เป็นคนๆนึงที่เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กับเพื่อนในห้องเท่าไหร่ เพราะเป็นคนโลกส่วนตัวสูง แต่ก็ไม่ได้มากถึงขนาดต้องการอยู่คนเดียว เพื่อนบางคนมักชอบตัดสินใจว่า เป็นคนเงียบไม่ต้องเข้าไปยุ่ง ก็อยากจะถามเหมือนกันว่าเพื่อนในห้องจะรู้หรือ
ว่ารู้สึกยังไง ครั้งนึงต้องออกไปพูดหน้าชั่นเรียน ปกติเราเป็นคนที่หวาดกลัวการเจอคนมากมายที่จับตามองมาที่เราคนเดียว มันทำให้รู้สึกใจสั่น มือสั่น
ตอนนั่นคือทำตัวไม่ถูก เรารู้อาการของเราสิ่งที่เราเตรียมมาจะพูดก็หายไปหมด ในหัวคือคิดแค่ว่าทุกคนทำไมมองเราด้วยสายตาแบบนั่น หลังจากนั่นเราเลยกังวลใจ ทำตัวไม่ถูกเลย ทุกคนเงียบ เราสู้สายตาคนหลายๆคนตรงนั่นไม่ได้
หลังจากทุกอย่างเสร็จ ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ในมุมเดิม ไม่มีเพื่อนคุยเล่นด้วยหรือช่วนไปกินข้าว แต่ตามจริงเราเคยอยู่กับเพื่อนกลุ่มนึงเป็นกลุ่มในตอนชั่น ม.ปลาย เป็นกลุ่มแรกที่ให้เราไปกินข้าวด้วย แต่ก็แค่กินข้าว ไม่เคยคุยกันเเบบเพื่อนเลย มีได้แค่คุยเรื่องงาน งานบ้านตอนไหน ไปไหนก็ต้องรอกันก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกัน บางครั้งก็โดนปล่อยให้อยู่คนเดียว ไปไหนก็ไม่เคยบอกกัน เพื่อนมักจะบอกว่า 'ขอโทษ ลืมไปว่าเธออีกคนนึง"
เป็นคนที่ถูกลืมหลังจาก ขึ้น ม.ปลาย มา และกลายเป็นคนเก็บตัวไม่คุยกับใครเลย แต่ก็ยังมีเพื่อนบางกลุ่มถึงแม้จะไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่พวกเขา ก็ช้วยเหลือเสมอ อาจมีบาง คุยเล่นด้วยกัน เราก็สนุกไปด้วย หลังจากวันที่ พวกเพื่อนกลุ่มเเรกทิเราไปกินข้าวกันแล้ว ก็มีอีกกลุ่มนึง ช่วนเราไปกินข้าวด้วย เราก็ไปกินกับเขา และเพื่อนกลุ่มๆนั่น เลยอยากให้เรามาอยู่กลุ่มของเพื่อนๆ
ใช่และหลังจากนั่น ก็เหมือนเดิม ไปไหนมสไหนก็ไปด้วยกันกินข้าวด้วยกัน งานกลุ่มก็ทำร่วมกัน ทุกอย่างที่คิดว่ากำลังไปได้ดี
แต่ก็ต้องจบลง ที่โรงเรียนมีกิจกรรมให้คุณครูำานักเรียนห้องของตัวเองไปทำความสะอาดที่วัดนึง...แต่เราไปไม่ได้เพราะมันไกลเกินจะไปด้วยตัวเอง ตอนนั่นไม่มีใครพาเราไปด้วยเลย พ่อก็บอกให้ไปเอง แต่เราไปไหนไม่ค่อยเป็น ไปได้แต่ที่ ที่เคยไป ตอนนั่นคิดหนักนะว่าจะทำไงต่อดี แร่สุดท้ายเพื่อนๆก็ทำกิจกรรมเสร็จมีเราคนเดียวที่ไม่ได้ไปทำกิจกรรม
หลังจากวันนั่นครูให้ทำเป็นงานรูปเล่มรายงานหลังจากไปทำกิจกรรมครั้งนั่น เราก็มีกลุ่มของเราแล้ว แต่พอตอนไปเรียน มีเพื่อนผู้ชายไม่มีกลุ่ม มันเลยเกิดปัญหา ว่าจะทำยังไง อยู่ๆมีเพื่อนผู้หญิงสองคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเรา มาตัดสินใจให้เราออกเพราะเราไม่ได้ช้วยอะไรเลย วันนั่นมันเป็นวันแรกที่เจอกันในวิชานั่น คือตอนนั่นไม่มีใครบอกอะไรเราเลย แค่บอกว่าเราอยู่ในกลุ่มด้วย แต่ไม่ได้บอกให้ช้วยอะไรเพราะงานมันก็ไม่ได้ทำอะไรเยอะมากมาย
พอจะถามก็บอกว่าไม่มีไม่ต้อง แต่พอนั่งเฉยๆก็โดนหาว่าไม่ช้วยงาน เพื่อนผู้หญิงเลยบอกว่า "เอ้งออกจากกลุ่มได้ไม ไม่ช้วยอะไรก็ออกไป" เราเลยต้องยอมออกเพราะไม่อยากมีปัญหามองหน้ากันไม่ติดอีก แต่นั่งคนเดียวในห้อง ต้องมาโดนมองหน้ากันไม่ติดอีก ประสาทเกินไป และหลังจากงานครั้งนั่นก็ทำให้ ห่างจากเพื่อนอีกตามเคย กลายเป็นว่าก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอีกเลย
ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนมันทำให้เรากลายเป็นคนนิ่งเงียบ มาโรงเรียนวันนึงพูดไม่เกินสิบกว่าคำ แต่ยังไงก็เหอะ เราคิดแค่ว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีเพื่อนสนิทจากโรงเรียนเก่าอยู่ หลังจากนั่นเราเลยขอกลับบ้านกับเพื่อนทุกวัน ทำให้ความเครียดหายไป
เพราะก่อนจะได้มาคุยกับเพื่อนสนิทตั่งแต่ประถม เราก็เครียดมามากพอแล้ว เราไม่เคยคิดว่า เครียดต้อง กรีดมือ กินยาบาง เราไม่ทำแบบนั่น แต่เราก็ยังไม่ได้อยู่ดีเลย ตัดผมตัวเองออกไปจนกลายเป็นคนผมสั่น ไม่เป็นไรผมเดียวมันก็ยาว ต้องขอยคุณที่เพื่อนสนิทที่ชื่อว่าเหนือ ไม่เคยลืมเราเลย ทั่งชื่อจริงเราชื่อเล่นเรายังจำได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณที่ทำให้เรายิ้ม รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นหน่อย ถึงแม้อาจจะได้มีความสุขกับเพื่อนคนนี้แค่เวลาเลิกเรียนเท่านั่น .....
เคยไหม นั่งคนเดียวหลังห้อง ไม่เคยมีเพื่อนคุยด้วย
ว่ารู้สึกยังไง ครั้งนึงต้องออกไปพูดหน้าชั่นเรียน ปกติเราเป็นคนที่หวาดกลัวการเจอคนมากมายที่จับตามองมาที่เราคนเดียว มันทำให้รู้สึกใจสั่น มือสั่น
ตอนนั่นคือทำตัวไม่ถูก เรารู้อาการของเราสิ่งที่เราเตรียมมาจะพูดก็หายไปหมด ในหัวคือคิดแค่ว่าทุกคนทำไมมองเราด้วยสายตาแบบนั่น หลังจากนั่นเราเลยกังวลใจ ทำตัวไม่ถูกเลย ทุกคนเงียบ เราสู้สายตาคนหลายๆคนตรงนั่นไม่ได้
หลังจากทุกอย่างเสร็จ ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ในมุมเดิม ไม่มีเพื่อนคุยเล่นด้วยหรือช่วนไปกินข้าว แต่ตามจริงเราเคยอยู่กับเพื่อนกลุ่มนึงเป็นกลุ่มในตอนชั่น ม.ปลาย เป็นกลุ่มแรกที่ให้เราไปกินข้าวด้วย แต่ก็แค่กินข้าว ไม่เคยคุยกันเเบบเพื่อนเลย มีได้แค่คุยเรื่องงาน งานบ้านตอนไหน ไปไหนก็ต้องรอกันก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกัน บางครั้งก็โดนปล่อยให้อยู่คนเดียว ไปไหนก็ไม่เคยบอกกัน เพื่อนมักจะบอกว่า 'ขอโทษ ลืมไปว่าเธออีกคนนึง"
เป็นคนที่ถูกลืมหลังจาก ขึ้น ม.ปลาย มา และกลายเป็นคนเก็บตัวไม่คุยกับใครเลย แต่ก็ยังมีเพื่อนบางกลุ่มถึงแม้จะไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่พวกเขา ก็ช้วยเหลือเสมอ อาจมีบาง คุยเล่นด้วยกัน เราก็สนุกไปด้วย หลังจากวันที่ พวกเพื่อนกลุ่มเเรกทิเราไปกินข้าวกันแล้ว ก็มีอีกกลุ่มนึง ช่วนเราไปกินข้าวด้วย เราก็ไปกินกับเขา และเพื่อนกลุ่มๆนั่น เลยอยากให้เรามาอยู่กลุ่มของเพื่อนๆ
ใช่และหลังจากนั่น ก็เหมือนเดิม ไปไหนมสไหนก็ไปด้วยกันกินข้าวด้วยกัน งานกลุ่มก็ทำร่วมกัน ทุกอย่างที่คิดว่ากำลังไปได้ดี
แต่ก็ต้องจบลง ที่โรงเรียนมีกิจกรรมให้คุณครูำานักเรียนห้องของตัวเองไปทำความสะอาดที่วัดนึง...แต่เราไปไม่ได้เพราะมันไกลเกินจะไปด้วยตัวเอง ตอนนั่นไม่มีใครพาเราไปด้วยเลย พ่อก็บอกให้ไปเอง แต่เราไปไหนไม่ค่อยเป็น ไปได้แต่ที่ ที่เคยไป ตอนนั่นคิดหนักนะว่าจะทำไงต่อดี แร่สุดท้ายเพื่อนๆก็ทำกิจกรรมเสร็จมีเราคนเดียวที่ไม่ได้ไปทำกิจกรรม
หลังจากวันนั่นครูให้ทำเป็นงานรูปเล่มรายงานหลังจากไปทำกิจกรรมครั้งนั่น เราก็มีกลุ่มของเราแล้ว แต่พอตอนไปเรียน มีเพื่อนผู้ชายไม่มีกลุ่ม มันเลยเกิดปัญหา ว่าจะทำยังไง อยู่ๆมีเพื่อนผู้หญิงสองคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเรา มาตัดสินใจให้เราออกเพราะเราไม่ได้ช้วยอะไรเลย วันนั่นมันเป็นวันแรกที่เจอกันในวิชานั่น คือตอนนั่นไม่มีใครบอกอะไรเราเลย แค่บอกว่าเราอยู่ในกลุ่มด้วย แต่ไม่ได้บอกให้ช้วยอะไรเพราะงานมันก็ไม่ได้ทำอะไรเยอะมากมาย
พอจะถามก็บอกว่าไม่มีไม่ต้อง แต่พอนั่งเฉยๆก็โดนหาว่าไม่ช้วยงาน เพื่อนผู้หญิงเลยบอกว่า "เอ้งออกจากกลุ่มได้ไม ไม่ช้วยอะไรก็ออกไป" เราเลยต้องยอมออกเพราะไม่อยากมีปัญหามองหน้ากันไม่ติดอีก แต่นั่งคนเดียวในห้อง ต้องมาโดนมองหน้ากันไม่ติดอีก ประสาทเกินไป และหลังจากงานครั้งนั่นก็ทำให้ ห่างจากเพื่อนอีกตามเคย กลายเป็นว่าก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอีกเลย
ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนมันทำให้เรากลายเป็นคนนิ่งเงียบ มาโรงเรียนวันนึงพูดไม่เกินสิบกว่าคำ แต่ยังไงก็เหอะ เราคิดแค่ว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีเพื่อนสนิทจากโรงเรียนเก่าอยู่ หลังจากนั่นเราเลยขอกลับบ้านกับเพื่อนทุกวัน ทำให้ความเครียดหายไป
เพราะก่อนจะได้มาคุยกับเพื่อนสนิทตั่งแต่ประถม เราก็เครียดมามากพอแล้ว เราไม่เคยคิดว่า เครียดต้อง กรีดมือ กินยาบาง เราไม่ทำแบบนั่น แต่เราก็ยังไม่ได้อยู่ดีเลย ตัดผมตัวเองออกไปจนกลายเป็นคนผมสั่น ไม่เป็นไรผมเดียวมันก็ยาว ต้องขอยคุณที่เพื่อนสนิทที่ชื่อว่าเหนือ ไม่เคยลืมเราเลย ทั่งชื่อจริงเราชื่อเล่นเรายังจำได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณที่ทำให้เรายิ้ม รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นหน่อย ถึงแม้อาจจะได้มีความสุขกับเพื่อนคนนี้แค่เวลาเลิกเรียนเท่านั่น .....