-เราตั้งท้องลูกคนแรกประมาณ ธ.ค. 2555 ซึ่งต้องบอกว่า พอปล่อยโดยไม่คุมกำเนิดใดๆ แล้ว ลูกก็มาในเดือนนั้นเลย คือ มีลูกง่ายมาก ไม่ยากเลย (ทั้งๆ ที่ ตอนไปฝากครรภ์นั้น หมอตรวจพบถุงน้ำชอคโกแลตซีสต์ พอผ่าคลอดลูก หมอก็จัดการถุงน้ำออกให้ด้วยในคราเดียวกัน)

-พอปี 2558 ตัดสินใจปล่อย ไม่คุมกำเนิด อีกครั้ง เพราะพร้อมและอยากจะมีลูกอีก 1 คน แต่จนปี 2560 ก็ไม่สำเร็จ เริ่มนึกถึงว่า อาจจะมีถุงน้ำฯ กลับมาอีกหรือไม่ จึงทำให้ไม่ท้องสักที (สำหรับตัวเรา ถุงน้ำฯ ไม่เคยทำให้เจ็บปวดใดๆ เลย และตลอดชีวิตการมีประจำเดือนของเรา ก็ไม่เคยสร้างความเจ็บปวดเช่นกัน ประจำเดือนเราค่อนข้างตรง รอบเดือนอยู่ในช่วง 26-28 วัน) จึงไปเข้ารับการตรวจเพื่อรักษา และก็มีปัญหาถุงน้ำที่รังไข่ จริงๆ ข้างซ้ายขนาด 6 ซม. ข้างขวา 2 ซม. และได้รับการผ่าตัดออกในปีนั้นเลย

-หลังผ่าตัด 6 เดือน คาดว่าร่างกายพร้อมแล้ว จึงเริ่มปฏิบัติการเพื่อมีน้องอีกครั้ง จนกระทั่งผ่านไปอีกประมาณ 2 ปี ก็ยังไม่สมหวัง ในต้นปี 2563 จึงตัดสินใจจะไปพบหมอปรึกษาเรื่องมีบุตรยาก ล่ะค่ะ คิดว่าไม่ไหวด้วยตัวเองแล้ว แต่มาติดปัญหาโควิด-19 จึงเลื่อนออกไป เลื่อนหลายรอบเลย เพราะโควิด-19 นี่ล่ะค่ะ ระหว่างนี้ก็สร้างกำลังใจให้ตัวเอง พยายามสู้กันอีกครั้งเผื่อจะมี แต่ก็แห้วค่ะ

            นับระยะเวลารวมๆ ก็ราวๆ 6 ปีแล้วที่ได้พยายาม จึงตัดสินใจค่ะ ช่วงอาทิตย์นี้เลย (แม้โควิดยังอยู่ แต่เหมือนชาชินและไม่ตระหนกเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี ก็ยังมีวินัยและใส่ใจการป้องกันโรคฯ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข)  

***วันที่ 9 มีนาคม 64 เข้าพบหมอเพื่อปรึกษาปัญหาการมีบุตรยาก ครั้งแรก ที่ รพ.รามาธิบดี ค่ะ คุณหมอให้เล่าเกี่ยวกับพฤติกรรมในการสร้างลูกน้อย 555 ก็เล่าให้หมอฟังไปเยอะเลย ด้วยความหวังว่าจะเป็นข้อมูลให้หมอหาทางช่วยให้สมหวัง หมอดูประวัติคนไข้ พบการผ่าตัดคลอด พบการผ่าตัดถุงน้ำฯ และทำการอัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอด หมอแจ้งว่า มดลูกยังสมบูรณ์และดี พบไข่ 3 ใบ (ข้างซ้าย 1 ข้างขวา 2) ยังไม่พบปัญหาอื่น 
หมอได้เริ่มต้นการรักษาในครั้งนี้ด้วยการ
-เจาะเลือดเราและสามี เพื่อตรวจอย่างละเอียด (อะไรบ้างนั้น ไม่รู้เลยค่ะ)
-นัดฉีดสีเข้าโพรงมดลูก เพื่อดูปัญหาท่อนำไข่ (วันที่ 11 มี.ค. 64 ซึ่งคือวันนี้ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่ก่อนจะผ่านไปนั้น วิตกมากมายด้วยความกลัวเจ็บปวด เพราะอ่านข้อมูลในเน็ตเจอหลายคนบอกปวดมาก แต่พอเจอเข้ากับตัว .....ไม่เจ็บอ่ะค่ะ ไม่เจ็บเลย แค่หน่วงๆ ตอนใส่อุปกรณ์ในการฉีดสีแค่นั้น ดีใจๆๆ เครื่องมือคงดี และหมอฉีดสีเก่ง เราจึงรอด 55.....
-นัดเก็บน้ำเชื้อของสามี 

วันที่ 23 มีนาคม 64 หมอนัดฟัง ผลเลือด/ ผลฉีดสี /และผลน้ำเชื้อ ค่ะ เดี๋ยวอย่างไรจะมาอัพเดทให้ฟังต่อนะคะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ต้องรักษาอย่างไรต่อไป

มาเล่าให้ฟัง เผื่อเป็นข้อมูลให้หลายๆ คน ที่ไม่สามารถมีลูกได้ด้วยวิธีธรรมชาติค่ะ
มาร่วมเดินทางและเป็นกำลังใจให้กันนะคะ สู้ๆ ค่ะ

ปล.1 ปัจจุบัน เราจะอายุ 40 ปี ในเดือนเมษายน 2564 นี้แล้วค่ะ ส่วนสามีอายุ 43 ปี ค่ะ
ปล.2 ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นนี้ ตอนนี้ จ่ายไป 8,580 บาท  แล้วค่ะ (ค่าพบหมอ /ค่าเจาะเลือด 2 คน /ค่าฉีดสีเข้าโพรงมดลูก)