หนุ่มแกร็บกับสาวเปิ๊ดสะก๊าด(ปรับปรุง)
ตอนที่ 1 ตามหาฝัน
เช้าวันเสาร์เข้ากลางเดือนธันวาย่านลาดพร้าว ท้องฟ้าอึมครึมมีเมฆหนาปกคลุมจนแสงแดดไม่สามารถสาดส่องลงมาได้ อากาศจึงค่อนข้างเย็นสบาย แม้จะหนาวไม่มากเท่าเชียงใหม่ แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ผมเป็นหนุ่มเหนือผิวขาว ผมดำไว้ทรงผมกะลาครอบ ถ้าใครได้เห็นผม จะสามารถเดาได้ทันทีเลยว่าเป็นคนภาคเหนือ เพราะหน้าตาล้านนามาก ผมมีชื่อว่า คำหล่า ผมเป็นคนเชียงใหม่ที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ เหมือนกับคนต่างจังหวัดทั่วๆไป และได้ทำงานส่งอาหารเดลิเวอรีกับบริษัทหนึ่งที่ชื่อว่า แกร็บ
ผมมาอยู่กรุงเทพฯด้วยคำชักชวนจากเพื่อนสมัยเรียนให้มาตามหาฝันด้วยกัน แต่แล้วมันกลับอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ มันก็เผ่นหนีกับเชียงใหม่ โดยทิ้งข้อความบอกว่ามันอยู่ไม่ไหว ไม่ใช่ทางของมัน แถมมันยังให้กำลังใจผมให้สู้ๆต่อไป หึ หึ ไอเพื่อนเวร มันชื่อไออ๊อด ผมจะจำมันไปจนตาย เพราะเหตุนี้ผมถึงติดแหง่กอยู่ที่กรุงเทพฯ และวิ่งรถส่งอาหารเลี้ยงชีพ แต่ผมก็ยังโชคดี ที่มีเพื่อนๆพี่ๆที่น่ารักคอยช่วยเหลือ และให้คำปรึกษา
พี่ๆชาวแก๊งของผม แก๊งเด็กส่งแกง เป็นกลุ่มคนส่งอาหารที่รวมตัวกันมีทั้งหมดสิบสี่คน แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ทุกคนก็คอยช่วยเหลือกันและกัน ถึงแม้จะมีแต่พวกบ้าๆก็เหอะ หึหึ
ในกลุ่มมีคนที่ผมสนิทด้วยไม่กี่คน หนึ่งในนั้น คือ น้าชล
น้าชลเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้ก่อตั้งแก๊งเด็กส่งแกง แกเป็นชายวัยกลางคน ผิวคล้ำตัวเตี้ย ตัดผมสั้นหยักศกและมีหงอกปะปาย ดูเป็นคนใจดีมีน้ำใจและดูเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด เมียแกชื่อส้มเปิดร้านขายส้มตำอยู่ใกล้ๆที่น้าชลรับงาน พวกเรามักจะไปสุ่มหัวกันที่นั้น และเอาเป็นสถานที่ๆไว้สำหรับเรียกประชุม
ส่วนอีกคนคือ น้าภัทร หรือจะเรียกลุงก็เกรงใจ แกเป็นเลขาในกลุ่ม และเป็นคนมีอายุเยอะที่สุด หน้าตาแกจะออกดุๆ สวมแว่นตา ผิวคล่ำผมดำหยักศก ลงพุงนิดๆ เป็นคนพูดจาสุภาพ ออกจะเนี๊ยบเกินไปด้วยซ้ำ ถ้าคนไม่รู้จักจะไม่ค่อยกล้าคุยกับแกสักเท่าไร แต่จริงๆแล้ว ลึกๆนิสัยแกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยังกับคนสองบุคลิก คือน้าแกหื่น หื่นค่อนข้างมาก แกเป็นคนที่มีอารมณ์ทางเพศสูง ครั้งหนึ่งแกเล่าให้ฟังว่าแกมีเซ็กซ์กับเมียแกทุกวัน และจะกากบาดในปฎิทินแต่ละวันไว้ดูเป็นสถิติ ถึงหนึ่งปีเต็มๆ ทุกวันเสาร์อาทิตย์ แกมักจะหายไปตอนกลางวันไม่มากินข้าวกับเพื่อนๆในกลุ่ม ซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง แอบรู้ความลับที่น้าภัทรหายไปตอนเที่ยงของวันเสาร์ และอาทิตย์ คือแกแอบแวบกลับไปซั่มเมียที่บ้าน เพราะเมียแกหยุดเสาร์อาทิตย์ จนเพื่อนในกลุ่มพากันล้อน้าภัทรแอบหายไปซั่มเมีย
คนที่เอาความลับมาบอกนั้นชื่อว่า ตี๋ พี่ตี๋เป็นแกร็บหนุ่มหล่อขาวตี๋แถมเจ้าชู้ ขนาดคาสโนว่ายังเรียก ปะป๋า แต่พอมีเมียเป็นตัวเป็นตนก็เริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัว อวบลงพุงเล็กน้อย แกค่อนข้างสนิทกับบน้าภัทรพอสมควร เพราะสายเดียวกันเลยคุยกันรู้เรื่อง อิอิ แกเคยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนแกไม่กล้าคุยเล่นกับน้าภัทรเท่าไร เพราะหน้าแกดูนิ่งๆ ดูน่ากลัวไม่กล้าพูดเล่นด้วย และเป็นที่หน้าเคารพในคำปรึกษา เสมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง แต่พอได้รู้จักนิสัยและสนิทกันมากขึ้น ก็เริ่มเคารพแกน้อยลงไปเรื่อยๆ ฮ่า ฮ่า
มีอยู่วันหนึ่งน้าภัทรมาปรึกษาเรื่องเมียกับพี่ตี๋ ซึ่งผมก็นั่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
'' ตี๋ เมียพี่จะไปงานเลี้ยงรุ่น พี่อาสาจะไปส่งแต่เมียพี่ไม่ให้ไป พี่กลัวมากเลย '' น้าภัทรเสียงสั่นออดอ้อนขอความช่วยเหลือ
'' เมียพี่เขาอยากจะไปสนุกกับเพื่อนเขาบ้างน่ะสิ '' ตี๋ตอบแบบไม่ตรงใจน้าภัทรอย่างแรง
'' เห้ยตี๋ เองพูดแบบนี้ไม่ได้สิ เองต้องเข้าข้างพี่ '' น้าภัทรพลางบอกคำตอบที่แกพอใจให้ตี๋ฟัง
'' แล้วทำไมพี่ถึงไม่อยากปล่อยให้เมียพี่ไปตามลำพังล่ะ '' ตี๋ย้อนถามถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าน้าภัทรแค่หวงเมีย
'' เกิดเมียพี่ไปเจอแฟนเก่าอะไรทำนองเนี่ย '' น้าภัทรพูดแบบอายๆ
คำหล่านั่งฟังที่แกพูดก็ได้แต่คิดในใจ ว่าน้าก็อายุปูนนี้แล้ว แต่ไม่พูดออกไปดีกว่า นั่งฟังต่อมันดี
'' พี่ก็แก่จนปูนนี้แล้วยังจะมาหึงหวงอะไรกันอีก '' พี่ตี๋พูดแทนในสิ่งที่เขาคิดพอดี ฮ่า ฮ่า
'' เฮ้ยตี๋ เองจะเข้าข้างพี่เปล่า และเมื่อกี้ตกลงเองจะเรียกพี่หรือเรียก '' น้าภัทรหน้าเป็นสีแดง
'' เองพูดแบบนี้ไม่ต้องมาเคารพพี่ดีกว่า '' น้าภัทรเริ่มมีอารมณ์
ตี๋ก็ยื่นมือมาจิกผมน้าภัทรรั้งมาใกล้ๆ แล้วพูดอย่างสุภาพว่า
'' จะดีหรอพี่ '' ซึ่งแตกต่างกับการกระทำโดยสิ้นเชิง
'' โอ้ย ถ้าทำขนาดนี้ไม่ต้องถามกูก็ได้มั่ง '' น้าภัทรเห่วใส่
'' หยอกๆ พี่ ฮ่า ฮ่า '' ตี๋ยิ้มพลางยกมือไหว้ขอโทษ
น้าภัทเป็นคนที่ดูภายนอกเงียบขรึมเข้าหายาก แต่จริงๆแล้วน้ามีความเป็นกันเองกับน้องๆทุกคน และมันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของน้า ถึงแม้บางครั้ง พวกน้องๆอาจจะเกินเลยไปบ้าง แต่ก็เป็นการหยอกเล่นขำๆ สนุกสนานกันไป
ยังมีอีกคนในกลุ่มที่ทำให้ผมปวดหัวสุดๆ มันคือ ไอนัด เด็กเป==รต อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ตัวมันอ้วนเตี้ยกลมๆ ขาสั้นน่ารักแต่นิสัยกวนตีน ผิวออกแทน พูดรัวเร็วแต่ดันติดอ่างนิดๆฟังไม่รู้เรื่อง วันหนึ่งเจ้านัดได้ออกรถมอเตอร์ไซค์ใหม่คันใหญ่ โดยไม่เจียมตัวถึงขนาดของตัวเอง ขี่ได้ไม่ถึงวันก็เอาไปถูกับเสาไฟฟ้าเพียงแค่จะจอดรถ มันพยายามยื่นขาเพื่อยันพื้นแต่ขามันสั้น เลยวืดล้มไปถูกับเสาไฟฟ้าเรียบร้อย เครียดไปหลายวัน
และอีกเหตุการณ์หนึ่ง ตอนนั้นคำหล่ากำลังยืนซื้อผลไม้รถเข็น ลุงคนขายกำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่เป็นภาษาคำเมือง '' คนเหนือซะด้วย '' ฟังจากน้ำเสียงแล้วเดาได้เลยว่ากำลังทะเลาะกับเมียแน่ๆ
'' ไอหนุ่ม เองจะเอาอะไรนะ '' ลุงถามเสียงดังในน้ำเสียงดูหงุดหงิด
'' ผมขอสับปะรดหน่อยครับลุง '' คำหล่าพยายามพูดให้ดูสุภาพมากที่สุด ประจวบเหมาะกับเจ้านัดขึ่รถมาจอดใกล้ๆพอดี
'' คำหล่าซื้ออะไร '' เจ้านัดถามโดยไม่ลงจากรถ
'' อยากกินสับปะรดน่ะ '' คำหล่าพูดเสียงเบา
'' ยี้ ดูสีก็รู้ว่าเปรี้ยว '' นัดโพล่งออกมา คำหล่าสังเกตเห็นลุงเงยหน้าขึ้นมา ทำตาขวางใส่เจ้านัดแวบหนึ่ง
'' ผมเอาแตงโม พริกเกลือด้วย '' เจ้านัดปากเสียอีกแล้ว พอสิ้นเสียแค่นั้นแหละ
'' คิงว่าฮาเป็นเปื้อนเล่นคิงก๋า บ้านป้อคิงน่ะก่ากินบะเต๊ากับพริกเกลือ คิงรีบไปบะเดี๊ยวนี้เลนนะ '' (เองว่าข้าเป็นเพื่อนเล่นเองเหรอ พ่อเองสิกินแตงโมกับพริกเกลือ เองรีบไปเดี๋ยวนี้เลยนะ) ลุงขายผลไม้ระเบิดอารมณ์ใส่พลางถือมีดชี้ไปที่เจ้านัด เจ้านัดบิดรถหนีทันที ผมที่ไม่เกี่ยวไรด้วย ต้องรีบเดินฉากหลบออกไป แถมสับปะรพก็ไม่ได้กิน และทั้งหมดนี่แค่บางส่วนของวีรกรรมที่มันเคยทำไว้
และคนสุดท้ายที่จะขาดไม่ได้ เธอเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกอยากอยู่ที่กรุงเทพฯต่อไป
คุณเคยเจอใครแล้วรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะไหม นั้นแหละอาการที่ผมเป็น เมื่อผมได้เจอกับเธอ เธอคนนั้นชื่อ โบว์
เธอเป็นคนขอนแก่นผิวขาว จมูกเล็กๆไม่มีดั่ง แต่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนเด็ก ผมดำยาวและดัดฟัน เธอเป็นคนอัธยาศัยดีพูดเพาะ เธอเป็นบาลิสต้าอยู่ที่ร้านเปิ๊ดสก๊าดที่คำหล่าต้องไปรอรับออเดอร์ และบ่อยครั้งที่เขามักจะแอบมองเธอทีเผลอ เธอมักจะคุยเล่นกับเพื่อนๆพี่ๆในกลุ่มอย่างสนิทสนม ซึ่งต่างกับเขาที่ไม่เคยคุยกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่คำหล่ากับรู้สึกโล่งอกที่เธอก็ไม่เคยคุยกับเขาเช่นกัน แม้กระทั่งตอนเรียกรับออเดอร์ที่เธอทำเสร็จ เธอมักจะขานชื่อในทุกคนมารับออเดอร์
'' น้าชลออเดอร์ได้และจ่ะ '' '' พี่ตี๋ได้แล้ว ''. '' นัดจะเอาไหมออเดอร์ เรียกนานแล้วนะ '' เธอพูดเป็นกันเองกับพี่ๆในกลุ่มทุกคนยกเว้นคำหล่า เธอมักจจะเรียกแบบห่างเหินโดยการเรียกรหัสออเดอร์. '' ออเดอร์ 213 ได้แล้วค่ะ '' เธอพูดเสร็จแล้ววางไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วก้มหน้าก้มตาทำออเดอร์ต่อไป โดยไม่หันมามอง หลายครั้งที่คำหล่าอิจฉาพวกเพื่อนๆพี่ๆ ที่สามารถคุยเล่นกับเธอได้อย่างสนุกสนาน และหลายครั้งที่เขาคิดจะเริ่มทักเธอก่อน แต่พอเอาเข้าจริงก็ลิ้นแข็ง อ่าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เพียงแค่เธอหันมาสบตาพอดี หน้าก็รู้สึกร้อนผ่าว จนต้องทำเนียนหันไปมองขนม จับพริกดูด้านหลังซอง และอ่านส่วนผสมของขนมเสียงดัง พลางแอบแลเธอผ่านหางตา เธอหันหลังแล้วเดินดุ่มๆไปในครัว
'' เฮ้อ '' ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหมดแรง '' เธอคงไม่ชอบขี้หน้าเราอย่างมาก ''
และตั้งแต่นั้นมาคำหล่าก็ไม่เคยมีความคิด ที่จะเข้าไปพูดกับเธออีกเลย ได้แต่นั่งนิ่งมองพวกเพื่อนและพี่ คุยเล่นกับโบว์อย่างสนิทสนมจนรู้สึกอิจฉา และนั่นทำให้คำหล่าไม่ชอบขี้หน้าเจ้านัดมากยิ่งขึ้น ไอเด็กเปรต คำหล่านั่งมองเจ้านัดคุยเล่นหยอกล้อโบว์ออกนอกหน้ากว่าใครๆ เหมือนจะแสดงให้ทุกคนรู้ว่าโบว์สนิทกับมันมากที่สุด ให้ทุกคนทำใจไว้ได้เลยถ้าคิดจะแข่งกับมัน อะไรทำนองนั้น คำหล่าหมั่นไส้เจ้านัดเหลือเกิน รู้สึกขวางหูขวางตาไปหมด
'' คำหล่า คำหล่า ยืมปากกาหน่อย '' นัดเดินเข้ามาจับที่ไหล่คำหล่า
'' ไม่มี '' คำหล่าพูดห้วน '' ข้าอายุมากกว่าเองนะ ควรเรียกพี่ด้วย ''
'' ไม่ละ คำหล่า '' นัดส่ายหน้า. '' มันไม่สนิท '' นัดพูดพลางทำหน้าระรื่น
'' ได้ เอาที่เองสบายใจเลย '' คำหล่าพูดพลางเบือนหน้าหนีอย่างหงุดหงิด
ในขณะที่โบว์กำลังยืนเช็ดแก้วกาแฟ นัดยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์พลางมองคำหล่าอย่างมีเลศนัย
'' คำหล่าชอบโบว์หรือเปล่า '' เจ้านัดโพล่งออกมาแบบไม่ให้คำหล่าตั้งตัว สังเกตเห็นโบว์ชะงักไปชั่วขณะ แต่พยายามทำเป็นไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน
'' บ้าพูดอะไรน่ะ '' คำหล่ารีบพูดเสียงแหลมสูง
'' ฮ่าฮ่า หน้าแดงเลยนะ '' เจ้านัดหัวเราะด้วยความสะใจ
ในขณะที่บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วน คำหล่ารู้สึกร้อนฉ่าที่ใบหน้า พยายามนึกคำพูดมาตอบโต้เจ้านัด แต่ก็นึกไม่ออก
'' นัดออเดอร์ได้แล้ว '' โบว์แทรกขึ้นมาพอดี ทำให้บรรยากาศกลับคืนเป็นปกติ นัดหันไปคว้าออเดอร์และสังเกตเห็นหน้าของโบว์เป็นสีแดงออกชมพู นัดหรี่ตามองไปที่โบว์ทีคำหล่าที และพ่นลมออกทางจมูกเดินออกจากร้านไปพลางหัวเราะอย่างมีเลศนัย
(ติดตามได้ที่ เว็บDek-D นะครับ) ปล.อ่านเสร็จแล้วรบกวนช่วยแสดงความคิดเห็น ผมยินดีรับฟังและจะนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ขอบคุณครับ
นามแฝง เป็นตุเป็นตะ ผมหัดเขียนนิยายเป็นเรื่องแรก อยากลองให้เพื่อนๆลองอ่านดูและวิจารณ์แนะนำเพื่อผมจะเก็บไปปรับปรุง
เช้าวันเสาร์เข้ากลางเดือนธันวาย่านลาดพร้าว ท้องฟ้าอึมครึมมีเมฆหนาปกคลุมจนแสงแดดไม่สามารถสาดส่องลงมาได้ อากาศจึงค่อนข้างเย็นสบาย แม้จะหนาวไม่มากเท่าเชียงใหม่ แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ผมเป็นหนุ่มเหนือผิวขาว ผมดำไว้ทรงผมกะลาครอบ ถ้าใครได้เห็นผม จะสามารถเดาได้ทันทีเลยว่าเป็นคนภาคเหนือ เพราะหน้าตาล้านนามาก ผมมีชื่อว่า คำหล่า ผมเป็นคนเชียงใหม่ที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ เหมือนกับคนต่างจังหวัดทั่วๆไป และได้ทำงานส่งอาหารเดลิเวอรีกับบริษัทหนึ่งที่ชื่อว่า แกร็บ
ผมมาอยู่กรุงเทพฯด้วยคำชักชวนจากเพื่อนสมัยเรียนให้มาตามหาฝันด้วยกัน แต่แล้วมันกลับอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ มันก็เผ่นหนีกับเชียงใหม่ โดยทิ้งข้อความบอกว่ามันอยู่ไม่ไหว ไม่ใช่ทางของมัน แถมมันยังให้กำลังใจผมให้สู้ๆต่อไป หึ หึ ไอเพื่อนเวร มันชื่อไออ๊อด ผมจะจำมันไปจนตาย เพราะเหตุนี้ผมถึงติดแหง่กอยู่ที่กรุงเทพฯ และวิ่งรถส่งอาหารเลี้ยงชีพ แต่ผมก็ยังโชคดี ที่มีเพื่อนๆพี่ๆที่น่ารักคอยช่วยเหลือ และให้คำปรึกษา
พี่ๆชาวแก๊งของผม แก๊งเด็กส่งแกง เป็นกลุ่มคนส่งอาหารที่รวมตัวกันมีทั้งหมดสิบสี่คน แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ทุกคนก็คอยช่วยเหลือกันและกัน ถึงแม้จะมีแต่พวกบ้าๆก็เหอะ หึหึ
ในกลุ่มมีคนที่ผมสนิทด้วยไม่กี่คน หนึ่งในนั้น คือ น้าชล
น้าชลเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้ก่อตั้งแก๊งเด็กส่งแกง แกเป็นชายวัยกลางคน ผิวคล้ำตัวเตี้ย ตัดผมสั้นหยักศกและมีหงอกปะปาย ดูเป็นคนใจดีมีน้ำใจและดูเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด เมียแกชื่อส้มเปิดร้านขายส้มตำอยู่ใกล้ๆที่น้าชลรับงาน พวกเรามักจะไปสุ่มหัวกันที่นั้น และเอาเป็นสถานที่ๆไว้สำหรับเรียกประชุม
ส่วนอีกคนคือ น้าภัทร หรือจะเรียกลุงก็เกรงใจ แกเป็นเลขาในกลุ่ม และเป็นคนมีอายุเยอะที่สุด หน้าตาแกจะออกดุๆ สวมแว่นตา ผิวคล่ำผมดำหยักศก ลงพุงนิดๆ เป็นคนพูดจาสุภาพ ออกจะเนี๊ยบเกินไปด้วยซ้ำ ถ้าคนไม่รู้จักจะไม่ค่อยกล้าคุยกับแกสักเท่าไร แต่จริงๆแล้ว ลึกๆนิสัยแกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยังกับคนสองบุคลิก คือน้าแกหื่น หื่นค่อนข้างมาก แกเป็นคนที่มีอารมณ์ทางเพศสูง ครั้งหนึ่งแกเล่าให้ฟังว่าแกมีเซ็กซ์กับเมียแกทุกวัน และจะกากบาดในปฎิทินแต่ละวันไว้ดูเป็นสถิติ ถึงหนึ่งปีเต็มๆ ทุกวันเสาร์อาทิตย์ แกมักจะหายไปตอนกลางวันไม่มากินข้าวกับเพื่อนๆในกลุ่ม ซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง แอบรู้ความลับที่น้าภัทรหายไปตอนเที่ยงของวันเสาร์ และอาทิตย์ คือแกแอบแวบกลับไปซั่มเมียที่บ้าน เพราะเมียแกหยุดเสาร์อาทิตย์ จนเพื่อนในกลุ่มพากันล้อน้าภัทรแอบหายไปซั่มเมีย
คนที่เอาความลับมาบอกนั้นชื่อว่า ตี๋ พี่ตี๋เป็นแกร็บหนุ่มหล่อขาวตี๋แถมเจ้าชู้ ขนาดคาสโนว่ายังเรียก ปะป๋า แต่พอมีเมียเป็นตัวเป็นตนก็เริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัว อวบลงพุงเล็กน้อย แกค่อนข้างสนิทกับบน้าภัทรพอสมควร เพราะสายเดียวกันเลยคุยกันรู้เรื่อง อิอิ แกเคยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนแกไม่กล้าคุยเล่นกับน้าภัทรเท่าไร เพราะหน้าแกดูนิ่งๆ ดูน่ากลัวไม่กล้าพูดเล่นด้วย และเป็นที่หน้าเคารพในคำปรึกษา เสมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง แต่พอได้รู้จักนิสัยและสนิทกันมากขึ้น ก็เริ่มเคารพแกน้อยลงไปเรื่อยๆ ฮ่า ฮ่า
มีอยู่วันหนึ่งน้าภัทรมาปรึกษาเรื่องเมียกับพี่ตี๋ ซึ่งผมก็นั่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
'' ตี๋ เมียพี่จะไปงานเลี้ยงรุ่น พี่อาสาจะไปส่งแต่เมียพี่ไม่ให้ไป พี่กลัวมากเลย '' น้าภัทรเสียงสั่นออดอ้อนขอความช่วยเหลือ
'' เมียพี่เขาอยากจะไปสนุกกับเพื่อนเขาบ้างน่ะสิ '' ตี๋ตอบแบบไม่ตรงใจน้าภัทรอย่างแรง
'' เห้ยตี๋ เองพูดแบบนี้ไม่ได้สิ เองต้องเข้าข้างพี่ '' น้าภัทรพลางบอกคำตอบที่แกพอใจให้ตี๋ฟัง
'' แล้วทำไมพี่ถึงไม่อยากปล่อยให้เมียพี่ไปตามลำพังล่ะ '' ตี๋ย้อนถามถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าน้าภัทรแค่หวงเมีย
'' เกิดเมียพี่ไปเจอแฟนเก่าอะไรทำนองเนี่ย '' น้าภัทรพูดแบบอายๆ
คำหล่านั่งฟังที่แกพูดก็ได้แต่คิดในใจ ว่าน้าก็อายุปูนนี้แล้ว แต่ไม่พูดออกไปดีกว่า นั่งฟังต่อมันดี
'' พี่ก็แก่จนปูนนี้แล้วยังจะมาหึงหวงอะไรกันอีก '' พี่ตี๋พูดแทนในสิ่งที่เขาคิดพอดี ฮ่า ฮ่า
'' เฮ้ยตี๋ เองจะเข้าข้างพี่เปล่า และเมื่อกี้ตกลงเองจะเรียกพี่หรือเรียก '' น้าภัทรหน้าเป็นสีแดง
'' เองพูดแบบนี้ไม่ต้องมาเคารพพี่ดีกว่า '' น้าภัทรเริ่มมีอารมณ์
ตี๋ก็ยื่นมือมาจิกผมน้าภัทรรั้งมาใกล้ๆ แล้วพูดอย่างสุภาพว่า
'' จะดีหรอพี่ '' ซึ่งแตกต่างกับการกระทำโดยสิ้นเชิง
'' โอ้ย ถ้าทำขนาดนี้ไม่ต้องถามกูก็ได้มั่ง '' น้าภัทรเห่วใส่
'' หยอกๆ พี่ ฮ่า ฮ่า '' ตี๋ยิ้มพลางยกมือไหว้ขอโทษ
น้าภัทเป็นคนที่ดูภายนอกเงียบขรึมเข้าหายาก แต่จริงๆแล้วน้ามีความเป็นกันเองกับน้องๆทุกคน และมันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของน้า ถึงแม้บางครั้ง พวกน้องๆอาจจะเกินเลยไปบ้าง แต่ก็เป็นการหยอกเล่นขำๆ สนุกสนานกันไป
ยังมีอีกคนในกลุ่มที่ทำให้ผมปวดหัวสุดๆ มันคือ ไอนัด เด็กเป==รต อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ตัวมันอ้วนเตี้ยกลมๆ ขาสั้นน่ารักแต่นิสัยกวนตีน ผิวออกแทน พูดรัวเร็วแต่ดันติดอ่างนิดๆฟังไม่รู้เรื่อง วันหนึ่งเจ้านัดได้ออกรถมอเตอร์ไซค์ใหม่คันใหญ่ โดยไม่เจียมตัวถึงขนาดของตัวเอง ขี่ได้ไม่ถึงวันก็เอาไปถูกับเสาไฟฟ้าเพียงแค่จะจอดรถ มันพยายามยื่นขาเพื่อยันพื้นแต่ขามันสั้น เลยวืดล้มไปถูกับเสาไฟฟ้าเรียบร้อย เครียดไปหลายวัน
และอีกเหตุการณ์หนึ่ง ตอนนั้นคำหล่ากำลังยืนซื้อผลไม้รถเข็น ลุงคนขายกำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่เป็นภาษาคำเมือง '' คนเหนือซะด้วย '' ฟังจากน้ำเสียงแล้วเดาได้เลยว่ากำลังทะเลาะกับเมียแน่ๆ
'' ไอหนุ่ม เองจะเอาอะไรนะ '' ลุงถามเสียงดังในน้ำเสียงดูหงุดหงิด
'' ผมขอสับปะรดหน่อยครับลุง '' คำหล่าพยายามพูดให้ดูสุภาพมากที่สุด ประจวบเหมาะกับเจ้านัดขึ่รถมาจอดใกล้ๆพอดี
'' คำหล่าซื้ออะไร '' เจ้านัดถามโดยไม่ลงจากรถ
'' อยากกินสับปะรดน่ะ '' คำหล่าพูดเสียงเบา
'' ยี้ ดูสีก็รู้ว่าเปรี้ยว '' นัดโพล่งออกมา คำหล่าสังเกตเห็นลุงเงยหน้าขึ้นมา ทำตาขวางใส่เจ้านัดแวบหนึ่ง
'' ผมเอาแตงโม พริกเกลือด้วย '' เจ้านัดปากเสียอีกแล้ว พอสิ้นเสียแค่นั้นแหละ
'' คิงว่าฮาเป็นเปื้อนเล่นคิงก๋า บ้านป้อคิงน่ะก่ากินบะเต๊ากับพริกเกลือ คิงรีบไปบะเดี๊ยวนี้เลนนะ '' (เองว่าข้าเป็นเพื่อนเล่นเองเหรอ พ่อเองสิกินแตงโมกับพริกเกลือ เองรีบไปเดี๋ยวนี้เลยนะ) ลุงขายผลไม้ระเบิดอารมณ์ใส่พลางถือมีดชี้ไปที่เจ้านัด เจ้านัดบิดรถหนีทันที ผมที่ไม่เกี่ยวไรด้วย ต้องรีบเดินฉากหลบออกไป แถมสับปะรพก็ไม่ได้กิน และทั้งหมดนี่แค่บางส่วนของวีรกรรมที่มันเคยทำไว้
และคนสุดท้ายที่จะขาดไม่ได้ เธอเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกอยากอยู่ที่กรุงเทพฯต่อไป
คุณเคยเจอใครแล้วรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะไหม นั้นแหละอาการที่ผมเป็น เมื่อผมได้เจอกับเธอ เธอคนนั้นชื่อ โบว์
เธอเป็นคนขอนแก่นผิวขาว จมูกเล็กๆไม่มีดั่ง แต่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนเด็ก ผมดำยาวและดัดฟัน เธอเป็นคนอัธยาศัยดีพูดเพาะ เธอเป็นบาลิสต้าอยู่ที่ร้านเปิ๊ดสก๊าดที่คำหล่าต้องไปรอรับออเดอร์ และบ่อยครั้งที่เขามักจะแอบมองเธอทีเผลอ เธอมักจะคุยเล่นกับเพื่อนๆพี่ๆในกลุ่มอย่างสนิทสนม ซึ่งต่างกับเขาที่ไม่เคยคุยกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่คำหล่ากับรู้สึกโล่งอกที่เธอก็ไม่เคยคุยกับเขาเช่นกัน แม้กระทั่งตอนเรียกรับออเดอร์ที่เธอทำเสร็จ เธอมักจะขานชื่อในทุกคนมารับออเดอร์
'' น้าชลออเดอร์ได้และจ่ะ '' '' พี่ตี๋ได้แล้ว ''. '' นัดจะเอาไหมออเดอร์ เรียกนานแล้วนะ '' เธอพูดเป็นกันเองกับพี่ๆในกลุ่มทุกคนยกเว้นคำหล่า เธอมักจจะเรียกแบบห่างเหินโดยการเรียกรหัสออเดอร์. '' ออเดอร์ 213 ได้แล้วค่ะ '' เธอพูดเสร็จแล้ววางไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วก้มหน้าก้มตาทำออเดอร์ต่อไป โดยไม่หันมามอง หลายครั้งที่คำหล่าอิจฉาพวกเพื่อนๆพี่ๆ ที่สามารถคุยเล่นกับเธอได้อย่างสนุกสนาน และหลายครั้งที่เขาคิดจะเริ่มทักเธอก่อน แต่พอเอาเข้าจริงก็ลิ้นแข็ง อ่าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เพียงแค่เธอหันมาสบตาพอดี หน้าก็รู้สึกร้อนผ่าว จนต้องทำเนียนหันไปมองขนม จับพริกดูด้านหลังซอง และอ่านส่วนผสมของขนมเสียงดัง พลางแอบแลเธอผ่านหางตา เธอหันหลังแล้วเดินดุ่มๆไปในครัว
'' เฮ้อ '' ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหมดแรง '' เธอคงไม่ชอบขี้หน้าเราอย่างมาก ''
และตั้งแต่นั้นมาคำหล่าก็ไม่เคยมีความคิด ที่จะเข้าไปพูดกับเธออีกเลย ได้แต่นั่งนิ่งมองพวกเพื่อนและพี่ คุยเล่นกับโบว์อย่างสนิทสนมจนรู้สึกอิจฉา และนั่นทำให้คำหล่าไม่ชอบขี้หน้าเจ้านัดมากยิ่งขึ้น ไอเด็กเปรต คำหล่านั่งมองเจ้านัดคุยเล่นหยอกล้อโบว์ออกนอกหน้ากว่าใครๆ เหมือนจะแสดงให้ทุกคนรู้ว่าโบว์สนิทกับมันมากที่สุด ให้ทุกคนทำใจไว้ได้เลยถ้าคิดจะแข่งกับมัน อะไรทำนองนั้น คำหล่าหมั่นไส้เจ้านัดเหลือเกิน รู้สึกขวางหูขวางตาไปหมด
'' คำหล่า คำหล่า ยืมปากกาหน่อย '' นัดเดินเข้ามาจับที่ไหล่คำหล่า
'' ไม่มี '' คำหล่าพูดห้วน '' ข้าอายุมากกว่าเองนะ ควรเรียกพี่ด้วย ''
'' ไม่ละ คำหล่า '' นัดส่ายหน้า. '' มันไม่สนิท '' นัดพูดพลางทำหน้าระรื่น
'' ได้ เอาที่เองสบายใจเลย '' คำหล่าพูดพลางเบือนหน้าหนีอย่างหงุดหงิด
ในขณะที่โบว์กำลังยืนเช็ดแก้วกาแฟ นัดยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์พลางมองคำหล่าอย่างมีเลศนัย
'' คำหล่าชอบโบว์หรือเปล่า '' เจ้านัดโพล่งออกมาแบบไม่ให้คำหล่าตั้งตัว สังเกตเห็นโบว์ชะงักไปชั่วขณะ แต่พยายามทำเป็นไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน
'' บ้าพูดอะไรน่ะ '' คำหล่ารีบพูดเสียงแหลมสูง
'' ฮ่าฮ่า หน้าแดงเลยนะ '' เจ้านัดหัวเราะด้วยความสะใจ
ในขณะที่บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วน คำหล่ารู้สึกร้อนฉ่าที่ใบหน้า พยายามนึกคำพูดมาตอบโต้เจ้านัด แต่ก็นึกไม่ออก
'' นัดออเดอร์ได้แล้ว '' โบว์แทรกขึ้นมาพอดี ทำให้บรรยากาศกลับคืนเป็นปกติ นัดหันไปคว้าออเดอร์และสังเกตเห็นหน้าของโบว์เป็นสีแดงออกชมพู นัดหรี่ตามองไปที่โบว์ทีคำหล่าที และพ่นลมออกทางจมูกเดินออกจากร้านไปพลางหัวเราะอย่างมีเลศนัย
(ติดตามได้ที่ เว็บDek-D นะครับ) ปล.อ่านเสร็จแล้วรบกวนช่วยแสดงความคิดเห็น ผมยินดีรับฟังและจะนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ขอบคุณครับ