บอกไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี มีความรู้สึก เศร้า เหงา หดหู่ ต่อสู้กับอาการเหล่านี้อย่างหนัก รู้แหละว่าตัวเองเครียดมาก แล้วไม่รู้จะทำไง จะคุยกับสามี เค้าก็ทำงานหนักหนาสาหัสมากพอแล้ว เลยเลือกจะรู้สึกอยู่คนเดียว แต่หวั่นใจ ว่าวันนึง ถ้าบังคับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ กลัวจะทำอะไรไม่รู้ตัว
ใกล้จะหมดโควิค สินเชื่อก็ทวงถาม โชคดี ที่ จนท.พูดจาดี แต่เข้าใจหน้าที่คือหน้าที่ เราก็พยายามที่จะหาอย่างเต็มที่ ส่วนต่างค่ารถที่โดนยึด ต่อรองทยอยผ่อนได้โชคดีมาก ได้ใช้หนี้ตามกำลัง ไม่ต้องละอายใจอีก เพราะถ้าเอาเงินก้อน ยังไงก็ไม่มี แต่เพิ่งรู้ว่ารถคันนี้มีบสย.ค้ำให้อีก จนท.โทรมา ให้จ่ายเป็นแสน ไม่ค่อยเข้าใจในทีแรก แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว สรุปเหมือนโง่มาก ซื้อรถมือสองในราคาที่แพงลิบ แถมยึดรถไปแล้ว ยังมีส่วนต่างอีก แต่รถที่ขายได้ จ่ายแต่ำฟแนนท์ ไม่พอ ยังมีส่วนต่าง สามหมื่น สรุป ยึดรถ เอาไปขาย เกิดส่วนต่าง แสนเจ็ด เป็นของไฟแนนท์ สามหมื่นกว่าบาท เป็นของ บสย.แสนกว่าบาท ทำไมส่วนต่างมากมายขนาดนี้ ขายรถเราไปราคาเท่าไหร่กัน แต่ผิดเอง ช่วงที่ล้ม ชีวิตแทบจะไม่รับรู้อะไรเลย เอกสารอะไรต่างๆ ก็ไม่ได้สนใจ ล่องลอย ติดเตียง (ทำไมไม่ตายไปตั้งแต่ตอนนั้นนะ มาฮึดอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้) วันนี้เลยทำอะไรไม่ได้ ก้มหน้า ชดใช้หนี้สิน มัดรวมหนี้ก็ไม่ได้ จะได้ขอส่งตามที่ไหว ส่งหลายเจ้าทีล่ะน้อยก็จริง แต่รวมกัน เดือนนึงก็มากมาย ทุกอย่างเกิดจากความใจอ่อน ใจดี เชื่อคนง่าย ไว้ใจคนอื่นมากไป และช่างมันเถอะมากไป อ่อนแอ ขี้แพ้ จนเป็นแบบนี้
ร่างกายก็สารพัดโรค ถามตัวเองอยู่ทุกวัน มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ในเมื่อ ไม่มีค่าอะไรเลย เพียงแต่ เคยบอกกับตัวเองไว้ ว่าจะตายหลังพ่อแม่ ไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจ และอยากให้พ่อแม่ มีเราในวันสุดท้าย จะอยู่เพื่อเสียใจเอง ยิ่งคิดยิ่งเศร้า ทำอะไรก็ไม่รอด แผงเล็กๆที่ยึดเหนี่ยวเอาไว้ ก็จะไม่ไหวแล้ว เหนื่อยกับความคิดมาก ควรหยุดเดืนดีไหม จะปล่อยวางยังไงดี
ความเครียดเข้าครอบงำ
ใกล้จะหมดโควิค สินเชื่อก็ทวงถาม โชคดี ที่ จนท.พูดจาดี แต่เข้าใจหน้าที่คือหน้าที่ เราก็พยายามที่จะหาอย่างเต็มที่ ส่วนต่างค่ารถที่โดนยึด ต่อรองทยอยผ่อนได้โชคดีมาก ได้ใช้หนี้ตามกำลัง ไม่ต้องละอายใจอีก เพราะถ้าเอาเงินก้อน ยังไงก็ไม่มี แต่เพิ่งรู้ว่ารถคันนี้มีบสย.ค้ำให้อีก จนท.โทรมา ให้จ่ายเป็นแสน ไม่ค่อยเข้าใจในทีแรก แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว สรุปเหมือนโง่มาก ซื้อรถมือสองในราคาที่แพงลิบ แถมยึดรถไปแล้ว ยังมีส่วนต่างอีก แต่รถที่ขายได้ จ่ายแต่ำฟแนนท์ ไม่พอ ยังมีส่วนต่าง สามหมื่น สรุป ยึดรถ เอาไปขาย เกิดส่วนต่าง แสนเจ็ด เป็นของไฟแนนท์ สามหมื่นกว่าบาท เป็นของ บสย.แสนกว่าบาท ทำไมส่วนต่างมากมายขนาดนี้ ขายรถเราไปราคาเท่าไหร่กัน แต่ผิดเอง ช่วงที่ล้ม ชีวิตแทบจะไม่รับรู้อะไรเลย เอกสารอะไรต่างๆ ก็ไม่ได้สนใจ ล่องลอย ติดเตียง (ทำไมไม่ตายไปตั้งแต่ตอนนั้นนะ มาฮึดอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้) วันนี้เลยทำอะไรไม่ได้ ก้มหน้า ชดใช้หนี้สิน มัดรวมหนี้ก็ไม่ได้ จะได้ขอส่งตามที่ไหว ส่งหลายเจ้าทีล่ะน้อยก็จริง แต่รวมกัน เดือนนึงก็มากมาย ทุกอย่างเกิดจากความใจอ่อน ใจดี เชื่อคนง่าย ไว้ใจคนอื่นมากไป และช่างมันเถอะมากไป อ่อนแอ ขี้แพ้ จนเป็นแบบนี้
ร่างกายก็สารพัดโรค ถามตัวเองอยู่ทุกวัน มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ในเมื่อ ไม่มีค่าอะไรเลย เพียงแต่ เคยบอกกับตัวเองไว้ ว่าจะตายหลังพ่อแม่ ไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจ และอยากให้พ่อแม่ มีเราในวันสุดท้าย จะอยู่เพื่อเสียใจเอง ยิ่งคิดยิ่งเศร้า ทำอะไรก็ไม่รอด แผงเล็กๆที่ยึดเหนี่ยวเอาไว้ ก็จะไม่ไหวแล้ว เหนื่อยกับความคิดมาก ควรหยุดเดืนดีไหม จะปล่อยวางยังไงดี