คำถามที่ติดในใจผมตลอดเวลา การไม่ได้อยู่ใกล้ดูแลพ่อแม่คือ อกตัญญูต่อพ่อแม่ใช่ไหมครับ

ครอบครัวผมเป็นครอบครัวคนจีน ผมเ็นลูกชายคนเดียวในบ้าน ผมได้มีโอกาสทำงานและใช้ชีวิตในต่างประเทศมร่วม 20 ปี ตลอดเวลาแม่ไม่อยากให้มาต่างประเทศ ท่านอยากให้ผมกลับเมืองไทยมาก โดยส่วนตัวผมเองจะกลับแต่ด้วยปัญหาเรื่องการหางาน ผมโทรกลับบ้านทุกวันอย่างน้อยนึงครั้ง ให้เงินท่านทุกเดือน แม่มีพี่สาวดูแล อยากตั้งคำถามว่าการไม่ได้อยู่ใกล้ดูแลแม่คืออกตัญญูต่อพ่อแม่ใช่ไหมครับ.
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
รออ่านความเห็นอื่นๆค่ะ ครอบครัวเราก็มีปัญหานี้

ที่ยากขึ้นไปอีกสำหรับครอบครัวเรา คือเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาค่ะ ทำให้ข้ออ้างในการทำงานที่ต่างประเทศไม่ใช่เหตุผล เรารู้สึกว่าครอบครัวสังคมไทย manipulate โดยใช้คำว่ากตัญญู หลายๆครอบครัวที่ฐานะไม่ดี กลายเป็น abuse ไปเลย  ไม่ใช่แค่ไม่ต้องมีชีวิตของตัวเอง แต่กลายเป็นเกิดมาเพื่อผลประโยชน์ในบั้นปลายทางการเงิน (กรณีมาจากสังคมล่าง)

กรณีครอบครัวเรา เรารู้สึกว่ามันเริ่ม toxic เรื่อยๆ เราไม่สามารถกลับได้เนื่องด้วย covid แม่เขาก็จะ verbal abuse มากๆ ให้เรารู้สึกผิด เช่น ไม่แยแส ทอดทิ้ง ไม่รักไม่ดูแล เวรกรรมของชั้นเอง บลาๆ  เวลาเราเล่าว่ามีความสุขยังไงบ้าง ก็อิจฉา ซึ่งมันผิดธรรมชาติของแม่ที่ “ปกติ” ที่จะยินดีเมื่อลูกได้ดี เช่น เรากำลังจะแต่งงาน คู่หมั้นเราก็ทำเรื่องกู้บ้าน แม่เราก็เกลียดเขา เพราะรู้สึกว่าการซื้อบ้าน คือการที่เราจะอยู่ต่างประเทศถาวร เขามาแย่งเราไปจากแม่ ก็ให้กู้ไม่ผ่าน แช่งให้พวกเราล่มจม เราจะได้กลับมาใช้เงินเขาที่ไทย แล้วเขาจะได้ออกคำสั่งได้ เป็น center เหมือนเคย

เหมือนเขามี ideal path ไว้แล้ว ว่าเธอต้องเรียนเก่งๆนะ ได้ทุนเป็น ดร จบนอกนะ แต่!!! ต้องกลับไทยมารับใช้ดูแลชั้นนะ ภูมิใจ ได้อวดใครๆว่าเลี้ยงมาดีขนาดไหน อวดสามีได้แล้ว (คุณพ่อดีมาก ทั้งนิสัย, หน้าตา, อาชีพ, รายได้) ต้องอวดลูกต่อ เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต สรุปคือ trophy daughter เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากๆ
ความคิดเห็นที่ 17
ผมไม่ได้คิดเรื่อง กตัญญู อกตัญญูอะไรนะ

แต่ผมคิดแค่ว่า จขกท. จริงๆ แล้วอยากอยู่ใกล้ท่าน ดูแลท่านไหม

เพราะเมื่อวันที่ พ่อแม่จากไป ต่อให้คุณอยากจะกลับมาดูแลแค่ไหน ก็ไม่มีท่านอยู่แล้ว

เวลาไม่เคยย้อนกลับ เวลาของพ่อแม่ มีแต่น้อยลงๆ ทุกวัน

ความคิดคนอื่นไม่ได้สำคัญ คำว่า กตัญญู ก็ไม่ได้สำคัญ

ความรู้สึกของ คุณเองต่างหาก คือคำตอบ
ความคิดเห็นที่ 21
ก็ให้คิดกลับกันดู ว่าสมัยเด็กพ่อแม่เราเลี้ยงเรามาอย่างไร ใช้เงิน จ้างคน ให้ทำแทนทุกอย่าง...หรือเป็นท่านที่คอยดูแลไว้ในอ้อมอกตัวเอง ป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดขี้เช็ดเยี่ยว อดหลับอดนอน พาเราไปในที่ๆเราอยากไป(แม้ท่านจะไม่อยาก)อย่างน้อยๆก็ช่วงชีวิต5-10ปี
    คนที่ครอบครัวอบอุ่น พื้นฐานครอบครัวเข้าใจเรื่องธรรม และวางแผนชีวิตแบบมีทางเลือกให้ตัวเอง ผมเห็นส่วนมากแทบไม่ลังเลเลยในการที่จะตัดสินใจอยู่ใกล้ชิดดูแลปรนนิบัติพ่อแม่ในยามท่านแก่ชราหรือเจ็บป่วย โดยไม่ต้องเอาคำว่ากตัญญูมาคิดให้รกสมอง....สิ่งที่ควรทำก็คือควรทำ
     มีบุญคุณก็ต้องทดแทน...ไม่ว่ากับใคร ถึงจะเจริญ
     ความสุข ความอิสระ ใครๆก็อยากได้อยากมี...แต่มันก็มีได้ประเดี๋ยวประด๋าว  คุณธรรมยืนยาวกว่า
     ปล.ยกเว้นบางครอบครัว ที่ตกลงกันแล้วว่า ต่างคนต่างดูแลตัวเองได้...ก็แค่ไปมาหาสู่กัน เพราะไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนที่ต้องการอยู่ใกล้ลูกยามแก่เฒ่า...ส่วนนึงคือ รู้ว่าลูกทำให้ไม่ได้ ส่วนนึงคือรักและเกรงใจลูก(และคู่ครอง) ส่วนนึงคือน้อยใจ ประชด ส่วนนึง คือมีคนดูแลส่วนตัว มีเพื่อน มีญาติที่จัดการแทนได้ ส่วนนึงคือเข้าใจชีวิต ธรรมะ ไปบวช ปลีกวิเวก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่