งงมาก มีคนเพิ่งรู้ว่าธนาคารส่งข้อมูลให้สรรพากรกันเพียบเลย อย่างนี้รู้ยังครับว่าสรรพากรเขารู้จำนวนเงินปีละ4ครั้งด้วยนะ..

พอดีตอนนี้เห็นในเฟสบุ๊คเริ่มมีการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ธนาคารจะส่งข้อมูลจำนวนครั้งการทำธุรกรรมให้สรรพากรแล้วมีคนเหมือนเพิ่งรู้เรื่องกันเพียบเลย ผมว่าตอนนั้นก็ออกข่าวกันเยอะเหมือนกันนะ แสดงว่าแบบนี้ก็มีคนไม่รู้ด้วยใช่ไหมครับว่าสรรพากรเขาได้ข้อมูลที่ทำให้สามารถคำนวณเงินฝากทั้งหมดในบัญชีปีละ 4 ครั้งด้วยนะ นั่นก็คือเรื่องเกี่ยวกับการที่สรรพากรต้องการที่จะเก็บภาษี 15% ของดอกเบี้ยเงินฝากที่เกิน สองหมื่นให้ได้ เพราะก่อนหน้านั้นเขาบอกว่าธนาคารชอบแนะให้ลูกค้า หรือไม่ก็ลูกค้านี่แหละ ไปปิดบัญชีรับดอกเบี้ยไม่เกินสองหมื่นไปก่อนแล้วเปิดบัญชีใหม่ ทีนี้สรรพากรเขาเลยให้ทุกธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้เขาทุกธนาคารเลยแล้วกัน แล้วสรรพากรจะเป็นคนรวมดอกเบี้ยทั้งหมดเองว่าเกิน สองหมื่นไหม ถ้าเกินก็จะหักภาษีเลย 15% ถึงเปอร์เซ็นต์การเก็บภาษีนี้จะดูเหมือนเยอะกว่าดอกเบี้ยสมัยนี้เป็นสิบๆเท่า แต่คิดว่าคนที่กังวลเขาไม่ได้กังวลเรื่องการจ่ายภาษีดอกเบี้ย 15% หรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องที่ธนาคารจะส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้สรรพากรปีละ 4 ครั้งต่างหาก ซึ่งตอนแรกจริงๆผมก็นึกว่าปีละ 1-2 ครั้ง แต่จากที่อ่านในเว็บ www.dharmniti.co.th และ aommoney.com เขาบอกว่าส่ง 4 ครั้งเลย ซึ่งหมายความว่า ครั้งแรกที่ธนาคารจะส่งข้อมูลดอกเบี้ยกันน่าจะเป็นสิ้นเดือนนี้ละครับ ทีนี้ถ้าข้อมูลที่ธนาคารส่งให้มันมี % ด้วยมันก็ง่ายเลยที่จะคำนวณหายอดเงินต้นแบบคร่าวๆว่าจะไม่ต่ำกว่าเท่านี้เท่านั้น และค่อนข้างละเอียดต่อปีระดับนึงเพราะคำนวณถี่ถึง 4 ครั้งต่อปี ทีนี้นอกจากสรรพากรจะได้ข้อมูลจำนวนครั้งและยอดเงินที่เขาสนใจแล้ว เขายังเก็บภาษีดอกเบี้ยธนาคารได้อย่างทุกเม็ด และสามารถประมาณจำนวนเงินต้นของประชาชนได้อีกด้วย เผื่อยังมีคนไม่รู้เลยเอามาแชร์ให้ครับ ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก google นะครับผม 555
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 40
อ่านไปอ่านมารวมถึงคอมเม้นนึงในเฟสบุ๊คผมนี่ชักรู้สึกเหมือนผมทำอะไรผิดไปแล้วนะครับนี่ 555+
งั้นผมอนุญาตปักหมุนคอมเม้นนี้ชี้แจงให้เข้าใจตรงกันหน่อยนะครับว่า จุดประสงค์ของกระทู้นี้ของผมคือ ผมเห็นว่ามีบางคนเพิ่งมาตกใจเรื่องในประเด็นแรกที่ผมเขียนเอาไว้ในกระทู้ ผมก็เลยเอาอีกเรื่องนึงมาแชร์ให้เผื่อคนที่ยังไม่ทราบเฉยๆครับ ถ้าในกระทู้ผมพิมพ์อะไรให้เข้าใจอะไรผิดต้องขออภัยด้วยนะครับผม TT
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ที่งงกว่า เรียกร้องความสุจริต
การพัฒนา​ต่างๆ แต่พอภาษี
ดันหลบเลี่ยง หาวิธี เลี่ยงภาษี
โวยวายกันตั้งแต่เริ่มต้นเปิด
ใช้พร้อมเพย์มา
ความคิดเห็นที่ 9
แล้วไปกลัวอะไร คนที่กลัวแสดงว่าเมื่อก่อนหนีภาษีมาตลอด อยากให้ประเทศชาติพัฒนาเริ่มที่ตัวเราเอง เสียภาษีให้ถูกต้อง ถ้ายังทำไม่ได้อย่าไปด่านักการเมืองเพราะตัวเองก็โกงชาติเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 20
งง คือไปอยู่ไหนกันมา ขนาดผมทำงานไม่เกี่ยวข้องกับการเงินเลย ยังรู้

และที่ งง มากกว่า คือ ทำไมต้องโวยวาย ถ้าเราทำถูกต้องเสียอย่าง

หรือที่โวยวายเพราะตัวเองพยายามหลบเลี่ยงภาษี



มาเพิ่มอีกหน่อย พอดีรู้จักหลายคนที่ทำงานขายของออนไลน์

เท่าที่เห็นคนหลายคนเหล่านั้น ชอบมาด่าประเทศไทย หาว่าไม่พัฒนา รัฐบาลห่วยแตก

แต่ภึงเวลากลับไม่อยากเสียภาษี ชอบอ้างว่าเสียไปทำไม เสียไปก็ให้นักการเมืองโกงกิน

ตรรกะนี้มันใช่เหรอ? มันก็แค่ความเห็นแก่ตัวของตัวเองเท่านั้น

พวกว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง
ความคิดเห็นที่ 12
กลัวทำไม กลัวได้จ่ายภาษี? หน้าที่พลเมืองที่ดี มีภาษีก็ต้องจ่าย ไม่ได้ทำการค้าอะไรผิดกฏหมายยิ่งไม่ต้องกลัว จะรู้ก็รู้ไป ภาษีก็เอาไปพัฒนาส่วนนั้นส่วนนี้ในประเทศนี่ล่ะ คนหลายคนชอบบ่นทำไมสวัสดิการนั่นนี่ไม่ดี ก็จ่ายภาษีโคตรถูกเท่าหอยมดกันยังบ่น แต่อยากได้สวัสดิการระดับพรีเมี่ยม เฮ้ออออ😅
ความคิดเห็นที่ 11
ก็ดีแล้วนี่ครับ   หน้าที่ของพลเมืองดีคือต้องจ่ายภาษีอยู่แล้ว

ต่อไปการตรวจสอบจะเข้มข้นขึ้นด้วย    การเคลื่อนไหวในบัญชีจะถูกตรวจสอบหมด    เพื่อเอามาคำนวณรายได้ว่าถึงเกณฑ์เสียภาษีหรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่