สวัสดีค่ะ วันนี้มีอุทาหรณ์ โดน พนักงานขายคอร์สความงาม แบบอาบยาพิษเลยดีเดียว ต้องคอยระวังเอาไว้ ถ้าคน ขี้ใจอ่อน ขี้เกรงใจ ออกไปให้ห่างๆ จากความคิดอยากช่วยเขา ( เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดค่ะ ) นะค่ะ ตอนนี้จขกท รู้สึกเจ็บใจ และรู้สึกโง่เง่าที่ต้องมาเสียรู้ ให้กับ พวกที่ ไร้มนุษย์ธรรม จรรยาบรรณ ใช้กลยุทธ์อันแยบยล (คงได้รับการอบรมมาเป็นกระบวนการค่ะ) อยากแชร์ให้ทุกคนๆอ่านเพื่อเตือนใจ เตือนสติ
เนื่องจากวันที่ 7 ธันวาคม 2563 ช่วงเวลา 11:30 น.
จขกทเดินทางไป ห้างสรรพสินค้า ซีคอน แสควร์ คนเดียว เพื่อไปทำธุระที่ธนาคาร ภายในห้างฯ ระหว่างเดินไปธนาคาร ได้ผ่าน Booth จัดรายการ สถาบันความงามแห่งหนึ่ง จัดงานยิ่งใหญ่ โดย ในงาน นี้ สถาบันความงาน ได้ จัดกิจกรรม ใหญ่ ช่วงระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม ขณะที่เดินผ่าน ได้มีพนักงาน หญิง ยื่น บัตรกำนัล ใช้บริการให้กับ จขกท ขณะนั้น คิดแค่ว่า ช่วยเขารับ แล้วจะได้รีบไปทำธุระ ที่ธนาคารให้เสร็จก่อนไปรับลูก แต่ พนักงาน ก็บอก ช่วยเซ็นต์ ชื่อรับให้หนูหน่อย จขกท ก็เลยจะ เซ็นต์ แล้วจะรีบไป พนักงานก็แจ้งอีกว่า ขอบัตรเครดิตพี่หน่อย หนูจะได้แลกทิชชู่เปียกมาให้ พี่นั่งรอก่อนนะ จากนั้น น้องพนักงานคนที่ 1 ก็นำบัตรเราเดินไป
พนักงานคนที่ 2 เข้ามาหาเรา พี่ครับ ตรวจ วิเคราะห์ ผิวหน้ากันครับ ตรวจไป ก็ถาม จขกท ว่า เคยซื้อคอร์สความงานที่ไหนไหมครับ จขกท ได้แจ้งว่า มีคอร์สความงามที่อื่นอยู่แล้ว พนักงานคนที่ 2 แจ้งว่าไม่เป็นไร และคอยสอบถาม จขกท ว่า เรา ซื้อทรีตเม้นท์ ทำหน้าแบบไหน ซึ่งเราได้ซื้อแบบ กระชับผิวหน้า ไว้ พนักงานคนที่ 2 ก็บอกว่า เรื่องกระชับผิวหน้าน้องจะไม่แตะ แต่ผิวหน้าพี่มีปัญหา ฝ้ากระ พี่ช่วยน้องซื้อคอร์ส ผิวขาวใส และ ตอนนี้ น้องพนักงานคนที่ 1 ก็กลับมา พร้อมกัน ทิชชู่เปียก และน้องพนักงานคนที่ 2 ก็พยายามโน้มน้าวให้เรา ซื้อ คอร์สหน้าขาวใส จขกท เลยตัดสินใจ ซื้อ คอร์ส 10 ครั้ง ในราคา 17,500 บาท และทางพนักงาน ก็พยายามจะ ให้ จขกท ซื้อมากกว่านั้น ซึ่งเราก็ยืนยันว่า เราไม่เคยใช้บริการทางคลินิก ของคุณ เราขอซื้อ 10 ครั้ง เพื่อทดลองก่อน เขาเลยนำบัตรเราไปรูด แต่ พนักงานคนที่ 2 แจ้งว่า บัตรเครดิต ของ KTC มีสิทธิพิเศษ ถ้าซื้อราคา 5 หมื่น สามารถ ใช้ วงเงินได้ถึง สองแสน บาท ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ซึ่งเราก็ปฏิเสธไป ว่า ขอทดลองก่อน จากนี้ น้องก็เริ่มตื้อ และ บอกว่า คลินิก เขาดียังไง บลาๆ และ พยายาม เอาสลิปลูกค้าคนอื่นๆ ว่าเขาซื้อกันเป็น แสน เลย พี่ คุ้มมาก นู้น นี่ นั่น ซึ่งเราจะต้องไปธนาคาร และหลังจากนั้นต้องไปรับลูกเล็ก แต่ พนักงานไม่สนใจ ยังพยายามหว่านล้อม จนเราอ่อนใจ ตกลง ซื้อคอร์ส 5 หมื่น บาท พนักงานคนที่ 2 จัดการเรื่องรูดบัตร เราก็ยังคิดว่า คอร์ส ราคาแค่นี้ โอเคร แล้ว และ ยินดี จะซื้อนะคะ แต่เราหารู้ไม่ว่า สถาบันความงาน พวกนี้ ถูกสอน ถูกฝึกให้สูบเลือดสูบเนื้อลูกค้า หลังจากเราตกลงซื้อ คอร์สที่ 5 หมื่น แล้ว
พนักงานคนที่2 พาหัวหน้ามาแนะนำ นู้นนี่นั่น เริ่มขบวนการหว่านล้อมอีก โดยหัวหน้า ขอบคุณเรานู้นนี่นั่น แล้ว บอกว่า บรรยาย สรรพคุณของ สถาบันความงาม และ พรีเซ็นเตอร์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ภาพลักษณ์ดี สร้างความหน้าเชื่อถือให้กับทาง คลินิกไห้ดูดี โดยหว่านล้อมว่า คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว จะรับงานต้องมั่นใจ ตัว ผลิตภัณฑ์ และทางสถาบัน กว่าจะรับเป็น พรีเซ็นเตรอ์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาใช้บริการ นานมากว่าจะตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งเรา ก็มองว่าภาพลักษณ์ ของนางดูดี สวยหวาน และ จิตใจดี และจขกท ก็ชื่นชอบผลงานของนาง แต่ความรู้สึกของเราคือซื้อ 5 หมื่น เราว่า โอเคร แล้ว
แต่ทางหัวหน้าก็ยังพยายามโน้มน้าว ดั่งตั้งปณิธานไว้ว่าจะ ไม่ปล่อยเราไปง่ายๆ ( ต้องเชือดหมูให้ได้ก่อน ) โดยพูดกับเราว่า น้องรู้สึกเสียดายแทนคุณพี่จังเลยค่ะ อีกนิดเดียวเอง คุณพี่ ซื้อ 5 หมื่น ใช้ได้ สองแสน ถ้าคุณพี่ซื้อ หนึ่งแสน คุณพี่ ได้คอร์ส ใช้ได้มูลค่าถึง สี่แสนสอง เลยนะคะ ใช้ได้ทุกคอร์สของคลินิกเลย รวมถึง คอร์ส ตัวใหม่ๆ ที่ออกมาด้วย คุ้มมากค่ะ พนักงานคนที่2 ก็ทำตาโต โอโห้ ได้ทุกคอร์สเลยเหรอครับพี่ แล้วหันมาบอกเราว่าพี่โชคดีมากนะครับที่เจอหัวหน้าผม ถ้าผมเอง ให้พี่เยอะขนาดนี้ไม่ได้แน่ๆ พี่มันคุ้มๆ มาก ตั้งแต่ผมทำงานมาไม่เคยคุ้มขนาดนี้มาก่อน เราบอกว่าไม่สนใจค่ะ ไม่มีเงินมากขนาดนั้น วงเงินในบัตรไม่ถึงค่ะ หัวหน้าพูดว่าคุณพี่ สามารถเพิ่มวงเงินได้นะครับ จัดการโหลดแอป เพิ่มวงเงินให้เราเสร็จสรรพ เราก็งง ๆ เบลอๆ ใจก็นึกรำคาญ และ เบื่อมาก อยากไปให้พ้นๆ แต่พวกเขาไม่ยอมปล่อยเราออกมา ยึดบัตรเราเอาไว้ ใจตอนนั้นต้อง นำเงินไปฝากธนาคาร และ รีบไปรับลูก ดูนาฬิกา 14:00 ต้องไปแล้ว สุดท้ายเลยต้องจำใจ ซื้อคอร์ส ในราคา 1 แสนบาท จากคนที่ไม่เคยเป็นหนี้ ต้องมา เป็นหนี้บัตรฯ 1 แสนบาท
หลังจากนั้นไปทำธุระที่ธนาคารเสร็จ ออกจากห้างฯ ไปรับลูก ด้วยความไม่สบายใจ คิดไปมาว่า ทำไมเราจะต้องมาเสียเงินให้กับ คนพวกนี้ ( พวกหิวกระหายเลือด คนอื่นเขาจะเดือดร้อนยังไง ก็ไม่สนใจ ขอให้ตัวเองได้ยอดตามที่ต้องการเป็นพอ) ด้วยความไม่เต็มใจ จากครั้งแรก อยากซื้อเพื่อทดลองใช้ ถ้าดีจะได้เป็นลูกค้าต่อยาวๆ แต่เมื่อเขาทำให้เรารู้สึกถูกมัดมือชก ถูกเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ เสียเงินด้วยความจำใจ เรายอมรับว่าเครียดมาก กลับมาคิดทำยังไงดีเลยคิดว่า จะสามารถ ยกเลิก ได้หรือไม่ เลยเสิร์จ หาข้อมูล ได้เจอกระทู้ (วิธีรับมือ-เอาคืน) “คลินิก/สปา/สถานความงาม/สถานลดน้ำหนัก” ไร้จรรยา!!! เราก็พยายาม อ่าน ทำความเข้าใจ และ ทำตามขั้นตอนที่ เจ้าของกระทู้นี้แนะนำ
วันที่ 15 ธันวาคม 2563 เราไปแจ้งความที่ สน. บางนา ทางตำรวจไม่รับแจ้ง บอกว่าต้องแจ้งที่ สน. ประเวศ เราเลยเดินทางไป สน. ประเวศ ทาง สน. ประเวศ ลงบันทึกประจำวัน แล้ว บอกเราว่า ถ้าทางคลินิก ไม่ยอม ให้กลับมาหาเขาใหม่ ดูว่าจะดำเนินการยังต่อไปได้ และ ได้ยื่นเอกสาร ขอตรวจสอบ การชำระบัตรเครดิต และ ทำหนังสือยกเลิกสัญญา ส่งให้ทาง คลินิก ทางธนาคาร
วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เรา เดินทางไป สคบ. เพื่อแจ้งสคบ. เรื่องขอยกเลิกสัญญากับทางคลินิก และ รอให้ทาง ศคบ. นัดไกล่เกลี่ย ตอนเย็น พนักงานคนที่ 2 โทรหา จขกท ว่าทำไมไปแจ้งความ เราบอกว่า เราต้องการยกเลิกสัญญา ทางพนักงานบอกว่าทำไมไม่บอกกับเขาดี ๆ แจ้งความทำไม เราถามว่าถ้าเราบอกว่าจะขอยกเลิกสัญญา คุณยอมเหรอ เขาก็เงียบ ไม่ตอบอะไร เราก็บอกว่า รอตามกระบวนการ
ผ่านไป 1 อาทิตย์ เรา โทรไปหาทาง ศคบ เพื่อตามเรื่อง ทาง ศคบ. แจ้งว่า ทาง คลินิก ปฏิเสธที่จะมาพบ เพื่อไกล่เกลี่ย ทาง ศคบ. แจ้งว่า ให้เรา รอ เขาจะพยายามติดตามผลให้ และ นัดมาคุยให้ได้ ถ้าเขาปฏิเสธ อาจจะต้องทำการฟ้องร้อง
ซึ่งตอนนี้ เป็นช่วงโควิทระบาด เราเลย มองดูว่าเรื่องยิ่งล่าช้า
ซึ่งเราคอยติดตาม เรื่องจาก ศคบ. 3 หน แล้ว ก็ได้รับแจ้งว่าทาง บริษัทฯ ปฏิเสธที่จะเข้ามาเนื่องจาก โควิด ระบาด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ศคบ. ก็บอกว่า มีผู้เสียหาย หลายราย ยื่นเรือ่งขอยกเลิกกับทางบริษัท คู่กรณี ทางศคบ พยายาม จะนัดมาพูดคุยพร้อมๆ กัน สุดท้ายอาจจะต้องฟ้องร้อง
ใครมี ข้อแนะนำดีๆ สามารถช่วยเจ้าของกระทู้ได้ ขอรบกวนด้วยนะคะ
และ ก็อยากให้เรื่องราวนี้ เป็นอุทาหรณ์ ให้ สำหรับคนที่ไม่เคยโดน ให้หลีกเลี่ยง หรือ ออาห่าง จาก บูท สถาบันความงามพวกนี้ อย่าใจอ่อน และ เห็นใจ ว่าช่วยๆ เขา เพราะ เราคิดว่าช่วยเขา แต่เขาเห็นเราเป็นหมูค่ะ
เตือนภัย!! ระวัง พิษแก๊งขายคอร์ส ฉากหน้าดูสวยหรู แต่แฝงไว้ด้วยยาพิษ
เนื่องจากวันที่ 7 ธันวาคม 2563 ช่วงเวลา 11:30 น.
จขกทเดินทางไป ห้างสรรพสินค้า ซีคอน แสควร์ คนเดียว เพื่อไปทำธุระที่ธนาคาร ภายในห้างฯ ระหว่างเดินไปธนาคาร ได้ผ่าน Booth จัดรายการ สถาบันความงามแห่งหนึ่ง จัดงานยิ่งใหญ่ โดย ในงาน นี้ สถาบันความงาน ได้ จัดกิจกรรม ใหญ่ ช่วงระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม ขณะที่เดินผ่าน ได้มีพนักงาน หญิง ยื่น บัตรกำนัล ใช้บริการให้กับ จขกท ขณะนั้น คิดแค่ว่า ช่วยเขารับ แล้วจะได้รีบไปทำธุระ ที่ธนาคารให้เสร็จก่อนไปรับลูก แต่ พนักงาน ก็บอก ช่วยเซ็นต์ ชื่อรับให้หนูหน่อย จขกท ก็เลยจะ เซ็นต์ แล้วจะรีบไป พนักงานก็แจ้งอีกว่า ขอบัตรเครดิตพี่หน่อย หนูจะได้แลกทิชชู่เปียกมาให้ พี่นั่งรอก่อนนะ จากนั้น น้องพนักงานคนที่ 1 ก็นำบัตรเราเดินไป
พนักงานคนที่ 2 เข้ามาหาเรา พี่ครับ ตรวจ วิเคราะห์ ผิวหน้ากันครับ ตรวจไป ก็ถาม จขกท ว่า เคยซื้อคอร์สความงานที่ไหนไหมครับ จขกท ได้แจ้งว่า มีคอร์สความงามที่อื่นอยู่แล้ว พนักงานคนที่ 2 แจ้งว่าไม่เป็นไร และคอยสอบถาม จขกท ว่า เรา ซื้อทรีตเม้นท์ ทำหน้าแบบไหน ซึ่งเราได้ซื้อแบบ กระชับผิวหน้า ไว้ พนักงานคนที่ 2 ก็บอกว่า เรื่องกระชับผิวหน้าน้องจะไม่แตะ แต่ผิวหน้าพี่มีปัญหา ฝ้ากระ พี่ช่วยน้องซื้อคอร์ส ผิวขาวใส และ ตอนนี้ น้องพนักงานคนที่ 1 ก็กลับมา พร้อมกัน ทิชชู่เปียก และน้องพนักงานคนที่ 2 ก็พยายามโน้มน้าวให้เรา ซื้อ คอร์สหน้าขาวใส จขกท เลยตัดสินใจ ซื้อ คอร์ส 10 ครั้ง ในราคา 17,500 บาท และทางพนักงาน ก็พยายามจะ ให้ จขกท ซื้อมากกว่านั้น ซึ่งเราก็ยืนยันว่า เราไม่เคยใช้บริการทางคลินิก ของคุณ เราขอซื้อ 10 ครั้ง เพื่อทดลองก่อน เขาเลยนำบัตรเราไปรูด แต่ พนักงานคนที่ 2 แจ้งว่า บัตรเครดิต ของ KTC มีสิทธิพิเศษ ถ้าซื้อราคา 5 หมื่น สามารถ ใช้ วงเงินได้ถึง สองแสน บาท ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ซึ่งเราก็ปฏิเสธไป ว่า ขอทดลองก่อน จากนี้ น้องก็เริ่มตื้อ และ บอกว่า คลินิก เขาดียังไง บลาๆ และ พยายาม เอาสลิปลูกค้าคนอื่นๆ ว่าเขาซื้อกันเป็น แสน เลย พี่ คุ้มมาก นู้น นี่ นั่น ซึ่งเราจะต้องไปธนาคาร และหลังจากนั้นต้องไปรับลูกเล็ก แต่ พนักงานไม่สนใจ ยังพยายามหว่านล้อม จนเราอ่อนใจ ตกลง ซื้อคอร์ส 5 หมื่น บาท พนักงานคนที่ 2 จัดการเรื่องรูดบัตร เราก็ยังคิดว่า คอร์ส ราคาแค่นี้ โอเคร แล้ว และ ยินดี จะซื้อนะคะ แต่เราหารู้ไม่ว่า สถาบันความงาน พวกนี้ ถูกสอน ถูกฝึกให้สูบเลือดสูบเนื้อลูกค้า หลังจากเราตกลงซื้อ คอร์สที่ 5 หมื่น แล้ว
พนักงานคนที่2 พาหัวหน้ามาแนะนำ นู้นนี่นั่น เริ่มขบวนการหว่านล้อมอีก โดยหัวหน้า ขอบคุณเรานู้นนี่นั่น แล้ว บอกว่า บรรยาย สรรพคุณของ สถาบันความงาม และ พรีเซ็นเตอร์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ภาพลักษณ์ดี สร้างความหน้าเชื่อถือให้กับทาง คลินิกไห้ดูดี โดยหว่านล้อมว่า คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว จะรับงานต้องมั่นใจ ตัว ผลิตภัณฑ์ และทางสถาบัน กว่าจะรับเป็น พรีเซ็นเตรอ์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาใช้บริการ นานมากว่าจะตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งเรา ก็มองว่าภาพลักษณ์ ของนางดูดี สวยหวาน และ จิตใจดี และจขกท ก็ชื่นชอบผลงานของนาง แต่ความรู้สึกของเราคือซื้อ 5 หมื่น เราว่า โอเคร แล้ว
แต่ทางหัวหน้าก็ยังพยายามโน้มน้าว ดั่งตั้งปณิธานไว้ว่าจะ ไม่ปล่อยเราไปง่ายๆ ( ต้องเชือดหมูให้ได้ก่อน ) โดยพูดกับเราว่า น้องรู้สึกเสียดายแทนคุณพี่จังเลยค่ะ อีกนิดเดียวเอง คุณพี่ ซื้อ 5 หมื่น ใช้ได้ สองแสน ถ้าคุณพี่ซื้อ หนึ่งแสน คุณพี่ ได้คอร์ส ใช้ได้มูลค่าถึง สี่แสนสอง เลยนะคะ ใช้ได้ทุกคอร์สของคลินิกเลย รวมถึง คอร์ส ตัวใหม่ๆ ที่ออกมาด้วย คุ้มมากค่ะ พนักงานคนที่2 ก็ทำตาโต โอโห้ ได้ทุกคอร์สเลยเหรอครับพี่ แล้วหันมาบอกเราว่าพี่โชคดีมากนะครับที่เจอหัวหน้าผม ถ้าผมเอง ให้พี่เยอะขนาดนี้ไม่ได้แน่ๆ พี่มันคุ้มๆ มาก ตั้งแต่ผมทำงานมาไม่เคยคุ้มขนาดนี้มาก่อน เราบอกว่าไม่สนใจค่ะ ไม่มีเงินมากขนาดนั้น วงเงินในบัตรไม่ถึงค่ะ หัวหน้าพูดว่าคุณพี่ สามารถเพิ่มวงเงินได้นะครับ จัดการโหลดแอป เพิ่มวงเงินให้เราเสร็จสรรพ เราก็งง ๆ เบลอๆ ใจก็นึกรำคาญ และ เบื่อมาก อยากไปให้พ้นๆ แต่พวกเขาไม่ยอมปล่อยเราออกมา ยึดบัตรเราเอาไว้ ใจตอนนั้นต้อง นำเงินไปฝากธนาคาร และ รีบไปรับลูก ดูนาฬิกา 14:00 ต้องไปแล้ว สุดท้ายเลยต้องจำใจ ซื้อคอร์ส ในราคา 1 แสนบาท จากคนที่ไม่เคยเป็นหนี้ ต้องมา เป็นหนี้บัตรฯ 1 แสนบาท
หลังจากนั้นไปทำธุระที่ธนาคารเสร็จ ออกจากห้างฯ ไปรับลูก ด้วยความไม่สบายใจ คิดไปมาว่า ทำไมเราจะต้องมาเสียเงินให้กับ คนพวกนี้ ( พวกหิวกระหายเลือด คนอื่นเขาจะเดือดร้อนยังไง ก็ไม่สนใจ ขอให้ตัวเองได้ยอดตามที่ต้องการเป็นพอ) ด้วยความไม่เต็มใจ จากครั้งแรก อยากซื้อเพื่อทดลองใช้ ถ้าดีจะได้เป็นลูกค้าต่อยาวๆ แต่เมื่อเขาทำให้เรารู้สึกถูกมัดมือชก ถูกเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ เสียเงินด้วยความจำใจ เรายอมรับว่าเครียดมาก กลับมาคิดทำยังไงดีเลยคิดว่า จะสามารถ ยกเลิก ได้หรือไม่ เลยเสิร์จ หาข้อมูล ได้เจอกระทู้ (วิธีรับมือ-เอาคืน) “คลินิก/สปา/สถานความงาม/สถานลดน้ำหนัก” ไร้จรรยา!!! เราก็พยายาม อ่าน ทำความเข้าใจ และ ทำตามขั้นตอนที่ เจ้าของกระทู้นี้แนะนำ
วันที่ 15 ธันวาคม 2563 เราไปแจ้งความที่ สน. บางนา ทางตำรวจไม่รับแจ้ง บอกว่าต้องแจ้งที่ สน. ประเวศ เราเลยเดินทางไป สน. ประเวศ ทาง สน. ประเวศ ลงบันทึกประจำวัน แล้ว บอกเราว่า ถ้าทางคลินิก ไม่ยอม ให้กลับมาหาเขาใหม่ ดูว่าจะดำเนินการยังต่อไปได้ และ ได้ยื่นเอกสาร ขอตรวจสอบ การชำระบัตรเครดิต และ ทำหนังสือยกเลิกสัญญา ส่งให้ทาง คลินิก ทางธนาคาร
วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เรา เดินทางไป สคบ. เพื่อแจ้งสคบ. เรื่องขอยกเลิกสัญญากับทางคลินิก และ รอให้ทาง ศคบ. นัดไกล่เกลี่ย ตอนเย็น พนักงานคนที่ 2 โทรหา จขกท ว่าทำไมไปแจ้งความ เราบอกว่า เราต้องการยกเลิกสัญญา ทางพนักงานบอกว่าทำไมไม่บอกกับเขาดี ๆ แจ้งความทำไม เราถามว่าถ้าเราบอกว่าจะขอยกเลิกสัญญา คุณยอมเหรอ เขาก็เงียบ ไม่ตอบอะไร เราก็บอกว่า รอตามกระบวนการ
ผ่านไป 1 อาทิตย์ เรา โทรไปหาทาง ศคบ เพื่อตามเรื่อง ทาง ศคบ. แจ้งว่า ทาง คลินิก ปฏิเสธที่จะมาพบ เพื่อไกล่เกลี่ย ทาง ศคบ. แจ้งว่า ให้เรา รอ เขาจะพยายามติดตามผลให้ และ นัดมาคุยให้ได้ ถ้าเขาปฏิเสธ อาจจะต้องทำการฟ้องร้อง
ซึ่งตอนนี้ เป็นช่วงโควิทระบาด เราเลย มองดูว่าเรื่องยิ่งล่าช้า
ซึ่งเราคอยติดตาม เรื่องจาก ศคบ. 3 หน แล้ว ก็ได้รับแจ้งว่าทาง บริษัทฯ ปฏิเสธที่จะเข้ามาเนื่องจาก โควิด ระบาด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ศคบ. ก็บอกว่า มีผู้เสียหาย หลายราย ยื่นเรือ่งขอยกเลิกกับทางบริษัท คู่กรณี ทางศคบ พยายาม จะนัดมาพูดคุยพร้อมๆ กัน สุดท้ายอาจจะต้องฟ้องร้อง
ใครมี ข้อแนะนำดีๆ สามารถช่วยเจ้าของกระทู้ได้ ขอรบกวนด้วยนะคะ
และ ก็อยากให้เรื่องราวนี้ เป็นอุทาหรณ์ ให้ สำหรับคนที่ไม่เคยโดน ให้หลีกเลี่ยง หรือ ออาห่าง จาก บูท สถาบันความงามพวกนี้ อย่าใจอ่อน และ เห็นใจ ว่าช่วยๆ เขา เพราะ เราคิดว่าช่วยเขา แต่เขาเห็นเราเป็นหมูค่ะ