'Deep Time' การทดลองครั้งแรกในโลก 40 วันในถ้ำฝรั่งเศส




เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2021 ที่ผ่านมา กลุ่มคนที่กล้าหาญ 15 คนได้เข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ Lombrives ในเขต Ariège ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทดลอง " Deep Time " ที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากถ้ำ Lombrives เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและไม่ธรรมดา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้การสำรวจครั้งนี้ไม่เหมือนใครคือ จุดประสงค์และระยะเวลาที่ตั้งใจไว้ โดยบุคคลทั้ง 15 คนนี้ไม่ใช่นักท่องเที่ยวหรือนักเล่นเกม แต่เป็นอาสาสมัครในการทดลอง Deep Time โดยเฉพาะ

อาสาสมัครทุกคนได้ตกลงที่จะอยู่ลึกเข้าไปในถ้ำเป็นเวลา 40 วัน โดยไม่มีนาฬิกา โทรศัพท์ มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นใดที่อาจเชื่อมต่อกับโลกภายนอก และจะยังคงอยู่ในถ้ำอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาของการทดลองนี้ใต้พื้นผิวโลกโดยไม่เปิดรับแสงธรรมชาติ

ซึ่งทั้งหมดที่เป็นอาสาสมัครในการทดลองนี้มีทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 27 ถึง 50 ปี มาจากภูมิหลังทางภูมิศาสตร์และอาชีพที่หลากหลาย ตั้งแต่นักชีววิทยาและนักอัญมณี ไปจนถึงครูระดับประถมศึกษาที่มีสุขภาพกายและใจที่ดี ซึ่งตอนนี้ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในถ้ำ 

การทดลอง Deep Time นั้นมีวัตถุประสงค์กว้าง ๆ คือการเฝ้าติดตามการใช้ชีวิตใต้ดินที่เป็นระยะเวลานาน และวิเคราะห์ผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายของมนุษย์ ซึ่งนักวิจัยหวังว่าการทดลองนี้จะให้ข้อมูลอันล้ำค่าสำหรับภารกิจของเรือดำน้ำการสำรวจเหมืองแร่ รวมทั้งการเดินทางในอวกาศระยะยาวซึ่งจะเกิดขึ้นจริงในศตวรรษที่ 21

การทดลองที่ไม่เหมือนใครและน่าหลงใหลนี้ เป็นผลงานการผลิตของนักสำรวจชาวฝรั่งเศส - สวิส (และผู้เข้าร่วมการศึกษา) ที่ชื่อ Christian Clot ผู้ก่อตั้ง Institute for Human Adaptation ในปี 2013 โดย Clot กล่าวว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงในการสนับสนุนโครงการนี้ จากการแยกตัวในระยะยาวที่หลายคนมีประสบการณ์ตลอดการระบาดของ COVID-19 โดยการสังเกตผลกระทบของความโดดเดี่ยวในชีวิตของผู้คนที่เกี่ยวข้อง 

Clot มีความสนใจมายาวนาน ในการศึกษาสภาพแวดล้อมที่รุนแรงหรือผิดปกติที่มีผลต่อการรับรู้และการทำงานของมนุษย์ โดยใช้ชีวิตส่วนตัวในสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดในโลก ซึ่งเขาต้องเผชิญกับอุณหภูมิและสภาพอากาศที่รุนแรง ส่วนการทดลอง " Deep Time " ของเขา แสดงถึงรูปแบบที่แตกต่างไปแต่ยังอยู่ในธีมเดียวกับการใช้ชีวิตของเขา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลของ Clot ในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีที่มนุษย์ตอบสนองและปรับเปลี่ยนเมื่อตัวแปรของประสบการณ์ปกติเปลี่ยนแปลงไปมากๆ

เริ่มจากพื้นที่ใช้สอยจะแยกเป็นสัดส่วนสามส่วนคือ หนึ่งสำหรับการนอนหลับพักผ่อน หนึ่งสำหรับการใช้ชีวิต และหนึ่งสำหรับการศึกษาภูมิประเทศของสถานที่นั้นโดยเฉพาะพืชและสัตว์  Clot บอกกับหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส French publication Le Parisien Le Parisien ว่า กิจกรรมหลังนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมการศึกษามีความกระตือรือร้นทางจิตใจ และการมีส่วนร่วมในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ เพื่อป้องกันผลกระทบของความขุ่นมัวทางจิตใจหรือความเบื่อหน่ายจากสิ่งที่ไม่ปกติจากการการศึกษานี้

Christian Clot เป็นผู้นำ (และผู้เข้าร่วม) ของการทดลอง Deep Time นี้ ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2021 ลึกเข้าไปในถ้ำฝรั่งเศส
 (Cr.Pintupi / CC BY-SA 4.0 )
 
มีการขนเสบียงประมาณสี่ตันไว้ล่วงหน้า ในขณะที่ไดนาโมสามารถให้แสงประดิษฐ์แก่อาสาสมัครได้ แต่พวกเขาจะต้องเสาะหาน้ำจากถ้ำด้วยตัวเองเพื่อให้มีน้ำเพียงพอและมีชีวิตอยู่ได้ โชคดีที่อาหารเป็นส่วนหนึ่งที่อาสาสมัครได้รับก่อนเข้าไปในถ้ำ ในขณะเดียวกันทุกคนได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์จำนวนมากเพื่อส่งมอบข้อมูลให้กับนักวิจัยจากภายนอก ซึ่ง Clot และทีมงานของเขากระตือรือร้นที่จะได้เห็นว่าจิตใจจะตอบสนองต่อการสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดของเวลาได้อย่างไร

โดยสภาพภายในถ้ำ Lombrives ได้รับการปรับเทียบอย่างรอบคอบ นักวิจัยมั่นใจว่าอุณหภูมิที่อาสาสมัครใช้เวลาส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ 54 องศาฟาเรนไฮต์
โดยมีความชื้นอยู่ที่ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ อาสาสมัครแต่ละคนจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเองและแต่งกายตามความสะดวกสบายของตนเอง
ทั้งนี้ Clot กล่าวว่าสำหรับการทดลองงานจริงของนักวิจัยที่เข้าร่วมโครงการของเขา จากการกำจัดแสงแดดและบังคับให้อาสาสมัครอาศัยอยู่ใต้ดิน อาจให้ข้อมูลที่มีค่าและเป็นประวัติการณ์สำหรับภารกิจของเรือดำน้ำ การสำรวจเหมืองใต้ดินและการเดินทางในอวกาศระยะยาว สำหรับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนภารกิจอวกาศในอนาคต

นอกจากนั้น การทดลอง Deep Time อาจเกี่ยวข้องกับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของการแยกตัวเป็นเวลานานต่อบุคลากรของเรือดำน้ำและทีมขุดเช่นกัน โดยอาสาสมัครทั้ง 15 คนจะถูกปิดผนึกภายในอีก 35 วัน ก่อนออกมาจากส่วนลึกที่มืดมิดโดยไม่มีรอยขีดข่วนในวันที่ 22 เมษายนและนำสิ่งที่มีค่ากลับมาแบ่งปันกับพวกเราทุกคน

การอาศัยอยู่ลึก ๆ ในถ้ำที่ไม่มีแสงธรรมชาตินั้น คล้ายคลึงกับการอาศัยอยู่ในอวกาศนอกทะเลน้ำลึกหรือสภาพแวดล้อมในการขุด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อนาฬิกาชีวภาพ และจังหวะการนอนหลับแบบ circadian ของเรา
(Cr.NoNameGYassineMrabetTalk fixed by Addicted04 / CC BY-SA 3.0 )
“ การพิชิตอวกาศเป็นจุดเปลี่ยนใหม่ในช่วงศตวรรษนี้ โดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ ๆ และจำนวนเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ” อ้างอิงจากเว็บไซต์ Deep Time
“ จากดวงจันทร์ถึงดาวอังคาร จนถึงดวงดาวอื่น ๆ เช่น Ceres ที่มนุษย์จะต้องเผชิญกับการรับรู้เวลาใหม่ ”

นักวิจารณ์ในสื่อฝรั่งเศสหลายคนมองว่า Clot เป็นมือสมัครเล่นที่ทะเยอทะยานมากเกินไปโดยไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่สถาบันวิจัยและห้องปฏิบัติการจำนวนมากจากฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และจีนรวมถึง CNRS, CNES และ Inserm ได้ให้การสนับสนุนความพยายามนี้ เพื่อข้อมูลที่เป็นผลลัพธ์จะถูกแบ่งปันกับทุกคนทั่วโลก

แม้ที่ผ่านมา จะมีการทดลองอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับผู้คนที่อยู่ใต้ดินเป็นระยะเวลานานก็มีมาแล้ว เช่น  นักธรณีวิทยาชาวฝรั่งเศส Michel Siffre ที่ใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำเป็นเวลา 6 เดือนในปี 1972 โดยแยกตัวจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ซึ่งในระหว่างการทดลองของ Siffre นี้ เขาค้นพบว่าการใช้ชีวิตใต้ดินทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ในการทำงานของวงจรชีวิตของบุคคลเรื่องระยะเวลาของการหลับและตื่น

การทดลอง 'Deep Time' เริ่มขึ้นในเวลา 20:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม
และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะสิ้นสุดในวันที่ 22 เมษายน ในภาพเป็นทางเข้าถ้ำ Lombrives
โดยเมื่อเวลาผ่านไปวงจรการตื่นและการนอนหลับของ Siffre ค่อยๆยืดออกไป และเมื่อสิ้นสุดเวลาในใต้ดิน กลายเป็นว่าเขาจะตื่นอยู่เป็นเวลา 36 ชม. ในขณะที่ใช้เวลานอนเพียง 12 - 14 ชม. ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ความรู้เรื่องกาลเวลาของเขาเปลี่ยนไป นั่นคือ
เขาเชื่อว่าเวลาที่ผ่านไปน้อยกว่าที่เป็นจริง เมื่อเพื่อนร่วมงานแจ้งว่าถึงเวลาออกจากถ้ำแล้ว

เช่นเดียวกับการทดลองส่วนใหญ่ ความพยายามของ Siffre มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบทางชีววิทยาของการบิดเบือนเวลา และการกีดกันทางประสาทสัมผัสเป็นหลัก แต่การทดลอง French Deep Time นั้น ครอบคลุมเป้าหมายและประเด็นที่มุ่งเน้นมากขึ้น ทั้งเรื่องความคิด จิตวิทยา สภาพแวดล้อมที่ปิด และทางสรีรวิทยา

แม้แต่ในกรีกโบราณและจีน ปราชญ์ ผู้หยั่งรู้ นักพยากรณ์ มักจะเข้าไปในถ้ำเพื่อใช้เวลาในการไตร่ตรองเป็นเวลานาน พวกเขาอาศัยการกีดกันทางประสาทสัมผัสและความรู้สึกที่ไร้กาลเวลาเพื่อปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนทิศทางการรับรู้อย่างมีสติ ในรูปแบบที่จะทำให้พวกเขาเข้าถึงภูมิปัญญา จากพระเจ้า หรือความจริงทางอภิปรัชญาที่ซ่อนอยู่


ที่มถูกปิดตายในถ้ำมืดโดยไม่รู้วันและเวลา
Cr.https://www.ancient-origins.net/news-science-space/deep-time-experiment-0015060 / Nathan Falde
Cr.https://allthatsinteresting.com/deep-time-experiment / Marco Margaritoff

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่