ก่อนอื่นต้องขอแจกแจงรายละเอียดวิชาแนวนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจก่อน
วิชาประเภทคว้าจับพลังกรงเล็บ เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของมวยจีน(กังฟู-วูซู) มีรูปแบบแตกต่างกันไปตามแต่ตัววิชาหรือสำนัก แต่ถ้าจะแบ่งโดยหลักใหญ่ ก็สามารถแยกรูปแบบได้ตามลักษณะของมัน โดยพลังกรงเล็บจะมีอยู่สามชนิดคือ
๑.กรงเล็บเหยี่ยว/อินทรี
รูปแบบการตั้งมือจะมีทั้งฝ่ายเหนือและใต้ กรงเล็บอินทรีเหนือจะตั้งมือเป็นงองุ้มทั้งห้านิ้ว ทางฝ่ายใต้จะงอเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ส่วนนิ้วนางและก้อยจะรวบกำเอาไว้ กรงเล็บประเภทนี้จะเน้นคว้า จิก จับ ตะครุบ คว้าจับแล้วตีหักข้อต่อ โดยเลียนแบบท่าของนกอินทรี
๒.กรงเล็บเสือ
ลักษณะของท่านี้จะตั้งกรงเล็บขึ้น กระดูกนิ้วข้อที่สองกับสามงอเข้ามา อุ้งมือยื่นออกด้านนอก พวกมวยเสือนิยมใช้กรงเล็บแนวนี้ จะเน้น คว้า ตะปบ ตีกระแทก
๓.กรงเล็บมังกร
รูปลักษณ์จะเหมือนกับอุ้งเท้าของมังกร การตั้งมือจะคว่ำลง นิ้วทั้งห้าเหยียดออก ข้อมือหันงอขึ้น เน้นใช้คว้าตะปบเป็นหลัก
ในประมวลพลังกรงเล็บที่กล่าวมาข้างต้น แต่ละรูปแบบก็จะมีวิธีใช้แตกต่างกัน หรือแม้จะเป็นวิชาเดียวกัน แต่ฝึกคนละสาย รูปแบบจึงต่างกันก็มี ในจำนวนนี้นับกรงเล็บมังกรร้ายกาจที่สุด(ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม)
คราวนี้มาพิจารณามวยจีนที่พระยาพิชัยฯฝึกกันบ้าง ซึ่งในประวัติศาสตร์เขียนเอาไว้ว่า คว้าจับข้อต่อต่างๆ โดยเฉพาะกระดูกไหปลาร้า เป็นประเภทคว้าและหักกระดูก ซึ่งข้อความก็บอกเอาไว้แค่นั้น ไม่ได้บอกว่าหักอย่างไรหรือวิธีไหน
ซึ่งวิชาการต่อสู้รูปแบบหนึ่งของจีนยังมีวิชา Qinna Shu (วิชาคว้าจับ) เป็นเทคนิคการคว้าและบิดหักข้อต่อ มีกระบวนท่าที่พลิกแพลงไปตามสถานการณ์ต่างๆ เน้นการ คว้า จับ บิด หัก เพื่อควบคุมหรือล็อคข้อต่อคู่ต่อสู้ ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับที่พระยาพิชัยฯฝึก
ดังนั้นจึงได้แต่สัณนิษฐานจากภูมิหลัง เช่น อาจารย์ชาวจีนที่สอนมวย
ในบันทึกบอกว่าเป็นครูมวยชาวแต้จิ๋ว ยุคนั้นชาวจีนที่อพยพมามีทั้งชาวแต้จิ๋ว ฮกเกี๊ยน ฯลฯ จึงสัณนิษฐานว่าที่อาจารย์คนนี้ฝึกคือมวยจีนทางตอนใต้ ซึ่งเน้นตีสั้น รวบรัด วิชาที่นำมาถ่ายทอดในตอนนั้นน่าจะเป็นของฝ่ายใต้
ปล.ทั้งหมดเป็นเพียงข้อสัณนิษฐาน เพราะมีหลายวิชาที่มีเคล็ดการคว้าจับ แต่นี่ก็น่าจะใกล้เคียงที่สุดแล้ว
มวยกระเรียนขาวหนึ่งในวิชาที่มีการคว้าจับ
มันมีภาพอยู่แต่เอามาลงไม่ได้ ขออภัยด้วยครับ
ผมจับเค้ามวยจีนที่พระยาพิชัยดาบหักฝึกได้แล้วครับ
วิชาประเภทคว้าจับพลังกรงเล็บ เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของมวยจีน(กังฟู-วูซู) มีรูปแบบแตกต่างกันไปตามแต่ตัววิชาหรือสำนัก แต่ถ้าจะแบ่งโดยหลักใหญ่ ก็สามารถแยกรูปแบบได้ตามลักษณะของมัน โดยพลังกรงเล็บจะมีอยู่สามชนิดคือ
รูปแบบการตั้งมือจะมีทั้งฝ่ายเหนือและใต้ กรงเล็บอินทรีเหนือจะตั้งมือเป็นงองุ้มทั้งห้านิ้ว ทางฝ่ายใต้จะงอเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ส่วนนิ้วนางและก้อยจะรวบกำเอาไว้ กรงเล็บประเภทนี้จะเน้นคว้า จิก จับ ตะครุบ คว้าจับแล้วตีหักข้อต่อ โดยเลียนแบบท่าของนกอินทรี
ลักษณะของท่านี้จะตั้งกรงเล็บขึ้น กระดูกนิ้วข้อที่สองกับสามงอเข้ามา อุ้งมือยื่นออกด้านนอก พวกมวยเสือนิยมใช้กรงเล็บแนวนี้ จะเน้น คว้า ตะปบ ตีกระแทก
รูปลักษณ์จะเหมือนกับอุ้งเท้าของมังกร การตั้งมือจะคว่ำลง นิ้วทั้งห้าเหยียดออก ข้อมือหันงอขึ้น เน้นใช้คว้าตะปบเป็นหลัก
คราวนี้มาพิจารณามวยจีนที่พระยาพิชัยฯฝึกกันบ้าง ซึ่งในประวัติศาสตร์เขียนเอาไว้ว่า คว้าจับข้อต่อต่างๆ โดยเฉพาะกระดูกไหปลาร้า เป็นประเภทคว้าและหักกระดูก ซึ่งข้อความก็บอกเอาไว้แค่นั้น ไม่ได้บอกว่าหักอย่างไรหรือวิธีไหน
ซึ่งวิชาการต่อสู้รูปแบบหนึ่งของจีนยังมีวิชา Qinna Shu (วิชาคว้าจับ) เป็นเทคนิคการคว้าและบิดหักข้อต่อ มีกระบวนท่าที่พลิกแพลงไปตามสถานการณ์ต่างๆ เน้นการ คว้า จับ บิด หัก เพื่อควบคุมหรือล็อคข้อต่อคู่ต่อสู้ ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับที่พระยาพิชัยฯฝึก
ในบันทึกบอกว่าเป็นครูมวยชาวแต้จิ๋ว ยุคนั้นชาวจีนที่อพยพมามีทั้งชาวแต้จิ๋ว ฮกเกี๊ยน ฯลฯ จึงสัณนิษฐานว่าที่อาจารย์คนนี้ฝึกคือมวยจีนทางตอนใต้ ซึ่งเน้นตีสั้น รวบรัด วิชาที่นำมาถ่ายทอดในตอนนั้นน่าจะเป็นของฝ่ายใต้
ปล.ทั้งหมดเป็นเพียงข้อสัณนิษฐาน เพราะมีหลายวิชาที่มีเคล็ดการคว้าจับ แต่นี่ก็น่าจะใกล้เคียงที่สุดแล้ว