ภูลังกา ดินแดนแห่งศรัทธาและความเชื่อ เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ผาใจขาด ถ้ำนาคา ตาดวิมานทิพย์


สวัสดีค่ะทุกคนนน  ขอย้อนหลังทริปไปเมื่อ วันที่ 1-2 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมากันค่าา

เราจะพาไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูลังกา ที่ครอบคลุมพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม และ อ.เซกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

ทริปนี้ อช.เปิดให้ นทท.เข้าพื้นที่ได้ หลังโควิดเบาบาง ตั้งแต่ กพ-มิย. 63 เรียกว่านอนสงบนิ่งกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ

ความตั้งใจของเราคือ อยากไปพิชิตยอดภูลังกา และ น้ำตกตาดวิมานทิพย์ ค่ะ
เราโทรติดต่อจองขึ้น อช.ภูลังกา กับ จนท. ล่างหน้าประมาน 2 เดือน และแจ้งจุดที่เราจะไปให้ จนท.ทราบ
ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักถ้ำนาคาเลยค่ะ เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก ไม่มีในแพลนเราเลย 
แต่ พี่ จนท. บอกว่าทุกที่บนภูลังกา จะพาไปเก็บให้หมดเลยค่ะ

1 เดือนก่อนเดินทาง กับเพื่อนๆรวม 8 ชีวิต   กลุ่มเราเดินขึ้นระยะไกลค่ะ แนะนำว่าควรออกกำลังกาย และเตรียมพร้อมร่างกายด้วยนะคะ
คือขึ้นทาง อช.ฯ ลงทางน้ำตกค่ะ ระยะทางจากอุทยานด้านบนใช้เวลารวมกว่า 10 กิโลเลย 


และนี้คือการเดินทางไปจุดต่างๆ ของเรา..

วันที่ 1 = เดินทางจากกรุงเทพฯ ตอนกลางคืนเพื่อจะได้ไปถึง อช. ตอนเช้าค่ะ
 
วันที่ 2 = เดินจาก อช.ภูลังกา ผ่านเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ > ไปถ้ำนาคา > และพักค้างคืนที่เรือน ตรงหน้าผา
 ใกล้ๆกับเจดีย์หลวงปู่เสาร์ และผาใจขาดค่ะ

วันที่ 3 = เดินผ่านถ้ำหลวงปู่วัง > หัวนาคา > น้ำตกตาดวิมานทิพย์  และ ลงมาถึงสำนักสงฆ์ฯ > กลับกรุงเทพฯ

ดูแผนที่กันก่อนนะคะ  กับเส้นทางของนักเดินป่าที่อยากเดินไกลๆ

ถ้าพร้อมออกเดินทางแล้วก็เก็บเป้ เก็บของไปเดินเข้าป่า ขึ้นเขาพร้อมพวกเรากันเลยค่าาา เพี้ยนแข็งแรง

1 ทุ่มค่ะ นัดเจอสมาชิก ที่ลานจอดรถ จตุจักร 

6 โมง เราก็มาถึงตลาดเช้า ที่ อ.เซกา แวะซื้อของเอาไปทำกินกันเย็นนี้ค่ะ

มื้อเช้า มื้อเที่ยงของเรา

08.00 น. เรามาถึงอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นครพนม ลงทะเบียน ตรวจวัดอุณหภูมิ ก่อนเข้า

เงียบมากค่ะ 

อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันที่อุทยานเลยค่ะ
แล้วก็มาเก็บสัมภาระ ของกองกลางใส่กระเป๋า แบ่งกัน ช่วยกันจ้า คนละ 15 โล 20 โล ฮาาา  
ทริปนี้ไม่จ้างลูกหาบน๊า 

09.00 น. พร้อมเดินทางค่ะ มีฝนตกปรอยๆด้วยจ้าา

ทริปนี้เราไปกับ เจ้าหน้าที่ 1 คน เป็นผู้นำทางค่ะ

เดินมาถึงตรงนี้ คือเริ่มเหนื่อย ... เดี่ยวนะเพิ่งเป็นจุดเริ่มเดินเอง 555

เห็นป้ายแล้วก็ปลอบใจตัวเองเบาๆ 3.2 กม. 

เดินมาเรื่อยๆ ค่ะ เจอป้ายอีก 2.4 กม. 

หนุ่มๆบอกว่า ขอพักก่อนค่ะ 5555 


ไปต่อค่ะ ฮึ้บบบบ !!  เดินชันๆไปเลย

เป็นหินบ้าง ป่าบ้าง ฝนก็ตกค่ะ ลื่นด้วยบางจุด

พี่ในกลุ่มเป็นตะคริวค่ะ เราก็รอกันไม่ทิ้งกันค่ะ
 เพราะตลอดทางมีจุดเลี้ยว มุด ลอด ถ้าห่างตา คือมีหลงแน่นอน 

เราก็เดินเรื่อยๆค่ะ ถึงจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม แต่ก็ไม่ได้เดินรั้งท้ายนะ
ขออยู่กลางๆค่ะ  5555 กลัวหลง 

เหนื่อยก็พักค่ะ

หายเหนื่อยก็ไปต่อ พื้นหินตรงนี้ ฝนตกลงมา คือลื่นมากก  หน้าฝนนี่แนะนำสะตัดดอยเลยค่ะ
รองเท้าแพงๆ ที่ว่าดอกเยอะ ใส่มา ยังไม่เกาะพื้นเลย บอกตรงๆว่าลื่นไปหลายทีค่ะ

จับเชือกเดินเลยจ้าา

เห็นป้ายนี้แล้วเริ่มใจชื้นค่ะ อีกแค่ 1.5 กม.เอง 

ก้อนหินใหญ่ระหว่างทางค่ะ 

เดินไปเรื่อยๆชมวิว ชมหิน ชมป่าไม้ ชมบึงบัว ชมธรรมชาติที่สวยงาม

ทางนี้คือต้องหยุดรอกันค่ะ เวิ้งว้าง น่าหลงทางมากค่ะ ลื่นด้วย

รอยแตกของหิน มองๆดูก็คล้ายเกล็ดพญานาคค่ะ

 
ตรงนี้คือลื่นมากค่ะ ต้องเดินบนแผ่นวาง

เหนื่อยก็พักถ่ายรูปค่ะ ฮ่าๆ

มุดๆ ลอดๆ 

เราจะเห็นพื้นหินแบบนี้ตลอดทางเลยจ้า  ทางธรณีวิทยา เรียกว่า Suncrack ค่ะ

ลักษณะเกิดจากการกัดเซาะการไหลของน้ำ และธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมา

ช่วงที่เดินลำบากๆก็ตัดภาพออกไป ให้ดูเหมือนเดินง่ายๆละกันเนอะ 5555

พรรคพวก อยู่บนนู้นรอแล้วว เย้ ^^

มื้อเที่ยงของเรา ห่อหมกจากตลาดเมื่อเช้าจ้า

เราขึ้นมาถึงเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์แล้วค่ะ เที่ยงพอดี 
กินข้าวก่อนเลยจ้ะะ ตัวก็เปียก เป้ก็หนัก เดินก็เหนื่อย 
กินไก่ย่าง ห่อหมกปลา ห่อหมกหน่อไม้ อร่อยล่ะ

เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ 

ข้างๆกันก็เป็นป้ายยอดภูลังกาค่ะ

เย้ อากาศดีสุดๆ ท้องฟ้าสดใสมากๆเลยค่ะ ^^"

ลมพัดเย็นๆ แสงแดดอ่อนๆ ฟ้าเปิดสวยงามมากๆ 5555 โถ่

ไหว้พระก่อนน๊าา
เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พวกหนูมาถึงแล้วค่า ^^

ไปกันต่อค่ะ เราต้องไปถึงที่พักไม่ควรเกิน บ่าย 3 นะคะ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่