ทริปนี้เราตั้งใจขับรถขึ้นเหนือไปเรื่อยๆโดยมีปลายทางคือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ไฮไลท์แรกของการเดินทางในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นดินแดนมรดกโลก จังหวัดสุโขทัย จังหวัดที่เป็น Bucket list ของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลงใหลในวัฒนธรรมและโบราณสถาน เป็นอีก 1 จังหวัดที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่านขึ้นเหนือ สุโขทัยยามพระอาทิตย์ตกจะสวย สงบ แค่ไหน ตามมาดูกันได้เลย

.
.
.

เราขับรถออกจากกทม.เรื่อยๆ กะว่ามาถึงสุโขทัยช่วงเย็นจะได้ดูพระอาทิตย์ตกโดยการเดินทางครั้งนี้เราตัดสินใจ พยายามไม่ใช้ถนนเส้นหลักในการเดินทางเพื่อจะได้เห็นอะไรมากขึ้นในระหว่างการเดินทาง เมื่อเข้าสู่จ.สุโขทัย วิวด้านหน้าที่เราเห็นก็คือ เขาหลวงสุโขทัย หนึ่งในยอดเขาที่โด่งดังในหมู่นักเดินป่าทั้งหลาย

เป้าหมายแรกที่เราจะไปชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นของเมืองสุโขทัย นั่นก็คือ “วัดศรีชุม”

เรามาที่วัดนี้เป็นครั้งที่ 2 ทำให้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างไปจากครั้งก่อน คือครั้งนี้นักท่องเที่ยวน้อยมากเนื่องจากผลกระทบจากโควิดตัวร้าย

วัดศรีชุมหรือที่หลายๆคนรู้จักในนามวัดที่มี พระพุทธรูปพูดได้!

ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบสุโขทัย อยู่ในมณฑปชื่อว่า พระพุทธอจนะ 

เป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ และมีมนต์เสน่ห์

 

ตามตำนานเล่ากันว่า เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกกองทัพไปปราบกบฏที่เมืองสวรรคโลก ได้มีการมาชุมนุมที่วัดศรีชุมก่อน การรบในครั้งนี้เป็นการรบระหว่างคนไทยเราด้วยกัน ทำให้เหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการรบและไม่อยากรบสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้มีการวางแผนสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับทหารเหล่านั้น โดยการให้ทหารนายหนึ่งปีนบันไดขึ้นไปทางด้านหลังขององค์พระพุทธรูป และพูดให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดตำนาน “พระพูดได้” ขึ้น

ชื่นชมบรรยากาศกันได้แป๊ปเดียว พี่เจ้าหน้าที่ก็ตะโกนเรียก บอกว่าประตูวัดจะปิดแล้ว และก็ถึงเวลาที่เราจะต้องรีบขับรถเพื่อให้ทันดูแสงสุดท้ายของวันที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 

จอดรถที่ลานจอดรถของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยปุ๊ป ก็ได้เวลาวิ่ง!เพื่อไปให้ทันแสงสุดท้าย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ครอบคลุมพื้นที่โบราณสถานกรุงสุโขทัย ศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยซึ่งมีอำนาจอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18–19

บรรยากาศและความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ดูมีมนต์ขลังมากจนเรารู้สึกขนลุกเลยทีเดียว

ก่อนแสงจะหมดต้องถ่ายสักหน่อย

และผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ คือหม่าม้าของเราเอง

เดินสำรวจความสวยงามความมีมนต์ขลังของที่นี่ก่อนอาทิตย์จะอัสดง

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ทุกอย่างก็ดูเงียบสงบอย่างเห็นได้ชัด 

ความงามของเงาที่สะท้อนกับน้ำด้านหน้าวัด

ความสวยงามของสถานที่แห่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า สุโขทัยไม่ได้เป็นแค่ทางผ่านขึ้นเหนือ

เมื่อบรรยากาศค่อยๆมืดลงก็ได้เวลาเดินทางกลับเข้าที่พักกันแล้ว

การมาสุโขทัยทั้ง 2 ครั้งของเรา เราเลือกพักที่ “โรงแรมสุโขทัยเทรเชอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์

ภายในโรงแรมมีร้านอาหารที่อาหารอร่อยทุกอย่าง

ส่วนที่ชอบมากของโรงแรมนี้คือจากุซซี่ในสระว่ายน้ำ เที่ยวมาเหนื่อยๆได้แช่น้ำมันฟิลกู๊ดมากๆ

ว่ายน้ำท้าทายอากาศ 10กว่าองศาสักหน่อย

 

หมดวันแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนก่อนมุ่งหน้าขึ้นเหนือกันต่อ ส่วนจังหวัดต่อไปที่เราจะแวะพักแวะเที่ยวกันระหว่างทางจะเป็นจังหวัดไหน

ฝากติดตามกันที่กระทู้หน้าด้วยนะทุกคน