สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เป็นผม ผมก็เสียความรู้สึกนะ
ผมว่าแฟนคุณเขาคงรู้ว่าคุณคิดอะไร ขนาดผมอ่านประโยคที่คุณเขียน ผมยังสะอึกเลย
เหมือนโดนบังคับให้รับของที่เราไม่อยากได้ จะได้เลิกบ่นสักทีอะไรประมาณนั้น
ถ้าเกิดผมซื้อของแล้ว ความหวังดีกลายเป็นความนอยด์แล้วถูกมองลบแบบนี้
ผมคงเสียความรู้สึกเช่นกัน เขาก็คงมีเหตุผลที่จะซื้อชิ้นนี้ให้คุณด้วยสเปคอะไรเท่านี้
เหมือนเช่นเหตุผลที่คุณไปพูดคุยกับเขา เพราะคุณก็พูดคุยกันไปแล้วว่าอะไรเพียงพอ
เขาคงเข้าใจในตรงนั้นไปแล้ว
ถ้าคุณรับด้วยความขอบคุณอาจจะไม่ดีใจมากเพราะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองอยากได้
แต่ดีใจ ยินดีกับน้ำใจที่เขาให้สักหน่อย ผมว่าเรื่องอาจจะไม่เป็นแบบนี้
คบกันมา 9 ปี ผมว่ามองหน้าก็รู้ใจกันแล้วมั้งครับ ผมว่าเขาก็รู้แหละว่าคุณคิดอะไร
เผลอๆเขาอาจจะรู้ว่าคุณไม่ได้เข้าใจเขาและโทรไปง้องั้นๆ คุณทำเป็นพิธี
เหมือนที่ผมบอกไง ผมอ่านผมยังสะอึก ยิ่งคนสนิทยิ่งเสียใจเป็นธรรมดา
ถ้าคุณจะคิดว่าไม่ผิดก็แล้วแต่คุณครับ แต่มุมมองผมคุณใจร้ายเกินไป
ไม่หน่อยเท่าไหร่ในแบบที่คุณคิดนะ
ผมว่าแฟนคุณเขาคงรู้ว่าคุณคิดอะไร ขนาดผมอ่านประโยคที่คุณเขียน ผมยังสะอึกเลย
เหมือนโดนบังคับให้รับของที่เราไม่อยากได้ จะได้เลิกบ่นสักทีอะไรประมาณนั้น
ถ้าเกิดผมซื้อของแล้ว ความหวังดีกลายเป็นความนอยด์แล้วถูกมองลบแบบนี้
ผมคงเสียความรู้สึกเช่นกัน เขาก็คงมีเหตุผลที่จะซื้อชิ้นนี้ให้คุณด้วยสเปคอะไรเท่านี้
เหมือนเช่นเหตุผลที่คุณไปพูดคุยกับเขา เพราะคุณก็พูดคุยกันไปแล้วว่าอะไรเพียงพอ
เขาคงเข้าใจในตรงนั้นไปแล้ว
ถ้าคุณรับด้วยความขอบคุณอาจจะไม่ดีใจมากเพราะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองอยากได้
แต่ดีใจ ยินดีกับน้ำใจที่เขาให้สักหน่อย ผมว่าเรื่องอาจจะไม่เป็นแบบนี้
คบกันมา 9 ปี ผมว่ามองหน้าก็รู้ใจกันแล้วมั้งครับ ผมว่าเขาก็รู้แหละว่าคุณคิดอะไร
เผลอๆเขาอาจจะรู้ว่าคุณไม่ได้เข้าใจเขาและโทรไปง้องั้นๆ คุณทำเป็นพิธี
เหมือนที่ผมบอกไง ผมอ่านผมยังสะอึก ยิ่งคนสนิทยิ่งเสียใจเป็นธรรมดา
ถ้าคุณจะคิดว่าไม่ผิดก็แล้วแต่คุณครับ แต่มุมมองผมคุณใจร้ายเกินไป
ไม่หน่อยเท่าไหร่ในแบบที่คุณคิดนะ
ความคิดเห็นที่ 68
1. เหมือนคุณ เอาแต่ "ใจเรา" ไม่สนใจ "ใจเขา" เลยนะครับ
ไล่อ่านคำตอบคุณทุกคอมเมนต์ ก็เหมือนคุณยังไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองทำผิดอะไรจริงๆ
จริงๆ แค่คุณลองมอง "ตัวเรา" จากมุมของ "ตัวเขา" บ้าง
(ให้ตัวคุณเป็นคนที่ตั้งใจซื้อของให้ ให้แผนคุณเป็นคนรับ แล้วคุณได้รับการตอบสนองแบบที่คุณทำให้เขา)
คุณน่าจะได้คำตอบอะไรแล้วนะครับ ถ้ายังคิดไม่ออก ก็รอให้เวลามันช่วยตั้งสติของคุณครับ
ยิ่งคบกันมา 9 ปี อุปนิสัย การคิด การตัดสินใจอะไร น่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรครับ
2. ตอนแรกผมเข้าข้างคุณนะครับ แต่พอเจอประโยค
"ช่วงโควิด งานชะงัก แฟนมาช่วยจ่ายค่ารถให้ เป็นระยะเวลา 5 เดือน"
ทำให้รู้สึกว่าคุณเป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบวินัย-การวางแผนในการใช้เงินเลย
แค่โควิทระยะสั้นๆ (แน่นอนว่ามันกระทบหลายคนครับ) แต่คุณหนักถึงขั้นไม่มีเงินสำรองมาจัดการตรงนี้เลย
ต้องเป็นภาระให้คนอื่นรับผิดชอบตัวคุณเอง
พอการงานเข้าที่นิดหน่อย มีเงินเข้ามาก็จับจ่ายพุ่มเฟือยแล้ว NB ช่วยน้อง อ่ะ อยากช่วยจ่ายไป 8K
พึ่งอัพคอมมาอีก แถมกิเลสอยากได้ NB 40K ดูมีแต่รายจ่ายนะครับ
หากมีเงินแล้ว เงินที่แฟนช่วยผ่อนรถมาตั้ง 5 เดือน ได้คืนเงินเขาไปหรือยัง?
หรือมีความรู้สึกอยากจะคืนเขาไปไหม?
(แต่ถ้าไม่เป็นไรแฟนฉันสายเปย์ เงินแค่นี้ไม่ระคายเคืองเขาหรอก ก็ไม่ต้องคืนครับ แต่ให้รู้ว่าเขาตามเช็ดก้นคุณอยู่)
เรื่องงานที่ทำในภาวะโควิด + การบริหารประเทศโดยรัฐบาลที่ยอดเยี่ยวแบบนี้ มันมั่นคงแค่ไหนครับ?
ถ้าสมมติวันหนึ่งทุกอย่างมันกลับไปเหมือนเดิม คุณไม่มีงานเข้ามาอีก
ไอ้ NB ตามกิเลสที่ซื้อเผื่อนั่นเผื่อนี่ สเปคเทพ หมุนได้ 360 องศา มี Touchscreen เป็น 2 in 1 ด้วย มันจะยังมีประโยชน์อยู่ไหม?
เอาไป present ใคร เอาไปตัดต่องานอะไรล่ะ ก็ไม่มีงานเข้ามานั่งตบยุงอยู่บ้าน หรือเอาไปนั่งดูซีรีย์เก๋ๆ
ปัดหน้าจอรองานใหม่ไปแบบนั้นครับ?
แล้วไม่มีงาน ไม่มีรายได้ บ้าน ค่ากินค่าอยู่เอามาจากไหน?
พึ่งผ่านช่วงวิกฤติมา(ที่คนอื่นตามเช็ดก้นให้) ตอนนี้มีเงินเก็บหรือเปล่า ถ้ามีมันพอจะเจอวิกฤติอีกรอบไหม?
ต้องให้แฟนมานั่งผ่อนรถให้อีกรอบหรือเปล่าครับ? หรือถ้าเขาไม่ช่วยต้องขายรถทิ้งแบบถูกๆไหมครับ?
คุณได้คิดถึง หรือเรียนรู้จากที่ผ่านมาบ้างไหมครับ?ผมไม่รู้ว่าคุณได้เรียนรู้อะไรหรือเปล่า
แต่แฟนคุณได้เรียนรู้ครับ แล้วเขาก็เห็นปัญหาของคุณที่ผ่านมา เขาก็พยายามเตือนสติคุณทางอ้อม
แต่คุณก็เอา "ใจเรา - กิเลสเรา - เหตุผลเรา" นำทัพครับ ไม่ฟังอะไรเลย ยังใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยงแบบนั้นต่อไป
แถมไม่พอยังไปทำร้ายจิตใจเขาอีก คุณนี่โคตรใจร้ายเลยนะครับ
ปล. ถ้าคุณไม่ได้ให้ข้อมูลว่าคุณมาคอมสำหรับทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่แล้ว
ผมยังจะสนับสนุนให้คุณจัด 40K ของคุณนะครับแต่นี่หลักๆคืองานจุกๆจิกๆ แล้วที่เหลือคือเผื่อนั่น เผื่อนี่ เผื่อโน่น
ค่าเผื่อของคุณคือ 21,700 นะครับ คุ้มไหมครับ ถ้าคุ้มก็ซื้อไปเลย เอาของที่แฟนให้ไปขาย หรือถ้าไม่ขายก็เอาเป็นเครื่องสำรอง
เอาไปวางทับกระดาษ เอาไว้ดูซีรีย์ในห้องนอน ฯลฯ (แต่เจ้า 40K ของคุณก็จะมีราคาจริงที่ 57K พอดี)
ไล่อ่านคำตอบคุณทุกคอมเมนต์ ก็เหมือนคุณยังไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองทำผิดอะไรจริงๆ
จริงๆ แค่คุณลองมอง "ตัวเรา" จากมุมของ "ตัวเขา" บ้าง
(ให้ตัวคุณเป็นคนที่ตั้งใจซื้อของให้ ให้แผนคุณเป็นคนรับ แล้วคุณได้รับการตอบสนองแบบที่คุณทำให้เขา)
คุณน่าจะได้คำตอบอะไรแล้วนะครับ ถ้ายังคิดไม่ออก ก็รอให้เวลามันช่วยตั้งสติของคุณครับ
ยิ่งคบกันมา 9 ปี อุปนิสัย การคิด การตัดสินใจอะไร น่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรครับ
2. ตอนแรกผมเข้าข้างคุณนะครับ แต่พอเจอประโยค
"ช่วงโควิด งานชะงัก แฟนมาช่วยจ่ายค่ารถให้ เป็นระยะเวลา 5 เดือน"
ทำให้รู้สึกว่าคุณเป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบวินัย-การวางแผนในการใช้เงินเลย
แค่โควิทระยะสั้นๆ (แน่นอนว่ามันกระทบหลายคนครับ) แต่คุณหนักถึงขั้นไม่มีเงินสำรองมาจัดการตรงนี้เลย
ต้องเป็นภาระให้คนอื่นรับผิดชอบตัวคุณเอง
พอการงานเข้าที่นิดหน่อย มีเงินเข้ามาก็จับจ่ายพุ่มเฟือยแล้ว NB ช่วยน้อง อ่ะ อยากช่วยจ่ายไป 8K
พึ่งอัพคอมมาอีก แถมกิเลสอยากได้ NB 40K ดูมีแต่รายจ่ายนะครับ
หากมีเงินแล้ว เงินที่แฟนช่วยผ่อนรถมาตั้ง 5 เดือน ได้คืนเงินเขาไปหรือยัง?
หรือมีความรู้สึกอยากจะคืนเขาไปไหม?
(แต่ถ้าไม่เป็นไรแฟนฉันสายเปย์ เงินแค่นี้ไม่ระคายเคืองเขาหรอก ก็ไม่ต้องคืนครับ แต่ให้รู้ว่าเขาตามเช็ดก้นคุณอยู่)
เรื่องงานที่ทำในภาวะโควิด + การบริหารประเทศโดยรัฐบาลที่ยอดเยี่ยวแบบนี้ มันมั่นคงแค่ไหนครับ?
ถ้าสมมติวันหนึ่งทุกอย่างมันกลับไปเหมือนเดิม คุณไม่มีงานเข้ามาอีก
ไอ้ NB ตามกิเลสที่ซื้อเผื่อนั่นเผื่อนี่ สเปคเทพ หมุนได้ 360 องศา มี Touchscreen เป็น 2 in 1 ด้วย มันจะยังมีประโยชน์อยู่ไหม?
เอาไป present ใคร เอาไปตัดต่องานอะไรล่ะ ก็ไม่มีงานเข้ามานั่งตบยุงอยู่บ้าน หรือเอาไปนั่งดูซีรีย์เก๋ๆ
ปัดหน้าจอรองานใหม่ไปแบบนั้นครับ?
แล้วไม่มีงาน ไม่มีรายได้ บ้าน ค่ากินค่าอยู่เอามาจากไหน?
พึ่งผ่านช่วงวิกฤติมา(ที่คนอื่นตามเช็ดก้นให้) ตอนนี้มีเงินเก็บหรือเปล่า ถ้ามีมันพอจะเจอวิกฤติอีกรอบไหม?
ต้องให้แฟนมานั่งผ่อนรถให้อีกรอบหรือเปล่าครับ? หรือถ้าเขาไม่ช่วยต้องขายรถทิ้งแบบถูกๆไหมครับ?
คุณได้คิดถึง หรือเรียนรู้จากที่ผ่านมาบ้างไหมครับ?ผมไม่รู้ว่าคุณได้เรียนรู้อะไรหรือเปล่า
แต่แฟนคุณได้เรียนรู้ครับ แล้วเขาก็เห็นปัญหาของคุณที่ผ่านมา เขาก็พยายามเตือนสติคุณทางอ้อม
แต่คุณก็เอา "ใจเรา - กิเลสเรา - เหตุผลเรา" นำทัพครับ ไม่ฟังอะไรเลย ยังใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยงแบบนั้นต่อไป
แถมไม่พอยังไปทำร้ายจิตใจเขาอีก คุณนี่โคตรใจร้ายเลยนะครับ
ปล. ถ้าคุณไม่ได้ให้ข้อมูลว่าคุณมาคอมสำหรับทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่แล้ว
ผมยังจะสนับสนุนให้คุณจัด 40K ของคุณนะครับแต่นี่หลักๆคืองานจุกๆจิกๆ แล้วที่เหลือคือเผื่อนั่น เผื่อนี่ เผื่อโน่น
ค่าเผื่อของคุณคือ 21,700 นะครับ คุ้มไหมครับ ถ้าคุ้มก็ซื้อไปเลย เอาของที่แฟนให้ไปขาย หรือถ้าไม่ขายก็เอาเป็นเครื่องสำรอง
เอาไปวางทับกระดาษ เอาไว้ดูซีรีย์ในห้องนอน ฯลฯ (แต่เจ้า 40K ของคุณก็จะมีราคาจริงที่ 57K พอดี)
ความคิดเห็นที่ 38
ทิ้งทิฐิก่อนเลยค่ะ ถ้ายังอยากคบกันต่อไปน่ะนะ
คุณไปปรึกษาแฟน ถูกแล้ว มีอะไรปรึกษาแฟน แฟนแนะนำ เราจะทำตามมั้ย แล้วแต่เรา
เงินคุณ ใช่ค่ะ ตอนแรกใจเราก็เข้าใจจุดนี้ แต่พอเราเจอประโยคที่ว่า
"ช่วงโควิด งานชะงัก แฟนมาช่วยจ่ายค่ารถให้ เป็นระยะเวลา 5 เดือน" แปลว่าคุณไม่มีเงินเก็บสำรองหรือเปล่าคะ? >> เป็นที่มาของ "ตอนแฟนเอา 17000 มาให้ บอกให้เราเก็บเงินไว้อย่าไปซื้อ 40000 เลย"
คุณควรเก็บเงินสำรองไว้บ้างจริงๆค่ะ เงินคุณที่ซื้อของน่ะใช่ แต่ตอนมีปัญหาการเงินคุณชะงักใครเข้ามาเป็นคนช่วยคะ? ก็แฟน
ถ้าคุณไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงินใดๆเลยเราก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของคุณจริงและแฟนคุณอาจจะคิดน้อยไป(ตามประสา)ที่ซื้อมาเซอร์ไพร์ส
แต่เนี่ย มันมีปัญหาค่ะ ช่วงโควิด หมุนเงินไม่ทัน ใดๆก็ตามแต่ แฟนคุณเห็นถึงปัญหา เพราะเขามองจากมุมคนนอก(หมายถึงคนที่ไม่ได้อยากได้เครื่อง) เขามองว่ารุ่นนี้มันก็ตอบโจทย์คุณมากพอแล้ว
เหตุผลอย่างอื่นที่แฟนยกมาปักตกตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นข้อไหนที่คุณยกมา ก็เพราะอยากให้คุณเก็บเงินไว้ไม่ใช่หรอคะ?
ถ้าเขาไม่ได้เห็นว่าคุณมีปัญหาการเงินในช่วงโควิด เชื่อเถอะว่าเขาไม่มายุ่งกับคุณหรอก ไม่มาซื้อให้ด้วย
รอบนี้คุณพลาดนะ จริงๆ เราเป็นแฟนคุณเจอแบบนี้คงเหนื่อยมาก คงรู้สึกแบบนี้กุไปเสื*กซื้อให้ทำไม ไปเป็นห่วงทำไม ไปเอาเครื่อง 8000 มาใช้เองทำไมอีก เห้อ เขาแคร์คุณมากนะ ถึงยอมเอาเครื่อง 8000 ไปใช้เองอะ
แถมง้อก็ไม่ง้อ ง้อแบบ เหมือนกลัวเขาคืนดีด้วย โอยยย คุณรักศักดิ์ศรีมากเลยหรอ เราทะเลาะกับแฟนแฟนไม่คุยด้วยแปปเดียวเราก็แทบคลั่งแล้ว ไม่สนใจแล้วใครผิดใครถูกใครใช้เครื่องไหน รักของเรากับเขามีค่ามากกว่าเครื่อง 40000 อีก ฮือ
คุณไปปรึกษาแฟน ถูกแล้ว มีอะไรปรึกษาแฟน แฟนแนะนำ เราจะทำตามมั้ย แล้วแต่เรา
เงินคุณ ใช่ค่ะ ตอนแรกใจเราก็เข้าใจจุดนี้ แต่พอเราเจอประโยคที่ว่า
"ช่วงโควิด งานชะงัก แฟนมาช่วยจ่ายค่ารถให้ เป็นระยะเวลา 5 เดือน" แปลว่าคุณไม่มีเงินเก็บสำรองหรือเปล่าคะ? >> เป็นที่มาของ "ตอนแฟนเอา 17000 มาให้ บอกให้เราเก็บเงินไว้อย่าไปซื้อ 40000 เลย"
คุณควรเก็บเงินสำรองไว้บ้างจริงๆค่ะ เงินคุณที่ซื้อของน่ะใช่ แต่ตอนมีปัญหาการเงินคุณชะงักใครเข้ามาเป็นคนช่วยคะ? ก็แฟน
ถ้าคุณไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงินใดๆเลยเราก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของคุณจริงและแฟนคุณอาจจะคิดน้อยไป(ตามประสา)ที่ซื้อมาเซอร์ไพร์ส
แต่เนี่ย มันมีปัญหาค่ะ ช่วงโควิด หมุนเงินไม่ทัน ใดๆก็ตามแต่ แฟนคุณเห็นถึงปัญหา เพราะเขามองจากมุมคนนอก(หมายถึงคนที่ไม่ได้อยากได้เครื่อง) เขามองว่ารุ่นนี้มันก็ตอบโจทย์คุณมากพอแล้ว
เหตุผลอย่างอื่นที่แฟนยกมาปักตกตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นข้อไหนที่คุณยกมา ก็เพราะอยากให้คุณเก็บเงินไว้ไม่ใช่หรอคะ?
ถ้าเขาไม่ได้เห็นว่าคุณมีปัญหาการเงินในช่วงโควิด เชื่อเถอะว่าเขาไม่มายุ่งกับคุณหรอก ไม่มาซื้อให้ด้วย
รอบนี้คุณพลาดนะ จริงๆ เราเป็นแฟนคุณเจอแบบนี้คงเหนื่อยมาก คงรู้สึกแบบนี้กุไปเสื*กซื้อให้ทำไม ไปเป็นห่วงทำไม ไปเอาเครื่อง 8000 มาใช้เองทำไมอีก เห้อ เขาแคร์คุณมากนะ ถึงยอมเอาเครื่อง 8000 ไปใช้เองอะ
แถมง้อก็ไม่ง้อ ง้อแบบ เหมือนกลัวเขาคืนดีด้วย โอยยย คุณรักศักดิ์ศรีมากเลยหรอ เราทะเลาะกับแฟนแฟนไม่คุยด้วยแปปเดียวเราก็แทบคลั่งแล้ว ไม่สนใจแล้วใครผิดใครถูกใครใช้เครื่องไหน รักของเรากับเขามีค่ามากกว่าเครื่อง 40000 อีก ฮือ
ความคิดเห็นที่ 4
ขออภัยด้วยนะคะ ที่ทำให้หลายๆคนไม่พอใจกับคำตอบ
เราตอบจากมุมมองของเรา ตามที่อ่านเนื้อหากระทู้ครั้งแรก .... เท่านั้นค่ะ
แต่ในมุมของ จขกท. ในเรื่องนี้
(เพิ่งอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ จขกท. ให้มาภายหลัง ในคห 2-4) ที่แฟนเขาเคยช่วยเหลือ ช่วยผ่อนรถให้ช่วงประสบวิกฤติโควิด
ทำให้เข้าใจเขามากขึ้นว่าทำไม เขาถึงงอนนาน ถึง 5 วัน
มันเป็นเรื่องของวินัย การใช้เงินของ จขกท. เอง แฟนเขาอยากจะให้ประหยัด และรู้จักใช้เงินตามสมควร
(แบบนี้ จะอ้างไม่ได้แล้ว ว่าใช้เงินตัวเองซื้อ เพราะเวลาตัวเองเดือดร้อน แฟนก็คอยดูแล และช่วยเหลือ)
ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับจุดที่เราโฟกัสครั้งแรก สามจุด คือ
_รู้ทั้งรู้ ว่าอยากได้อะไร แต่ซื้อให้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ (เราไม่ได้ขอให้ซื้อให้แต่แรก) แล้วจะให้เราทำท่าดีใจ เราไม่ทำ
_ง้อแล้ว ขอโทษแล้วไม่หาย (เพราะเข้าใจได้ว่าคนซื้อของให้ คนรับไม่ดีใจ ย่อมเสียใจ)
_งอน 5 วัน สำหรับเรา นานเกินไปหากแค่ ซื้อของให้เราไม่ดีใจแล้วงอน
แต่เป็นเรื่อง ผิดหวัง น้อยใจ ที่ลามไปถึงเรื่องวินัยการใช้เงิน การรู้จักคุณค่าของเงิน อยากให้เลือกใช้ให้สมราคา สมควรแก่ฐานานุรูปตน
การงอนแบบนี้ น่าจะเป็นการทำโทษ ให้รู้จักฉุกคิด
(ในฐานะคนที่เคยช่วยเหลือกันมา และเคยปรารภเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง) ถือว่าสมเหตุสมผลค่ะ
จากเรื่องราวทั้งหมด ...
เราเห็นด้วยที่ว่า ควรไปง้อแฟนล่ะค่ะ ขอโทษเขา และอธิบายว่า เข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อแล้ว
เราเชื่อว่า ฝ่ายชาย คงจะใจเย็นลงแล้ว (จากประโยคที่เขายังตอบกลับมาว่ายังไม่ว่างนะ)
เดี๋ยวก็ดีกันแหละ จขกท. และ แฟน ก็จะได้บทเรียน จากเรื่องนี้เยอะ
หลังทะเลาะกัน พอมาดีกัน คุยกันเคลียร์กัน ก็จะเข้าใจกันมากขึ้น ได้รู้ถึง ความรู้สึกของตัวเองและอีกฝ่ายมากขึ้น
ต่อไป จะถนอมน้ำใจกันมากกว่าเก่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมายเหตุ. แก้ไขคำตอบ จากข้อมูลที่ได้มาเพิ่ม / คำตอบเติมอยู่ในสปอย นะคะ
เราตอบจากมุมมองของเรา ตามที่อ่านเนื้อหากระทู้ครั้งแรก .... เท่านั้นค่ะ
แต่ในมุมของ จขกท. ในเรื่องนี้
(เพิ่งอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ จขกท. ให้มาภายหลัง ในคห 2-4) ที่แฟนเขาเคยช่วยเหลือ ช่วยผ่อนรถให้ช่วงประสบวิกฤติโควิด
ทำให้เข้าใจเขามากขึ้นว่าทำไม เขาถึงงอนนาน ถึง 5 วัน
มันเป็นเรื่องของวินัย การใช้เงินของ จขกท. เอง แฟนเขาอยากจะให้ประหยัด และรู้จักใช้เงินตามสมควร
(แบบนี้ จะอ้างไม่ได้แล้ว ว่าใช้เงินตัวเองซื้อ เพราะเวลาตัวเองเดือดร้อน แฟนก็คอยดูแล และช่วยเหลือ)
ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับจุดที่เราโฟกัสครั้งแรก สามจุด คือ
_รู้ทั้งรู้ ว่าอยากได้อะไร แต่ซื้อให้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ (เราไม่ได้ขอให้ซื้อให้แต่แรก) แล้วจะให้เราทำท่าดีใจ เราไม่ทำ
_ง้อแล้ว ขอโทษแล้วไม่หาย (เพราะเข้าใจได้ว่าคนซื้อของให้ คนรับไม่ดีใจ ย่อมเสียใจ)
_งอน 5 วัน สำหรับเรา นานเกินไปหากแค่ ซื้อของให้เราไม่ดีใจแล้วงอน
แต่เป็นเรื่อง ผิดหวัง น้อยใจ ที่ลามไปถึงเรื่องวินัยการใช้เงิน การรู้จักคุณค่าของเงิน อยากให้เลือกใช้ให้สมราคา สมควรแก่ฐานานุรูปตน
การงอนแบบนี้ น่าจะเป็นการทำโทษ ให้รู้จักฉุกคิด
(ในฐานะคนที่เคยช่วยเหลือกันมา และเคยปรารภเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง) ถือว่าสมเหตุสมผลค่ะ
จากเรื่องราวทั้งหมด ...
เราเห็นด้วยที่ว่า ควรไปง้อแฟนล่ะค่ะ ขอโทษเขา และอธิบายว่า เข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อแล้ว
เราเชื่อว่า ฝ่ายชาย คงจะใจเย็นลงแล้ว (จากประโยคที่เขายังตอบกลับมาว่ายังไม่ว่างนะ)
เดี๋ยวก็ดีกันแหละ จขกท. และ แฟน ก็จะได้บทเรียน จากเรื่องนี้เยอะ
หลังทะเลาะกัน พอมาดีกัน คุยกันเคลียร์กัน ก็จะเข้าใจกันมากขึ้น ได้รู้ถึง ความรู้สึกของตัวเองและอีกฝ่ายมากขึ้น
ต่อไป จะถนอมน้ำใจกันมากกว่าเก่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมายเหตุ. แก้ไขคำตอบ จากข้อมูลที่ได้มาเพิ่ม / คำตอบเติมอยู่ในสปอย นะคะ
แสดงความคิดเห็น
แฟนโกรธเพราะซื้อของให้แล้วเราไม่ดีใจ ไม่คุยกันมา 5 วันแล้ว เราผิดขนาดนั้นเลยเหรอคะ
ตอนแรกก็ว่าจะเอาแบบธรรมดาๆ สเป็กไม่สูงมากตามการใช้งาน เพราะมี PC ไว้ทำงานหนักๆ อยู่แล้ว
แต่พอถูกดูดเข้าไปในโลกของ Laptop กิลเลศมันเกิด
จนเราตัดสินใจเอาตัวที่เป็นแบบ 2in1 มีปากกา มี Touchscreen มี Fingerprint
สเป็กที่เล็งไว้คือ Ryzen 7 ตัวท็อป มี Office Home and Student 2019 แถมมาให้ในตัวเลย
ราคาก็พุ่งไปแรงหน่อยประมาณ 40000 (คือไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วก็เอาตัวท็อปไปเลยเผื่อไว้ทำงานตัดต่อด้วยนิดๆ หน่อยๆ)
ทีนี้เรามาคุยกับแฟน ก็เล่าเหตุผลให้แฟนฟัง แฟนก็ตีตกเหตุผลเราไปทีละข้อ
ทำงานตัดต่อ - NB ไม่เหมาะกับงานแบบนี้แล้วเราก็มี PC แล้ว
ทำงานเอกสาร - สเป็กสูงเกินไป
อยากได้ปากกา - เรามี Tablet อยู่แล้ว ... บลาๆๆ
แต่คือมันเงินเราซื้อ เราไม่ได้ขอเงินเค้า เราแค่ถามความเห็น แล้วแบบกิเลศมันชนะเหตุผล! 😂 เราเลยตัดสินใจจะซื้อ
แต่จังหวะนั้นมันมีรุ่นน้องที่เราสนิทคนนึงเค้ากำลังตกงาน ต้องใช้เงิน เลยเอาโน้ตบุ๊กมาขายเรา
เป็นโน้ตบุ๊กธรรมดา จอบางๆ I7 เจน 9 ประกันเหลือ 15 เดือน ขาย 8000
เราก็ปรึกษาแฟน ปรึกษาเพื่อน ทุกคนบอกสเป็กนี้เอามาทำงานเอกสารสบาย แล้วถือว่าช่วยรุ่นน้องด้วย
เราก็อ่ะ....ตัดสินใจซื้อมา
แต่ด้วยความที่เราได้ของที่ไม่อยากได้ เราก็บ่นกับแฟนงุ๊งงิ๊งตามประสา แบบอยากได้ 2in1 อยากได้แบบมี Touchscreen อยากได้ปากกา...
นึกออกมั้ยคะ ใจเรามันยังอยู่กับ NB ตัว 40000 ตัวนั้น ด้วยความที่แฟนเราคงรำคาญหรือไงไม่ทราบ
เค้าก็บอกให้เราเอา NB ตัวที่ซื้อต่อจากรุ่นน้องมาให้เค้า เค้าจะเอาไว้เล่นเกมส์
แล้วเค้าก็เซอร์ไพรส์เราด้วยการซื้อ NB แบบที่เป็น 2in1 มีปากกา เป็น Touchscreen มี Fingerprint แบบที่เราบ่นอยากได้มาให้
เป็นเครื่องใหม่เลย
แต่ประเด็นคือมันไม่ใช่รุ่นที่เราอยากได้ สเป็กก็ดร็อปลงเป็น I3 Gen 10 ราคา 17000
แล้วเค้าซื้อไม่ปรึกษาเราอ่ะ เราก็ช็อกๆ ตอนได้มา มันไม่ได้ดีใจอะไรขนาดนั้น แต่ก็ขอบคุณเค้าไป
แล้วเหมือนเค้าจับสังเกตเราได้ว่าเรานอยด์ๆ นิดนึง เค้าก็เลยถามเราว่าไม่ชอบเหรอ
ตอนแรกเราไม่อยากพูดเพราะเดี๋ยวจะรู้สึกแย่กันเปล่าๆ แต่พอโดนจี้ถามมากๆ เราก็เลยตอบว่า ก็นิดนึง
ทีนี้เค้าคงรู้สึกเฟล เราก็นอยด์ หลังจากวันนั้นก็ยังไม่คุยกันมา 5 วันแล้วอ่ะค่ะ (เราทักไปรอบนึงแต่เค้าไม่ตอบ โทรไปอีกสองรอบเค้าไม่รับ)
สาเหตุที่เรานอยด์คือเรารู้สึกเหมือนโดนบังคับให้รับของที่เราไม่อยากได้ จะได้เลิกบ่นสักทีอะไรประมาณนั้น
เรางี่เง่าค่ะ เรารู้ แต่เราไม่ได้ขอให้เค้าซื้อให้ เราผิดขนาดนั้นเลยเหรอที่ไม่ดีใจ แล้วเค้ามาโกรธเราเพราะเราไม่ดีใจเนี่ยนะ!
ในแง่มุมนี้เราว่าเราก็ไม่ได้ผิดอะไรนะคะ แต่เราก็คงต้องง้อแหละ เพราะมันดูใจร้ายไปหน่อย
แล้วแฟนเราคงเสียความรู้สึกมากจริงๆ เพราะเค้าไม่เคยเงียบใส่เราเลยตลอด 9 ปีที่คบกันมา
ตอนนี้เค้าไม่ยอมรับสายเรา แชทไปก็ไม่ตอบ 😭😭😭 ทำยังไงดีคะ