สวัสดีครับ ผม สมาชิกใหม่ ขอรายงานตัวกับพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ ผมสิง ณ แห่งนี้มานานหลายปีแล้วครับ จนมาวันนี้ผมได้ซื้อรถ ยี่ห้อหนึ่งที่เซียนมอไซค์
หลายคน ด่า แช่ง สาปส่ง หรืออื่นๆ มาไว้ในครอบครอง ผมจะนำเสนอแบบ ไม่ยาวจนเกินไปน๊ะครับมเอ้าเริ่ม!!!
ขอเล่าย้อนความก่อนว่า ทำไมถึงซื้อคันนี้ แรกเริ่มผมเอง ก็ฟังเขา??? ใคร??? พูดกันมามากมาย ว่ายี่ห้อนี้ ร้อนดับ ปลาวาฬ พังง่ายจุกจิก และอีกมากมาย
ผมซึ่งอยากลอง สักครั้งในชีวิตไม่รู้จะเจ็บตัวมากไหม ต้องรอดูต่อไปครับพี่น้อง เอาล่ะครับ ขอเล่าย้อนต่อไปว่า ทพไมถึงมาซื้อรุ่นนี้
ตอนแรก ก็ไม่มองหรอกยี่ห้อนี้ แต่แอบสารภาพ เหล่ตา(มากๆ) กับยี่ห้อนี้เพราะ การออกแบบรถสวย เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผมชอบ เพราะผมไม่ชอบ
อะไรไก็ ทำไมไม่ซื้อสี่สูบล่ะ เสียงหวานกว่า อืมมม นี่คือคำที่อาจได้ยินจากคน นอกวงการทั่วไปที่เขาอาจไม่ได้รัก ชอบมอไซค์ เหมือนเรา
ก่อนหน้านี้ผมดูตัวเลือกไว้หลายยี่ห้อ คือ su ขอเล่าถึงซูก่อนครับ ผมดู gsx s750 ไว้ ตามดูในคลับเขามานาน พบว่ามีปัญหา เรื่องซีลแกนกดคลัช
รั่ว ซึ่งผมดูแล้ว ก็ยังไม่ชัวร์ว่า ปีล่าสุดแก้ปัญหาได้หรือยัง เป็นทั้งโลกกับ เครื่องบล็อคนี้ ฝรั่งก็ไม่รอด ซึ่งผมมองว่า เป็นเรื่องร้ายแรงขั้นสุด
ที่ไม่ควรมี เพราะเ่านเจอเคสนึง ทำความสะอาดเสร็จ ฉีดน้ำล้าง ผลคือ น้ำเข้าเครื่องครับ เหอะๆ ผมเลยคิดอยู่นาน สรุปไม่เสี่ยงดีกว่า
ตัวเลือกต่อไป gsx s1000f โอ้ หน้าตาพอไปได้ถึงมอง รอบคันแล้วอาจ รู้สึกว่าดีไซน์ ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ดูของที่ได้ กับเทคโน ผมว่ามันไม่คุ้ม
แถมโปร ก็ไม่ดึงดูดอีก ถึงส่วนลด จะเป็นแสนก็เถอะ แถมแบบกั๊กๆ เลยเก็บไว้ในใจก่อนแล้วกัน ถัดไปแหวกแนวเลยดีกว่า รอยัลเอนฟิลด์ เลยไหม
continalton 650 gt อืมมมม ทุกอย่างดูโอเคตามราคา แต่ๆ พอลองสิงในคลับ ดูใน ยูทูป มันมีปัญหา เยอะเหมือนกัน วัสดุ งานประกอบ ไม่เอาๆไม่ผ่าน
กลับมามองตัวพันอีกรอบ คราวนี้ mt10 ชอบบบบบ ทั้งเครื่อง ระบบไฟฟ้า แต่มาจบที่พักเท้า พอดีมีคนซ้อน และรถที่จะซื้อ ต้องเป็นครอบครัว
คราวนี้คิดอีก เอารุ่นไหนดีว้าาาาา เอ้าลองดู mt 09 ละกันน่าจะตอบโจทย์ พอดีตอนที่ซื้อ มันปลายโมเดลมากๆๆๆๆๆๆๆแล้ว เพราะกำลังเหมือนจะโละ
สต๊อก เลยตัดสินใจ รอ mt09 โมเดลล่าสุดละกันรอไปพักใหญ่โดยคิดว่า มันน่าจะมางาน expo ปี20 รอไปรอๆ สุดท้ายไม่มา พอดีเข้าไปเปิดดู โดยไม่ตั้งใจ
ช่วงมีข่าว ยี่ห้อมอไซค์ จาก อิตาลี่สีแดงจะเปลี่ยนตัวแทนในไทย เลยไปดูข่าวในเพจ ไปเห็นรุ่นหนึ่งเข้า หืมมม โอ้ววววเอ้ยยยสีสวย ปรกติไม่ชอบ
ยี่ห้อนี้ที่มีแต่สีแดงงงงงง แบบเดียวเป็นหลัก นี่สีสันแหวกแนวดี โปรก็ถูกใจพอสมควร เลยตัดใจไม่รอ all new mt09แล้ว จน ณ วันที่เขียนกระทู้นี้
มันก็ยังไม่มาาาา เลยตัดสินใจจองคันนี้เลย ช่วงวันที่จองเกือบวันสุดท้ายของงาน expo มันเหมาะมากเหมือนมีกรรมครับ สงสัยเรื่องมาก
โควิด ระบาดรอบสอง กระทบพื้นที่ แถวภูมิภาค รวมถึงจังหวัดของโรงงานตั้งอยู่ และเรื่องเอกสารเกี่ยวกับราชการอีกมากมายที่โรงงานดำเนินการ
ก็เลยรอ รอไป รอๆๆๆๆ สรุปได้รับรถ เกือบจะสิ้นเดือน กุมพา ปี 21ตั้งแต่เดือนพฤศจิ ปี20 เหมือนรถขายดี จนผลิตไม่ทัน เหอะๆ
เอ้ารูปจงมา กลายเป็นรูปหากิน หลายคอมเม้น ในหลายกระทู้ จนคนอาจคิดว่า ไอ้นี่เอารูป จากต่างประเทศมาแต่ง แล้วหลอกแน่นอนนายไม่มีจริงหรอก
ผมเลยต้องกล่าวคำแบบพี่ สมรักษ์ นักมวยโอลิมปิกว่า ผมไม่โม้น๊ะครับ แต่ที่ต้องเบลอไว้เพราะความปลอดภัยครับ เหอะๆ
เอาล่ะคุยมานาน นายพูดเข้าเรื่องซักทีเหอะ(เหมือนเสียงลอยมาจากทด้านหลัง เหอะๆ)
รูปลักษณ์ ภายนอก ตามที่เห็นครับ ความแตกต่างจากธรรมดา ไม่นับตัว sp เพราะไม่เข้าไทยแน่นอน ร้อยเปอร์
และตัว performance ก็ผลิตต่อแล้ว
สีสันครับ ที่มันไม่ได้แดง ที่ถัง และที่เฟรมครับ จะเห็นได้ว่าเจ้านี่ที่มีชื่อต่อท้ายว่า rve ซึ่งผมก็ยังทราบว่า มันย่อมาจากอะไร
มันมี สิ่งที่แตกต่าง คือ สีถัง สีครอบหม้อน้ำ สีเบาะ สีครอบปลายท่อ และสีล้อ ไม่เหมือนตัวธรรมดา และมีไอเท็มเด็ด ที่ไม่มีในตัวธรรมดา
คือ quick shift ที่ผมชอบ และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมเลือกคันนี้
ตัวธรรมดา จะมีรายละเอียดที่มองภายนอกออกได้ง่ายคือ สีถังแดง แบบแดงดูคาติ แบะสีดำล้วน ครอบหม้อน้ำสีดำไม่มีลวดลายอะไร
ล้อสีดำล้วน ครอบปลายท่อ สีดำล้วน และไม่มี quick shift ส่วนตัว rve ก็ตามภาพเลยครับ
เอาล่ะ ข้อมูลลีกๆ ผมไม่ลงน๊ะครับ หาในนี้เอาก็มีที่พสกพี่ๆรีวิวไว้อยู่ แต่ผมขอทำรีวิว ฉบับ ความรู้สึกของการใช้งานจริง ในแบบใช้ในเมือง
และทุกวันเช้าเย็น เริ่มจากรูปแรก รูปนี้ก่อนครับ
จากที่เห็น ชุดสวิทช์ขวามือ บนสุดสีแดง เป็น สวิทช์ ดับเครื่อง เลือนลงมาหนึ่งขั้น เป็นตำแหน่งเตรียมสตาร์ท เลื่อนลงมาค้างไว้เป็นการ
สตาร์ทเครื่องต้องรอให้เครื่องติดก่อนครับ แล้วปล่อยมือหลังเครื่องติด เชาน่าจะทำแบบ ออโต้สตาร์ทเนอะ ขี้เกียจเลื่อนลงมาแช่
ทำแบบพี่ซูไปเลยกดทีเดียวแล้วปล่อย ที่เหลือระบบสตาร์ทให้เองจนเครื่องติด ถัดลงมาปุ่มสีเทากลมที่เหมือนสัญลักษณ์ไฟสูง
มันคือปุ่ม เสือนไฟสูงของไฟ day time runing light ครับ ถ้าเรากดที่ปุ่มนี้ไฟ drl จะติดสว่างเต็มที่ จะเห็นไฟ drl ขัดเจนมากกว่าไม่กด
ถัดลงมา ปุ่มรูปลิ่มสามเหลี่ยม สีแดงนี่คือไฟ hazard หรือไฟ ภาษาโบราณเรียก ไฟผ่าหมาก เลื่อนมาทางขวา ทำงาน เลื่อนซ้ายปิด
ต่อที่ชุดควบคุมระบบ ทางซ้ายครับ
ปุ่มยาวซ้ายสุด ปุ่มปรับไฟหน้า สูงและต่ำครับ ถัดมาเป็นปุ่มสำหรับเลื่อน บนล่าง ใช้สำหรับในการเลื่อนเมนู การตั้งค่าครับ
ถัดลงมาคือปุ่ม มัลติฟังก์ชั่น เลื่อนซ้าย ขวา ใช้สำหรับเปิดไฟเลี้ยว ซ้าย หรือ ขวา กดลงตรงๆใช้ สำหรับ เปลี่ยนโหมดการขับขี่
โดยกดค้างไว้ จนมีตัวเลือกขึ้นมา กดเลือกว่าจะขี่โหมดไหน แล้วเลื่อนปุ่มบนขวา ขึ้นลง แล้วกด ที่โหมดที่ต้องการ รอกล่องecuปรับแป๊บ
มันจะกระพริบ ที่ชื่อโหมด รอวห้มันหยุดกระพริบ ถือว่าเรียบร้อยครับ การเปลี่ยน ขี่อยู่ก็ทำได้ครับ โดยปิดคันเร่งก่อนแล้วเลือกโหมด
รอมันหยุดกระพริบก็ขับต่อได้ครับ และล่างสุดคือ ปุ่มแตรนั่นเองครับ ก็กดลงไปตรงๆก็ดัง แตรรุ่นนี้ ซ่อนโดยคว่ำหน้าลงอยู่ใต้ปากนกครับ
ซ่อนเนียน ไม่บัง เสียงด้วย ความดังถือว่าดีครับ
ต่อกันด้วยด้านขวาหน้าครับ
มองที่โคมดไฟด้านหน้า ที่เห็นขุ่นๆนั่น คือตำแหน่งไฟ drl นั่นเองครับ ส่วนด้านหน้าสุดของโคม จะเป็นโคมใส ไฟหน้าหลักเป็นไฟ ฮาโลเจนน๊ะครับ
หาใช่ led ไม่ ซึ่งผมชอบครับ แต่ไม่รู้สว่างแค่ไหน มองที่การ์ดแฮนด์ โคมใสเล็กๆ คือไฟแล้ว led สีส้มครับ ถ้าล้มแล้วพังก็โดน ค่าหลอดไฟด้วยครับ
การ์ดแฮนด์ made in italy น๊ะครับ เพราะฉนั้น ถ้าแตกแล้วรอเบิกนาน ก็แล้วแต่คิดว่าเพราะ อะไรครับว่าถึงช้า การ์ดแฮนด์พลาสติกล้วนๆ เหอะๆ
ถัดลงมาก ระบบช็อคอัพหน้า หัวกลับ (แกนสีดำ) ของมาร์ซ็อคชี่ ปรกติแกนช็อคทั่วไป จะเป็นสีฮาร์ดโครมเงาๆ ถัดไปด้านหลัง เฟรมรถสีดำ
ซึ่งผมชอบสีนี้ แต่อาจไม่ใช่ บิ๊กไบค์เหมือนนิยาม บิ๊กไบค์ ของอมรย์ท่านนึงในตำนานได้กล่าวไว้ ฮะ ฮ่าาาาาาาา ถัดไปซัพเฟรมครับ สีสวยมาก
เป็นสีขาวมุขด้าน และเบาะ สีพิเศษ คือ ด้านบนแดง ขอบเบาะดำ โดยมี ลายปั๊มที่เบาะด้านบนว่า ducati
ต่อที่ล้อหน้าครับ
จะเห็นช็อค แกนช็อคสีดำ และยี่ห้อชัดเจน ถัดลงมาอีกนิด ปั๊มเบรคพี่โบ้ brembro พร้อมจาน แบบกึ่งลอยตัวยึดยนขาคาลิปเปอร์ แบบ เรเดียลเมาท์
อ้อสายเบรค เป็นสายถักมาเลยน๊ะจ๊ะ หุ้มสายด้วยวัสดุ สีดำ โปร่งๆ สวยๆ ทั้งชุดถ้าไม่ต้องการ อะไรที่โหดมาก ก็เอาอยู่ แต่ๆๆสำหรับสายเบรคโหดแบบ
ผมบอกเลย ไม่พอครับ ต่อด้วยสีล้อ คาดสีแดง ซึ่งตัวธรรมดา จะสีดำล้วน ยางเป็นยี่ห้อคู่บุญ รถยี่ห้อนี้ นาม พีแรลลี่ รุ่นเกงใน เอ้ยไม่ใช่ รุ่น daiblo rosso iii
ล้อหลังกันต่อครับ ยางยี่ห้อ รุ่นเดียวกันกับล้อหน้า เบรคหลังจานเดี่ยว คาลิปเปอร์มอันเดียวจากพี่โบ้ brembro เหมือนเดิม
ต่อครับชุดหลังซ้ายหล่อๆ กับช็อคอัพหลัง ยี่ห้อ ไม่แน่ใจว่า ซาร์คหรือเปล่า สปิงเหลือง ปรับได้ แต่ผมไม่ปรับน๊ะ
พร้อม ของหล่อ ที่ต่อไปคงไม่เห็นในรุ่นเล็ก ของดูคาติแล้วนั่นคือ โปรอาร์มมมมมมมมมม แขนเดี่ยวและจุดที่จะตำหนิคือ ลูกศรสีแดงใช้ครับบังโซ่
มันดุ๊กดิ๊กได้ครับ ฮ่า ฮ่าาาาาาา ทำไมพี่ทำแบบนี้ มันเป็นงี้ได้ครับพี่
ต่อไปยาวๆครับด้วยภาพนี้
บนไฟท้าย และปลายท่อด้านท่อ ออกหลังสุดหล่อลงมาเป็นก้านอลูมิเนียมของชุดไฟเลี้ยว ไฟส่องป้ายทะเบียน โดยไฟเลี้ยว ในโคมเป็น led ครับ
มองภายนอกเหมือนเป็นหลอดใส้ และไฟส่องป้ายทะเบียน led สีขาวในรูปจะเห็นว่ามันอยู่ทับ ทับทิมสีแดงนั่นเอง
ย้อนกลับมาด้านหน้าเครื่องครับ หม้อน้ำแบบโค้งสีดำ พร้อมพัดลมด้านหลัง สองตัว ของ bosh กำลังแรงทำหน้าที่พัดเอาความร้อนออกไปได้ดีพอควร
เวลาทำงานจะรู้สึกถึงไอร้อน ที่แถวหน้าขาและน่องด้านหลังบ้าง แต่ไม่ได้ร้อนแบบ ทนไม่ได้ ผมใส่ขาสั้นขี่ตลอดทุกครั้ง ไม่ใช่ปัญหาครับ
และล่างสุด หม้อออยส์คูลเลอร์นั่นเองครับขนาดเล็กช่วยระบายความร้อนน้ำมันเครื่อง ช่วยลดอุณหภูมิน้ำมันเครื่องลงก่อนส่งไปหล่อลื่นเครื่องยนต์กันต่อ
[CR] ขี่พายุทะลุฟ้า hypermotard 950 rve ฉบับ อาจขัดใจเซียนมอไซค์ อยากสื่อให้รู้ว่าสัมผัสรู้สึกยังไง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้