สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน ตามหัวข้อเลยนะคะ เราอยากจะระบายความในใจเกี่ยวกับแม่สามีค่ะ อาจยาวหน่อยนะคะ รู้สึกอึดอัดมากๆ พอดีว่าเราแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่กับสามีซึ่งเขาอาศัยอยู่กับคุณแม่ ซึ่งช่วงที่เราคบกับสามี เคยเจอคุณแม่ครั้งเดียวค่ะ เพราะอยู่ต่างประเทศ สามีบอกเสมอค่ะ ว่าช่วงแรกที่มาอยู่ด้วยกัน ต้องอยู่กับแม่เขาด้วยนะ เพราะแม่ไม่มีใคร แต่สักวันเราจะต้องแยกออกมาใช้ชีวิตของเรากันเอง สามีบอกว่า สบายใจได้นะ เพราะคุณแม่ไม่จู้จี้ ไม่บ่น ไม่ว่า ไม่มากำกับอะไรชีวิตพวกเราแน่นอน เราก็โอเคค่ะ แต่พอมาจริงๆมันตรงข้ามกันไปหมดเลย
ก็ไม่ถึงขั้นจู้จี้หรือบ่นจนปากเปียกปากแฉะนะคะ แต่เราอึดอัดมากเลยค่ะ ขอเล่าเป็นเรื่องๆนะคะ
1.แม่ของเราสอนให้ซักผ้าแยกผ้าสีผ้าขาว แยกชุดชั้นใน ถุงเท้า บ้านเราจะซักถุงเท้ากับชุดชั้นในก่อน1รอบ แล้วค่อยใส่ซักพร้อมกับเสื้อผ้าในเครื่องอีกทีค่ะ แต่แม่สามีเขาสอนให้ใช้เครื่อง เพราะคิดว่าเราใช้ไม่เป็น เขาโยนทุกอย่างรวมกัน แล้วกดโหมดซักเร็ว และกดsave water ด้วย ซึ่งเรามองว่ามันซักไม่สะอาดแน่นอน แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะคุณแม่เขาบอกให้ซักรวมกันนี่ล่ะ คือของเรา สามีแล้วก็ของคุณแม่
พอถึงเวลาซักผ้าอีกรอบ เราก็กดแบบซักปกติ ที่จะซักประมาณชั่วโมงกว่าๆอ่ะค่ะ คุณแม่เขามามองดูอยู่ข้างหลังแล้วถามว่า กดอะไรอะ เราก็หัวเราะ ฮิๆๆ แล้วก็บอกไปว่าที่บ้านหนูซักโหมดนี้ค่ะ เลยลองดู คุณแม่เขาก็บอกว่า แค่แบบที่สอนไปก็พอแล้ว แล้วเขาก็มากดใหม่
เราก็ตามน้ำไปค่ะ เพราะคิดว่า เรายังไม่ได้ทำงาน ยังช่วยเรื่องค่าไฟค่าน้ำไม่ได้ เขาอาจประหยัดน้ำไฟ
2.พอเราได้เริ่มทำงาน เราก็แชร์ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน อีกทั้งยังพยายามจ่ายให้มากขึ้น คือไม่ให้คุณแม่จ่ายค่ากับข้าว ค่าของใช้ต่างๆในบ้าน แชร์ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ-ไฟ
ทีนี้กลับมาที่เรื่องซักผ้า เราก็เปลี่ยนมาซักแบบโหมดซุปเปอร์คลีน คุณแม่ก็ทำแบบเดิม (เพราะเวลาเราจะซักผ้าคุณแม่จะมายืนดูตลอด😅)
ด้วยความที่ว่า เราเริ่มออกไปทำงาน เป็นคนเหงื่ออกเยอะ ก็เลยไม่สะดวกใจที่จะซักผ้าที่เปียกเหงื่อ กับเสื้อผ้าของคุณแม่ และอยากซักให้สะอาดจริงๆเลยเลือกโหมดซุปเปอร์คลีน เลยแยกซัก
และพอจะซักผ้าอีกทีที่เป็นเสื้อผ้าใส่เที่ยว ใส่ในบ้าน เราก็เอาเสื้อผ้าคุณแม่ซักรวมด้วย คุณแม่เขาเห็นก็ "เฮ้ยๆๆ ทำไรอะ ไม่ต้องซัก เดี๋ยวซักเอง"
เราเลยไม่ยุ่งอีกเลยค่ะ ซักแยกของใครของมัน เรารู้สึกดีขึ้นด้วยค่ะ เพราะเราเป็นคนซักผ้า รีดผ้า ซึ่งมันเยอะมากๆ ของ3คน เพราะแต่ละคนก็เสื้อผ้าเยอะ
ก่อนหน้านั้นทำได้เพราะอยู่บ้านเฉยๆ แต่พอทำงาน ก็ยังต้องทำจึงรู้สึกเหนื่อยมาก (เราทำงานบ้านทุกอย่างค่ะ คลีนบ้าน ซักเสื้อผ้า รีดผ้า ทำกับข้าว ล้างถ้วยล้างจาน)
3.เคยมีเรื่องทะเลาะกัน เพราะ คุณแม่เขาเป็นคนพูดจากระโชกโฮกฮาก กินข้าวเสร็จเราก็จะเก็บทุกอย่างทิ้ง พวกน้ำจิ้ม เราทำกับข้าวเอง มันเหลือนิดเดียวและไม่ได้ใช้ช้อนกลาง เก็บไว้สุดท้ายก็ต้องทิ้งแล้วทำใหม่ เราจะทิ้งแต่สามีบอกให้เก็บ เราก็เถียงกันไปมา แต่แบบน่ารักๆนะคะ แบบงุ้งงิ้งเลย คุณแม่เขาพูดขึ้นมาว่า" ไม่กินก็ไม่ต้องกิน เดี๋ยวกินเอง" ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนรำคาญอะค่ะ เรารู้สึกทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย พูดดีๆกันก็ได้เนอะ เราหน้าแดงจะร้องไห้ เลยเดินหนีออกไป วันนั้นก็พยายามไม่อยู่ใกล้ กลายเป็นพากันโกรธ บรรยากาศแย่มาก เช้าวันต่อมาคุณแม่เลยเรียกคุย เขาบอกว่าเราทำตัวไม่น่ารัก ทำไมถึงมาเหวี่ยงใส่ เราไม่ได้เหวี่ยงเลยนะคะ แค่เดินหนี เพราะรู้สึกเสียใจจริงๆ เราเก็บกดด้วยค่ะ เพราะคุณแม่ชอบพูดอะไรประมาณนี้ค่อนข้างบ่อย
เช่น เราจะออกไปทำธุระข้างนอก ก็ถามว่า "จะออกไปข้างนอกนี่ ทำกับข้าวกับปลาให้คนในบ้านรึยัง" ด้วยน้ำเสียงที่เหวี่ยงๆ ซึ่งเราตื่นมาทำตั้งแต่เช้าแล้ว
มีช่วงหนึ่งที่คุณยายของสามีบินมาเยี่ยม ท่านกินเผ็ดไม่ได้ เราก็พยายามหาเมนูที่ไม่เผ็ดให้ท่าน และเมนูเผ็ดสำหรับพวกเรา3คน คุณแม่ก็จะถามว่า อันนี้ไม่มีแบบไม่เผ็ดหรอ เราก็อธิบายว่า เรามีเมนูเผ็ดกับไม่เผ็ด จะได้มีหลายๆเมนู คุณแม่ก็ดูเหมือนไม่พอใจเพราะอยากให้คุณยายทานเหมือนกัน ครั้งต่อไปเราก็ทำเมนูเดียวแต่แยกเผ็ดกับไม่เผ็ด คุณแม่ก็ถามว่า มีเมนูเดียวหรอ ทำไมไม่ทำเพิ่มอีกสักอย่างล่ะ? อะไรประมาณนี้ค่ะ
4.ช่วงแรกที่เราเข้ามาอยู่ เราวางถังขยะถังน้อยในห้องน้ำไว้สำหรับใส่ผ้าอนามัยที่ใช้แล้วค่ะ เราใช้กระดาษรีไซเคิลม้วนผ้าอนามัยอีกทีก่อนทิ้งเพราะถังขยะไม่มีฝา เราก็โดนคุณแม่ติค่ะ ว่าทิ้งไว้แบบนั้นไม่ได้มันน่าเกลียด เราก็ให้สามีพาไปซื้อขยะถังน้อยที่มีฝาค่ะ ช่วงที่ปจด.ไม่มา ถังขยะก็ว่าง แต่มีช่วงหนึ่งที่คุณยายมาหา แล้วคุณยายชอบทิ้งทิชชู่ในถังขยะ ซึ่งจริงๆแล้วๆมันทิ้งลงชักโครกได้ พอถังเต็มไม่มีคนทิ้ง คุณแม่ก็ติเราค่ะ ว่าทำไมถังเต็มแบบนั้น เราก็บอกว่า เราไม่ได้ทิ้งนะคะ เขาบอกเขารู้ ว่ายายทิ้ง แต่ทำไมปล่อยให้เต็ม ก็คือให้คอยไปเททิ้งค่ะ ด้วยความที่ถังมันเล็กมาก แล้วเต็มบ่อยมาก เราเลยเอาออกค่ะ แล้วก็เอามาไว้ในห้องนอน ซึ่งคิดว่าแม่คงไม่เห็นและไม่รู้ค่ะ
5.เรามีลิ้นชักข้างเตียงนอน แล้วใส่ผ้าอนามัย(ที่ยังไม่ได้ใช้นะคะ)ไว้ชั้นบนสุด วันหนึ่งคุณแม่มาหาอะไรสักอย่างในห้องเรากับสามี แล้วเจอผ้าอนามัย ก็บอกเราให้ย้ายลงข้างล่าง มันไม่ดีอยู่เสมอหัวนอน เราก็ย้ายลงให้ เวลาผ่านมาก็มาหาอะไรสักอย่างในห้องเราอีก เจอผ้าอนามัยอยู่ในลิ้นชักตัวเดิม แต่เราย้ายลงไว้ล่างสุดแล้วนะคะ ก็บอกเราว่า แม่บอกแล้วใช่ไหม ว่าให้ย้าย เราก็ย้ายแล้วนะคะ แต่คุณแม่เขาหมายถึงให้ย้ายให้ไกลจากหัวเตียง เราไม่มีที่ไว้ และรู้สึกว่า อะไรนักหนาเนี่ย เลยถามกลับไปว่า แล้วจะให้หนูไว้ตรงไหนคะ เขาบอกให้ไว้ตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ตรงนั้น ถามแบบนี้ไม่พอใจใช่ไหม แล้วก็โกรธเราไปเลยค่ะ
6.เรารู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจ เพราะคุณแม่ไม่ยอมหยิบจับ หรือช่วยงานบ้านค่ะ ท่านดื่มกาแฟตอนเช้า กับขนมเค้ก บางทีก็ทิ้งไว้ให้เราล้าง รู้สึกเบาขึ้นนิดหน่อยที่ท่านรับผิดชอบซักและรีดเสื้อผ้าของตัวเอง แต่อย่างอื่นไม่ช่วยเลยค่ะ อีกทั้งยังชอบติ และคอยถามว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้นทำไมไม่ทำแบบนี้ ช่วงนี้เราเรียนขับรถ นอนดึกตื่นเช้า ไปเรียนขับรถ กลับมาถึงต้องรีบทำกับข้าว อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เริ่มบ่ายกลับดึก 5ทุ่ม วนแบบนี้ๆ เรารู้สึกเหนื่อยมากเลยค่ะ ยังดีที่สามีช่วยล้างจานชาม 😅
ขอบคุณที่อดทนอ่านจนจบนะคะ เราอยากจะขอคำแนะนำว่าทำอย่างไรดี ถึงจะอยู่ได้อย่างมีความสุข เราอึดอัดมากจริงๆ ที่คุณแม่เขาชอบติเรา บางทีก็แอบบคิดในมุมร้ายๆว่าเขาไม่ชอบเรารึป่าว แต่เราพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ เรามีความสุขที่ได้อยู่กับสามีนะคะ แต่พอต้องมาร่วมวงกัน3คน เราอึดอัด เพราะคุณแม่พูดอะไรประมาณที่เรารู้สึกว่าประชด ติ แบบทั้งอ้อมๆและตรงๆตลอดเลยค่ะ ช่วยให้คำปรึกษาเราหน่อยนะคะ😢🙏🏻🙏🏻
อยากระบายเรื่องแม่สามีค่ะ
ก็ไม่ถึงขั้นจู้จี้หรือบ่นจนปากเปียกปากแฉะนะคะ แต่เราอึดอัดมากเลยค่ะ ขอเล่าเป็นเรื่องๆนะคะ
1.แม่ของเราสอนให้ซักผ้าแยกผ้าสีผ้าขาว แยกชุดชั้นใน ถุงเท้า บ้านเราจะซักถุงเท้ากับชุดชั้นในก่อน1รอบ แล้วค่อยใส่ซักพร้อมกับเสื้อผ้าในเครื่องอีกทีค่ะ แต่แม่สามีเขาสอนให้ใช้เครื่อง เพราะคิดว่าเราใช้ไม่เป็น เขาโยนทุกอย่างรวมกัน แล้วกดโหมดซักเร็ว และกดsave water ด้วย ซึ่งเรามองว่ามันซักไม่สะอาดแน่นอน แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะคุณแม่เขาบอกให้ซักรวมกันนี่ล่ะ คือของเรา สามีแล้วก็ของคุณแม่
พอถึงเวลาซักผ้าอีกรอบ เราก็กดแบบซักปกติ ที่จะซักประมาณชั่วโมงกว่าๆอ่ะค่ะ คุณแม่เขามามองดูอยู่ข้างหลังแล้วถามว่า กดอะไรอะ เราก็หัวเราะ ฮิๆๆ แล้วก็บอกไปว่าที่บ้านหนูซักโหมดนี้ค่ะ เลยลองดู คุณแม่เขาก็บอกว่า แค่แบบที่สอนไปก็พอแล้ว แล้วเขาก็มากดใหม่
เราก็ตามน้ำไปค่ะ เพราะคิดว่า เรายังไม่ได้ทำงาน ยังช่วยเรื่องค่าไฟค่าน้ำไม่ได้ เขาอาจประหยัดน้ำไฟ
2.พอเราได้เริ่มทำงาน เราก็แชร์ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน อีกทั้งยังพยายามจ่ายให้มากขึ้น คือไม่ให้คุณแม่จ่ายค่ากับข้าว ค่าของใช้ต่างๆในบ้าน แชร์ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ-ไฟ
ทีนี้กลับมาที่เรื่องซักผ้า เราก็เปลี่ยนมาซักแบบโหมดซุปเปอร์คลีน คุณแม่ก็ทำแบบเดิม (เพราะเวลาเราจะซักผ้าคุณแม่จะมายืนดูตลอด😅)
ด้วยความที่ว่า เราเริ่มออกไปทำงาน เป็นคนเหงื่ออกเยอะ ก็เลยไม่สะดวกใจที่จะซักผ้าที่เปียกเหงื่อ กับเสื้อผ้าของคุณแม่ และอยากซักให้สะอาดจริงๆเลยเลือกโหมดซุปเปอร์คลีน เลยแยกซัก
และพอจะซักผ้าอีกทีที่เป็นเสื้อผ้าใส่เที่ยว ใส่ในบ้าน เราก็เอาเสื้อผ้าคุณแม่ซักรวมด้วย คุณแม่เขาเห็นก็ "เฮ้ยๆๆ ทำไรอะ ไม่ต้องซัก เดี๋ยวซักเอง"
เราเลยไม่ยุ่งอีกเลยค่ะ ซักแยกของใครของมัน เรารู้สึกดีขึ้นด้วยค่ะ เพราะเราเป็นคนซักผ้า รีดผ้า ซึ่งมันเยอะมากๆ ของ3คน เพราะแต่ละคนก็เสื้อผ้าเยอะ
ก่อนหน้านั้นทำได้เพราะอยู่บ้านเฉยๆ แต่พอทำงาน ก็ยังต้องทำจึงรู้สึกเหนื่อยมาก (เราทำงานบ้านทุกอย่างค่ะ คลีนบ้าน ซักเสื้อผ้า รีดผ้า ทำกับข้าว ล้างถ้วยล้างจาน)
3.เคยมีเรื่องทะเลาะกัน เพราะ คุณแม่เขาเป็นคนพูดจากระโชกโฮกฮาก กินข้าวเสร็จเราก็จะเก็บทุกอย่างทิ้ง พวกน้ำจิ้ม เราทำกับข้าวเอง มันเหลือนิดเดียวและไม่ได้ใช้ช้อนกลาง เก็บไว้สุดท้ายก็ต้องทิ้งแล้วทำใหม่ เราจะทิ้งแต่สามีบอกให้เก็บ เราก็เถียงกันไปมา แต่แบบน่ารักๆนะคะ แบบงุ้งงิ้งเลย คุณแม่เขาพูดขึ้นมาว่า" ไม่กินก็ไม่ต้องกิน เดี๋ยวกินเอง" ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนรำคาญอะค่ะ เรารู้สึกทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย พูดดีๆกันก็ได้เนอะ เราหน้าแดงจะร้องไห้ เลยเดินหนีออกไป วันนั้นก็พยายามไม่อยู่ใกล้ กลายเป็นพากันโกรธ บรรยากาศแย่มาก เช้าวันต่อมาคุณแม่เลยเรียกคุย เขาบอกว่าเราทำตัวไม่น่ารัก ทำไมถึงมาเหวี่ยงใส่ เราไม่ได้เหวี่ยงเลยนะคะ แค่เดินหนี เพราะรู้สึกเสียใจจริงๆ เราเก็บกดด้วยค่ะ เพราะคุณแม่ชอบพูดอะไรประมาณนี้ค่อนข้างบ่อย
เช่น เราจะออกไปทำธุระข้างนอก ก็ถามว่า "จะออกไปข้างนอกนี่ ทำกับข้าวกับปลาให้คนในบ้านรึยัง" ด้วยน้ำเสียงที่เหวี่ยงๆ ซึ่งเราตื่นมาทำตั้งแต่เช้าแล้ว
มีช่วงหนึ่งที่คุณยายของสามีบินมาเยี่ยม ท่านกินเผ็ดไม่ได้ เราก็พยายามหาเมนูที่ไม่เผ็ดให้ท่าน และเมนูเผ็ดสำหรับพวกเรา3คน คุณแม่ก็จะถามว่า อันนี้ไม่มีแบบไม่เผ็ดหรอ เราก็อธิบายว่า เรามีเมนูเผ็ดกับไม่เผ็ด จะได้มีหลายๆเมนู คุณแม่ก็ดูเหมือนไม่พอใจเพราะอยากให้คุณยายทานเหมือนกัน ครั้งต่อไปเราก็ทำเมนูเดียวแต่แยกเผ็ดกับไม่เผ็ด คุณแม่ก็ถามว่า มีเมนูเดียวหรอ ทำไมไม่ทำเพิ่มอีกสักอย่างล่ะ? อะไรประมาณนี้ค่ะ
4.ช่วงแรกที่เราเข้ามาอยู่ เราวางถังขยะถังน้อยในห้องน้ำไว้สำหรับใส่ผ้าอนามัยที่ใช้แล้วค่ะ เราใช้กระดาษรีไซเคิลม้วนผ้าอนามัยอีกทีก่อนทิ้งเพราะถังขยะไม่มีฝา เราก็โดนคุณแม่ติค่ะ ว่าทิ้งไว้แบบนั้นไม่ได้มันน่าเกลียด เราก็ให้สามีพาไปซื้อขยะถังน้อยที่มีฝาค่ะ ช่วงที่ปจด.ไม่มา ถังขยะก็ว่าง แต่มีช่วงหนึ่งที่คุณยายมาหา แล้วคุณยายชอบทิ้งทิชชู่ในถังขยะ ซึ่งจริงๆแล้วๆมันทิ้งลงชักโครกได้ พอถังเต็มไม่มีคนทิ้ง คุณแม่ก็ติเราค่ะ ว่าทำไมถังเต็มแบบนั้น เราก็บอกว่า เราไม่ได้ทิ้งนะคะ เขาบอกเขารู้ ว่ายายทิ้ง แต่ทำไมปล่อยให้เต็ม ก็คือให้คอยไปเททิ้งค่ะ ด้วยความที่ถังมันเล็กมาก แล้วเต็มบ่อยมาก เราเลยเอาออกค่ะ แล้วก็เอามาไว้ในห้องนอน ซึ่งคิดว่าแม่คงไม่เห็นและไม่รู้ค่ะ
5.เรามีลิ้นชักข้างเตียงนอน แล้วใส่ผ้าอนามัย(ที่ยังไม่ได้ใช้นะคะ)ไว้ชั้นบนสุด วันหนึ่งคุณแม่มาหาอะไรสักอย่างในห้องเรากับสามี แล้วเจอผ้าอนามัย ก็บอกเราให้ย้ายลงข้างล่าง มันไม่ดีอยู่เสมอหัวนอน เราก็ย้ายลงให้ เวลาผ่านมาก็มาหาอะไรสักอย่างในห้องเราอีก เจอผ้าอนามัยอยู่ในลิ้นชักตัวเดิม แต่เราย้ายลงไว้ล่างสุดแล้วนะคะ ก็บอกเราว่า แม่บอกแล้วใช่ไหม ว่าให้ย้าย เราก็ย้ายแล้วนะคะ แต่คุณแม่เขาหมายถึงให้ย้ายให้ไกลจากหัวเตียง เราไม่มีที่ไว้ และรู้สึกว่า อะไรนักหนาเนี่ย เลยถามกลับไปว่า แล้วจะให้หนูไว้ตรงไหนคะ เขาบอกให้ไว้ตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ตรงนั้น ถามแบบนี้ไม่พอใจใช่ไหม แล้วก็โกรธเราไปเลยค่ะ
6.เรารู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจ เพราะคุณแม่ไม่ยอมหยิบจับ หรือช่วยงานบ้านค่ะ ท่านดื่มกาแฟตอนเช้า กับขนมเค้ก บางทีก็ทิ้งไว้ให้เราล้าง รู้สึกเบาขึ้นนิดหน่อยที่ท่านรับผิดชอบซักและรีดเสื้อผ้าของตัวเอง แต่อย่างอื่นไม่ช่วยเลยค่ะ อีกทั้งยังชอบติ และคอยถามว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้นทำไมไม่ทำแบบนี้ ช่วงนี้เราเรียนขับรถ นอนดึกตื่นเช้า ไปเรียนขับรถ กลับมาถึงต้องรีบทำกับข้าว อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เริ่มบ่ายกลับดึก 5ทุ่ม วนแบบนี้ๆ เรารู้สึกเหนื่อยมากเลยค่ะ ยังดีที่สามีช่วยล้างจานชาม 😅
ขอบคุณที่อดทนอ่านจนจบนะคะ เราอยากจะขอคำแนะนำว่าทำอย่างไรดี ถึงจะอยู่ได้อย่างมีความสุข เราอึดอัดมากจริงๆ ที่คุณแม่เขาชอบติเรา บางทีก็แอบบคิดในมุมร้ายๆว่าเขาไม่ชอบเรารึป่าว แต่เราพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ เรามีความสุขที่ได้อยู่กับสามีนะคะ แต่พอต้องมาร่วมวงกัน3คน เราอึดอัด เพราะคุณแม่พูดอะไรประมาณที่เรารู้สึกว่าประชด ติ แบบทั้งอ้อมๆและตรงๆตลอดเลยค่ะ ช่วยให้คำปรึกษาเราหน่อยนะคะ😢🙏🏻🙏🏻