ไม่กล้ามีแฟนหรือคนรักเพราะ "จน" และคิดว่าคงทำให้เค้ามีความสุขได้ เลือกที่จะไม่มีดีกว่า

มีใครเคยคิดแบบนี้บ้างไหมนะ  ?? คือพื้นฐานไม่ใช่คนจนแต่คือครอบครัวฐานะปานกลาง แต่ตัวเราเองเนี่ยแหละที่ทำและสร้างชีวิตเรามาแบบนี้  จะย้อนกลับไปแก้ไขก็ยากแล้ว   สำหรับเราคิดว่าเรา "จน"  พี่น้องมีฐานะแต่เราไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร   และที่สำคัญไม่มีใครเต็มใจจะช่วยเหลือสักเท่าไหร่ เราก็ไม่ค่อยจะยุ่งกับพี่น้องนะ  ถึงแม้เค้าจะ "รวย" และ "มี"  ไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกัน   เรามีน้อยเราก็ใช้น้อย  

แต่บางทีเราก็ "เหงา" แต่ไม่กล้าจะไปบอกชอบใครหรือไปจีบใครหรอก    หน้าตาก็ปกติไม่ได้ขี้เหร่อะไร   แต่เราก็ไม่คิดจะจีบใครมาเป็นแฟน   ถึงแม้จะให้มาแค่คบกันไปเรื่อย ๆ ก็ตาม   ถึงแม้แฟนจะไม่ได้อยากได้อะไรหรืออยากไปไหนอะไร   เพราะเค้าเองก็มี  "ประเด็นนี้ก็สำคัญ   แฟนมีเงินมากกว่าผมไม่คิดจะไปคบ"  

ถามว่าความ "เหงา" ทำลายตัวเราไหม ไม่นะ  ก็ปกติดี  มีชีวิต  กิน นอน  ทำหน้าที่ลูกที่ดีของแม่  ตรงจุดนี้ก็เหมือนกัน  "เราอยากทำให้แม่ได้กิน  ได้นอน ได้เที่ยว ได้อะไรที่มันดีกว่าปัจจุบัน"  แต่เราก็ทำได้แค่เพียง   พาไปหาหมอ   ซื้อของเข้าบ้าน  คุยเล่นกัน  แต่เราก็ไม่สามาาถทำได้มากกว่านี้  

เวลาเห็นคนอื่นเค้ามีแฟน  บางทีก็นะ  แค่มองแล้วก็หันไปทางอื่น  ไปไหนมาไหน  คนเดียว  เป็นเรื่องปกติแล้วละ 

กับญาติเราก็เป็นนะ   บางทีนัดเจอกันวันรวมญาติ  แล้วเราจะเลือกจอดรถไกล ๆ  เพราะไม่อยากให้เค้าเห็นสภาพรถเรา  เวลาจะลาจากกันเค้าจะถามว่าจอดรถไว้ตรงไหน   เราก็บอกจอดอยู่ไกลเดี๋ยวแยกย้ายแล้วเดินไป   พอส่งเค้าขึ้นรถหมดแล้วเราค่อยเดินไปที่รถเรา   บางทีก็แอบร้องไห้เหมือนกันนนะ

เพราะตัวเราเองที่ทำให้ชีวิตเราเป็นแบบนี้    ก็ต้องอยู่แบบนี้แหละ  หารายได้พอใช้ได้เพื่อประทังชีวิตไปเรื่อยๆ  จนกว่าจะเกิดอะไรกับชีวิตเรา  

เราเคยคิดนะว่า "เราไม่น่าเกิดมาเป็นลูกแม่เลยจริง ๆ   "  ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง   อยากอยู่ในมุมมืดที่อยู่คนเดียว ไม่ต้องพบเจอคนหรือใคร
รู้สึกเหงา  อาย  ว้าเหว่   และหดหู่นะ   

บางทีเจอเพื่อนที่ "รวย"  เราก็จะทำไม่ทักนะ   เพราะเราอาย   

บางทีเจอคนหน้าตาดียิ้มให้เราจะแกล้งทำไม่สนใจนะ   เพราะเราคิดเสมอว่า   "เราไม่ควรรู้จักเค้า"  

ในชีวิตเรา  เคย "แอบรัก"  มามากมาย  แต่สุดท้ายก็กลับบ้านไปเฉย ๆ  และคิดเสมอว่าเราทำให้คนอื่นมีความสุขไม่ได้หรอก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อยากจะพูดเรื่องนี้มานานแล้วครับ

ผมคนอิสาน เป็นลูกชาวนา ชีวิตอยู่กับท้องทุ่ง วัวควาย
จนจบ ม. 6 ออกไปเผชิญโลก พอเราอ่านหนังสือ
ศึกษาวิชาความเรื่องการประสบผลสำเร็จ ผมเลิกฟังเพลงลูกทุ่ง หันไปฟังเพลงฝรั่งแทน

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ????

เพลงลูกทุ่งในอดีต มีแต่ลำพึงรำพัน ถึงความจน ความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่เป็นลูกชาวนาเกิดมาจน
คนอิสานในอดีต จึงเป็นแค่ลูกจ้าง

จิตวิทยาของความสำเร็จ
เกิดมาจนเป็นเรื่องไม่ผิด แต่ตายไปเพราะควาจน เป็นเรื่องที่ผิด เพราะไม่ดิ้นรนแสวงหา

แจ๊คหม่า ก็เกิดมาจน แต่เขาไม่จมปลักกับความจน เขาจึงดิ้นรนแสวง

ลองฟังเพลงนี้สิ

เพลง: ของหมั้นเป็นของขวัญ
ศิลปิน: ไผ่ พงศธร

สร้อยทองเส้นนี้เก็บเงินสามปีจึงได้ ซื้อมาเก็บไว้เพื่อเป็นของหมั้นผู้สาว
ฮอดวันสัญญาลางานกลับมาบ้านเฮา น้ำตาพังหย่าว ฮู้ข่าวว่าน้องแต่งงาน...

หัวใจสะท้านอ้ายมาบ่ทันใจเจ้า สัญญาฮักเฮาจบตอนน้องเข้าพาขวัญ
อ้ายกลืนน้ำตาเข้ามาเป็นแขกช่วยงาน สร้อยที่เตรียมหมั้นห่อมาเป็นของขวัญแทนใจ

คำถามคือ ทำไมสาวเจ้าไม่รอ อุตส่าไปทำงานกรุงเทพฯ หาเงินซื้อทองหมั้นตั้งหนึ่งบาท มาหมั้นสาว

ฟังผิวเผิญ ก็เพราะดี รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับความจน ผิดหวัง อกหัก

แต่ลองคิดดีๆ

เก็บเงินซื้อทอง 1 บาท สมมติตอนนั้น ราคาทอง 20000.- บาท

หนุ่มคนนี้ เก็บเงินซื้อทองหนึ่งบาท 3 ปี = 36 เดือน
20000 หาร 36 = 555.- บาท เท่ากับเขาเก็บเงินได้ เดือนละ 500 กว่าบาทเอง

สาวที่ไหนจะไปรอ จริงมั้ย ดูไม่มีอนาคตเอาเสียเลย
ลางานมา แถมยังจะไปทำงานเป็นลูกจ้าต่ออีก อนาคตมืดมน

ผมเป้นอิสาน วุฒิแค่ ม.6 ไปทำงานกรุงเทพฯ
10 ปี กลับบ้านมา ในฐานะเจ้าของบริษัทคนหนึ่ง

อย่าไปหมกมุ่นกับความจน แต่ โฟกัสที่เป้าหมายชีวิต

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่