กระทู้นี้เป็นตอนที่ 3 จะเน้นเรื่องที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และเรื่องราวปลีกย่อยอื่นๆ นะคะ ใครที่สนใจสามารถตามอ่านตอนก่อนหน้าได้จากลิ้งก์ด้านล่างค่ะ
ตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/40548326 - แพลนเที่ยว เที่ยวบิน วีซ่า พาส และการเดินทางในจอร์แดน
ตอนที่ 2
https://ppantip.com/topic/40555591 - การเดินทางในอียิปต์
ซิมมือถือ
จำไม่ได้ว่าทำไมปีที่แล้วถึงไม่ได้ซื้อซิมจากไทยไป คาดว่าตอนนั้นจะยังไม่มีซิมไทยซิมไหนที่ครอบคลุมจอร์แดนกับอียิปต์ เอาเป็นว่า ตอนไปจอร์แดนพี่ที่ไปด้วยกันอีกสองคนซื้อซิม โดนไปคนละ 22 กับ 15 JD ตีคร่าวๆ ก็ประมาณ 1000 กับ 700 บาท แล้วถามว่าใช้คุ้มไหม ทั้งสองคนบอกเสียงเดียวกันเลยว่า ไมมมมม่ อาจเป็นเพราะเราอยู่จอร์แดนแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเองก็เป็นได้
ส่วนที่อียิปต์ ตอนแรกเรากับพี่ที่ไปด้วยกันวางแผนจะซื้อซิม เพราะอยู่ที่นี่นานหลายวัน และหากต้องการเรียกอูเบอร์ในไคโร กับอเล็กซานเดรีย จะต้องมีซิมอียิปต์ถึงจะเรียกได้ ทว่าพอเราไปถึงสนามบินลักซอร์ ร้านค้าต่างๆ ปิดหมดแล้ว แถวที่พักก็ไม่มีร้านขายซิม แถมวันต่อๆ มาเราเหมารถเที่ยวอยู่แต่ลักซอร์ฝั่งตะวันตก ไม่ได้เข้าไปฝั่งตะวันออก ยิ่งไม่มีเวลาไปตามล่าหาซิมเข้าไปใหญ่ อยู่ไปอยู่มาหลายวันเข้า เลยรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องซื้อซิมก็ได้ ไหนจะต้องบากบั่นไปหาร้านซื้อ ไหนจะต้องไปนั่งต่อรองราคา สู้เอาเวลาไปเที่ยวดีกว่า แอพที่ใช้ประจำอย่างกูเกิ้ลแมพ กับกูเกิ้ลแปลภาษา ก็สามารถเซฟไว้ใช้แบบออฟไลน์ได้ แพลนและการเดินทางทุกอย่างก็วางไว้หมดแล้ว ลงท้ายพวกเราจึงเที่ยวแบบไม่มีซิมและไม่มีเน็ต สนุกไปอีกแบบ
ร้านซุปเปอร์มาเก็ต
ที่อียิปต์ เวลาจะซื้ออะไรนอกจากร้านแผงลอยเล็กๆ ข้างทางแล้ว ก็จะมีเป็นร้านขายของชำให้ซื้อของทั่วไป ส่วนซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือไฮเปอร์มาเก็ตแบบเทสโก้ โลตัส บิ๊กซีนั้นอย่าได้หวังเลย อียิปต์ยังไม่มีเจ้าค่ะ เราพยายามตามล่าร้านซุปเปอร์เพื่อซื้อขนมของฝาก เจอร้านนึงแถวที่พักไคโร แต่ราคาไม่ได้แตกต่างจากซื้อตามแผงลอยเลย ต่อให้ซื้อขนมแพ็กโหล ราคาก็เท่ากับราคาต่อชิ้นคูณ 12 อยู่ดี ใครต้องการซื้อขนมของฝาก หาซื้อตามร้านแผงลอยได้เลย ไม่ต่างกันหรอกค่ะ 55
เราซื้อเวเฟอร์ช็อกโกแลตสอดไส้อินผาลัม(ซองสีเหลือง) กับคุ้กกี้สอดไส้อินทผาลัมมา เวเฟอร์อร่อย แต่คุ้กกี้ไม่อร่อย ไม่แนะนำค่ะ
ร้านซุปเปอร์แถวที่พักไคโร ปิดไวมากแมมมมม่ ของในร้านค่อนข้างเยอะ (ถ้าเทียบกับร้านอื่นของอียิปต์) ตัวเลขบนแป้นแคชเชียร์เป็นตัวเลขอาหรับ
เสื้อผ้า
จัดเสื้อตามสภาพอากาศในช่วงที่ไป ถ้าไปเที่ยวนานหลายๆ วันยังไงก็ต้องซักผ้า แนะนำให้พกเสื้อผ้าที่แห้งเร็วไปจะดีกว่าค่ะ
สำหรับอียิปต์ แนะนำให้พกชุดกันลม/กันฝนไปเพื่อใช้กันทรายแทน เป้าหมายมีแค่อย่างเดียว มันจะทำให้รู้สึกสะอาด ไม่ต้องซักบ่อย 55 เสื้อผ้าที่นี่ถึงจะใส่แค่วันเดียว พอเอาไปซักน้ำจะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มทันที โดนฝุ่นทรายเล่นงานทั้งวันก็งี้แหละ เสื้อกันลม ใช้เป็นเสื้อกันลมบางๆ สำหรับเดินป่าก็ได้ เอาไว้คลุมชั้นนอกเฉยๆ ขณะอยู่อียิปต์ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเราเป็นชุดกันลมหมดเลย แล้วใส่พวกกางเกงเลกกิ้งกันหนาว เสื้อกันหนาวไว้ด้านในให้ความอบอุ่นแทน
เสื้อสีเขียวๆ คือเสื้อกันลม กันฝนบางๆ ช่วยกันทรายได้เยอะเลย แถมช่วงลมแรงยังยกฮูดขึ้นมากันลมได้ด้วย ส่วนกางเกงเป็นกางเกงเดินป่าที่กันน้ำกันลมเหมือนกัน
ที่พัก
ลักซอร์
หลักๆ แบ่งเป็น 2 โซน คือลักซอร์ฝั่งตะวันตก (West bank) กับฝั่งตะวันออก (East bank) ทั้งสองฝั่งแยกกันโดยมีแม่น้ำไนล์คั่นกลาง เดินทางถึงกันด้วยการนั่งเรือข้ามแมน้ำไนล์ หรือนั่งรถข้ามสะพาน (ค่อนข้างอ้อม เพราะสะพานอยู่ห่างตัวเมืองหลายกิโลเมตร) ความแตกต่างของสองโซนนี้คือ
1.ฝั่งตะวันตก - เงียบสงบ ราคาถูก เข้าถึงชีวิตของคนท้องถิ่น ใกล้สถานที่เที่ยวหลักๆ แต่ไม่มีที่เที่ยวกลางคืนให้สำหรับคนที่ชอบปาร์ตี้
2.ฝั่งตะวันออก – ที่พักหรูๆ ราคาแพงจะอยู่ฝั่งนี้ มีที่เที่ยวตอนกลางคืน ร้านอาหาร ฟาสฟู้ด ร้านแลกเงิน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความวุ่นวายของเมืองและสีสันกลางคืน
เราเลือกพักฝั่งตะวันตก เพราะเวลา 4 วันที่ลักซอร์ เราเที่ยวฝั่งตะวันตกถึง 3 วัน การพักฝั่งนี้จึงทำให้เราประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก
เราพักที่ The brown house อยู่ใกล้กับท่าข้ามฟาก เดินไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ที่พักนี้เป็นอพาร์ทเม้นท์ห้องใหญ่ มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว เครื่องซักผ้า และห้องน้ำ เจ้าของที่พักเป็นกันเอง ดูแลดี ขนาดตอนที่เงินอียิปต์เราไม่พอ เพราะยังไม่เจอร้านแลกเงิน เราเลยตัดสินใจไปขอแลกเงินกับเขา ลงท้าย เขาให้เรายืมเงินอียิปต์แทน ให้ยืมแบบไม่มีหลักประกันอะไรเลยนะ ความเชื่อใจล้วนๆ พอเราเจอร้านแลกเงินที่ฝั่งตะวันออก จึงรีบแลกเงินแล้วนำเงินไปคืนเขาทันที
เข้าใจว่าเจ้าของมีห้องพักหลายห้องในตึกนี้ เราได้พักชั้นดาดฟ้า สามารถเดินออกไปดูวิวแม่น้ำไนล์ และลักซอร์ฝั่งตะวันออกตอนกลางคืนได้
Source:
http://intervoyager.com/towns_luxor_map.htm
ประตูหน้าตึก
อัสวาน
มีที่พักให้เลือกน้อย และค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับลักซอร์ ที่พักจะแบ่งเป็นบนฝั่งตะวันออก ฝั่งตะวันตก (หมู่บ้านของชาวนูเบียน) กับบนเกาะ หากพักบนเกาะ ไม่ควรจองทริปอาบูซิมเบลในเช้าวันถัดไป ตอนเช้าจะไม่มีเรือเมล์บริการ ต้องเหมาเรือข้ามฟาก และตื่นเช้ากว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเพื่อมาขึ้นเรือ (ต้องมาขึ้นเรือประมาณตี 3 ในขณะที่ถ้าพักบนฝั่งจะมีรถมารับประมาณตี 4-5) ส่วนที่พักถูกๆ ก็คุณภาพแย่ ถ้าให้แนะนำคือเสียงเงินแพงๆ ไปพักริมน้ำไนล์เลยคุ้มกว่า ไม่เชื่อจะเล่าให้ฟัง 55
เราอยู่อัสวาน 2 คืน และพัก 2 ที่
ที่พักแรกเป็นโฮศเทลขึ้นต้นด้วยตัว D ที่มาจากชื่อคน ไม่ใช่ที่พักที่ถูกที่สุด แต่ก็ราคาถูกแหละ ตอนจองก็เห็นแล้วว่าคะแนนความสะอาดค่อนข้างย่ำแย่ มีทั้งคนที่บ่น และคนที่ไม่บ่นคละๆ กันไป แต่เราคิดว่าไม่เป็นไรมั้ง มันนอนได้แหละ แถมที่สำคัญคือ ค่ารถตู้ไปอาบูซิมเบลแบบแชร์ของที่นี่ถูกกว่าที่อื่นเยอะ (20 USD/คน) เลยคิดว่า ก็มาพักและใช้บริการรถตู้ไปด้วยเลย ทีเดียวจบ เลยเลือกแบบห้องส่วนตัวที่มีสองเตียง ห้องน้ำรวมไป ตอนจองก็เห็นมันเขียนว่า ที่พักอยู่ชั้นใต้ดิน ด้วยความไม่ได้คิดอะไร (เห็นหนังฝรั่งมีห้องใต้ดินกันถมถืดไป ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ก็น่าจะแค่เย็นกว่าปกติเท่านั้นเอง)
เอาเข้าจริง คือมันแยยยยยยยยยยยย่มาก ก.ไก่ล้านตัว ไม่เคยพักที่ไหนที่สกปรก และแย่เท่านี้เลย ข้อแรกคือ มันเป็นห้องใต้ดิน แล้วเจือกมีหน้าต่างบานเล็กๆ ด้านบน เปิดรับฝุ่นถนน ฝุ่นทรายเข้ามาในห้อง! คิดได้ไงเนี่ยยยยยย จองห้องส่วนตัว แต่ขอโทษ ไม่มีกุญแจล็อกห้อง กลอนประตูก้ไม่มีมั้งรู้สึก (แล้วตรูจะจองห้องส่วนตัวเพื่อออ) ห้องเล็กไม่ว่า แต่เตียง หมอน ผ้าห่มทุกอย่างคือ รู้สึกเลยว่าไม่ได้ทำความสะอาดมานานมาก เราแพ้แมลงเล็กๆ ในบ้านทุกอย่างอยู่แล้ว บอกเลยว่าคืนนั้น นอนไม่หลับ หายใจไม่ออก ทรมานมากจ้า จากที่ควรจะรีบนอนแต่เช้าเพื่อที่เช้าวันต่อไปจะได้รีบตื่นไปอาบูซิมเบล สรุป นอนไม่หลับ หมดสภาพ แถมหวัดกินอีกต่างหาก - -
ก่อนนอนเย็นนั้นเลยตัดสินใจย้ายที่พักในคืนวันพรุ่งนี้ ค่าที่พักที่จ่ายไป จะได้คืนไม่ได้คืนไม่รู้ล่ะ ถ้าต้องพักอีกคืนคือตายแน่ๆ เช้าวันต่อเลยลองคุยกับเจ้าของที่พัก (เผื่อจะได้เงินคืน) เขาก็ถามว่า ทำไมไม่คุยกับเขาก่อน จะได้ทำความสะอาดให้ (อยากจะบอกว่า เอ็งทำยังไงก็ไม่หายหรอก อย่าพยายามเลย) เขาเลยให้เรายกเลิกการจองในระบบ แล้วคืนเงินส่วนที่เหลือให้
หลังกลับมาจากอาบูซิมเบล เราจึงให้ที่พักเรียกรถแท็กซี่เพื่อพาเราไปที่รีสอร์ทริมแม่น้ำไนล์ (ค่าแท็กซี่ 100 EGP จริงๆ ควรต่อแหละ แต่ตอนนั้นคือเหนื่อย ขี้เกียจแล้ว จ่ายก็จ่าย) ในชุมชนของชาวนูเบียน Kato Dool Nubian Resort
พอรู้ว่าเราพักที่นี่ แท็กซี่ยังชมเลยว่า เลือกได้ดี ที่นี่เป็นรีสอร์ทของชาวนูเบียนที่ดีที่สุดในแถบนี้แล้ว แล้วก็ถามราคาแท็กซี่ถ้าจะให้เขามารับเพื่อไปส่งสนามบินในวันพรุ่งนี้ แล้วต่อรองราคาได้ที่ 160 EGP
วิวที่พัก Kato Dool Nubian Resort
ไคโร
ที่พักมีหลายแหล่ง หลายราคา หลักๆ จะแบ่งเป็นโซนเมือง โซนนอกเมือง และโซนพิระมิดกิซา หากต้องการมองเห็นพีระมิดกิซาจากที่พัก ต้องมาพักในโซนพีระมิดกิซา แต่เวลาไปเที่ยวที่อื่นในเมือง ก็จะใช้เวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากกว่าการพักในตัวเมือง
เราพักที่ Castle Hostel อยู่ในตัวเมือง ที่เราลือกพักที่นี่ เพราะมันสามารถเดินไปที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ รถไฟฟ้าใต้ดิน และสถานีรถไฟได้ (ตอนแรกเราแพลนจะนั่งรถไฟนอนชั้น 2 จากอัสวานมาไคโร ราคาคนละ 80 USD แต่พอจะจอง มันกลับมีแค่รถไฟนอนชั้น 1 ที่เป็นห้องเดียว ราคาคนละ 120 USD ให้เลือก เราเลยเปลี่ยนไปนั่งเครื่องบิน ที่ราคาถูกกว่ารถไฟนอนชั้น 1 และใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าแทน) เราจองห้องแบบ 4 เตียง ในราคาห้องพักคู่ (เว็บไซต์อัพเกรดให้ฟรีโดยไม่คิดเงิน) แต่ตอนเช็กอิน ห้องที่ว่างและเข้าพักได้กลับมีแค่แบบ 2 เตียงและ 3 เตียง ผู้ดูแลให้เราดูว่าต้องการห้องไหน เราเลือกห้องแบบ 3 เตียง ที่มีขนาดห้องใหญ๋กว่า อย่างน้อยจะได้มีพื้นที่ดิ้นไปดิ้นมามากหน่อย 55
เราให้รถโรงแรมมารับที่สนามบินเลย ซึ่งก็คิดถูกแล้ว ถ้าเรียกรถมาเองมีหวังหาโรงแรมไม่เจอแหง ที่พักอยู่ในตึกที่คล้ายจะซ่อมแซมมานาน (และยังซ่อมไม่เสร็จสักที) ลิฟท์ตึกนี้มีประตูปิดสองชั้น ชั้นนอกเป็นประตูเลื่อนปิดตรงกลางแบบบ้านเรา ชั้นในต้องออกแรงดึงถึงจะเปิดออกได้ ลิฟท์นี้เก่าอย่าบอกใครเลย กลัวลิฟท์ตายกลางทางสุดๆ ส่วนสภาพห้องพอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้สวยงามแบบในรูปแต่ถือว่าไม่เลว อาหารเช้าที่โรงแรมเตรียมให้ เป็นเซ็ทอาหารแบบอเมริกัน และแบบอียิปต์ ผลัดกันไปวันละแบบ ที่ชอบที่สุดคือพนักงานที่พักนี้เป็นกันเองมากกก คืนก่อนบินกลับ พวกเรามานั่งรอเวลาในล็อบบี้ แล้วคุยเล่นกันอย่างออกรสเลยล่ะ
เราไม่มีรูปที่ไคโร เอารูปตึกระหว่างทางที่ลักซอร์ไปแทนละกันนะคะ
เดี๋ยวมารีวิวแพลนที่เที่ยวต่อค่ะ
[CR] ตอน 3 รีวิวแพลนเที่ยวอียิปต์ จอร์แดนด้วยตัวเอง 16 วัน งบ 60,000 ยังเหลือ เก็บครบทุกไฮไลท์ เพตรา เดดซี พีระมิด
ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/40548326 - แพลนเที่ยว เที่ยวบิน วีซ่า พาส และการเดินทางในจอร์แดน
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/40555591 - การเดินทางในอียิปต์
ซิมมือถือ
จำไม่ได้ว่าทำไมปีที่แล้วถึงไม่ได้ซื้อซิมจากไทยไป คาดว่าตอนนั้นจะยังไม่มีซิมไทยซิมไหนที่ครอบคลุมจอร์แดนกับอียิปต์ เอาเป็นว่า ตอนไปจอร์แดนพี่ที่ไปด้วยกันอีกสองคนซื้อซิม โดนไปคนละ 22 กับ 15 JD ตีคร่าวๆ ก็ประมาณ 1000 กับ 700 บาท แล้วถามว่าใช้คุ้มไหม ทั้งสองคนบอกเสียงเดียวกันเลยว่า ไมมมมม่ อาจเป็นเพราะเราอยู่จอร์แดนแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเองก็เป็นได้
ส่วนที่อียิปต์ ตอนแรกเรากับพี่ที่ไปด้วยกันวางแผนจะซื้อซิม เพราะอยู่ที่นี่นานหลายวัน และหากต้องการเรียกอูเบอร์ในไคโร กับอเล็กซานเดรีย จะต้องมีซิมอียิปต์ถึงจะเรียกได้ ทว่าพอเราไปถึงสนามบินลักซอร์ ร้านค้าต่างๆ ปิดหมดแล้ว แถวที่พักก็ไม่มีร้านขายซิม แถมวันต่อๆ มาเราเหมารถเที่ยวอยู่แต่ลักซอร์ฝั่งตะวันตก ไม่ได้เข้าไปฝั่งตะวันออก ยิ่งไม่มีเวลาไปตามล่าหาซิมเข้าไปใหญ่ อยู่ไปอยู่มาหลายวันเข้า เลยรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องซื้อซิมก็ได้ ไหนจะต้องบากบั่นไปหาร้านซื้อ ไหนจะต้องไปนั่งต่อรองราคา สู้เอาเวลาไปเที่ยวดีกว่า แอพที่ใช้ประจำอย่างกูเกิ้ลแมพ กับกูเกิ้ลแปลภาษา ก็สามารถเซฟไว้ใช้แบบออฟไลน์ได้ แพลนและการเดินทางทุกอย่างก็วางไว้หมดแล้ว ลงท้ายพวกเราจึงเที่ยวแบบไม่มีซิมและไม่มีเน็ต สนุกไปอีกแบบ
ร้านซุปเปอร์มาเก็ต
ที่อียิปต์ เวลาจะซื้ออะไรนอกจากร้านแผงลอยเล็กๆ ข้างทางแล้ว ก็จะมีเป็นร้านขายของชำให้ซื้อของทั่วไป ส่วนซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือไฮเปอร์มาเก็ตแบบเทสโก้ โลตัส บิ๊กซีนั้นอย่าได้หวังเลย อียิปต์ยังไม่มีเจ้าค่ะ เราพยายามตามล่าร้านซุปเปอร์เพื่อซื้อขนมของฝาก เจอร้านนึงแถวที่พักไคโร แต่ราคาไม่ได้แตกต่างจากซื้อตามแผงลอยเลย ต่อให้ซื้อขนมแพ็กโหล ราคาก็เท่ากับราคาต่อชิ้นคูณ 12 อยู่ดี ใครต้องการซื้อขนมของฝาก หาซื้อตามร้านแผงลอยได้เลย ไม่ต่างกันหรอกค่ะ 55
เราซื้อเวเฟอร์ช็อกโกแลตสอดไส้อินผาลัม(ซองสีเหลือง) กับคุ้กกี้สอดไส้อินทผาลัมมา เวเฟอร์อร่อย แต่คุ้กกี้ไม่อร่อย ไม่แนะนำค่ะ
ร้านซุปเปอร์แถวที่พักไคโร ปิดไวมากแมมมมม่ ของในร้านค่อนข้างเยอะ (ถ้าเทียบกับร้านอื่นของอียิปต์) ตัวเลขบนแป้นแคชเชียร์เป็นตัวเลขอาหรับ
เสื้อผ้า
จัดเสื้อตามสภาพอากาศในช่วงที่ไป ถ้าไปเที่ยวนานหลายๆ วันยังไงก็ต้องซักผ้า แนะนำให้พกเสื้อผ้าที่แห้งเร็วไปจะดีกว่าค่ะ
สำหรับอียิปต์ แนะนำให้พกชุดกันลม/กันฝนไปเพื่อใช้กันทรายแทน เป้าหมายมีแค่อย่างเดียว มันจะทำให้รู้สึกสะอาด ไม่ต้องซักบ่อย 55 เสื้อผ้าที่นี่ถึงจะใส่แค่วันเดียว พอเอาไปซักน้ำจะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มทันที โดนฝุ่นทรายเล่นงานทั้งวันก็งี้แหละ เสื้อกันลม ใช้เป็นเสื้อกันลมบางๆ สำหรับเดินป่าก็ได้ เอาไว้คลุมชั้นนอกเฉยๆ ขณะอยู่อียิปต์ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเราเป็นชุดกันลมหมดเลย แล้วใส่พวกกางเกงเลกกิ้งกันหนาว เสื้อกันหนาวไว้ด้านในให้ความอบอุ่นแทน
เสื้อสีเขียวๆ คือเสื้อกันลม กันฝนบางๆ ช่วยกันทรายได้เยอะเลย แถมช่วงลมแรงยังยกฮูดขึ้นมากันลมได้ด้วย ส่วนกางเกงเป็นกางเกงเดินป่าที่กันน้ำกันลมเหมือนกัน
ที่พัก
ลักซอร์
หลักๆ แบ่งเป็น 2 โซน คือลักซอร์ฝั่งตะวันตก (West bank) กับฝั่งตะวันออก (East bank) ทั้งสองฝั่งแยกกันโดยมีแม่น้ำไนล์คั่นกลาง เดินทางถึงกันด้วยการนั่งเรือข้ามแมน้ำไนล์ หรือนั่งรถข้ามสะพาน (ค่อนข้างอ้อม เพราะสะพานอยู่ห่างตัวเมืองหลายกิโลเมตร) ความแตกต่างของสองโซนนี้คือ
1.ฝั่งตะวันตก - เงียบสงบ ราคาถูก เข้าถึงชีวิตของคนท้องถิ่น ใกล้สถานที่เที่ยวหลักๆ แต่ไม่มีที่เที่ยวกลางคืนให้สำหรับคนที่ชอบปาร์ตี้
2.ฝั่งตะวันออก – ที่พักหรูๆ ราคาแพงจะอยู่ฝั่งนี้ มีที่เที่ยวตอนกลางคืน ร้านอาหาร ฟาสฟู้ด ร้านแลกเงิน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความวุ่นวายของเมืองและสีสันกลางคืน
เราเลือกพักฝั่งตะวันตก เพราะเวลา 4 วันที่ลักซอร์ เราเที่ยวฝั่งตะวันตกถึง 3 วัน การพักฝั่งนี้จึงทำให้เราประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก
เราพักที่ The brown house อยู่ใกล้กับท่าข้ามฟาก เดินไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ที่พักนี้เป็นอพาร์ทเม้นท์ห้องใหญ่ มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว เครื่องซักผ้า และห้องน้ำ เจ้าของที่พักเป็นกันเอง ดูแลดี ขนาดตอนที่เงินอียิปต์เราไม่พอ เพราะยังไม่เจอร้านแลกเงิน เราเลยตัดสินใจไปขอแลกเงินกับเขา ลงท้าย เขาให้เรายืมเงินอียิปต์แทน ให้ยืมแบบไม่มีหลักประกันอะไรเลยนะ ความเชื่อใจล้วนๆ พอเราเจอร้านแลกเงินที่ฝั่งตะวันออก จึงรีบแลกเงินแล้วนำเงินไปคืนเขาทันที
เข้าใจว่าเจ้าของมีห้องพักหลายห้องในตึกนี้ เราได้พักชั้นดาดฟ้า สามารถเดินออกไปดูวิวแม่น้ำไนล์ และลักซอร์ฝั่งตะวันออกตอนกลางคืนได้
Source: http://intervoyager.com/towns_luxor_map.htm
ประตูหน้าตึก
อัสวาน
มีที่พักให้เลือกน้อย และค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับลักซอร์ ที่พักจะแบ่งเป็นบนฝั่งตะวันออก ฝั่งตะวันตก (หมู่บ้านของชาวนูเบียน) กับบนเกาะ หากพักบนเกาะ ไม่ควรจองทริปอาบูซิมเบลในเช้าวันถัดไป ตอนเช้าจะไม่มีเรือเมล์บริการ ต้องเหมาเรือข้ามฟาก และตื่นเช้ากว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเพื่อมาขึ้นเรือ (ต้องมาขึ้นเรือประมาณตี 3 ในขณะที่ถ้าพักบนฝั่งจะมีรถมารับประมาณตี 4-5) ส่วนที่พักถูกๆ ก็คุณภาพแย่ ถ้าให้แนะนำคือเสียงเงินแพงๆ ไปพักริมน้ำไนล์เลยคุ้มกว่า ไม่เชื่อจะเล่าให้ฟัง 55
เราอยู่อัสวาน 2 คืน และพัก 2 ที่
ที่พักแรกเป็นโฮศเทลขึ้นต้นด้วยตัว D ที่มาจากชื่อคน ไม่ใช่ที่พักที่ถูกที่สุด แต่ก็ราคาถูกแหละ ตอนจองก็เห็นแล้วว่าคะแนนความสะอาดค่อนข้างย่ำแย่ มีทั้งคนที่บ่น และคนที่ไม่บ่นคละๆ กันไป แต่เราคิดว่าไม่เป็นไรมั้ง มันนอนได้แหละ แถมที่สำคัญคือ ค่ารถตู้ไปอาบูซิมเบลแบบแชร์ของที่นี่ถูกกว่าที่อื่นเยอะ (20 USD/คน) เลยคิดว่า ก็มาพักและใช้บริการรถตู้ไปด้วยเลย ทีเดียวจบ เลยเลือกแบบห้องส่วนตัวที่มีสองเตียง ห้องน้ำรวมไป ตอนจองก็เห็นมันเขียนว่า ที่พักอยู่ชั้นใต้ดิน ด้วยความไม่ได้คิดอะไร (เห็นหนังฝรั่งมีห้องใต้ดินกันถมถืดไป ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ก็น่าจะแค่เย็นกว่าปกติเท่านั้นเอง)
เอาเข้าจริง คือมันแยยยยยยยยยยยย่มาก ก.ไก่ล้านตัว ไม่เคยพักที่ไหนที่สกปรก และแย่เท่านี้เลย ข้อแรกคือ มันเป็นห้องใต้ดิน แล้วเจือกมีหน้าต่างบานเล็กๆ ด้านบน เปิดรับฝุ่นถนน ฝุ่นทรายเข้ามาในห้อง! คิดได้ไงเนี่ยยยยยย จองห้องส่วนตัว แต่ขอโทษ ไม่มีกุญแจล็อกห้อง กลอนประตูก้ไม่มีมั้งรู้สึก (แล้วตรูจะจองห้องส่วนตัวเพื่อออ) ห้องเล็กไม่ว่า แต่เตียง หมอน ผ้าห่มทุกอย่างคือ รู้สึกเลยว่าไม่ได้ทำความสะอาดมานานมาก เราแพ้แมลงเล็กๆ ในบ้านทุกอย่างอยู่แล้ว บอกเลยว่าคืนนั้น นอนไม่หลับ หายใจไม่ออก ทรมานมากจ้า จากที่ควรจะรีบนอนแต่เช้าเพื่อที่เช้าวันต่อไปจะได้รีบตื่นไปอาบูซิมเบล สรุป นอนไม่หลับ หมดสภาพ แถมหวัดกินอีกต่างหาก - -
ก่อนนอนเย็นนั้นเลยตัดสินใจย้ายที่พักในคืนวันพรุ่งนี้ ค่าที่พักที่จ่ายไป จะได้คืนไม่ได้คืนไม่รู้ล่ะ ถ้าต้องพักอีกคืนคือตายแน่ๆ เช้าวันต่อเลยลองคุยกับเจ้าของที่พัก (เผื่อจะได้เงินคืน) เขาก็ถามว่า ทำไมไม่คุยกับเขาก่อน จะได้ทำความสะอาดให้ (อยากจะบอกว่า เอ็งทำยังไงก็ไม่หายหรอก อย่าพยายามเลย) เขาเลยให้เรายกเลิกการจองในระบบ แล้วคืนเงินส่วนที่เหลือให้
หลังกลับมาจากอาบูซิมเบล เราจึงให้ที่พักเรียกรถแท็กซี่เพื่อพาเราไปที่รีสอร์ทริมแม่น้ำไนล์ (ค่าแท็กซี่ 100 EGP จริงๆ ควรต่อแหละ แต่ตอนนั้นคือเหนื่อย ขี้เกียจแล้ว จ่ายก็จ่าย) ในชุมชนของชาวนูเบียน Kato Dool Nubian Resort
พอรู้ว่าเราพักที่นี่ แท็กซี่ยังชมเลยว่า เลือกได้ดี ที่นี่เป็นรีสอร์ทของชาวนูเบียนที่ดีที่สุดในแถบนี้แล้ว แล้วก็ถามราคาแท็กซี่ถ้าจะให้เขามารับเพื่อไปส่งสนามบินในวันพรุ่งนี้ แล้วต่อรองราคาได้ที่ 160 EGP
วิวที่พัก Kato Dool Nubian Resort
ไคโร
ที่พักมีหลายแหล่ง หลายราคา หลักๆ จะแบ่งเป็นโซนเมือง โซนนอกเมือง และโซนพิระมิดกิซา หากต้องการมองเห็นพีระมิดกิซาจากที่พัก ต้องมาพักในโซนพีระมิดกิซา แต่เวลาไปเที่ยวที่อื่นในเมือง ก็จะใช้เวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากกว่าการพักในตัวเมือง
เราพักที่ Castle Hostel อยู่ในตัวเมือง ที่เราลือกพักที่นี่ เพราะมันสามารถเดินไปที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ รถไฟฟ้าใต้ดิน และสถานีรถไฟได้ (ตอนแรกเราแพลนจะนั่งรถไฟนอนชั้น 2 จากอัสวานมาไคโร ราคาคนละ 80 USD แต่พอจะจอง มันกลับมีแค่รถไฟนอนชั้น 1 ที่เป็นห้องเดียว ราคาคนละ 120 USD ให้เลือก เราเลยเปลี่ยนไปนั่งเครื่องบิน ที่ราคาถูกกว่ารถไฟนอนชั้น 1 และใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าแทน) เราจองห้องแบบ 4 เตียง ในราคาห้องพักคู่ (เว็บไซต์อัพเกรดให้ฟรีโดยไม่คิดเงิน) แต่ตอนเช็กอิน ห้องที่ว่างและเข้าพักได้กลับมีแค่แบบ 2 เตียงและ 3 เตียง ผู้ดูแลให้เราดูว่าต้องการห้องไหน เราเลือกห้องแบบ 3 เตียง ที่มีขนาดห้องใหญ๋กว่า อย่างน้อยจะได้มีพื้นที่ดิ้นไปดิ้นมามากหน่อย 55
เราให้รถโรงแรมมารับที่สนามบินเลย ซึ่งก็คิดถูกแล้ว ถ้าเรียกรถมาเองมีหวังหาโรงแรมไม่เจอแหง ที่พักอยู่ในตึกที่คล้ายจะซ่อมแซมมานาน (และยังซ่อมไม่เสร็จสักที) ลิฟท์ตึกนี้มีประตูปิดสองชั้น ชั้นนอกเป็นประตูเลื่อนปิดตรงกลางแบบบ้านเรา ชั้นในต้องออกแรงดึงถึงจะเปิดออกได้ ลิฟท์นี้เก่าอย่าบอกใครเลย กลัวลิฟท์ตายกลางทางสุดๆ ส่วนสภาพห้องพอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้สวยงามแบบในรูปแต่ถือว่าไม่เลว อาหารเช้าที่โรงแรมเตรียมให้ เป็นเซ็ทอาหารแบบอเมริกัน และแบบอียิปต์ ผลัดกันไปวันละแบบ ที่ชอบที่สุดคือพนักงานที่พักนี้เป็นกันเองมากกก คืนก่อนบินกลับ พวกเรามานั่งรอเวลาในล็อบบี้ แล้วคุยเล่นกันอย่างออกรสเลยล่ะ
เราไม่มีรูปที่ไคโร เอารูปตึกระหว่างทางที่ลักซอร์ไปแทนละกันนะคะ
เดี๋ยวมารีวิวแพลนที่เที่ยวต่อค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้