หลังจากเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กทม สู่จ.สุโขทัย  https://ppantip.com/topic/40473924

เข้าสู่จ.พะเยา https://ppantip.com/topic/40481380

จนเข้าสู่เหนือสุดแดนสยามอย่างจ.เชียงรายใน Ep1 https://ppantip.com/topic/40495237

ใน Ep ที่ 2 นี้เราก็ยังคงอยู่กันที่จ.เชียงรายแต่จะเป็นการเดินทางในทุกอำเภอของจ.เชียงรายที่มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำโขง การเดินทางในทริปทิวทัศน์จะสวยแค่ไหนตามมาดูกันได้เลย

.

.

.

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้าจากโรงแรม The Legend Chiang Rai Boutique River Resort & Spa เพื่อมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงราย สู่ “อำเภอเวียงแก่น” จุดเริ่มต้นของการเลาะริมโขงในจ.เชียงรายของเรา

เป้าหมายแรกของเราในวันนี้ คือ “แก่งผาได”  จุดสุดท้ายของแม่น้ำโขงที่ผ่านดินแดนภาคเหนือของไทย ก่อนที่จะไหลวกกลับเข้ามายังดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่งที่อำเภอเชียงคาน จ.เลย

แต่ระหว่างทางไปแก่งผาไดก็มีจุดชมวิวจุดพักรถให้เราได้พัก ชื่นชมความสวยของลุ่มน้ำโขงกันด้วย

เราเดินทางไปช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่น้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลง ทำให้มองเห็นโขดหินที่โผล่พ้นแม่น้ำเป็นวิวที่มองแล้วก็สวยใช้ได้อยู่เหมือนกันนะ

ซูมไปดูฝั่งประเทศลาวเพื่อนบ้านของเรากันหน่อย

ใครที่มาเที่ยวเวียงแก่นต้องแวะจุดนี้ “จุดชมวิวห้วยเอียน” วิวโขงจากมุมนี้สวยมาก

ไปกันต่ออีก 25 กม. สู่แก่งผาได ระหว่างทางก่อนจะถึงแก่งผาไดทางค่อนข้างพัง ขับรถกันด้วยความระมัดระวังด้วยเด้อ

แก่งผาไดคือจุดสิ้นสุดเขตของประเทศไทย ตอนเราไปถึง คือ ทั้งแก่งผาไดมีแต่เรา ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย หรือแม้กระทั่งชาวบ้านละแวกนั้นก็ยังไม่มี เงียบสงบมาก

เงียบจนแอบวังเวงนิดๆ 

ความเงียบเกินไปของแก่งผาไดทำให้เราอยู่ที่นั่นได้ไม่นานก็ออกเดินทางเลาะริมโขงกันต่อสู่ “อำเภอเชียงของ”

พอมาถึงเชียงของ เราก็แวะถ่ายรูปกันที่ “ท่าเรือบั๊ค” 

ท่าเรือบั๊คเป็นจุดผ่านแดนถาวรในอดีตสมัยก่อนใครจะข้ามไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ต้องมาข้ามแดนยังจุดนี้ ทำเอาเศรษฐกิจแนวชายแดนเมืองเชียงของเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ต่อมาสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ที่อยู่ก่อนเข้าเมืองเชียงของราวๆ 10 กม.ได้สร้างเสร็จเมื่อประมาณปี56 ด่านพรหมแดนเชียงของเลยย้ายไปตั้งอยู่ที่นั่น จุดนี้เลยซบเซา มีแค่ชาวบ้าน ข้ามไปมา 

นู้นคงจะคล้ายๆศาลากลางของประเทศลาว

วัดฝั่งประเทศลาว

ชมวิวโขงของเชียงของกันสักพัก ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ

เดินทางกันต่ออีก 10 กม.สู่จุดชมวิวห้วยทรายมานบนถนนหมายเลข 1290 ซึ่งเป็นถนนเลียบริมโขงจากเชียงของ-แม่สาย ที่มีทัศนียภาพสวยมาก ทำให้การขับรถบนถนนเส้นนี้ ถือเป็น Road Trip ที่ดีอีกเส้นนึงเลยก็ว่าได้

“จุดชมวิวห้วยทรายมาน” เป็นจุดชมวิวที่จะทำให้เราได้เห็นส่วนที่กว้างของแม่น้ำโขงมากกว่าจุดอื่นๆ

วิ่งกันบนถนนหมายเลข 1290 จากเชียงของ กำลังจะมุ่งหน้าเข้าสู่ “อำเภอเชียงแสน” แต่ถนนเส้นนี้ก็สวยซะจนทำให้เราต้องหยุดถ่ายรูปอยู่บ่อยๆ

ลัดเลาะโค้งเลียบริมโขง กันจนมาเจอ "จุดชมวิวดอยกาณจน์" สวยจนต้องหยุดถ่ายรูปอีกแล้ว

จุดชมวิวนี้จะเห็นหมู่บ้านกลางหุบเขาด้วย 

ถ่ายรูปชมวิวกันเสร็จก็มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงแสนกันต่อ สู่ “วัดพระธาตุจอมกิตติ”

พระธาตุจอมกิตติ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงแสน มาแต่ช้านาน

พระธาตุนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ นอกกำแพงเมืองเชียงแสนทางด้านทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อขึ้นไปยืนอยู่บริเวณวัดพระธาตุจอมกิตติ จะสามารถเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองเชียงแสนที่เห็นแนวกำแพงเมืองทอดยาวเป็นเส้นตั้งแต่เหนือจรดใต้ นอกจากนั้นไกลออกไปจากตัวเมืองยังสามารถมองเห็นแม่นํ้าของ หรือ แม่นํ้าโขงที่เป็นปราการทางธรรมชาติของเมืองได้เป็นอย่างดีและที่ตรงนี้เองถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุด

แวะขึ้นไปดูจุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำที่ “วัดพระธาตุปู่เข้า” กันสักหน่อย

จากจุดนี้สามารถเห็นวิวได้ถึง 3 ประเทศ คือไทย ลาวและพม่า

ฝั่งนี้คือฝั่งของประเทศลาวที่ดูเหมือนจะเจริญมากที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่ของอีกทั้ง 2 ประเทศในบริเวณนั้น

ฝั่งพม่าที่ดูจะเงียบเหงามากที่สุด

มุ่งหน้ากันต่อสู่ดินแดนเหนือสุดแห่งสยามที่ “อำเภอแม่สาย”  ซึ่งตอนเราไปเป็นช่วงที่แม่สายเงียบมากเพราะข่าวโควิด  และทำให้ตลาดท่าขี้เหล็กปิดชั่วคราว เราเลยแวะเที่ยวกันที่ "ทุ่งดอกปอเทือง ดอยผาหมี" 

ทุ่งดอกปอเทืองแห่งนี้อยู่ริมถนนทางขึ้นดอยผาหมี  ต.เวียงพางคำ  อ.แม่สาย จ.เชียงราย ใครที่ขับผ่านถนนเส้นนี้ก็ต้องเห็นความเหลืองอร่ามจนต้องจอดถ่ายรูปกันอย่างแน่นอน

วิวด้านหลังก็เป็นทิวเขาถ้ำขุนน้ำนางนอน และดอยผาหมี

นางแบบประจำทริปขอโพสท่าสักหน่อย

ถ่ายรูปเพลินไปหน่อย จนพระอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้า แสงสวยไปอีก

เดี๋ยวมาต่อกันคอมเม้นด้านล่างนะ

V

V

V