คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
1.มันเป็นแหล่งรวมพวก Geek มีแต่พวกบ้าพลัง ไม่เต็มบาท
2.พอมันบ้า มันก็ทำอะไรตามใจกูกันหมด
3.พอไปถามว่าทำไมไม่ทำนู่นนั่นนี่ มันก็ด่าสวน แล้วบอกมีปัญญาเมิงก็ fork ไปเองเด่ะ
4.พวก Geek หนักๆ เกลียดชัง GUI เข้ากระดูกดำ ทำอะไรต้องบน terminal เท่านั้น ซึ่งเรื่องพวกนี้ มือใหม่พอเริ่มเข้ามา เจอ command line ก็เผ่นกระเจิงแล้ว
5.มือใหม่ที่ย้ายจาก Windows ถนัดแต่ clickๆ yes,no,ok ลงโปรแกรมเสร็จ พอเจอ apt search, apt install, apt purge ฯลฯ ร้อยพ่อพันแม่ ปิดจอ reboot เข้า windows เหมือนเดิมดีกว่า
6.เปลี่ยน distro ก็ต้องศึกษาคำสั่งใหม่อีก จาก apt เป็น yum/dnf, zypper, pacman ฯลฯ ขนาดคนเก่าๆ ยังเซ็ง หน้าใหม่จะไปมีอะไรเหลือ?
7.หลายฟอรั่ม ขึ้นชื่อเรื่องสุดยอดความปากหมา เช่น arch,mate ฯลฯ ไปขอความช่วยเหลือมัน ไม่ช่วยไม่ว่า แถมโดนมันด่าสวน แล้วไล่ไปอ่าน wiki แบบไม่บอก link ด้วย ถ้าไม่บ้าจริง ทนอยู่สังคมแบบนี้ไม่ได้แน่ เพราะมันนิสัยคนสร้าง linux ขึ้นมาแต่แรกแล้ว จนถึงขนาดผู้ช่วยถึงกับลาออก(โดยเฉพาะผู้หญิง) เฮียแกต้องไปพักร้อนสงบสติอารมณ์สักพัก แล้วยอมทำสัญญา จะไม่ปากหมาซ้ำอีก
8.ตัว app/package เหมือนลูกเมียน้อย windows/mac อัพเดตไปเรียบร้อยแล้วเป็นชาติ แต่ linux ต้องรอเจ้าของ distro อัพขึ้น repo ก่อน ไม่งั้นมีปัญญาเมิงก็ไป compile เองเด่ะ
9.ชะตากรรมเหมือนลูกเมียน้อย เท่าที่เจอมา แทบทั้งหมดของ open-source ที่มีทั้งบน windows,mac,linux ของ linux แม่vมักได้รับการ update ช้าที่สุด เคยใช้โปรแกรม dictionary ญี่ปุ่นที่เป็น open-source บน windows อัพเป็น v3 มาสี่ห้าปีแล้ว บน linux ยังเป็น v1 กว่าๆ อยู่เลย ทั้งๆ ที่แม่v cross-platform แท้ๆ
10.เนื่องจากต่างคนต่างทำ ไม่ต้องสนใจใคร เพราะกูทำฟรี ไม่ได้เงิน just for fun ดังนั้นเมิงต้องตามใจกู เรื่อง ui นี่ไม่ต้องพูด ไม่รู้เรื่องก็เรื่องของเมิง ไปหัดเอาเอง learning curve สูงลิ่ว เป็นเทพบน windows แต่เป็นหมาทันทีเมื่อมาอยู่บน linux
11.เรื่องการเมืองอีก ฟาก win แกทุ่มเต็มที่ ทั้งลดแลกแจกแถม เมิงไม่ต้องโหลดเถื่อน เพราะกูปล่อยให้โหลดของเถื่อนแท้ๆ จาก server กูเองเลย แถมไม่มีหมดอายุด้วย มีข้อจำกัดบ้างพอให้ขำๆ เช่นจอดำ , ติดลายน้ำมุมจอเล็กๆ , เปลี่ยน wallpaper ไม่ได้ แต่รวมๆ ใช้ฟรีไม่ต่างจากตัวเสียเงิน ซื้อ laptop สมัยนี้เครื่องไหนไม่แถม windows นี่โคตรประหลาด แล้ว user มันจะเหนื่อยไปหัด linux ทำซากอะไร ก็กูใช้ของถูกฎหมายอยู่แล้วนี่หว่า
12.พวกที่ใช้ linux desktop แบบจริงๆ จังๆ ส่วนใหญ่เหลือแค่เขียนโปรแกรม กับปูทางไปใช้งาน server เพราะสภาพแวดล้อมมันเอื้ออำนวยกว่า ตรงนี้แม้แต่ win/mac ก็ยังไม่มีปัญญาเอาชนะ, ms ใช้ยุทธศาสตร์ EEE ฆ่าไม่ตายก็ค้าขายกับแม่vซะเลย ขายผลิตภัณฑ์บน server กันกระจาย ส่วน mac เอง แม้จะใช้ฐานจาก bsd ซึ่งเป็นคู่แข่งของ linux ตัวหนึ่ง แต่บน server ก็ยังยอมใช้ linux อยู่ดี ซึ่งต้องยอมรับความแข็งแกร่งของ community ถึงแม้จะเป็นแหล่งสุมหัววกหัวรุนแรง แต่สมาชิกส่วนใหญ่ก็เดนตายทั้งนั้น
2.พอมันบ้า มันก็ทำอะไรตามใจกูกันหมด
3.พอไปถามว่าทำไมไม่ทำนู่นนั่นนี่ มันก็ด่าสวน แล้วบอกมีปัญญาเมิงก็ fork ไปเองเด่ะ
4.พวก Geek หนักๆ เกลียดชัง GUI เข้ากระดูกดำ ทำอะไรต้องบน terminal เท่านั้น ซึ่งเรื่องพวกนี้ มือใหม่พอเริ่มเข้ามา เจอ command line ก็เผ่นกระเจิงแล้ว
5.มือใหม่ที่ย้ายจาก Windows ถนัดแต่ clickๆ yes,no,ok ลงโปรแกรมเสร็จ พอเจอ apt search, apt install, apt purge ฯลฯ ร้อยพ่อพันแม่ ปิดจอ reboot เข้า windows เหมือนเดิมดีกว่า
6.เปลี่ยน distro ก็ต้องศึกษาคำสั่งใหม่อีก จาก apt เป็น yum/dnf, zypper, pacman ฯลฯ ขนาดคนเก่าๆ ยังเซ็ง หน้าใหม่จะไปมีอะไรเหลือ?
7.หลายฟอรั่ม ขึ้นชื่อเรื่องสุดยอดความปากหมา เช่น arch,mate ฯลฯ ไปขอความช่วยเหลือมัน ไม่ช่วยไม่ว่า แถมโดนมันด่าสวน แล้วไล่ไปอ่าน wiki แบบไม่บอก link ด้วย ถ้าไม่บ้าจริง ทนอยู่สังคมแบบนี้ไม่ได้แน่ เพราะมันนิสัยคนสร้าง linux ขึ้นมาแต่แรกแล้ว จนถึงขนาดผู้ช่วยถึงกับลาออก(โดยเฉพาะผู้หญิง) เฮียแกต้องไปพักร้อนสงบสติอารมณ์สักพัก แล้วยอมทำสัญญา จะไม่ปากหมาซ้ำอีก
8.ตัว app/package เหมือนลูกเมียน้อย windows/mac อัพเดตไปเรียบร้อยแล้วเป็นชาติ แต่ linux ต้องรอเจ้าของ distro อัพขึ้น repo ก่อน ไม่งั้นมีปัญญาเมิงก็ไป compile เองเด่ะ
9.ชะตากรรมเหมือนลูกเมียน้อย เท่าที่เจอมา แทบทั้งหมดของ open-source ที่มีทั้งบน windows,mac,linux ของ linux แม่vมักได้รับการ update ช้าที่สุด เคยใช้โปรแกรม dictionary ญี่ปุ่นที่เป็น open-source บน windows อัพเป็น v3 มาสี่ห้าปีแล้ว บน linux ยังเป็น v1 กว่าๆ อยู่เลย ทั้งๆ ที่แม่v cross-platform แท้ๆ
10.เนื่องจากต่างคนต่างทำ ไม่ต้องสนใจใคร เพราะกูทำฟรี ไม่ได้เงิน just for fun ดังนั้นเมิงต้องตามใจกู เรื่อง ui นี่ไม่ต้องพูด ไม่รู้เรื่องก็เรื่องของเมิง ไปหัดเอาเอง learning curve สูงลิ่ว เป็นเทพบน windows แต่เป็นหมาทันทีเมื่อมาอยู่บน linux
11.เรื่องการเมืองอีก ฟาก win แกทุ่มเต็มที่ ทั้งลดแลกแจกแถม เมิงไม่ต้องโหลดเถื่อน เพราะกูปล่อยให้โหลดของเถื่อนแท้ๆ จาก server กูเองเลย แถมไม่มีหมดอายุด้วย มีข้อจำกัดบ้างพอให้ขำๆ เช่นจอดำ , ติดลายน้ำมุมจอเล็กๆ , เปลี่ยน wallpaper ไม่ได้ แต่รวมๆ ใช้ฟรีไม่ต่างจากตัวเสียเงิน ซื้อ laptop สมัยนี้เครื่องไหนไม่แถม windows นี่โคตรประหลาด แล้ว user มันจะเหนื่อยไปหัด linux ทำซากอะไร ก็กูใช้ของถูกฎหมายอยู่แล้วนี่หว่า
12.พวกที่ใช้ linux desktop แบบจริงๆ จังๆ ส่วนใหญ่เหลือแค่เขียนโปรแกรม กับปูทางไปใช้งาน server เพราะสภาพแวดล้อมมันเอื้ออำนวยกว่า ตรงนี้แม้แต่ win/mac ก็ยังไม่มีปัญญาเอาชนะ, ms ใช้ยุทธศาสตร์ EEE ฆ่าไม่ตายก็ค้าขายกับแม่vซะเลย ขายผลิตภัณฑ์บน server กันกระจาย ส่วน mac เอง แม้จะใช้ฐานจาก bsd ซึ่งเป็นคู่แข่งของ linux ตัวหนึ่ง แต่บน server ก็ยังยอมใช้ linux อยู่ดี ซึ่งต้องยอมรับความแข็งแกร่งของ community ถึงแม้จะเป็นแหล่งสุมหัววกหัวรุนแรง แต่สมาชิกส่วนใหญ่ก็เดนตายทั้งนั้น
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
กระแสความนิยมใช้งาน Linux Desktop ที่มันปลุกไม่ขึ้น เพราะมันไม่มีผลประโยชน์เชิงธุรกิจเป็นแรงผลักดัน หรือเปล่า?
ยอมรับนะว่า ยุคนี้น่ะ อะไรมันก็ต้องเป็นเงินเป็นทอง (ยิ่งเศรษฐกิจแบบตอนนี้ด้วย)
เวลา ก็เป็นเงินเป็นทองครับ
มันเลยไม่มีใครมายอมนั่งเสียเวลาทำอะไรเพื่อคนอื่นแบบที่ไม่ได้เงิน
เพราะอย่างนี้หรือเปล่า กระแสความนิยมใช้งาน Linux มันถึงไปกระจุกตัวกันอยู่แค่ฝั่งเซิฟเวอร์เท่านั้น
เพราะฝั่งนั้นมีผลประโยชน์เชิงธุรกิจ ค่าตัวแอดมินแพงนะ หลักหลายหมื่น-หลักแสนต่อเดือนเลย
ส่วนตัวผม มองแบบโง่ๆอย่างนี้ครับ ว่า หาก Linux Desktop ยังออกจากความเป็น Free Software ไม่ได้ละก็....ยากนัก ที่จะเข็น
ความพยายามของภาครัฐในอดีต ก็มีนะ แต่สุดท้ายก็ล้มพับ พ่ายต่อกระแสของโลกธุรกิจไปตามระเบียบ
หรือ ความพยายามผลักดันให้เกิดการใช้งาน Linux Desktop ภายในองค์กรการศึกษาต่างๆก็เคยมี มีมานานแล้ว แล้วสุดท้ายก็แผ่วหายไปกับกาลเวลาสิ้น
** ไม่เชิงเป็นกระทู้คำถามนะครับ แต่ยินดีเชิญทุกท่านมาร่วมอภิปราย มาร่วมแสดงความคิดความเห็นกันได้นะครับ พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกท่านครับ