ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนมากยิ่งเสียเวลา ชาติไม่เจริญ

ไม่ได้บอกว่ารู้ภาษาอังกฤษไม่ดีนะ มันดีในแง่ที่เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างที่เป็นประโยชน์จากการสื่อสารทำธุรกิจกับต่างชาติ แต่คิดว่ามันจะดีในกรณีที่เราสามาเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้โดยไม่ต้องใช้เวลากับมันมากจนเกินไป ลองคิดดูถ้าใครคนใดคนหนึ่งใช้เวลาในชีวิตกว่าครึ่งชีวิตหรือมากกว่านั้นทุมเทให้ภาษาอังกฤษ  เสียเงินไปมากเท่าไหร่ เสียเวลาไปมากแค่ไหน แทนที่จะเอาเวลาไปคิดค้นองค์ความรู้วิทยาการใหม่ๆที่จะไม่ได้มีการค้นพบในโลกใบนี้ นำพาชาติให้ก้าวไกลพัฒนาทัดเทียมต่างประเทศ

แต่ถามว่าถ้าไม่ทุ่มเทไม่ใช้เวลาเป็นไปได้มั้ยที่จะมีความสามารถมาไว้ในมือ มันก็ยาก จะทำได้ก็ต้องส่งไปเรียน ต่างประเทศแต่เด็ก ซึ่งก็เสี่ยงกับภาวะสมองไหล ความคิดทัศนคติเด็กไทยกลายเป็นแบบฝรั่งอีก

ในขณะที่ฝรั่งชาติที่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มันแทบไม่ต้องเรียนรู้อะไร เอาเวลาในชีวิตไปทำงานสาขาที่มันสนใจดีกว่า ก็แน่นอนว่าไปได้ไกลกว่าเยอะเลย เอาจริงๆบางครั้ง globalizationหรือโลกาภิวัฒน์ แบบที่ใช้ภาษาอังกฤษนี่มันก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือดูยังไงก็ทำให้ชาติด้อยพัฒนาต้องวิ่งตาม พวกฝรั่ง แถมยังถ่วงระยะห่างให้มันไกลออกไป

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
กระทู้นี้ทำให้ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมประเทศไทยเจริญช้า
ความคิดเห็นที่ 15
เรียนภาษาอังกฤษถ้าทุ่มเทจริงไม่ต้องใช้เวลาครึ่งชีวิตหรือทั้งชีวิตหรอกค่ะ ของเรา 10 เดือน ศัพท์, ไวยากรณ์เป๊ะ สามารถสอนได้ เลยเป็นติวเตอร์และก็ทำงานที่โรงเรียนนานาชาติอยู่ช่วงหนึ่ง

หลายปีก่อนหน้านั้น เราเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ เงินเดือน 15,000 นี่ล่ะค่ะ จนวันหนึ่งบริษัทที่ทำงานอยู่มีตำแหน่งว่าง ได้เงินเดือนตั้ง 40,000 แต่ต้องรู้ภาษาอังกฤษ เราไม่ได้ไงทั้งๆ ที่จบป.ตรี

จุดเปลี่ยนอยู่ตรงนี้ เราตัดสินใจลาออกจากงาน แล้วตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษอย่างเดียว เริ่มต้นใหม่หมดตั้งแต่การใช้ a, an, the น่ะคิดดู ชีวิตพลิกเลย!

ตอนนี้มาอยู่อเมริกาแล้ว ลงทุนหุ้นอยู่ เราเข้าถึงแหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษโดยตรง ไม่ต้องรอนักวิชาการ, นักวิเคราะห์, ยูทูเบอร์ไทย ฯลฯ แปลให้ฟัง เราฟัง Audiobooks, Podcasts ภาษาอังกฤษทุกวัน วิเคราะห์หุ้นเอง วางแผนการลงทุนเอง เหนื่อยแต่สนุก

เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตถึงจะเปลี่ยนนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่