เนื่องด้วยตอนที่แล้ว เราได้เก็บบรรยากาศทริปคิวชู 5 วันมาฝากเพื่อนๆกัน แล้วรู้สีกได้ว่าทุกท่านคิดถึงญี่ปุ่นกันมากๆ
เราเลยอยากนำบรรยากาศจังหวัดที่เหลือมาแชร์ให้ดูกันอีก ให้หายคิดถึงกันไปอีกสักพัก พร้อมเตรียมตัวจะเดินทางกันอีกครั้ง
ทริปนี้เราจะเดินทางจากจังหวัดฟุกุโอกะ ไปซากะ นางาซากิ และคาโกชิมะ โดยการเช่ารถขับกันเอง และรถไฟชินคันเซ็น เป็นเวลาประมาณ 5 วันอีกเช่นเคย
ตามแผนดังนี้
วันที่ 1 ฟุกุโอกะ - ตลาดเช้าโยบุโกะ - แหลมฮาโดะ - คาเฟ่ Gallary Arita
วันที่ 2 ศาลเจ้ายูโตะคุอินาริ - ฮิเซนยะ - แวะทานBBQ ซีฟู๊ด - เก็บสตรอเบอร์รี่ - เข้าเมืองนางาซากิ
วันที่ 3 เดินเที่ยวอุนเซ็นจิโกะคุ - เมืองปลาคาร์ฟ - ข้ามเรือเฟอรี่ - พักที่เมืองคุมาโมโตะ
วันที่ 4 นั่งชินคันเซ็นลงไป คาโกชิมะ - นั่งรถไฟอิบุตามะ เที่ยวอิบุซุกิ
วันที่ 5 กลับเที่ยวในเมืองคาโกชิมะ - สวนเซ็นกันเอน - กินชิโระคุมะ - กลับฟุกุโอกะ
มาเริ่มกันเลย
วันที่ 1
ตลาดเช้าโยบุโกะ (Yobuko Morning Market)
ที่แรกที่เราจะพาทุกคนไปเลยก็คือตลาดเช้าโยบุโกะ เป็นตลาดเก่าแก่มากๆ มีมาตั้งกว่า 130 ปีแล้ว ที่นี่เป็นตลาดขายอาหารทะเลตอนเช้าที่เหลือไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่นแล้ว อาหารขึ้นชื่อที่ร้านค้าทุกแผงจะต้องของเลยก็คือปลาหมึกนั่นเองค่ะ นอกจากปลาหมึกแล้ว ยังมีคุณป้า คุณยายตั้งร้านขายของดอง ร้านผัก ผลไม้ เมื่อเราเดินผ่านก็ส่งยิ้มให้ น่ารักมากๆ ครั้งนี้อาจจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยหรือป่าว มีร้านเปิดน้อยมากๆ
หากใครวางแผนจะมาเดินเที่ยวเนี่ยอาจจะต้องวางแผนดีๆ นะคะ เพราะเขาปิดตอนเที่ยงค่ะ
พิกัดตาม Google map:
https://goo.gl/maps/cFMRmQVi4jkxRoNJ6
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07:00 – 12:00
เดินออกมากอีกนิดนึง จากตรงซอยตลาดเช้า จะเจอร้านเซมเบ้ปลาหมึกยักษ์ มันใหญ่มากๆ ได้หมึกทั้งตัวเลย คุณลุงเขาทำกันใหม่ๆเลย เพื่อให้ได้เซมเบ้กรอบๆ หอมๆ ค่าเสียหายต่อ 1 แผ่นใหญ่ก็ 650 เยนค่ะ หลังจากที่เอาออกจากเตาแล้วเนี่ยคุณลุงจะพรมโชยุ เพิ่มรสชาติให้ด้วยค่ะ ดีย์งามมากๆ
พิกัดตาม Google map:
https://goo.gl/maps/4aeWJaG2XD32t8UZ8
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 15:00
แหลมฮาโดะ (Hadomisaki)
แหลมฮาโดะ หรือ ฮาโดะมิซะกิ ที่นี่เขาเรียกกันว่า ดินแดนแห่งคู่รัก เพราะที่แหลมนี้จะมีรูปปั้นรูปหัวใจสีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมหาด เป็น Lovers' sanctuary ส่วนมากคู่รักจะมาถ่ายรูปกันที่นี่แล้วก็ขอพรให้ความรักเป็นไปอย่างราบรื่น
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/GUTFhcJGGArXcZGy8
แกลลอรี่อาริตะ (Gallery Arita)
สายคาเฟ่ ต้องไม่พลาดที่นี่ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ซากะเนี่ยเขาดังเรื่องงานเซรามิคมากๆ โดยเฉพาะเครื่องเคลือบอาริตะ (Arita Porcelain)
ที่แกลลอรี่อาริตะแห่งนี้เนี่ยเป็นคาเฟ่และร้านอาหารน่ารักๆ ที่ตกแต่งทั้งร้านด้วยถ้วยเซรามิคอาริตะกว่า 2,000 ชิ้น ความพิเศษของร้านนี้ คือเมื่อเราสั่งเครื่องดื่มไปแล้วเนี่ย เราจะสามารถเลือกถ้วยกาแฟที่อยู่ในร้านสำหรับเครื่องดื่มเราได้ด้วย อยากดื่มกาแฟจากถ้วยใบไหนก็หยิบได้เลย
นอกจากนั้นที่ร้านยังขายเซรามิคอาริตะในคาเฟ่ด้วยนะคะ ส่วนราคาอาหารและเครื่องดื่มต่อคนก็ประมาณ 1,500 เยนค่ะ
แม้ห้องน้ำยังตกแต่งเป็นเซรามิคอาริตะเลย
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/k261MkgaSZBonPE66
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 19:00
วันที่ 2
เช้าวันที่ 2 ฝนลงเล็กน้อย อากาศทรึมๆ เทาๆ มาก แต่ไปต่อค่ะ
ศาลเจ้ายูโตะคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine)
ศาลเจ้ายูโตะคุอินาริ 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 300 ปี ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาขอพรด้านหน้าที่การงานและธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเครื่องรางที่ศาลเจ้าแห่งนี้คือ ม้าค่ะ เพราะคำว่าม้า (うま) ในภาษาญี่ปุ่นพ้องเสียง เล่นคำได้กับคำว่า ทำให้ราบรื่น เป็นไปได้ด้วยดี (うまくいく) เครื่องรางเกือบทุกชิ้นเลยมีรูปม้าตกแต่งอยู่บนตัวเครื่องรางค่ะ
ด้านหน้าศาลเจ้า จะมีตลาดขายของกินและของฝากมากมายเลยค่ะ หากเดินไปจนสุดตลาดจะเจอกับถนนเส้นยาวที่มีต้นซากุระสองข้างทาง จุดนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมสำหรับการชมซากุระด้วยนะคะ
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/VmNmcY3ggjBYSsBy6
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวัน
ถนนโรงกลั่นสาเก (Hizen Hamashuku)
ถนนเส้นนี้ มีโรงงานผลิตสาเกที่มีมาตั้งแต่โบราณแล้วตั้งอยู่ตลอดถนนเส้นนี้เลยค่ะ เรามาแวะ
ร้านฮิเซ็นยะ (Hizen-ya) ซึ่งอยู่หัวถนนเลย เพราะได้ยินว่าสามารถชิมผลิตภัณฑ์ของทางร้านได้เกือบทุกชนิด ไหนๆจะซื้อแล้วก็ต้องชิมก่อน เข้ามาในร้านก็เห็นป้ายภาษาไทยว่า "เหล้าบ๊วย เป็นที่นิยม"
จึงต้องลองกันหน่อย คุยไปคุยมา เจ้าของร้านก็บอกว่า ผลิตภัณฑ์ของทางร้านเนี่ย มีส่งออกไปขายที่ไทยด้วยนะคะ ไม่ธรรมดาจริงๆ หาได้ตามร้านอิซากะยะในไทยเลย
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/YvVS3mhynzLEvk1y9
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00
ปิดท้ายจังหวัดซากะ ด้วยการทานBBQ ซีฟู๊ด ที่
ร้าน Takesaki Kaisan
ในหน้าหนาวเราสามารถลิ้มลองหอยนางรมสดๆ ตัวใหญ่ๆ ได้ที่เมืองทาระเลย ทานเข้าไปแล้วรู้สึกว่ามันสดและหวานมากจริงๆ ราคาต่อคนแบบกินอิ่มเต็มที่ก็ตกคนละประมาณ 2,000 – 3,000 เยนค่ะ เมนูที่แนะนำเลยก็คือหอยนางรม และปูทาเคซากิ ที่ลักษณะคล้ายๆปูม้าบ้านเรา
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/aqeKEkWCNwaGHeTLA
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:30 – 17:00
ต่อไปขับรถไปเรื่อยเข้าจังหวัดนางาซากิแล้ว
เก็บสตรอเบอรี่ แล้วเราไดฟุกุสดๆ ที่
โอมุระดรีมฟาร์ม ชุชุ (Omura Dream Farm SHU SHU)
ที่ฟาร์มนี้ไม่เพียงแต่เราจะได้เก็บสตรอเบอรี่กินกันแบบสดๆแล้ว เรายังสามารถทำกิจกรรมทำไดฟุกุยัดไส้สตรอเบอรี่สดๆที่เราเก็บมาจากฟาร์มได้ด้วย
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/53nxtPpWWMPzJY4V7
เวลาเปิด – ปิด: โซนร้านค้าด้านหน้า เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00
สวนสตรอเบอรี่ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 16:00
ค่าใช้เก็บสตรอเบอรี่: 1500 เยนต่อคน ทานได้ไม่อั้น 40 นาที
ค่าทำกิจกรรมไดฟุกุ: 1300 เยนต่อคน ได้ไดฟุกุ 4 ชิ้นและชูครีม 1 ชิ้น
เข้าเมืองนางาซากิ
สะพานแว่นตา (Meganebashi Bridge)
ที่นี่เป็น แลนมาร์กแสนโรแมนติกในเมืองนางาซากิ สะพานแห่งนี้เป็นสะพานหินแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของสะพานแห่งนี้คือเวลาเมื่อตัวสะพานสะท้อนกับผิวน้ำจะเกิดภาพสะท้อนขึ้นมาจนเป็นรูปของแว่นตาทรงกลมนั่นเองค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถไปตามหาหินรูปหัวใจที่ถูกซ่อนไว้ บริเวณสะพานหินแห่งนี้ด้วยนะคะ
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/53nxtPpWWMPzJY4V7
เกาะเดจิมะ (Dejima)
เกาะเดจิมะ คือพื้นที่หนึ่งเดียวที่ทางการกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติชาวโปรตุเกสและฮอลันดา มาติดต่อซื้อขายสินค้ากับประเทศญี่ปุ่นในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ
ปัจจุบันถึงแม้ว่า เดจิมะจะไม่ได้เป็นเกาะแล้ว แต่พื้นที่ดั้งเดิมที่เป็นเขตซื้อขายแลกเปลี่ยนก็ยังคงได้รับการรักษาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นได้ชมกันค่ะ
พิกัดบน Google map:
https://goo.gl/maps/tnNTevEpzqF5QnVw5
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 – 18:00
ค่าเข้าชม: 520 เยน
ฟ้ามืดแล้ว เราไปขึ้น Ropeway ขึ้นเขาไป
จุดชมวิวอินะซายามะ (Inasayama Observatory)
วิวกลางคืนของเมืองนางาซากิที่ขึ้นชื่อมากๆถึงขนาดติด 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในโลกเลย ควบคู่กับฮ่องกงและโมนาโก จากจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นวิวจังหวัดนางาซากิได้แบบ 360 องศาเลย เนื่องจากเมืองนางาซากิ มีภูมิประเทศเป็นเขา เราจึงเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามจากแสงไฟของบ้านเรือนที่ส่องประกายระยิบระยับ เหมือนกันดาวท้องฟ้า ดังนั้นจึงได้เกิดมีโปรเจ็คใหม่ จัดงานดูหมู่ดาวบนดิน ทำส่องไฟเป็นรูปหมู่ดาว และรูปหัวใจด้วย
ใครอยากถ่ายรูปสวยๆอย่าลืมขาตั้งกล้องกันนะจ๊ะ
พิกัดบน Google map ทางขึ้น Ropeway :
https://goo.gl/maps/pfowR5qa7NbtyU3L9
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 22:00
เดี๋ยวกลับมาต่อวันที่ 3 ที่ความเห็นข้างล่างต่อนะคะ
โปรดเก็บข้อมูลไว้ในใจ หมดวิกฤต แล้วเตรียมตัวไปเที่ยวกัน...
--------------------------
แล้วพบกันใหม่ กับเส้นทางการท่องเที่ยวในคิวชู
ติดตามกระทู้อื่นๆ
สำหรับคนที่คิดถึงญี่ปุ่น นำบรรยากาศทริปคิวชู 5 วันมาฝาก
https://ppantip.com/topic/40515512
สำหรับคนที่คิดถึงญี่ปุ่น (2) นำบรรยากาศทริปคิวชูมาฝาก เยือนถิ่นซากะ นางาซากิ คาโกชิมะ
เราเลยอยากนำบรรยากาศจังหวัดที่เหลือมาแชร์ให้ดูกันอีก ให้หายคิดถึงกันไปอีกสักพัก พร้อมเตรียมตัวจะเดินทางกันอีกครั้ง
ทริปนี้เราจะเดินทางจากจังหวัดฟุกุโอกะ ไปซากะ นางาซากิ และคาโกชิมะ โดยการเช่ารถขับกันเอง และรถไฟชินคันเซ็น เป็นเวลาประมาณ 5 วันอีกเช่นเคย
ตามแผนดังนี้
วันที่ 1 ฟุกุโอกะ - ตลาดเช้าโยบุโกะ - แหลมฮาโดะ - คาเฟ่ Gallary Arita
วันที่ 2 ศาลเจ้ายูโตะคุอินาริ - ฮิเซนยะ - แวะทานBBQ ซีฟู๊ด - เก็บสตรอเบอร์รี่ - เข้าเมืองนางาซากิ
วันที่ 3 เดินเที่ยวอุนเซ็นจิโกะคุ - เมืองปลาคาร์ฟ - ข้ามเรือเฟอรี่ - พักที่เมืองคุมาโมโตะ
วันที่ 4 นั่งชินคันเซ็นลงไป คาโกชิมะ - นั่งรถไฟอิบุตามะ เที่ยวอิบุซุกิ
วันที่ 5 กลับเที่ยวในเมืองคาโกชิมะ - สวนเซ็นกันเอน - กินชิโระคุมะ - กลับฟุกุโอกะ
มาเริ่มกันเลย
วันที่ 1
ตลาดเช้าโยบุโกะ (Yobuko Morning Market)
ที่แรกที่เราจะพาทุกคนไปเลยก็คือตลาดเช้าโยบุโกะ เป็นตลาดเก่าแก่มากๆ มีมาตั้งกว่า 130 ปีแล้ว ที่นี่เป็นตลาดขายอาหารทะเลตอนเช้าที่เหลือไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่นแล้ว อาหารขึ้นชื่อที่ร้านค้าทุกแผงจะต้องของเลยก็คือปลาหมึกนั่นเองค่ะ นอกจากปลาหมึกแล้ว ยังมีคุณป้า คุณยายตั้งร้านขายของดอง ร้านผัก ผลไม้ เมื่อเราเดินผ่านก็ส่งยิ้มให้ น่ารักมากๆ ครั้งนี้อาจจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยหรือป่าว มีร้านเปิดน้อยมากๆ
หากใครวางแผนจะมาเดินเที่ยวเนี่ยอาจจะต้องวางแผนดีๆ นะคะ เพราะเขาปิดตอนเที่ยงค่ะ
พิกัดตาม Google map: https://goo.gl/maps/cFMRmQVi4jkxRoNJ6
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07:00 – 12:00
เดินออกมากอีกนิดนึง จากตรงซอยตลาดเช้า จะเจอร้านเซมเบ้ปลาหมึกยักษ์ มันใหญ่มากๆ ได้หมึกทั้งตัวเลย คุณลุงเขาทำกันใหม่ๆเลย เพื่อให้ได้เซมเบ้กรอบๆ หอมๆ ค่าเสียหายต่อ 1 แผ่นใหญ่ก็ 650 เยนค่ะ หลังจากที่เอาออกจากเตาแล้วเนี่ยคุณลุงจะพรมโชยุ เพิ่มรสชาติให้ด้วยค่ะ ดีย์งามมากๆ
พิกัดตาม Google map: https://goo.gl/maps/4aeWJaG2XD32t8UZ8
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 15:00
แหลมฮาโดะ (Hadomisaki)
แหลมฮาโดะ หรือ ฮาโดะมิซะกิ ที่นี่เขาเรียกกันว่า ดินแดนแห่งคู่รัก เพราะที่แหลมนี้จะมีรูปปั้นรูปหัวใจสีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมหาด เป็น Lovers' sanctuary ส่วนมากคู่รักจะมาถ่ายรูปกันที่นี่แล้วก็ขอพรให้ความรักเป็นไปอย่างราบรื่น
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/GUTFhcJGGArXcZGy8
แกลลอรี่อาริตะ (Gallery Arita)
สายคาเฟ่ ต้องไม่พลาดที่นี่ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ซากะเนี่ยเขาดังเรื่องงานเซรามิคมากๆ โดยเฉพาะเครื่องเคลือบอาริตะ (Arita Porcelain)
ที่แกลลอรี่อาริตะแห่งนี้เนี่ยเป็นคาเฟ่และร้านอาหารน่ารักๆ ที่ตกแต่งทั้งร้านด้วยถ้วยเซรามิคอาริตะกว่า 2,000 ชิ้น ความพิเศษของร้านนี้ คือเมื่อเราสั่งเครื่องดื่มไปแล้วเนี่ย เราจะสามารถเลือกถ้วยกาแฟที่อยู่ในร้านสำหรับเครื่องดื่มเราได้ด้วย อยากดื่มกาแฟจากถ้วยใบไหนก็หยิบได้เลย
นอกจากนั้นที่ร้านยังขายเซรามิคอาริตะในคาเฟ่ด้วยนะคะ ส่วนราคาอาหารและเครื่องดื่มต่อคนก็ประมาณ 1,500 เยนค่ะ
แม้ห้องน้ำยังตกแต่งเป็นเซรามิคอาริตะเลย
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/k261MkgaSZBonPE66
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 19:00
วันที่ 2
เช้าวันที่ 2 ฝนลงเล็กน้อย อากาศทรึมๆ เทาๆ มาก แต่ไปต่อค่ะ
ศาลเจ้ายูโตะคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine)
ศาลเจ้ายูโตะคุอินาริ 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 300 ปี ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาขอพรด้านหน้าที่การงานและธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเครื่องรางที่ศาลเจ้าแห่งนี้คือ ม้าค่ะ เพราะคำว่าม้า (うま) ในภาษาญี่ปุ่นพ้องเสียง เล่นคำได้กับคำว่า ทำให้ราบรื่น เป็นไปได้ด้วยดี (うまくいく) เครื่องรางเกือบทุกชิ้นเลยมีรูปม้าตกแต่งอยู่บนตัวเครื่องรางค่ะ
ด้านหน้าศาลเจ้า จะมีตลาดขายของกินและของฝากมากมายเลยค่ะ หากเดินไปจนสุดตลาดจะเจอกับถนนเส้นยาวที่มีต้นซากุระสองข้างทาง จุดนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมสำหรับการชมซากุระด้วยนะคะ
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/VmNmcY3ggjBYSsBy6
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวัน
ถนนโรงกลั่นสาเก (Hizen Hamashuku)
ถนนเส้นนี้ มีโรงงานผลิตสาเกที่มีมาตั้งแต่โบราณแล้วตั้งอยู่ตลอดถนนเส้นนี้เลยค่ะ เรามาแวะร้านฮิเซ็นยะ (Hizen-ya) ซึ่งอยู่หัวถนนเลย เพราะได้ยินว่าสามารถชิมผลิตภัณฑ์ของทางร้านได้เกือบทุกชนิด ไหนๆจะซื้อแล้วก็ต้องชิมก่อน เข้ามาในร้านก็เห็นป้ายภาษาไทยว่า "เหล้าบ๊วย เป็นที่นิยม"
จึงต้องลองกันหน่อย คุยไปคุยมา เจ้าของร้านก็บอกว่า ผลิตภัณฑ์ของทางร้านเนี่ย มีส่งออกไปขายที่ไทยด้วยนะคะ ไม่ธรรมดาจริงๆ หาได้ตามร้านอิซากะยะในไทยเลย
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/YvVS3mhynzLEvk1y9
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00
ปิดท้ายจังหวัดซากะ ด้วยการทานBBQ ซีฟู๊ด ที่ร้าน Takesaki Kaisan
ในหน้าหนาวเราสามารถลิ้มลองหอยนางรมสดๆ ตัวใหญ่ๆ ได้ที่เมืองทาระเลย ทานเข้าไปแล้วรู้สึกว่ามันสดและหวานมากจริงๆ ราคาต่อคนแบบกินอิ่มเต็มที่ก็ตกคนละประมาณ 2,000 – 3,000 เยนค่ะ เมนูที่แนะนำเลยก็คือหอยนางรม และปูทาเคซากิ ที่ลักษณะคล้ายๆปูม้าบ้านเรา
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/aqeKEkWCNwaGHeTLA
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:30 – 17:00
ต่อไปขับรถไปเรื่อยเข้าจังหวัดนางาซากิแล้ว
เก็บสตรอเบอรี่ แล้วเราไดฟุกุสดๆ ที่โอมุระดรีมฟาร์ม ชุชุ (Omura Dream Farm SHU SHU)
ที่ฟาร์มนี้ไม่เพียงแต่เราจะได้เก็บสตรอเบอรี่กินกันแบบสดๆแล้ว เรายังสามารถทำกิจกรรมทำไดฟุกุยัดไส้สตรอเบอรี่สดๆที่เราเก็บมาจากฟาร์มได้ด้วย
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/53nxtPpWWMPzJY4V7
เวลาเปิด – ปิด: โซนร้านค้าด้านหน้า เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00
สวนสตรอเบอรี่ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 16:00
ค่าใช้เก็บสตรอเบอรี่: 1500 เยนต่อคน ทานได้ไม่อั้น 40 นาที
ค่าทำกิจกรรมไดฟุกุ: 1300 เยนต่อคน ได้ไดฟุกุ 4 ชิ้นและชูครีม 1 ชิ้น
เข้าเมืองนางาซากิ
สะพานแว่นตา (Meganebashi Bridge)
ที่นี่เป็น แลนมาร์กแสนโรแมนติกในเมืองนางาซากิ สะพานแห่งนี้เป็นสะพานหินแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของสะพานแห่งนี้คือเวลาเมื่อตัวสะพานสะท้อนกับผิวน้ำจะเกิดภาพสะท้อนขึ้นมาจนเป็นรูปของแว่นตาทรงกลมนั่นเองค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถไปตามหาหินรูปหัวใจที่ถูกซ่อนไว้ บริเวณสะพานหินแห่งนี้ด้วยนะคะ
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/53nxtPpWWMPzJY4V7
เกาะเดจิมะ (Dejima)
เกาะเดจิมะ คือพื้นที่หนึ่งเดียวที่ทางการกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติชาวโปรตุเกสและฮอลันดา มาติดต่อซื้อขายสินค้ากับประเทศญี่ปุ่นในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ
ปัจจุบันถึงแม้ว่า เดจิมะจะไม่ได้เป็นเกาะแล้ว แต่พื้นที่ดั้งเดิมที่เป็นเขตซื้อขายแลกเปลี่ยนก็ยังคงได้รับการรักษาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นได้ชมกันค่ะ
พิกัดบน Google map: https://goo.gl/maps/tnNTevEpzqF5QnVw5
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 – 18:00
ค่าเข้าชม: 520 เยน
ฟ้ามืดแล้ว เราไปขึ้น Ropeway ขึ้นเขาไปจุดชมวิวอินะซายามะ (Inasayama Observatory)
วิวกลางคืนของเมืองนางาซากิที่ขึ้นชื่อมากๆถึงขนาดติด 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในโลกเลย ควบคู่กับฮ่องกงและโมนาโก จากจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นวิวจังหวัดนางาซากิได้แบบ 360 องศาเลย เนื่องจากเมืองนางาซากิ มีภูมิประเทศเป็นเขา เราจึงเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามจากแสงไฟของบ้านเรือนที่ส่องประกายระยิบระยับ เหมือนกันดาวท้องฟ้า ดังนั้นจึงได้เกิดมีโปรเจ็คใหม่ จัดงานดูหมู่ดาวบนดิน ทำส่องไฟเป็นรูปหมู่ดาว และรูปหัวใจด้วย
ใครอยากถ่ายรูปสวยๆอย่าลืมขาตั้งกล้องกันนะจ๊ะ
พิกัดบน Google map ทางขึ้น Ropeway : https://goo.gl/maps/pfowR5qa7NbtyU3L9
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 22:00
โปรดเก็บข้อมูลไว้ในใจ หมดวิกฤต แล้วเตรียมตัวไปเที่ยวกัน...
--------------------------
แล้วพบกันใหม่ กับเส้นทางการท่องเที่ยวในคิวชู
ติดตามกระทู้อื่นๆ
สำหรับคนที่คิดถึงญี่ปุ่น นำบรรยากาศทริปคิวชู 5 วันมาฝาก https://ppantip.com/topic/40515512
--------------------------
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคิวชูได้ที่
FB : https://www.facebook.com/japan.discovery.thai/