TRUE MOTHERS (Naomi Kawase)
9/10
“หนังดีงาม เล่าเรื่องได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจ อิ่มใจมากทีได้ดู”
....
แอบเสียดายที่หนังเรื่องนี้ดันมาเข้าชนหนังฟอร์มยักษ์เข้าอย่างจัง รอบและโรงฉายจึงน้อยมากๆ ...แต่ก็เข้าใจนะ เพราะตลาดหนังดราม่าญี่ปุ่นในบ้านเรา คนดูนี่แทบเฉพาะกลุ่มจริงๆ มันไม่ได้ mass เหมือนทั่วไป ด้วยขนบ วิธีการเล่าเรื่องแบบญี่ปุ่นที่เฉพาะตัวสูง อาจจะเข้าถึงคนดูได้ยาก ...แต่เมื่อดู True Mothers จบลง แม้หนังจะมีสไตล์การเล่าเรื่องที่แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่มันไม่ได้นิ่งเงียบจนน่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม หนังยังได้สอดแทรกความมีชีวิต ความเข้าใจ ในความเป็นผู้หญิงที่ยึดโยงกับคำว่า “แม่” ผ่านมุมมองการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง ดูสนุกพอประมาณ พร้อมหักตบด้วยหมัดฮุคแรงๆ ที่เล่นเอาคนดูอย่างผมจุก ซึม พร้อมน้ำตาแห่งความอิ่มเอมเอ่อล่นเล็กๆ ที่ดวงตา
True Mothers เล่าถึงหัวใจของความเป็นแม่ หัวใจแห่ง Motherhood ได้อย่างแยบยล คมคาย ด้วยมุมมองของผู้กำกับหญิง นาโอมิ คาวาเสะ ที่เข้าใจในมุมผู้หญิง และเลือกเล่าเรื่องเพื่อให้คนดูได้เข้าใจในความเป็นผู้หญิง ผ่านสองเรื่องราวของผู้หญิงที่มาบรรจบพบกันได้อย่างลงตัว
ซาโตโกะ คุริฮาระ
หญิงสาวที่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสามีที่น่ารักและเข้าใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดคือ การเติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวด้วยลูก ...เธอและสามีพยายามหลายครั้งที่จะมีลูก แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเชื้ออสุจิของสามีแทบจะไม่มีเลย ...สุดท้ายครอบครัวคุริฮาระ จึงรับเด็กชายอาซาโตะ เป็นบุตรบุญธรรม จาก เบบี้ บาตอง บ้านพักบนเกาะแห่งหนึ่งในจ.ฮิโรชิมะ ที่รับดูแล อภิบาลเด็กสาวสาวที่ไม่พร้อมจะมีบุตรและทำหน้าที่ส่งต่อเด็กให้กับคุณพ่อ คุณแม่ที่ไม่สามารถมีลูกได้ รับอุปการะ
แม้ซาตาโกะจะไมใช่แม่แท้ๆ ของน้องอาซาโตะ แต่หัวใจของความเป็นแม่ในตัวของเธอมีเกินร้อย เธอเลี้ยงดูน้องอาซาโตะตั้งแต่เป็นเด็กอ่อน จนน้องมีอายุได้ 6 ขวบ ...และจู่ๆ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งมาอ้างตัวว่าเป็นแม่แท้ๆ ของน้องและต้องการขอน้องกลับคืน
ฮิคาริ
เด็กสาวมัธยมวัย 14 จาก จ.นาระ ..ฮิคาริ เติบโตในครอบครัวหัวเก่า ยึดตามกรอบ และในวัยแรกแย้ม เธอเป็นเด็กสาวที่หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู เธอมีความรักกับเด็กหนุ่มในโรงเรียนเดียวกัน และในที่สุดเธอก็ตั้งครรภ์ด้วยความไม่พร้อม ...พ่อและแม่ของฮิคาริ มองปัญหาลูกสาววัย 14 ตั้งท้องคือเรื่องใหญ่และไม่สามารถรับได้ แม้กระทั่งหลานในไส้แท้ๆ ...ฮิคาริต้องพักการเรียน แล้วถูกส่งไปที่เบบี้ บาตอง เพื่อเตรียมคลอดลูกและส่งต่อลูกให้กับครอบครัวที่รับอุปการะเด็ก ...หลังคลอดลูก แทนที่ฮิคาริจะได้กลับมาเป็นเด็กหญิงที่สดใส เรียบหนังสือต่อไปจนจบ แต่ด้วยบาดแผลความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในครอบครัวและตัวฮิคาริเอง ...ทำให้ชีวิตของฮิคาริ เหมือนนกน้อยที่ต้องโซซัดโซเซออกจากบ้านเพื่อไปผจญชีวิตตามลำพัง ...ก่อนจะกลับมาทวงคืนลูกที่เกิดจากสายเลือดแท้ๆ แห่งความเป็นแม่ของเธอ
สิ่งที่ชอบมากในหนังคือมุมมองในการเล่าเรื่อง ...จริงๆ หนังเอื้อมากๆ ในการเล่าเรื่องแบบเน้นดราม่าเข้มข้นว่าด้วยการแย่งชิงลูกระหว่างแม่บุญธรรมและแม่แท้ๆ เพราะเรื่องแทบจะปูทางมาแบบนี้เลย ...แต่ผู้กำกับนาโอมิ กลับเล่าเรื่องในมุมที่แตกต่าง แต่มันกลับโดนใจกว่า มันลึกซึ้งกว่า โดยเลือกเล่าในมุมมองของผู้หญิงสองคนที่มีความเป็นแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ....เราเข้าใจในมุมของซาโตโกะ เห็นความเป็นแม่ (แม้ไม่ใช่แม่แท้ๆ) เข้าใจในชีวิต การปลูกฝังเลี้ยงดูให้น้องอาซาโตะ เป็นเด็กที่มีหัวใจที่ดีงามมากๆ ...ในขณะเดียวกัน ผู้กำกับก็เล่ามุมของฮิคาริ แม่แท้ๆ ของน้องอาซาโตะ ได้อย่างเข้าอก เข้าใจ ไม่ประณาม เหยียดหยาม เด็กสาวที่ท้องไม่พร้อม เรียกได้ว่า ฮิคาริเป็นตัวละครที่น่าสงสารและเห็นใจมากๆ ...เป็นตัวละครที่งดงามดั่งผ้าขาว บริสุทธิ์ สะอาด ที่ต้องเปื้อนด้วยปัญหา ชะตากรรม ที่เกินกว่าวัยอย่างเธอจะรับไหว
ผู้กำกับนาโอมิ ให้ตัวละครแม่ทั้งสองตัว เป็นเหมือนกระจกสองด้าน ให้คนดูได้เห็นในเงาสะท้อนของกันและกัน ได้เห็นหัวใจในความเป็นแม่ ที่สะท้อนผ่านมายังชื่อเรื่องที่ว่า True Mothers ว่าจริงๆ แล้วคำว่าแม่ที่แท้จริงนั้นคืออะไร แม่ผู้ให้กำเนิด หรือ แม่ที่เลี้ยงดูฟูมฟัก ...หนังไม่ได้ชี้นำแนวคิดว่าอะไรถูก อะไรผิด หนังเล่าด้วยความลึกซึ้ง เข้าใจ ซึ่งวิธีการเล่าแบบนี้แหละ ที่ทำให้บทสรุปของหนังมันดีงาม มันได้หัวใจ มันจุก มันตื้นตันไปหมด ...ไม่แปลกใจเลยที่หนังเป็นตัวแทนของญี่ปุ่น ส่งเข้าชิงออสการ์ในปีนี้
อีกหนึ่งจุดที่ชอบมากคือการแสดงของตัวละครทุกตัวทั้งบทนำ บทย่อยๆ ที่ทุกคนเล่นดีกันหมดโดยเฉพาะการแสดงของอาจู มาคิตะ ในบทฮิคาริ ที่สีหน้า แววตา บอกความเจ็บปวด ความกล้ำกลืน การปัญหาเก็บเอาทุกสิ่งทุกอย่างไว้หมด ด้วยมาดที่นิ่ง เงียบ ...อาจู มาคิตะ ทำให้ตัวละครฮิคาริ นั้นน่าสนใจ น่าค้นหา และทำให้คนดู (อย่างผม) เจ็บปวดและเข้าใจไปกับตัวละครตัวนี้มากๆ
True Mothers คืองานหนังดราม่าชั้นดี (อีกแล้ว) จากญี่ปุ่น ที่ทำได้อย่างละเอียดอ่อน สะท้อนมุมมองความเป็นผู้หญิง ความเป็นแม่ ได้อย่างลึกซึ้ง กลมกล่อม เล่าเรื่องได้อย่างเข้าอก เข้าใจ และเข้าถึงแก่นแท้ความดีงามของความเป็นมนุษย์ที่ควรค่าในการดูเป็นอย่างยิ่งครับ ...ชอบมากๆ จริงๆ
#TrueMothers
#เอ้อระเหยลอยลม
MONGKOL CINEMA
รีวิว : “True Mothers” : หนังที่เล่าเรื่องได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจ และอิ่มใจมากที้ได้ดู
9/10
“หนังดีงาม เล่าเรื่องได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจ อิ่มใจมากทีได้ดู”
....
แอบเสียดายที่หนังเรื่องนี้ดันมาเข้าชนหนังฟอร์มยักษ์เข้าอย่างจัง รอบและโรงฉายจึงน้อยมากๆ ...แต่ก็เข้าใจนะ เพราะตลาดหนังดราม่าญี่ปุ่นในบ้านเรา คนดูนี่แทบเฉพาะกลุ่มจริงๆ มันไม่ได้ mass เหมือนทั่วไป ด้วยขนบ วิธีการเล่าเรื่องแบบญี่ปุ่นที่เฉพาะตัวสูง อาจจะเข้าถึงคนดูได้ยาก ...แต่เมื่อดู True Mothers จบลง แม้หนังจะมีสไตล์การเล่าเรื่องที่แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่มันไม่ได้นิ่งเงียบจนน่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม หนังยังได้สอดแทรกความมีชีวิต ความเข้าใจ ในความเป็นผู้หญิงที่ยึดโยงกับคำว่า “แม่” ผ่านมุมมองการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง ดูสนุกพอประมาณ พร้อมหักตบด้วยหมัดฮุคแรงๆ ที่เล่นเอาคนดูอย่างผมจุก ซึม พร้อมน้ำตาแห่งความอิ่มเอมเอ่อล่นเล็กๆ ที่ดวงตา
True Mothers เล่าถึงหัวใจของความเป็นแม่ หัวใจแห่ง Motherhood ได้อย่างแยบยล คมคาย ด้วยมุมมองของผู้กำกับหญิง นาโอมิ คาวาเสะ ที่เข้าใจในมุมผู้หญิง และเลือกเล่าเรื่องเพื่อให้คนดูได้เข้าใจในความเป็นผู้หญิง ผ่านสองเรื่องราวของผู้หญิงที่มาบรรจบพบกันได้อย่างลงตัว
ซาโตโกะ คุริฮาระ
หญิงสาวที่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสามีที่น่ารักและเข้าใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดคือ การเติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวด้วยลูก ...เธอและสามีพยายามหลายครั้งที่จะมีลูก แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเชื้ออสุจิของสามีแทบจะไม่มีเลย ...สุดท้ายครอบครัวคุริฮาระ จึงรับเด็กชายอาซาโตะ เป็นบุตรบุญธรรม จาก เบบี้ บาตอง บ้านพักบนเกาะแห่งหนึ่งในจ.ฮิโรชิมะ ที่รับดูแล อภิบาลเด็กสาวสาวที่ไม่พร้อมจะมีบุตรและทำหน้าที่ส่งต่อเด็กให้กับคุณพ่อ คุณแม่ที่ไม่สามารถมีลูกได้ รับอุปการะ
แม้ซาตาโกะจะไมใช่แม่แท้ๆ ของน้องอาซาโตะ แต่หัวใจของความเป็นแม่ในตัวของเธอมีเกินร้อย เธอเลี้ยงดูน้องอาซาโตะตั้งแต่เป็นเด็กอ่อน จนน้องมีอายุได้ 6 ขวบ ...และจู่ๆ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งมาอ้างตัวว่าเป็นแม่แท้ๆ ของน้องและต้องการขอน้องกลับคืน
ฮิคาริ
เด็กสาวมัธยมวัย 14 จาก จ.นาระ ..ฮิคาริ เติบโตในครอบครัวหัวเก่า ยึดตามกรอบ และในวัยแรกแย้ม เธอเป็นเด็กสาวที่หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู เธอมีความรักกับเด็กหนุ่มในโรงเรียนเดียวกัน และในที่สุดเธอก็ตั้งครรภ์ด้วยความไม่พร้อม ...พ่อและแม่ของฮิคาริ มองปัญหาลูกสาววัย 14 ตั้งท้องคือเรื่องใหญ่และไม่สามารถรับได้ แม้กระทั่งหลานในไส้แท้ๆ ...ฮิคาริต้องพักการเรียน แล้วถูกส่งไปที่เบบี้ บาตอง เพื่อเตรียมคลอดลูกและส่งต่อลูกให้กับครอบครัวที่รับอุปการะเด็ก ...หลังคลอดลูก แทนที่ฮิคาริจะได้กลับมาเป็นเด็กหญิงที่สดใส เรียบหนังสือต่อไปจนจบ แต่ด้วยบาดแผลความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในครอบครัวและตัวฮิคาริเอง ...ทำให้ชีวิตของฮิคาริ เหมือนนกน้อยที่ต้องโซซัดโซเซออกจากบ้านเพื่อไปผจญชีวิตตามลำพัง ...ก่อนจะกลับมาทวงคืนลูกที่เกิดจากสายเลือดแท้ๆ แห่งความเป็นแม่ของเธอ
สิ่งที่ชอบมากในหนังคือมุมมองในการเล่าเรื่อง ...จริงๆ หนังเอื้อมากๆ ในการเล่าเรื่องแบบเน้นดราม่าเข้มข้นว่าด้วยการแย่งชิงลูกระหว่างแม่บุญธรรมและแม่แท้ๆ เพราะเรื่องแทบจะปูทางมาแบบนี้เลย ...แต่ผู้กำกับนาโอมิ กลับเล่าเรื่องในมุมที่แตกต่าง แต่มันกลับโดนใจกว่า มันลึกซึ้งกว่า โดยเลือกเล่าในมุมมองของผู้หญิงสองคนที่มีความเป็นแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ....เราเข้าใจในมุมของซาโตโกะ เห็นความเป็นแม่ (แม้ไม่ใช่แม่แท้ๆ) เข้าใจในชีวิต การปลูกฝังเลี้ยงดูให้น้องอาซาโตะ เป็นเด็กที่มีหัวใจที่ดีงามมากๆ ...ในขณะเดียวกัน ผู้กำกับก็เล่ามุมของฮิคาริ แม่แท้ๆ ของน้องอาซาโตะ ได้อย่างเข้าอก เข้าใจ ไม่ประณาม เหยียดหยาม เด็กสาวที่ท้องไม่พร้อม เรียกได้ว่า ฮิคาริเป็นตัวละครที่น่าสงสารและเห็นใจมากๆ ...เป็นตัวละครที่งดงามดั่งผ้าขาว บริสุทธิ์ สะอาด ที่ต้องเปื้อนด้วยปัญหา ชะตากรรม ที่เกินกว่าวัยอย่างเธอจะรับไหว
ผู้กำกับนาโอมิ ให้ตัวละครแม่ทั้งสองตัว เป็นเหมือนกระจกสองด้าน ให้คนดูได้เห็นในเงาสะท้อนของกันและกัน ได้เห็นหัวใจในความเป็นแม่ ที่สะท้อนผ่านมายังชื่อเรื่องที่ว่า True Mothers ว่าจริงๆ แล้วคำว่าแม่ที่แท้จริงนั้นคืออะไร แม่ผู้ให้กำเนิด หรือ แม่ที่เลี้ยงดูฟูมฟัก ...หนังไม่ได้ชี้นำแนวคิดว่าอะไรถูก อะไรผิด หนังเล่าด้วยความลึกซึ้ง เข้าใจ ซึ่งวิธีการเล่าแบบนี้แหละ ที่ทำให้บทสรุปของหนังมันดีงาม มันได้หัวใจ มันจุก มันตื้นตันไปหมด ...ไม่แปลกใจเลยที่หนังเป็นตัวแทนของญี่ปุ่น ส่งเข้าชิงออสการ์ในปีนี้
อีกหนึ่งจุดที่ชอบมากคือการแสดงของตัวละครทุกตัวทั้งบทนำ บทย่อยๆ ที่ทุกคนเล่นดีกันหมดโดยเฉพาะการแสดงของอาจู มาคิตะ ในบทฮิคาริ ที่สีหน้า แววตา บอกความเจ็บปวด ความกล้ำกลืน การปัญหาเก็บเอาทุกสิ่งทุกอย่างไว้หมด ด้วยมาดที่นิ่ง เงียบ ...อาจู มาคิตะ ทำให้ตัวละครฮิคาริ นั้นน่าสนใจ น่าค้นหา และทำให้คนดู (อย่างผม) เจ็บปวดและเข้าใจไปกับตัวละครตัวนี้มากๆ
True Mothers คืองานหนังดราม่าชั้นดี (อีกแล้ว) จากญี่ปุ่น ที่ทำได้อย่างละเอียดอ่อน สะท้อนมุมมองความเป็นผู้หญิง ความเป็นแม่ ได้อย่างลึกซึ้ง กลมกล่อม เล่าเรื่องได้อย่างเข้าอก เข้าใจ และเข้าถึงแก่นแท้ความดีงามของความเป็นมนุษย์ที่ควรค่าในการดูเป็นอย่างยิ่งครับ ...ชอบมากๆ จริงๆ
#TrueMothers
#เอ้อระเหยลอยลม
MONGKOL CINEMA