ความคิดที่คนรวยเค้ามีกัน​"กับ" ความคิดคนจนเค้าคิด(ยาวหน่อยแต่มีความคิดดีดีซ่อนอยู่มากมาย)​ด่าได้แต่อย่าแรงมากพึ่งจะสำนึก

ขอแนะนำตัวสักหน่อย​ปัจจุบัน เราอายุ​ย่าง36เป็นพวกintrovertชอบอยู่กับคอมมือถือและการอ่านหนังสือ​ ไม่คิดจะมีแฟนเพราะรู้สึกมีความสุขกับการใช้เงินคนเดียว ​ขอเล่าย้อนนนไปยาวยาวนิดนึงช่วงอายุ21ก่อนจะจบก็ต้องมีฝึกงาน​ที่ฝึกงานก็เลือกเองเลือกฝึกที่สนามบินเลยเพราะเป็นที่เดียวที่ได้ค่าฝึกงาน9000แต่ต้องสอบให้ได้นะเค้ารับฝึกจำนวนจำกัด​ ฝึกเสร็จทางสนามบินก็เลือกตัวเข้าทำงานแต่ก็เลือกทำงานที่เอกชนบริษัทหนึ่ง​ เพียงเพราะบริษัทยื่นข้อเสนอ​ เงินเดือน50k(ไม่รวม​com.)​ใครจะไม่เอาแถมเจ้าของบริษัทก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลถึงจะไม่มั่นคงเริ่มก่อตั้งแต่พี่เจ้าของก็จิตวิทยาสูงบอกว่าเราจะโตไปพร้อมกัน​

มาเริ่มรู้สึกตัวอีกทีก็เข้าปีที่13 เริ่มรู้สึกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่​ ไม่อยากทำงาน​ เงินที่มีอยู่ก็พอแล้ว​ จากที่เคยขยันความรับผิดชอบสูงมากก็ไม่ค่อยไปทำงาน​ เข้าบ่ายบ้าง​ กับเร็วบ้าง​ คือเละมาก​ จนเพื่อนร่วมงานเกลียดความลำเอียงของเจ้าของบริษัททำไมไม่ไล่ออกสักที​ ต้องบอกว่าเราเริ่มวางแผนเพราะแจ้งลาออก​มา3ครั้งไม่เคยได้ออก​ เพิ่มเงินเดือนบ้างละ​ อยู่ช่วยบ้างละ​ ให้พนักงานมาตามถึงคอนโดทุกวัน


การวางแผน​ไปเที่ยวจึงเกิดขึ้น​คิดไว้​ 2ปีแล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไรต่อ
-1.​ปิดบัตรเคดิตทุกใบก่อนออก
-2.มีเงินเทียว200,000ใน2ปีต้องอยู่ได้
-3.มีรายได้ที่โอนเข้าเสมอที่มาจากการลงทุนไว้​เช่นปล่อยเช่าคอนโดตัวเอง


ก็ยังไม่ได้ออกจนมีเหตุการไม่คาดฝันมันเป็นจุดเปลี่ยนกับจิตใจทุกอย่าง​ ถึงกับชีวิตแต่ก็มีปฏิหาริย์​ ต้องรักษาตัวอยู่2เดือนกว่า จำคำคุณหมอตี๋บอกว่าชีวิตมีแค่ชีวิตเดียวใช้ให้ดี อายุก็เข้า34ละยังไม่รู้ความหมายของชีวิต ไม่มีอะไรเลยมีแต่เงินรู้ทางแค่คอนโดกับที่ทำงานพอมีเรื่องมากระทบหรือทำความผิดพลาดก็รับไม่ได้เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันให้ตัวเองเลย​ อีกอย่างเป็นคนชอบคิด​ ชอบเลือก​และคิดอยู่คนเดียวไม่พูดไม่บอกใคร(คิดดูไม่มีใครรู้ว่าเรามีบ้านที่ต่างจังหวัด)​


**ได้ยินแบบนั้นยุติทุกอย่าง​ เลือกออกเดินทางตามหนังสือเล่มหนึ่ง​ และทุกวันต้องคุยกับคนและหาเพื่อนใหม่ใหม่
ออกจากโรงบาลกับมาหาคนที่ดูแลที่ต่างจังหวัด​ ปิดทุกช่องทางที่เป็นตัวตน​ ไม่ติดต่อใครเลยครอบครัวญาติทั้งหมดแม้แต่เพื่อนที่รักที่สุด​ (ใช้เป็นเงินสดเท่านั้นและโอนเงินใส่ธนาคารของคนดูแลเราจะมีสเต็ป​123กันพลาดเสมอถูกสอนจนเป็นนิสัยไปแล้ว)​ แต่พวกเค้าก็คงชินกับการกระทำของเราอยู่แล้ว​ และเราเคยบอกไว้แล้วว่าขอเวลา2ปีแล้วจะกลับมาเอง​ ส่วนคอนโดให้ส่วนกลางจัดการโอนเข้าบัญชีไป​


*ที่แรกที่ไปเลยภาคเหนือ​ น่าน​ แพร่​ เชียงใหม่​ ลำพูล​ ลำปาง​ คือ2เดือน​ อยู่แบบนักท่องเทียวเลย
*ที่ที่2ภาคใต้เลย​ สมุย หลงรักหนักมาก​ อยู่อีก2เดือน​ เที่ยวทุกวัน
**ที่ที่3​อีสาน​เริ่มนครพนม​ยังมีแวะไปกินส้มตำที่ขอนแก่นเพราะรีวิวบอกอร่อยมากกก
6เดือนที่ผ่านไป200,000 ไม่พอคะใช้เงินส่วนตัว​ เบิก-ถอนมันกันไปเลย


**สติและประสบการณ์​เริ่มมา คิดอีกควรไปทำงานและเที่ยวไปด้วยเพราะเงินเริ่มหมด(เริ่มจะหมดของเราขั้นต่ำก็ยังมีไม่ต่ำกว่าล้านนะจ้ะ)​ก็กลับมาหาคนที่ดูแลที่ต่างจังหวัดให้หางานให้​ ทำแบบประจำก็ไม่ได้เดียวก็ตามเจอขอทำพาททามแล้วกันจะได้มีเวลาเที่ยวด้วย(ต้องบอกว่าเราเป็นคนที่กลัวความไม่ปลอดภัยมาก​ จะดูแลตัวเองดีเสมอ)​และมาลงตัวกับเพื่อนคนที่ดูแลเรา​ มาขายข้าวแกง​ เราก็มาสืบก่อนเลยคุณน้าที่เราจะมาอยู่ด้วย​ เค้าอยู่คนเดียว​ เป็นม่าย​ ลูกก็หนีไปแล้ว​ ใช่เลยเป้าหมายมาทำงานที่นี้ละกัน(ที่นี้ละที่สอนเราให้รู้ความหมายและเป็นคนมากขึ้น)


###ก่อนอื่นเราพึ่งรู้ว่าเราไม่เป็นอะไรเลย​ ไม่รู้กะทั้งมะเขืออะไรเยอะแยะไปหมด​ ทอดไข่ดาวก็ไม่ได้​ โดนว่าโดนบ่นแต่เราก็งัดข้อดีของตัวเองออกมา​ เริ่มที่จะเรียนรู้​ ไปฝึกหัดขับรถ(ทั้งทั้งที่กลัวมาก​ เคยแต่เป็นผู้นั่งมีรถบริษัทรับส่ง​ ​เหมือนออกนอกกรอบ)​ขับรถรับส่งคุณน้าไปตลาด​ รับหน้าที่ขายของ​ ทุกวันนี้ได้คุยกับคนมากขึ้น​ ยิ้มมากขึ้น​ และรู้สึกว่าตัวเองชอบขายของมาก​ พูดอะไรคนก็ซื้อ(พรสวรรค์)​ มันเป็นความ​ธรรมที่ไม่ธรรมดา​ ความอดทนก็สูงมากทั้งที่ไม่เคยมี​ ต้องตื่นตี4​ทุกวัน​ และยังได้ไปเที่ยวตลอดเพราะคุณน้าเค้ามีเพื่อนพากันไปเที่ยว​ แต่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีข้อเปรียบเทียบตรรกะความคิดก็ต่างกัน​ สิ้นเดือนมีนาจะครบ2ปี​ ที่รับปากว่าจะกลับไปที่เดิมแล้ว กะว่าจะช่วยคุณน้าให้เค้าคิดได้เพราะมาอยู่2ปี​ ก็รู้สึกผูกพัน


......ข้อเสียที่เจอ​ที่สมควรปรับกับตัวเองก่อนจะสายไปตามอายุ.......
1.การลงทุนของพวกเค้า​ ยืมเงินของคนอื่นมาลงทุน​บางทีก็เอามากินเอามาใช้เอง​ จนเป็นหนี้มากมายแล้วจ่ายดอก​ สินทรัพย์​กับหนี้สินไม่Balance

2.เน้นใช้แรงไม่ใช้สมองใช้ใจล้วนนน
3.เป็นน้ำเต็มแก้วไม่รับฟังคำต่างจากบุคคลอื่น
4.กินหรูหรา​ อยู่แพง​ ใช้เงินเกินตัว​
5.วันวันคุยกันแต่เรื่องจะเอาเงินตรงไหนมาใช้ทางนี้​ หรือจะไม่จ่ายดีไม่พอ
6.ขาดความรัก​ มั่วแต่จะหาความรักตอนอายุ59(โดนหลอกเงินตลอดที่ผ่านมาน่าสงสาร)​
7.ค้าขายมานานดูภายนอกน่าจะรวย​ แต่ไม่มีเงินสดติดบัญชี​ มีไม่ถึง50, 000​ เวลาเดือดร้อนใช้เงินด่วนก็หายืมใหม่
8.บวกลบไม่เกิน2ปี/ล้มละลาย​

**ความพยายามของเราที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ และท้าทายตัวเองอยากจะพัฒนาคนให้ดีขึ้น​​ พูดและพยายามทำให้เค้าเห็น​ แต่กับไม่ได้ผล



... เราเริ่มปฏิบัติ​กับตัวเองใหม่....
1.เงินเดือน8000 กินอยู่บ้านเค้าฟรีทุกอย่าง(ตามที่ตกลงกันทำงานเกินเงินตลอดทำด้วยใจไม่ใช้สมอง)​
1.1 เราเล่นแชร์กับเค้า2มือ4000ลงทุนไว้เปียออกมาก80, 000ประมาน/2ปี
1.2 ฝากธนาคารแบบประจำเดือนละ2000
1.3 บริจาคเงินทุกเดือนเดือนละ500การศึกษาเด็กที่ด้อยโอกาส
1.4 ให้คนดูแลเรา1000ค่าขนม
1.5​ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว300
1.6 เล่นหวยเพื่อเข้าสังคมแม่บ้าน200
1.7 เราเปลี่ยนตัวเองใช้ถุงผ้า​ ใส่เสื้อยืดไม่ซื้อใหม่​ เอาสูทหรือกระเป๋าแบรน นาฬิกา​ขายออกไปเพราะไม่จำเป็น
2ปีที่ขายข้าวแกงเงินเดือน8000มีเงินเก็บเป็นแสน(จาก8000อย่างเดียวไม่เอาตรงอื่นมาบวกเลยนะ.... สาบาน)​

🥰🥰ต้องขอบคุณความผ่านเลยนะ🥰🥰

😁😁เอ้ะเราทำได้นิ​ ตอนนี้ที่ได้คือพัฒนาตัวเองให้เป็นมนุษย์มากขึ้น​ มีความรู้สึกรักเสียใจเป็น หวังดี​ เราไม่สามารถสอนใครได้แต่เราสอนให้เราเป็นคนดีมากขึ้น


...... ข้อคิดที่เคยทำมากับเจ้าของบริษัท.....
1.เค้าสอนเรื่องเพิ่มการศึกษาตลอด​ ส่งไปเรียนเสริมทักษะ​ eq/iq/sq/rqมันช่วยเราได้ในช่วงที่เราแย่มันจะมีความคิดดีและการตัดสินใจที่ใช้เหตุผล
2.สร้างนิสัยการเก็บเงิน​ คอนโดก็ได้มาจากพี่เค้านั้นละ​ กู้ยืมแล้วหักจากเงินเดือน(พี่เค้าบอกว่าผ่อนให้เป็นของเรา​ เราไม่อยู่ก็ปล่อยเช่า)​
3.การลงทุนกับหุ้น​กองทุน​ตราสาร​หนี้​ฝากประจำ​ซื้อสลาก​ออมสินธกส
(ส่วนใหญ่เราทำแค่ลงทุนกับทองสลากเราชอบความชัวร์​มากกว่า)​
4.มีสเต็ปกระจายความเสี่ยง1234ตลอด

.... ความคิดมันสอนกันไม่ได้จริงจริง​ แต่ความคิดสามารถบอกได้ว่าใครจะรวยใครจะจน​ ... และที่สำคัญคิดได้ตอนอายุเท่าไรและเริ่มตอนไหน(ตอนนี้เราย่าง36ละเริ่มทั้งจิตใจและร่างกาย)​
฿฿ตั้งเป้าหมาย฿฿
-ออกจากคุณน้าเดือนกรกฏาจะช่วยเค้าให้ดีที่สุด
-จะออกไปทำธุระกิจค้าขายเปิดร้านเองที่ต่างจังหวัด
-จะพาคนที่รักเราดูแลเราไปเที่ยวทดแทนเวลาที่เสียไป
-ส่วนเรื่องเงินเราว่าเราสามารถบริหารการจัดการที่ดีอยู่แล้ว


ปล.... เรามีเวลาแค่สิ้นเดือนกรกฏา

ข้อดีที่สุดในการมาที่นี้อีกหนึ่งอย่างคือ​ ได้เจอคนที่ทำให้เราหยุดหายใจพร้อมหัวใจเต้นแรงมากเวลาเค้ามาอยู่ใกล้
เค้าถึงได้บอกกันว่า​ อยู่ไกลขนาดไหนก็ต้องเจอกันอยู่ดี​ ถ้าได้ทำบุญร่วมกันมา ... ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาถ้าใช่ก็ใช่ถ้าไม่ใช่เราจะจากกันอยู่แล้วก็ต้องไกลกัน..

(เพราะเรามองหาคนที่รักเราที่ใจ​"ไม่ใช่" ด้วยเงิน ส่วนใหญ่พอรู้ว่าเราขายข้าวแกงเดือนละ8000 ใส่เสื้อเก่า​ ใช้ถุงผ้า​ก็มีแต่คนเดินหนีห่าง/ผิดกับเมื่อก่อนแต่งตัวดีมีเงินมีแต่คนเข้าหา)​
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่