ลงทุนทำธุรกิจ - กู้เงิน หรือ ไม่กู้เงิน ดีกว่ากัน | วิธีหาเงินและทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ลงทุนทำธุรกิจ - กู้เงิน หรือ ไม่กู้เงิน ดีกว่ากัน | วิธีหาเงินและทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ




ลงทุนทำธุรกิจ กู้เงิน หรือ ไม่กู้เงิน ดูได้จากอะไร?! นี่เป็นอีกเรื่องที่เป็นที่ถกเถียงกันมากมาย ว่าใช้เงินตัวเองหรือกู้เงินมาทำธุรกิจแบบไหนจะดีกว่ากัน และมุมมองของการเป็นหนี้ที่สูงเป็นอย่างไรบ้างเครียดกันมากแค่ไหนไปดูกันเลย!!


เม่าสงสัย

เมื่อคุณอยากทำธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งสิ่งที่คุณจะลืมนึกถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ เงินทุน ใช่หรือไม่?! เพราะถ้าเงินทุนของคุณไม่เพียงพอ คุณก็มักจะคิดถึงเรื่องการ "กู้เงิน" จากธนาคารซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ที่ใครอยากมีธุรกิจก็จะต้อง “กู้เงิน” เพื่อนำมาทำธุรกิจกันทั้งนั้น  แต่!! มีอีกหลาย ๆ กรณี  ที่คุณไม่ควรกู้เงินเพราะจะยิ่งทำให้คุณทำธุรกิจยากกว่าเดิมและจะมีโอกาสถึง "ล้มละลาย" ได้ในอนาคต ฟังดูแค่นี้ก็ดูน่ากลัวขึ้นมาแล้วใช่ไหมครับ แต่ที่จริงแล้วคุณสามารถพิจารณาก่อนลงทุนได้ว่า หากคุณตกอยู่ในภาวะธุรกิจแบบนี้คุณจะต้อง กู้เงิน หรือ ไม่กู้เงินดี ซึ่งดูได้จากสิ่งนี้…
โดยปกติแล้วทางธนาคารจะแบ่งการให้ดอกเบี้ยออกเป็น 2 ประเภท นั่นก็คือ 1. กู้เงินฝากกระแสรายวัน ในรูปแบบคุณมีเงินก้อนสามารถฝากเข้าถอนออกได้ 2. เป็นดอกเบี้ยการกู้เงินแบบรายเดือน  เช่น คุณกู้เงินออกมาแล้วต้องชำระคืนธนาคารเป็นรายเดือนแต่จะเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับอัตราการขอกู้ยืมของคุณนั่นเอง แล้วดอกเบี้ยดูจากอะไร?! ให้คุณลองนึกภาพดูคร่าว ๆ ว่า สมมุติ ในแต่ละเดือนคุณมีดอกเบี้ยจากเงินฝากกระแสรายวันทั้งหมด 2-5 % เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการหักค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่คุณต้องจ่ายธนาคารถ้าตีเป็นเดือนคงตกอยู่ที่ประมาณ 2% จึงรวมได้ว่าในแต่ละเดือนคุณต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจประมาณ 7% ต่อเดือน



ซึ่งแสดงว่ากำไรสุทธิที่คุณจะได้ในแต่ละเดือนคุณต้องทำให้ได้ 10% ขึ้นไปเพื่อนำไปหักลบกลบหนี้ในแต่ละเดือน ทว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ยากหรือพูดง่าย ๆ ว่า คุณจะรวยไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายในธุรกิจมันมีรายได้เข้าและรายจ่ายออกอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น คุณต้องหาวิธีการทำอย่างไรก็ได้ให้คุณมีรายได้กำไรสุทธิต่อเดือน 15% ขึ้นไป ที่นอกเหนือค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าการตลาด ค่าพนักงาน และที่สำคัญคุณอย่าลืมไปลบกับต้นทุนสินค้าของคุณด้วย หรือในบางครั้งคุณคิดง่าย ๆ ว่าคุณได้กำไรมาคุณก็แค่เอาไปลบกับต้นทุนและคิดไปเองว่ามีกำไรที่เยอะ จึงตัดสินใจไปกู้ธนาคารเพื่อนำมาลงทุนเพิ่มโดยไม่ได้คิดถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งบางทีค่าใช้จ่ายเหล่านี้มันเป็นค่าใช้จ่ายที่เยอะมากจนทำให้กำไรสุทธิที่คุณได้มาในแต่ละเดือนนั้นจากยอด 15% อาจจะเหลือกำไรสุทธิเพียง 5-10% ก็ว่าได้ทีนี้คุณก็จะเริ่มอยู่ยากและไม่รวยสักที

เม่าคัทลอส
แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่จะเป็นเกณฑ์ตัดสินว่า คุณจะสามารถมีกำไรถึง 15% จริง ๆ หรือไม่ และไม่ใช่แค่ว่าคาดเดาแล้วจะถึงได้เลย นั้นก็คือ ฐานลูกค้า โดยที่คุณอย่าคิดเองเออเองว่า ลูกค้าจะซื้อ ซึ่งถ้าคุณคิดแบบนี้โอกาสที่คุณจะเจ๊งก็เกิดขึ้นได้สูงมาก เพราะคุณคิดเองว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าจากคุณ คุณก็ต้องไปกู้เงินมาเพื่อผลิตสินค้าและบริการไม่ว่าจะเป็นการกู้แบบกระแสรายวันหรือกู้แบบรายเดือน แล้วถ้าเกิดคนเหล่านั้นหายไปล่ะ เพียงแค่เขาบอกว่า จะซื้อแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องซื้อสินค้าของคุณ ฉะนั้น คุณควรแน่ใจก่อนว่าต้องมีลูกค้าที่จะทำการซื้อสินค้ากับคุณอย่างแน่นอน เช่น ลูกค้ามีการมัดจำมาแล้ว หรือมีการเซ็นสัญญาว่าจะซื้อสินค้ากับเราจริง ๆ และมีลูกค้าที่เป็นลูกค้าประจำที่ซื้อขายกับคุณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคนเหล่านี้คุณจะต้องหามาให้ได้หรือทำอะไรที่มันดูแตกต่างเพื่อที่คุณจะได้ดึงดูดลูกค้าให้อยู่กับคุณ ที่นอกเหนือจากเรื่องราคา ที่จริงแล้วถ้าคุณทำกลยุทธ์นี้ได้คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกู้เงินใด ๆ เลยด้วยซ้ำ และคนที่ไม่ได้กู้เงินแต่ทำกลยุทธ์นี้ก็สามารถประสบความสำเร็จและรวยขึ้นได้ก็มีเยอะแยะไป เพราะเขาเก็บกำไรสุทธิที่ได้แล้วมาลงทุนต่อหรือถือคติที่ว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานนั่นเอง



ดังนั้น การลงทุนทำธุรกิจ กู้เงิน หรือ ไม่กู้เงิน ถ้าหากคุณมีรายได้กำไรสุทธิในแต่ละเดือนไม่เกิน 15% ผมแนะนำเลยว่า “คุณไม่ควรเป็นหนี้หรือไปกู้เงินจากธนาคาร” เพราะสุดท้ายคุณจะจนลงในขณะที่ธนาคารก็จะรวยขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าคุณมีรายได้กำไรสุทธิที่มากกว่า 15% คุณสามารถที่จะกู้เงินมาทำธุรกิจหรือขยายธุรกิจเพิ่มได้เพราะแนวโน้มที่คุณจะขายได้หรือทำให้ธุรกิจเติบโตมันเริ่มมาแบบต่อเนื่อง  ก็จะกลายเป็นว่าตัวคุณและธนาคารก็จะรวยด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย และสิ่งสำคัญคุณต้องแน่ใจแล้วว่าธุรกิจของคุณจะมีฐานลูกค้าที่จะซื้อสินค้าของคุณจริง ๆ ไม่ใช่แค่ว่าจะซื้อแต่ไม่มีตัวตน นอกเหนือสิ่งใดคุณอย่าลืมที่จะสร้างความแตกต่างที่อยู่ในพื้นฐานความต้องการของลูกค้าด้วย เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวประกอบการตัดสินใจให้กับลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าและบริการของคุณ และถ้าคุณสามารถสร้างตัวตนให้กับธุรกิจของคุณได้ดีในระดับนึงแล้วคุณไม่จำเป็นที่จะต้องกู้เงินเลยด้วยซ้ำ หากคุณสามารถบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเองเป็นหรือให้คุณคิดว่านำเงินกำไรที่ได้แบ่งออกมาและนำมาลงทุนต่อนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะลงทุนทำธุรกิจทั้งทีจะต้อง กู้เงิน หรือ ไม่กู้เงิน แบบไหนมันจะดีกว่ากัน คุณพอที่จะพิจารณาได้บ้างแล้วใช่ไหมหรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ

เม่าแพนิค
==========================================================

สำหรับใครที่อยากได้รับอรรถรสเพิ่มมากขึ้น สามารถคลิกวีดีโอได้ตามด้านล่างนี้นะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่