ปั่นจักรยานขึ้นเขา ปั่นไปเที่ยว ''ห้วยตอง''

หลายคนก็คงได้ยินชื่อ ''สะพานห้วยตอง'' กัน ถือว่าเป๋นสะพานที่สวยงามอีกเเห่งของประเทศไทย เป็นสะพานสู่ภาคอีสาน (ประตูสู่อีสาน)
ถ้าเดินทางมาจากภาคกลางตอนบน เช่น เพชรบูรณ์ พิษณุโลก

เห็นว่าสะพานห้วยตองไม่ไกลจาก อ.หล่มสัก ประมาณ 20 km.

เราจะไปดูสิว่าจะสวยงามขนาดไหน ได้เวลาปั่นจักรยานเเล้ว ไปกันเลย



ว่าเเล้วเราก็เริ่มต้นที่ ''พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์'' ตั้งเเต่เช้ากัน พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์ จะตั้งอยู่บริเวณเเถวถนนคนเดินนะครับ เป็น พิพิธภัณฑ์ที่เเสดงประวิติตวามเป็นมาของช่าวไทหลุ่ม ( ชาวหลุ่มสัก) วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ผมเคยเข้าไปครั้งหนึ่งต้องบอกว่าสวยเลยทีเดียว ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมเเวะมาชมกันได้นะครับ   สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่

https://www.museumthailand.com/th/museum/Lomsak-Museum




ต้องบอกว่าตอนเช้าเป็นบรรยากาศที่สวยมากนะครับ  เช้าๆ  บริเวณถนนคนเดิน ได้วิถีชีวิตของผู้คนที่ไม่เร่งรีบ เเละที่ดีสำหรับผมก็คืออากาศเย็นสบายดีทีเดียว (ช่วงที่ผมมา ต้นมีนาคม อากาศตอนเช้ายังเย็นสบายอยู่เลย  ตอนที่เห็นคือเวลา 8 โมง นะครับ 555555 )

เเละเส้นทางที่เราจะปั่นไป  ผมจะหลีกเลี่ยงทางที่รถเยอะเท่าที่ทำได้ เพราะจะไม่เป็นอันตราย เเต่ถ้าไม่มีทางจริงๆจึงค่อยปั่นไป  ( เส้นทางที่ผมใช้คือทางหมายเลข 2010 ไปทาง ต.บ้านหวาย  ปั่นผ่านวงเวียน เเละก็เลี้ยวขวาตรงไปที่ทางหมายเลข 2057 เพื่อออกทางหลวงหมายเลข 12 )

ระหว่างทางก็สังเกตได้ว่าชาวบ้านเเถวนี้ปลูก "ต้นยาสูบ" กันเยอะเลยทีเดียว  ผมก็ไม่รอช้าจอกถ่ายรูปหน่อย เพราะว่ามันสวยจริงๆ




เเละเเล้วเราก็ปั่นมาถึงทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งเป็นถนนหลัก เป็นเส้นทางระหว่างภาคอีสาน กับ ภาคกลางตอนบน จากจุดเริ่มต้นปั่นมาถึงจุดนี้ประมาณ  10 km  ผมก็เลยเเวะพัก เติมน้ำ เติมพลัง ก่อนที่จะปั้นขึ้นเขากัน

จุดที่ผมเเวะพักก็หนีไม่พ้นศาลาริมทาง 555555   ต้องบอกว่าเย็นสบายกันเลยที่เดียว  เพราะหลังจากนี้ก็จะเป็นทางราบประมาณ 2-3 km  จากนั้นก็จะเริ่มเป็นเนิน เเละเป็นเขาเเล้ว หลังจากจุดนี้เราก็จะปั่นไปทาง อ.น้ำหนาว กัน

'' ตูร จะปั่นไหวใหมหน่อ 555555 ''





เราปั่นมาเรื่อยก็เริ่มมองเห็นเนิน เเละภูเขา เเละผมคิดว่าคงอีกไม่ไกลเเน่ๆ  ปั้นอีกสักพักก็น่าจะถึงห้วยตองเเล้ว ตื่นเต็นๆๆๆๆๆ 55555555 ต้องบอกว่าความเร็วที่ผมปั่นช่วงทางราบประมาณ 20- 25 km นะครับ  ไม่ได้ปั่นเร็ว  เดียวไม่มีเเรงปั่นขึ้นเขา 55555555

ต้องบอกว่าทางที่ปั่นเริ่มเป็นเนินยาว  เป็นเนินขึ้นเขา ( อารมณ์คล้ายๆที่ผมปั่นขึ้นเขาค้อ )  มีเขาเป็นบางช่วง  

ส่วนผมเองไม่ฝืนเเน่นอน เหนื่อยก็พัก พักเป็นระยะๆ 555555   ( บางทีปั่นได้ 100 m ก็พัก 55555) ถนนบางช่วงก็จะเเคบหน่อยต้องปั่นอย่างระมัดระวัง  ยิ่งทางโค้ง เราต้องระวังรถยนต์ให้มาก  ถ้าจะจอดเราต้องกัดฟันเพื่อปั่นหาไหล่ทางที่กว้าง  เเล้วพัก)




ต้องบอกว่าสองข้างทางสวยมากครับ  เราเริ่มปั่นมาถึงจุดที่สูง มองไปเริ่มเห็นวิวของภูเขา  เเสดงว่าเราเริ่มปั่นเขาไก้ลสะพานห้วยตองเเล้ว ที่ที่เราจะปั่นไป 

ปั่นๆไปก็ถามพี่ๆที่หาของป่าว่า สะพานห้วยตองอีกไกลใหมครับ
พี่ๆ ตอยว่า  ไม่ไกลๆ อีกเเค่ 2 โค้งเอง  ( เเล้วพี่ๆเขาก็หัวเราะ 5555) คิดในใจสงสัยอีกไกลเเน่นอน



เเละเเล้วเราก็ปั่นมาถึงที่ สะพานห้วยตอง ( ประตูสู่อีสาน  ระหว่างภาคกลางตอนบน เเละภาคอีสานตอนบน ) เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ปั่นมาถึงซักที ต้องบอกว่าเหนื่อยมากๆ ในการปั่นขึ้นเขา ปั่นขึ้นเินที่เป็นเนินซึมยาวๆ  เล่นเอาหอบกันเลยทีเดียว 5555555555555



สิ่งเเรกที่ปั่นมาถึง คือ การมองลงไปที่ตอหม้อของสะพาน  ทำไมมันสูง (เสียงยาว 5555) ขนาดนั้น  เเละยังมองไปบริเวณรอบๆ ต้องบอกเลยว่าวิวสวย มากๆ บวกกับเเสงเเดด (เหมือนอยู่ในหนังโรเเมนติก ยังไงยังงั้น 55555 )

เเละไม่ลืมที่จะถ่ายรูปกับจักรยานคู่ใจ 555555



ต้องบอกว่าคุ้มเลยทีเดียว  ที่ได้ปั่นมาชมวิวสวยๆ ของสะพานห้วยตอง รวมทั้งได้ปั่นออกกำลังกายในวันหยุดยาว  เเละใครที่ผ่านมาทางนี้อย่าลืมเเวะมาเที่ยวที่สะพานห้วยตองกันด้วยนะครับ ไม่ว่าจะมาด้วยพาหนะอะไรก็ตาม ได้มาเที่ยวก็สุขใจ 5555555

ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสะพานห้วยตอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาที่นี้  ประวัติความเป็นมา  ก็สามารถหาได้ตามเว็ป ต่างๆ ได้เลยนะครับ 

สามารถเข้าไปดูคลิปของทริปนี้กันได้นะครับ  https://www.youtube.com/watch?v=Mo7W26CJo4A&t=67s

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ  ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่