
ข้อสอบชุดนี้ผมใช้เวลาทำ 20 นาทีครับ แต่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตออกจากห้องสอบได้เมื่อเริ่มสอบไปแล้ว 30 นาทีครับ นั่งเล่นๆไป
P3 : อันนี้เนื้อหาจะเข้าใจยากอีกนิด เนื่องจากเป็นกล่าวถึงสิทธิ และข้อผูกมัดของการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ข้อสอบเน้นการประยุกต์ไปใช้จริง ตรงส่วนนี้ผมคิดว่าใช้เวลาอ่านสัก 5 วันกำลังสวยครับ อ่านเน้นตรงส่วนของฟิวเจอร์ครับเพราะตรงนี้คือ 40% ของข้อสอบและถ้าเข้าใจตรงนี้จะได้ส่วนที่ 1ด้วย เกณฑ์ผ่านเหมือนเดิม 70% ครับ แนะนำให้ทำแบบฝึกหัดได้หลายรอบโดยเฉพาะการคำนวณ ข้อสอบมี 50 ข้อ มีเวลาทำ 80 นาที แบ่งเป็น 5 ส่วน
ส่วนที่ 1 ภาพรวมเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 12 ข้อ
ส่วนที่ 2 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสัญญาฟิวเจอร์ส 20 ข้อ
ส่วนที่ 3 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสัญญา option 8 ข้อ
ส่วนที่ 4 กลไกการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า 5 ข้อ
ส่วนที่ 5 ลักษณะเงื่อนไขของสินค้าในตลาดซื้อขายล่วงหน้า 5 ข้อ
ข้อสอบชุดนี้ผมใช้เวลาทำ 50 นาทีครับ
การเตรียมตัวเข้าห้องสอบ
เนื่องจากเป็นการสอบสนามสอบต่างจังหวัดซึ่งบางสถานที่ผมไม่เคยไปมาก่อน ผมจึงไปถึงสนามสอบก่อนเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในการสอบไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบนำสิ่งของใดๆเข้าไปในห้องสอบนอกจาก
1.บัตรประชาชน
2.เครื่องคิดเลขแบบไม่มีฟังก์ชันพิเศษใดๆ หรือเรียกง่ายๆเครื่องคิดเลขแม่ค้านั่นเอง
ของมีค่าอื่นใดๆนี่ไม่แนะนำให้เอาลงไปครับ นาฬิกาต่างๆก็ห้ามใส่เข้าไป กระเป๋าหรือสิ่งของที่พกมาจะถูกให้นำไปตั้งไว้หน้าห้องเท่านั้น โทรศัพท์มือถือแนะนำให้ปิดเสียงแล้วใส่กระเป๋าวางไว้หน้าห้องสอบ หรือทางที่ดีควรเก็บไว้ในรถเนื่องจากกรรมการไม่อนุญาตให้นำเข้าไปด้วยเช่นกัน อย่าจดหรือนำอะไรติดเข้าไป เพราะหากรรมการมองว่าทุจริตอาจถูกระงับสิทธิ์สอบนานถึง 5 ปี และทางศูนย์สอบอาจจะรายงานการทุจริตไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกว่าเสียประวัติไปเลย การทำงานในตลาดทุนเน้นอย่างแรกคือมีความซื่อสัตย์ สอบไม่ได้คือเตรียมตัวมาไม่ดี เอาไว้มาสอบใหม่ดีกว่าครับ
เข้าไปแล้วกรรมการจะแจกกระดาษทดให้ 1 แผ่น และดินสอ 1 แท่งโดยที่กระดาษทดจะมีชื่อ เลขบัตรประจําตัวประชาชน หมายเลขประจำตัวสอบ ลำดับที่เข้าสอบและรหัสที่ใช้ในการทำข้อสอบให้ตรวจสอบว่าถูกต้องตรงกันกับข้อมูลของเรา เนื่องจากถ้าข้อมูลตรงนี้ผิดแล้วการแก้ไขจะมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลานาน
ผลสอบ
เมื่อทำข้อสอบและกดส่งข้อสอบเสร็จแล้ว ก็จะทราบผลสอบได้ทันทีว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านจะแสดงให้เห็นว่าได้กี่คะแนนในส่วนไหนบ้าง แต่ถ้าสอบผ่านจะขึ้นแค่ว่าผ่านไม่แสดงคะแนนให้เห็น ซึ่งผลสอบจะถูกส่งเข้าอีเมลที่ลงทะเบียนไว้ทันที
โดยผลของการสอบนั้นจะมีอายุ 2 ปี สามารถนำไปยื่นขอรับความเห็นชอบออกใบอนุญาตได้ที่
https://market.sec.or.th/ORAP/Authen/PersonalLogin.aspx
ค่าใช้จ่ายในการสอบและการขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบ
ค่าตำรา
- หนังสือชุดหลักสูตรผู้แนะนำการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ทั้งชุด 1,100 บาท
- หนังสือ Study Note ผู้แนะนำการลงทุนตราสารทั่วไป 500 บาท
- หนังสือชุดติวเข้มของสำนักพิมพ์พ่อบ้านนักลงทุน 2,750 บาท
รวม 4,350 บาท
ค่าสมัครสอบ
- IC Plain Product (P1) 1,200 บาท
- IC Complex Product : ตราสารหนี้และกองทุนรวม (P2) 850 บาท
- IC Complex Product : derivatives (P3) 950 บาท
รวม 3,000 บาท
ค่าขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบจาก กลต.
ใบอนุญาตของผู้แนะนำการลงทุนจะมีอยู่ 4 ประเภท ตามนี้ครับภาพนี้เอามาจากเว็บของ กลต.
การขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบทุกแบบจะต้องสอบผ่านชุดความรู้ที่ 1 ก่อน
ซึ่งการขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบมีค่าใช้จ่าย 2,140 บาทต่อใบอนุญาต ส่วนตัวผมเลยมองว่าสอบให้ผ่านทั้งหมดก่อนแล้วค่อยออกใบอนุญาตทีเดียวจะคุ้มค่าที่สุด
รวมค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนขอความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ของผมคือ 9,490 บาทครับ
[CR] รีวิวการเตรียมตัวสอบ IC ทั้ง 3 ฉบับ Update 2564
การสมัครสอบ
ผู้สนใจเข้าสอบสามารถเข้าไปดูตารางจัดสอบได้จากเว็บไซต์ของสถาบันจัดสอบ ผมเข้าใจว่าสถาบันที่จัดสอบใบอนุญาตทั้ง 3 ฉบับนี้มีอยู่ 2 ที่คือ ATI และ AIMC โดยตารางสอบส่วนภูมิภาคจะออกช่วงกลางเดือนก่อนหน้าเดือนที่ต้องการสอบ เช่น ถ้าจะสอบเดือนมีนาคม ตารางสอบส่วนภูมิภาคจะออกช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่ถ้าเป็นส่วนของกรุงเทพจะมีสอบเกือบทุกวันครับ
ผมได้เลือกตารางสอบตามนี้ เนื่องจากสะดวกในการเดินทางไปสอบ และมีเวลาให้อ่านหนังสือ เนื่องจากผมไม่มีโอกาสไปติวในกรุงเทพ แต่ถ้าท่านไหนมีโอกาสไปติวก็จะช่วยได้มากครับ แต่ค่าติวดูๆแล้วแพงมาก
P1 : Plain Product สมัครสอบวันที่ 25 กพ.2564 สอบ 13 มีค. 2564 สนามสอบ จ.สุราษฎร์ธานี (ATI จัดสอบ)
P2 : ตราสารที่มีความซับซ้อน สมัครสอบวันที่ 14 มีค.2564 สอบ 27 มีค.2564 สนามสอบ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (ATI จัดสอบ)
P3 : สัญญาซื้อขายล่วงหน้า สมัครสอบวันที่ 27 มีค.2654 สอบ 3 เม.ย.2564 สนามสอบจังหวัดตรัง (AIMC จัดสอบ)
หนังสือที่แนะนำให้อ่าน
หนังสือชุดหลักสูตรผู้แนะนำการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในชุดนี้จะมีด้วยกัน 5 เล่มโดย 3 เล่มจะอยู่ในส่วนของ P1 ส่วนของ P2 และ P3 จะชุดวิชาละ 1 เล่มครับ หนังสือของ P2 และ P3 จะหายากหน่อยครับ ซึ่งผมได้มาจากศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ของศูนย์หนังสือมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ช่วยเหลือดีมากๆครับ โดยแนะนำให้อ่านทุกเล่มครับ แต่แค่รอบเดียวพอให้ทราบหลักการคร่าวๆ
อันนี้เป็นหนังสืออ่านเสริมของหลักสูตร P1 ครับ จะมีสรุปเนื้อหาของ P1 ไว้ค่อนข้างดีครับ และมีข้อสอบให้ทำด้วย แนะนำให้ทำข้อสอบทุกข้อ ทำซ้ำสัก 2-3 รอบครับ หนังสือนี้ผมสั่งจาก ATI ครับ
หนังสือชุดสรุปเนื้อหาและตะลุยโจทย์ของพ่อบ้านนักลงทุนครับ อันนี้ก็ค่อนข้างดีแต่บางเนื้อหาเค้าจะสรุปแบบรวบรัดตัดความไปหน่อย ไม่แนะนำให้อ่านก่อนถ้าไม่ได้อ่านเนื้อหาในเล่มหลักครับ จะงงเอาง่ายๆ ส่วนข้อสอบจะมีเฉลยละเอียดให้เฉพาะส่วนที่มีการคำนวณครับ ถ้าสงสัยส่วนบรรยายอาจต้องกลับเปิดข้อสงสัยในตัวเล่มสรุป หรือเล่มของตลาดหลักทรัพย์ครับ ในส่วนนี้ทางสำนักพิมพ์แถมชุดจำลองการสอบออนไลน์ให้ทำได้ 4 ครั้งต่อหลักสูตรครับ ซึ่งช่วยได้เยอะมาก แต่จะมีแค่ผลว่าผ่าน(ได้คะแนนเกิน70%) หรือไม่ผ่านครับไม่มีเฉลย
การแบ่งเวลาอ่านและการสอบ
อันนี้ให้เป็นแนวทางเฉยๆนะครับ เนื่องจากผมมีเวลาจำกัด ตารางการทำงานค่อนข้างแน่น และผมสามารถอ่านหนังสือได้หลังจากส่งลูกเข้านอนแล้ว โดยผมจะอ่านหนังสือวันละ 4 ชม. (21.00-01.00) เกือบทุกวัน วันไหนง่วงก็ถือเป็นวันพักครับ
P1 : ใช้เวลาค่อนข้างเยอะเนื่องจากเนื้อหาเยอะมาก ต้องทำข้อสอบให้ผ่านอย่างน้อย 70% ในส่วนของจรรยาบรรณ(ส่วนที่2) และเฉลี่ยทั้งหมดต้องได้อย่างน้อย 70% (1+2+3) ผมใช้เวลาอ่านส่วนนี้ประมาณ 10 วันครับ (หักวันพักออกแล้ว) ทำแบบฝึกหัดหลายๆรอบครับ แล้ววันก่อนสอบให้มาอ่านทบทวนเรื่องจรรยาบรรณอีกครั้ง เนื่องจากถ้าส่วนนี้ตกคือสอบไม่ผ่านครับถึงแม้คะแนนรวมจะเกิน 70% ข้อสอบมี 100 ข้อ แนะนำให้ทำส่วนที่2 เรื่องจรรยาบรรณก่อนครับ เอาตอนสมองโล่งยังไม่โดนทำร้ายจากส่วนคำนวณ มีเวลาทำ 150 นาที แบ่งเป็น 3 ส่วนตามนี้ครับ
ส่วนที่ 1 ความรู้พื้นฐาน 30 ข้อ
ส่วนที่ 2 จรรยาบรรณ 20 ข้อ
ส่วนที่ 3 ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตลาดทุน(ตราสารทั่วไป) 50 ข้อ
ข้อสอบชุดนี้ผมใช้เวลาทำ 60 นาทีครับ
P2 : อันนี้ใช้เวลาไม่ได้เยอะมาก เพียงแต่จะเน้นประมวลผลและทำความเข้าใจครับ เนื่องจากเนื้อหาจะยากกว่า P1 หน่อยแต่ตัวเนื้อหาไม่เยอะครับ ผมใช้เวลาอ่านจริงๆ 5 วันครับ (หนังสือกว่าจะหาได้ กว่าจะส่งมา) แนะนำให้ทำแบบฝึกหัดหลายๆรอบครับ เกณฑ์ผ่านเหมือนเดิม 70% ครับ ข้อสอบมีแค่ 25 ข้อ มีเวลาทำ 40นาทีครับ แบ่งเป็น
ส่วนที่ 1 ตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง,มีความซับซ้อน 10 ข้อ
ส่วนที่ 2 กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูง,มีความซับซ้อน 10 ข้อ
ส่วนที่ 3 การให้คำแนะนำในการลงทุน 5 ข้อ
ข้อสอบชุดนี้ผมใช้เวลาทำ 20 นาทีครับ แต่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตออกจากห้องสอบได้เมื่อเริ่มสอบไปแล้ว 30 นาทีครับ นั่งเล่นๆไป
P3 : อันนี้เนื้อหาจะเข้าใจยากอีกนิด เนื่องจากเป็นกล่าวถึงสิทธิ และข้อผูกมัดของการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ข้อสอบเน้นการประยุกต์ไปใช้จริง ตรงส่วนนี้ผมคิดว่าใช้เวลาอ่านสัก 5 วันกำลังสวยครับ อ่านเน้นตรงส่วนของฟิวเจอร์ครับเพราะตรงนี้คือ 40% ของข้อสอบและถ้าเข้าใจตรงนี้จะได้ส่วนที่ 1ด้วย เกณฑ์ผ่านเหมือนเดิม 70% ครับ แนะนำให้ทำแบบฝึกหัดได้หลายรอบโดยเฉพาะการคำนวณ ข้อสอบมี 50 ข้อ มีเวลาทำ 80 นาที แบ่งเป็น 5 ส่วน
ส่วนที่ 1 ภาพรวมเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 12 ข้อ
ส่วนที่ 2 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสัญญาฟิวเจอร์ส 20 ข้อ
ส่วนที่ 3 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสัญญา option 8 ข้อ
ส่วนที่ 4 กลไกการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า 5 ข้อ
ส่วนที่ 5 ลักษณะเงื่อนไขของสินค้าในตลาดซื้อขายล่วงหน้า 5 ข้อ
ข้อสอบชุดนี้ผมใช้เวลาทำ 50 นาทีครับ
การเตรียมตัวเข้าห้องสอบ
เนื่องจากเป็นการสอบสนามสอบต่างจังหวัดซึ่งบางสถานที่ผมไม่เคยไปมาก่อน ผมจึงไปถึงสนามสอบก่อนเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในการสอบไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบนำสิ่งของใดๆเข้าไปในห้องสอบนอกจาก
1.บัตรประชาชน
2.เครื่องคิดเลขแบบไม่มีฟังก์ชันพิเศษใดๆ หรือเรียกง่ายๆเครื่องคิดเลขแม่ค้านั่นเอง
ของมีค่าอื่นใดๆนี่ไม่แนะนำให้เอาลงไปครับ นาฬิกาต่างๆก็ห้ามใส่เข้าไป กระเป๋าหรือสิ่งของที่พกมาจะถูกให้นำไปตั้งไว้หน้าห้องเท่านั้น โทรศัพท์มือถือแนะนำให้ปิดเสียงแล้วใส่กระเป๋าวางไว้หน้าห้องสอบ หรือทางที่ดีควรเก็บไว้ในรถเนื่องจากกรรมการไม่อนุญาตให้นำเข้าไปด้วยเช่นกัน อย่าจดหรือนำอะไรติดเข้าไป เพราะหากรรมการมองว่าทุจริตอาจถูกระงับสิทธิ์สอบนานถึง 5 ปี และทางศูนย์สอบอาจจะรายงานการทุจริตไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกว่าเสียประวัติไปเลย การทำงานในตลาดทุนเน้นอย่างแรกคือมีความซื่อสัตย์ สอบไม่ได้คือเตรียมตัวมาไม่ดี เอาไว้มาสอบใหม่ดีกว่าครับ
เข้าไปแล้วกรรมการจะแจกกระดาษทดให้ 1 แผ่น และดินสอ 1 แท่งโดยที่กระดาษทดจะมีชื่อ เลขบัตรประจําตัวประชาชน หมายเลขประจำตัวสอบ ลำดับที่เข้าสอบและรหัสที่ใช้ในการทำข้อสอบให้ตรวจสอบว่าถูกต้องตรงกันกับข้อมูลของเรา เนื่องจากถ้าข้อมูลตรงนี้ผิดแล้วการแก้ไขจะมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลานาน
ผลสอบ
เมื่อทำข้อสอบและกดส่งข้อสอบเสร็จแล้ว ก็จะทราบผลสอบได้ทันทีว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านจะแสดงให้เห็นว่าได้กี่คะแนนในส่วนไหนบ้าง แต่ถ้าสอบผ่านจะขึ้นแค่ว่าผ่านไม่แสดงคะแนนให้เห็น ซึ่งผลสอบจะถูกส่งเข้าอีเมลที่ลงทะเบียนไว้ทันที
โดยผลของการสอบนั้นจะมีอายุ 2 ปี สามารถนำไปยื่นขอรับความเห็นชอบออกใบอนุญาตได้ที่ https://market.sec.or.th/ORAP/Authen/PersonalLogin.aspx
ค่าใช้จ่ายในการสอบและการขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบ
ค่าตำรา
- หนังสือชุดหลักสูตรผู้แนะนำการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ทั้งชุด 1,100 บาท
- หนังสือ Study Note ผู้แนะนำการลงทุนตราสารทั่วไป 500 บาท
- หนังสือชุดติวเข้มของสำนักพิมพ์พ่อบ้านนักลงทุน 2,750 บาท
รวม 4,350 บาท
ค่าสมัครสอบ
- IC Plain Product (P1) 1,200 บาท
- IC Complex Product : ตราสารหนี้และกองทุนรวม (P2) 850 บาท
- IC Complex Product : derivatives (P3) 950 บาท
รวม 3,000 บาท
ค่าขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบจาก กลต.
ใบอนุญาตของผู้แนะนำการลงทุนจะมีอยู่ 4 ประเภท ตามนี้ครับภาพนี้เอามาจากเว็บของ กลต.
การขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบทุกแบบจะต้องสอบผ่านชุดความรู้ที่ 1 ก่อน
ซึ่งการขึ้นทะเบียนขอรับความเห็นชอบมีค่าใช้จ่าย 2,140 บาทต่อใบอนุญาต ส่วนตัวผมเลยมองว่าสอบให้ผ่านทั้งหมดก่อนแล้วค่อยออกใบอนุญาตทีเดียวจะคุ้มค่าที่สุด
รวมค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนขอความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ของผมคือ 9,490 บาทครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้