สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
บ้านราคาแพงบางทีจะกรองเพื่อนบ้านจากระดับฐานะคนมาซื้อครับ ระดับคนซื้อบ้านราคาล้านนึง ห้าล้าน สิบล้าน ยี่สิบล้าน วิธีคิดและพฤติกรรมไม่เหมือนกันนะ บ้านLH จะแพงกว่าแบรนด์อื่นในระดับเดียวกัน คนมาซื้อก็คิดไม่เหมือนกับคนที่ซื้อบ้าน PS
สมาชิกหมายเลข 884438 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4105464 ถูกใจ, Disaster Magnet ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2568591 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 8
เป็นแบรนด์ที่ต้องจ่ายแพงกว่าปกติ ในกลุ่มแบรนด์ระดับเท่ากัน
ซึ่ง เวลาคนที่ยอมจ่ายแพงกว่า มาอยู่ด้วยกัน ย่อมมีอะไรคล้ายๆ กันเลยมาอยู่ด้วยกันได้
ปัญหาบางอย่างเลยไม่เกิด แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่างเช่น การต่อเติมบ้าน ส่วนมากคนที่ยอมจ่ายแพงกว่า มักจะต่อเติมในสภาพที่ดูดี แบบยอมจ่าย
บรรยากาศโดยรวมจึงค่อนข้างเป็นไปทิศทางเดียวกัน ไม่มีอะไรแปลกๆ หลุดมาเท่าไหร่ แต่ก็มีหลุดบ้าง
จะสังเกตว่า บรรยากาศในโครงการ แม้จะมีสายไฟเสาไฟฟ้าปกติ แต่บ้านทุกหลัง สายไฟจะมุดลงดินเข้าบ้านทั้งหมด ในขณะที่แบรนด์เจ้าอื่นในระดับเดียวกัน สายไฟอาจจะยิงตรงจากเสาไฟฟ้าเข้าบ้าน
การบริการหลังการขาย ถ้าไม่คาดหวังมาก ก็ดี ก่อนโอนพยายามแก้ให้ได้มากที่สุด เพราะงานจะเร็วกว่าหลังโอนมาก สามารถแจ้งซ่อมออนไลน์ได้ ปีแรกที่โอนหากเจอปัญหาอะไรก็รีบแจ้งได้เลย เพราะจะต้องมีการนัดเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจ หลังจากนั้นจึงจะเป็นการนัดให้ช่างเข้ามาซ่อม ช่างก็จะมีทั้ง Service Support ของ LH เอง และช่างผู้รับเหมาด้านนอกตามประเภทงาน บางทีอาจจะเข้าไม่พร้อมกัน เจ้าของบ้านอาจจะต้องมีเวลาเปิดบ้านให้พอสมควร พอครบปีแรกก็จะมีการมาเก็บสีให้ (แต่จริงๆ สีที่ใช้ก็สีราคาไม่แพง ลอกเก่ง) หลังจากนั้นก็เหลือแค่รับประกันโครงสร้าง 5 ปี รวมถึงกรณีแผ่นพรีแคสรั่วซึมก็จะอยู่ในประกันนี้ แต่ LH จะซ่อมให้เฉพาะในส่วนที่โอนกรรมสิทธิ์ ถ้าเกิดรั่วซึมแล้วต้องรื้องาน built-in เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบเอง เป็นต้น
การจัดการสภาพแวดล้อมโครงการ แม้ปิดโครงการไปแล้ว ต้องยกให้ เรื่องเป็นหน้าเป็นตาเขาไม่เคยเป็นรองเจ้าไหน มีคนกวาดถนนทุกวันแม้จะเป็นวันหยุด สวนสนามหญ้าส่วนกลางเนี๊ยบตลอด ถ้ามีปัญหาอะไรที่จะทำให้ดูภาพลักษณ์โครงการไม่ดีจะรีบเข้าแก้ไขทันที เช่นพายุเข้าต้นไม้ล้มระเนระนาดรีบแก้เสร็จทันทีในวันเดียว และหลังโครงการโอนเป็นนิติไปแล้ว เชื่อว่าลูกบ้านโดยรวมมีความต้องการให้สภาพทุกอย่างยังเหมือนเดิม สังเกตได้ว่า ค่าส่วนกลางจะมีแค่ไม่กี่หลังที่ค้างจ่าย คนค้างก็หลังเดิมๆ สุดท้ายก็ต้องจ่ายอยู่ดี เพราะนิติเข้มแข็งมาก
เรื่อง รปภ. ระบบรักษาความปลอดภัย ต้องยกให้ โดยรวมดีมาก
สังเกตได้ว่า บ้านในโครงการเกือบจะทั้งหมด ไม่มีหลังไหนติดเหล็กดัดเลย
มีการติดตามผู้เข้ามาในโครงการ มาดูว่าคนนี้มาหลังนี้จริงๆ หรือเปล่า ถ้าสภาพดูไม่น่าไว้วางใจ ก็จะเฝ้าอยู่หน้าบ้าน หรือขับรถตามถ้าออกนอกเส้นทาง มีการตรวจตราในโครงการตลอด หลังๆ ใช้มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า ไม่มีเสียงรบกวน เงียบสนิท แต่มีมาดูตลอด
และเรื่องการจับงู ต้องยกให้ จับเก่งจริง ตั้งแต่อยู่มา เจองูบ่อยจนเลิกกลัวไปเลย
แต่ปัญหาคลาสสิก เช่น จอดรถบนถนนนอกบ้านตลอดเวลา หรือ เอาบ้านไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยจริงๆ หรือ เสียงสัตว์เลี้ยง หรือ ปัจจัยด้านเสียง/กลิ่นจากนอกโครงการ หรือ ปัญหาจากผู้เช่าบ้านอยู่แบบไม่เกรงใจเพื่อนบ้าน (ต่างชาติบางคนนี่ตัวดีเลย) ก็อาจเกิดขึ้นได้ จ่ายแพงกว่าไม่ได้แปลว่าจะไม่มีเลย ทุกอย่างแล้วแต่ดวง โชคชะตา ฟ้าลิขิต มาให้เจอเป็นเพื่อนบ้านกันเท่านั้นเอง
ส่วนแบรนด์ที่มาแรง และปี 2564 เคลมเองว่าเป็น no.1 ในบ้านกลุ่มราคา 10M+ ขึ้นไป คือ SC Asset จะลองเทียบกันดูก็ได้
สำหรับ SC จุดที่จะเด่นกว่า LH ในราคาเท่าๆ กัน คือ ประตูทางเข้าออก SC จะเป็นแบบทึบ สุนัขเดินเข้าออกไม่ได้ ในขณะที่ LH เป็นก้านกั้นเฉยๆ ตัวระบบกันขโมยในบ้าน ปกติ LH จะแค่ magnetic sensor ถ้าบานถูกงัดให้เลื่อนปุ๊บสัญญานจะร้อง แต่ SC จะมี shock sensor ซึ่งจะร้องกรณีมีการทุบกระจกด้วยเป็นต้น การแก้ไขปัญหาดราม่า โดยรวมค่อนข้างดี ส่วน layout ผังบ้านแล้วแต่ชอบ ส่วนตัวถูกใจกับแบบบ้านของ LH มากกว่า การวางตำแหน่งโดยรวมลงตัวกว่า
ซึ่ง เวลาคนที่ยอมจ่ายแพงกว่า มาอยู่ด้วยกัน ย่อมมีอะไรคล้ายๆ กันเลยมาอยู่ด้วยกันได้
ปัญหาบางอย่างเลยไม่เกิด แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่างเช่น การต่อเติมบ้าน ส่วนมากคนที่ยอมจ่ายแพงกว่า มักจะต่อเติมในสภาพที่ดูดี แบบยอมจ่าย
บรรยากาศโดยรวมจึงค่อนข้างเป็นไปทิศทางเดียวกัน ไม่มีอะไรแปลกๆ หลุดมาเท่าไหร่ แต่ก็มีหลุดบ้าง
จะสังเกตว่า บรรยากาศในโครงการ แม้จะมีสายไฟเสาไฟฟ้าปกติ แต่บ้านทุกหลัง สายไฟจะมุดลงดินเข้าบ้านทั้งหมด ในขณะที่แบรนด์เจ้าอื่นในระดับเดียวกัน สายไฟอาจจะยิงตรงจากเสาไฟฟ้าเข้าบ้าน
การบริการหลังการขาย ถ้าไม่คาดหวังมาก ก็ดี ก่อนโอนพยายามแก้ให้ได้มากที่สุด เพราะงานจะเร็วกว่าหลังโอนมาก สามารถแจ้งซ่อมออนไลน์ได้ ปีแรกที่โอนหากเจอปัญหาอะไรก็รีบแจ้งได้เลย เพราะจะต้องมีการนัดเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจ หลังจากนั้นจึงจะเป็นการนัดให้ช่างเข้ามาซ่อม ช่างก็จะมีทั้ง Service Support ของ LH เอง และช่างผู้รับเหมาด้านนอกตามประเภทงาน บางทีอาจจะเข้าไม่พร้อมกัน เจ้าของบ้านอาจจะต้องมีเวลาเปิดบ้านให้พอสมควร พอครบปีแรกก็จะมีการมาเก็บสีให้ (แต่จริงๆ สีที่ใช้ก็สีราคาไม่แพง ลอกเก่ง) หลังจากนั้นก็เหลือแค่รับประกันโครงสร้าง 5 ปี รวมถึงกรณีแผ่นพรีแคสรั่วซึมก็จะอยู่ในประกันนี้ แต่ LH จะซ่อมให้เฉพาะในส่วนที่โอนกรรมสิทธิ์ ถ้าเกิดรั่วซึมแล้วต้องรื้องาน built-in เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบเอง เป็นต้น
การจัดการสภาพแวดล้อมโครงการ แม้ปิดโครงการไปแล้ว ต้องยกให้ เรื่องเป็นหน้าเป็นตาเขาไม่เคยเป็นรองเจ้าไหน มีคนกวาดถนนทุกวันแม้จะเป็นวันหยุด สวนสนามหญ้าส่วนกลางเนี๊ยบตลอด ถ้ามีปัญหาอะไรที่จะทำให้ดูภาพลักษณ์โครงการไม่ดีจะรีบเข้าแก้ไขทันที เช่นพายุเข้าต้นไม้ล้มระเนระนาดรีบแก้เสร็จทันทีในวันเดียว และหลังโครงการโอนเป็นนิติไปแล้ว เชื่อว่าลูกบ้านโดยรวมมีความต้องการให้สภาพทุกอย่างยังเหมือนเดิม สังเกตได้ว่า ค่าส่วนกลางจะมีแค่ไม่กี่หลังที่ค้างจ่าย คนค้างก็หลังเดิมๆ สุดท้ายก็ต้องจ่ายอยู่ดี เพราะนิติเข้มแข็งมาก
เรื่อง รปภ. ระบบรักษาความปลอดภัย ต้องยกให้ โดยรวมดีมาก
สังเกตได้ว่า บ้านในโครงการเกือบจะทั้งหมด ไม่มีหลังไหนติดเหล็กดัดเลย
มีการติดตามผู้เข้ามาในโครงการ มาดูว่าคนนี้มาหลังนี้จริงๆ หรือเปล่า ถ้าสภาพดูไม่น่าไว้วางใจ ก็จะเฝ้าอยู่หน้าบ้าน หรือขับรถตามถ้าออกนอกเส้นทาง มีการตรวจตราในโครงการตลอด หลังๆ ใช้มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า ไม่มีเสียงรบกวน เงียบสนิท แต่มีมาดูตลอด
และเรื่องการจับงู ต้องยกให้ จับเก่งจริง ตั้งแต่อยู่มา เจองูบ่อยจนเลิกกลัวไปเลย
แต่ปัญหาคลาสสิก เช่น จอดรถบนถนนนอกบ้านตลอดเวลา หรือ เอาบ้านไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยจริงๆ หรือ เสียงสัตว์เลี้ยง หรือ ปัจจัยด้านเสียง/กลิ่นจากนอกโครงการ หรือ ปัญหาจากผู้เช่าบ้านอยู่แบบไม่เกรงใจเพื่อนบ้าน (ต่างชาติบางคนนี่ตัวดีเลย) ก็อาจเกิดขึ้นได้ จ่ายแพงกว่าไม่ได้แปลว่าจะไม่มีเลย ทุกอย่างแล้วแต่ดวง โชคชะตา ฟ้าลิขิต มาให้เจอเป็นเพื่อนบ้านกันเท่านั้นเอง
ส่วนแบรนด์ที่มาแรง และปี 2564 เคลมเองว่าเป็น no.1 ในบ้านกลุ่มราคา 10M+ ขึ้นไป คือ SC Asset จะลองเทียบกันดูก็ได้
สำหรับ SC จุดที่จะเด่นกว่า LH ในราคาเท่าๆ กัน คือ ประตูทางเข้าออก SC จะเป็นแบบทึบ สุนัขเดินเข้าออกไม่ได้ ในขณะที่ LH เป็นก้านกั้นเฉยๆ ตัวระบบกันขโมยในบ้าน ปกติ LH จะแค่ magnetic sensor ถ้าบานถูกงัดให้เลื่อนปุ๊บสัญญานจะร้อง แต่ SC จะมี shock sensor ซึ่งจะร้องกรณีมีการทุบกระจกด้วยเป็นต้น การแก้ไขปัญหาดราม่า โดยรวมค่อนข้างดี ส่วน layout ผังบ้านแล้วแต่ชอบ ส่วนตัวถูกใจกับแบบบ้านของ LH มากกว่า การวางตำแหน่งโดยรวมลงตัวกว่า
nakimaster ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 884438 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2716157 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2568591 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5311812 ถูกใจ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ทำไมคนที่ซื้อบ้าน LH ถึงยอมจ่ายแพงกว่าที่อื่น
แต่ก็เป็นกระทู้เก่าเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ตอนนี้เลยไม่แน่ใจค่ะ
ใครมีประสบการณ์เลือกซื้อ/ แวะชมโครงการบ้าน LH เร็วๆนี้ รบกวนแชร์กันหน่อยค่ะ อยากทราบว่า อะไรที่ทำให้ตัดสินใจยอมจ่ายแพงกว่าที่อื่นค่ะ ขอบคุณค่ะ