ช่องลมระบายอากาศบ้าน หรือ (Ventilating Opening) ตัวช่วยคลายความร้อน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้านด้วยลม และแสงแดดธรรมชาติ ที่หลาย ๆ บ้านอาจมองข้าม เพราะปัจจุบันมีตัวช่วยอื่น ๆ ที่ให้ความสะดวกสบาย และคลายความร้อนให้กับบ้านได้รวดเร็วกว่าอย่าง เครื่องปรับอากาศ แต่รู้หรือไม่ครับข้อเสียคือ สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าและค่าไฟอาจพุ่งสูงปรี๊ด!! การเลือกใช้ ระบบระบายอากาศในบ้าน ภายในห้องต่าง ๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่
HomeGuru แนะนำ เพราะนอกจากจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานให้กับบ้านอีกด้วย
ทำไม ช่องลมระบายอากาศในบ้าน จึงจำเป็น
ช่องลมระบายอากาศในบ้าน คือช่องระบายอากาศที่อาศัยลมธรรมชาติในการทำงาน ช่วยให้อากาศภายในบ้านหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้นครับ หากไม่ติดตั้ง ระบบระบายอากาศในบ้าน เพื่อไล่มลพิษ เช่น ฝุ่นละออง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกสู่ภายนอกบ้าน จะยิ่งทำให้อากาศที่สกปรกวนเวียน และสะสมอยู่ภายในบ้านตลอดเวลา ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ และผู้สูงวัยที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้ครับ
ปัจจุบันช่องลมระบายอากาศมีให้เลือกติดตั้งหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เข้ากับการออกแบบและดีไซน์ของบ้าน เช่น แบบวงกลม แบบสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่แล้วมักนิยมติดตั้งบริเวณ หน้าต่าง ประตู ผนัง ในแต่ละห้อง โดยเฉพาะห้องน้ำ และครัวครับ
6 ช่องลมระบายอากาศบ้าน ติดตั้งไว้ช่วยบ้านคลายร้อน
ช่องระบายลมใต้หลังคา การ ระบายความร้อนในบ้าน ด้วยการติดตั้ง ช่องระบายลมใต้หลังคา ถือเป็นวิธีที่ดี และเร็วที่สุดที่จะช่วยจัดการไอความร้อนที่สะสมอยู่ภายในตัวบ้านให้หมดไปได้ครับ เพราะด้วยกลไกของความร้อนที่จะลอยตัวสู่ที่สูง เมื่อเปิดช่องระบายอากาศก็จะช่วยให้ความร้อนที่สะสม และหมุนเวียนอยู่ภายในบ้านลอยตัวออกจากตัวบ้าน ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น แต่หากบ้านไหนไม่มี ช่องระบายลมใต้หลังคา ความร้อนก็จะสะสมและแผ่วนกลับลงมาในตัวบ้าน ทำให้บ้านร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวันครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านวิธีคลายร้อนให้บ้านเพิ่มเติมได้ที่ วิธีคลายร้อนบ้านสังกะสี ปรับให้ดีหนีร้อน!
ช่องลมระบายอากาศห้องน้ำ ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งห้องที่สำคัญมาก ๆ นะครับที่ต้องติดตั้ง ระบบระบายอากาศในบ้าน เพราะจะช่วยถ่ายเทอากาศ ทำให้พื้นห้องน้ำไม่เฉอะแฉะ และห่างไกลกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งช่องลมระบายอากาศบ้านในห้องน้ำนั้น ควรเป็นช่องลมที่สามารถระบายได้ทั้งอากาศ และแสงสามารถเข้าได้ อย่างปัจจุบันหลาย ๆ บ้าน โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรจะนิยมติดตั้ง หน้างต่าง UPVC บานเลื่อนคู่สำเร็จรูป พร้อมมุ้ง เพื่อความสะดวกสบาย และง่ายในการติดตั้งครับ
ช่องลมระบายอากาศห้องครัว กลิ่นอาหาร กลิ่นอับ เป็นปัญหาหลักของห้องครัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะมีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือเครื่องดูดควันอาหารแล้วก็ตาม การหา ระบบระบายอากาศในบ้าน ด้วยวิธีการธรรมชาติอย่าง การติดตั้งช่องลมระบายอากาศบ้านด้วยการติดตั้งหน้าต่าง และเปิดระบายอากาศขณะประกอบอาหาร ซึ่งบ้านจัดสรรส่วนใหญ่มักจะมีหน้าต่างบานใหญ่ติดตั้งไว้ให้แล้วสำหรับระบายอากาศและกลิ่น แต่สำหรับบ้านทาวน์โฮม ที่ต่อเติมห้องครัวบริเวณหลังบ้าน การ ระบายความร้อนในบ้าน แนะนำให้ทำหลังคาสองชั้น ขั้นด้วยช่องรับแสงและช่องระบายลม เพราะความร้อน กลิ่น และควันจะลอยตัวขึ้นสู่ที่สูง และลอยออกบริเวณด้านนอกบ้านได้อย่างสะดวกและรวดเร็วกว่าการติดตั้งหน้าต่าง แถมยังได้แสงสว่างธรรมชาติจากช่องรับแสงอีกด้วยครับ
ช่องลมระบายอากาศห้องนอน ห้องนอนเป็นอีกหนึ่งห้องที่ควรได้รับอากาศถ่ายเทที่สะดวก เพื่อให้เย็นสบายตลอดการพักผ่อนระหว่างวัน หรือในช่วงเวลากลางคืน ดังนั้นจึงควรเลือกห้องนอนที่มีทางหมุนเวียนของอากาศ คือ ภายในห้องนอนควรมี ระบบระบายอากาศในบ้าน คือมีหน้าต่างหลาย ๆ บาน เพื่อให้ลมเย็นสามารถพัดเข้ามา และลมร้อนสามารถพัดออกไปได้ แต่หากภายในห้องนอนถูกจำกัดในเรื่องพื้นที่ทำให้ไม่สามารถมีหน้าต่างหลาย ๆ บานได้ อาจแก้ไขด้วยการติดฟิลม์กรองแสง ติดพัดลมระบายอากาศ หรือเลือกทาสีห้องนอนโทนสีอ่อน เพื่อให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และเย็นสบายครับ
ช่องลมเหนือประตูและหน้าต่าง เป็นช่องลมระบายอากาศบ้านที่ช่วย ระบายความร้อนในบ้าน ได้ดีแม้จะไม่ได้เปิดประตูหรือหน้างต่างก็ตามครับ ซึ่งการติดตั้งช่องลมประเภทนี้เหมาะสำหรับบ้านที่มีฝ้าเพดานสูง จะช่วยให้บ้านดูโปร่งตาขึ้น โดยการติดตั้งช่องลมเหนือประตูและหน้าต่าง แนะนำให้ติดตั้งมุ้งลวดไว้บริเวณด้านหลังระแนงช่องลม เพื่อป้องกันแมลงต่าง ๆ เข้าบ้านด้วยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านบทความเกี่ยวกับกระจกเพิ่มเติมได้ที่ เลือก “กระจก” อย่างไรให้บ้านไม่ร้อน
อ่านวิธีคลายร้อนให้บ้านเพิ่มเติมได้ที่ ออกแบบบ้านร้อนให้เย็นตั้งแต่พื้นจรดหลังคา
ช่องลมระบายอากาศที่ผนัง ผนังบ้านใช่ว่าจะต้องเป็นผนังทึบเสมอไป เพราะหากอากาศในบ้านไม่หมุนเวียน อบอ้าว การติดตั้งช่องลมระบายอากาศบ้านบริเวณผนังส่วนใหญ่จะเป็นผนังช่องลมมากกว่าการติดตั้งหน้าต่าง เพราะนอกจากจะช่วย ระบายความร้อนในบ้าน ให้ลมพัดหมุนเวียนระหว่างห้องต่าง ๆแล้ว ยังช่วยให้บ้านสวยและมีดีไซน์เพิ่มมากขึ้น
" บ้านที่ตั้งอยู่ริมถนน การติดตั้ง ช่องลมระบายอากาศบ้าน อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี
เพราะจะมีปัญหาเรื่องฝุ่นละออง และกลิ่นควันรถเข้าสู่ตัวบ้าน
จึงต้องพิจารณา และปรับจุดติดตั้งให้เหมาะสมกับตัวบ้านก่อนการติดตั้งนะครับ "
ประเภทช่องลมระบายอากาศบ้าน
ช่องลมระบายอากาศบ้าน แบบจั่วช่องลม ส่วนใหญ่แล้วนิยมติดตั้ง เป็น ช่องระบายลมใต้หลังคา เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งทั้งภายใน ภายนอกบ้าน และสถานที่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุไม้ผ่านกระบวนการกำจัดความชื้น เคลือบสารป้องกันปลวก เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งาน
ช่องลมระบายอากาศบ้าน แบบสี่เหลี่ยม เป็นที่นิยมใช้ของหลาย ๆ บ้านครับ เพราะมีลักษณะเป็นรูปทรงพื้นฐาน คือเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ติดตั้งมาพร้อมกับมุ้งลวดเพื่อป้องกันฝุ่น แมลง สิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปในตัวบ้าน ส่วนใหญ่นิยมติดตั้งภายใน ห้องครัว
ช่องลมระบายอากาศบ้าน แบบวงกลม ใช้ติดตั้งเพื่อ ระบายความร้อนในบ้าน บริเวณผนัง และเพดานของห้องครัว ห้องน้ำ และห้องเก็บของ เพราะเป็นระบบระบายอากาศตามธรรมชาติครับ ตัวรูระบายอากาศจะมีลักษณะเป็นแบบตะแกรง หรือบานเกล็ด ซึ่งแต่ละบ้านสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ครับ
จุดติดตั้ง ช่องลมระบายอากาศบ้าน ที่เหมาะสม
ช่องลมระบายอากาศบ้านที่ดีควรวางอยู่ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกัน หรืออยู่เยื้องกัน มากกว่าที่จะอยู่ในแนวเดียวกัน เพื่อช่วยให้ ระบายความร้อนในบ้าน ได้ทั่วทั้งห้อง และไม่ควรนำเฟอร์นิเจอร์มาวางขวางช่องระบายลมภายในบ้าน เพราะจะยิ่งทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกครับ โดยขนาดของช่องลมก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะมีผลต่อการระบายความร้อนภายในบ้าน เพราะหากช่องลมมีขนาดเล็ก แต่ลมที่จะถ่ายเทออกมีปริมาณมาก หรือช่องลมมีขนาดใหญ่ แต่ลมที่จะถ่ายเทออกมีปริมาณเล็ก ก็จะส่งผลต่อความเร็วของลมในการระบายได้เช่นกัน
หากต้องการติดตั้งช่องลมระบายอากาศบ้านเพิ่มเติม แนะนำให้เจาะ ระบบระบายอากาศในบ้าน บริเวณมุมห้อง โดยเจาะให้สูงขึ้นจากพื้นประมาณ 2 – 2.5 เมตร ส่วนความกว้างนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ และที่สำคัญอย่าลืมดูทิศทางของลมก่อนการติดตั้งด้วยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านวิธีคลายร้อนให้บ้านเพิ่มเติมได้ที่ “จัดสวนคลายร้อน” กับสารพัดไอเดียเติมร่มเงาในสวน
อ่านวิธีคลายร้อนให้บ้านเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่าวิกฤตหน้าร้อนกับคัมภีร์แต่งบ้านเย็น ประหยัดค่าไฟ
และบางครั้งแม้จะเลือกจุดติดตั้ง ช่องลมระบายอากาศบ้าน ที่เหมาะสมแล้ว แต่ยังรู้สึกร้อนอบอ้าว อากาศไม่ถ่ายเทอยู่ ก็ควรสังเกตการณ์วางตั้งเฟอร์นิเจอร์ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าบังช่อง ระบายความร้อนในบ้าน หรือไม่ หรือทำกิจกรรมที่ต้องเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนระหว่างวันอยู่หรือไม่ เช่น เปิดเตารีดรีดผ้า ทำอาหารที่ต้องใช้ระยะเวลาในการอุ่นเป็นระยะเวลานาน ก็ทำให้ภายในบ้านเกิดความร้อนขึ้นได้ แม้จะมีช่องลมระบายอากาศบ้านเป็นตัวช่วยระบายความร้อนครับ
การออกแบบบ้านที่ดีไม่เพียงแต่เน้นเรื่อง ความสวยงาม และการตกแต่งภายในตามความชอบของเจ้าของบ้านเท่านั้นนะครับ การให้ความสำคัญกับโครงสร้าง และการเลือกวัสดุที่มีคุณภาพให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของบ้านเราที่ต้องพบเจอกับฤดูร้อนเกือบตลอดทั้งปี ด้วยการเลือกช่องลมระบายอากาศบ้านเพื่อ ระบายความร้อนในบ้าน ตามที่
HomeGuru กล่าวไว้ข้างต้น ก็จะช่วยให้บ้านมีสุขภาพดี หมดปัญหาเรื่องการซ่อมแซมที่จุกจิกได้เช่นกันครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
ช่องลมระบายอากาศบ้าน ตัวช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อน
ช่องลมระบายอากาศบ้าน หรือ (Ventilating Opening) ตัวช่วยคลายความร้อน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้านด้วยลม และแสงแดดธรรมชาติ ที่หลาย ๆ บ้านอาจมองข้าม เพราะปัจจุบันมีตัวช่วยอื่น ๆ ที่ให้ความสะดวกสบาย และคลายความร้อนให้กับบ้านได้รวดเร็วกว่าอย่าง เครื่องปรับอากาศ แต่รู้หรือไม่ครับข้อเสียคือ สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าและค่าไฟอาจพุ่งสูงปรี๊ด!! การเลือกใช้ ระบบระบายอากาศในบ้าน ภายในห้องต่าง ๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ HomeGuru แนะนำ เพราะนอกจากจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานให้กับบ้านอีกด้วย
ทำไม ช่องลมระบายอากาศในบ้าน จึงจำเป็น
ช่องลมระบายอากาศในบ้าน คือช่องระบายอากาศที่อาศัยลมธรรมชาติในการทำงาน ช่วยให้อากาศภายในบ้านหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้นครับ หากไม่ติดตั้ง ระบบระบายอากาศในบ้าน เพื่อไล่มลพิษ เช่น ฝุ่นละออง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกสู่ภายนอกบ้าน จะยิ่งทำให้อากาศที่สกปรกวนเวียน และสะสมอยู่ภายในบ้านตลอดเวลา ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ และผู้สูงวัยที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้ครับ
ปัจจุบันช่องลมระบายอากาศมีให้เลือกติดตั้งหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เข้ากับการออกแบบและดีไซน์ของบ้าน เช่น แบบวงกลม แบบสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่แล้วมักนิยมติดตั้งบริเวณ หน้าต่าง ประตู ผนัง ในแต่ละห้อง โดยเฉพาะห้องน้ำ และครัวครับ
6 ช่องลมระบายอากาศบ้าน ติดตั้งไว้ช่วยบ้านคลายร้อน
ช่องระบายลมใต้หลังคา การ ระบายความร้อนในบ้าน ด้วยการติดตั้ง ช่องระบายลมใต้หลังคา ถือเป็นวิธีที่ดี และเร็วที่สุดที่จะช่วยจัดการไอความร้อนที่สะสมอยู่ภายในตัวบ้านให้หมดไปได้ครับ เพราะด้วยกลไกของความร้อนที่จะลอยตัวสู่ที่สูง เมื่อเปิดช่องระบายอากาศก็จะช่วยให้ความร้อนที่สะสม และหมุนเวียนอยู่ภายในบ้านลอยตัวออกจากตัวบ้าน ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น แต่หากบ้านไหนไม่มี ช่องระบายลมใต้หลังคา ความร้อนก็จะสะสมและแผ่วนกลับลงมาในตัวบ้าน ทำให้บ้านร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวันครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่องลมระบายอากาศห้องน้ำ ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งห้องที่สำคัญมาก ๆ นะครับที่ต้องติดตั้ง ระบบระบายอากาศในบ้าน เพราะจะช่วยถ่ายเทอากาศ ทำให้พื้นห้องน้ำไม่เฉอะแฉะ และห่างไกลกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งช่องลมระบายอากาศบ้านในห้องน้ำนั้น ควรเป็นช่องลมที่สามารถระบายได้ทั้งอากาศ และแสงสามารถเข้าได้ อย่างปัจจุบันหลาย ๆ บ้าน โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรจะนิยมติดตั้ง หน้างต่าง UPVC บานเลื่อนคู่สำเร็จรูป พร้อมมุ้ง เพื่อความสะดวกสบาย และง่ายในการติดตั้งครับ
ช่องลมระบายอากาศห้องครัว กลิ่นอาหาร กลิ่นอับ เป็นปัญหาหลักของห้องครัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะมีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือเครื่องดูดควันอาหารแล้วก็ตาม การหา ระบบระบายอากาศในบ้าน ด้วยวิธีการธรรมชาติอย่าง การติดตั้งช่องลมระบายอากาศบ้านด้วยการติดตั้งหน้าต่าง และเปิดระบายอากาศขณะประกอบอาหาร ซึ่งบ้านจัดสรรส่วนใหญ่มักจะมีหน้าต่างบานใหญ่ติดตั้งไว้ให้แล้วสำหรับระบายอากาศและกลิ่น แต่สำหรับบ้านทาวน์โฮม ที่ต่อเติมห้องครัวบริเวณหลังบ้าน การ ระบายความร้อนในบ้าน แนะนำให้ทำหลังคาสองชั้น ขั้นด้วยช่องรับแสงและช่องระบายลม เพราะความร้อน กลิ่น และควันจะลอยตัวขึ้นสู่ที่สูง และลอยออกบริเวณด้านนอกบ้านได้อย่างสะดวกและรวดเร็วกว่าการติดตั้งหน้าต่าง แถมยังได้แสงสว่างธรรมชาติจากช่องรับแสงอีกด้วยครับ
ช่องลมระบายอากาศห้องนอน ห้องนอนเป็นอีกหนึ่งห้องที่ควรได้รับอากาศถ่ายเทที่สะดวก เพื่อให้เย็นสบายตลอดการพักผ่อนระหว่างวัน หรือในช่วงเวลากลางคืน ดังนั้นจึงควรเลือกห้องนอนที่มีทางหมุนเวียนของอากาศ คือ ภายในห้องนอนควรมี ระบบระบายอากาศในบ้าน คือมีหน้าต่างหลาย ๆ บาน เพื่อให้ลมเย็นสามารถพัดเข้ามา และลมร้อนสามารถพัดออกไปได้ แต่หากภายในห้องนอนถูกจำกัดในเรื่องพื้นที่ทำให้ไม่สามารถมีหน้าต่างหลาย ๆ บานได้ อาจแก้ไขด้วยการติดฟิลม์กรองแสง ติดพัดลมระบายอากาศ หรือเลือกทาสีห้องนอนโทนสีอ่อน เพื่อให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และเย็นสบายครับ
ช่องลมเหนือประตูและหน้าต่าง เป็นช่องลมระบายอากาศบ้านที่ช่วย ระบายความร้อนในบ้าน ได้ดีแม้จะไม่ได้เปิดประตูหรือหน้างต่างก็ตามครับ ซึ่งการติดตั้งช่องลมประเภทนี้เหมาะสำหรับบ้านที่มีฝ้าเพดานสูง จะช่วยให้บ้านดูโปร่งตาขึ้น โดยการติดตั้งช่องลมเหนือประตูและหน้าต่าง แนะนำให้ติดตั้งมุ้งลวดไว้บริเวณด้านหลังระแนงช่องลม เพื่อป้องกันแมลงต่าง ๆ เข้าบ้านด้วยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่องลมระบายอากาศที่ผนัง ผนังบ้านใช่ว่าจะต้องเป็นผนังทึบเสมอไป เพราะหากอากาศในบ้านไม่หมุนเวียน อบอ้าว การติดตั้งช่องลมระบายอากาศบ้านบริเวณผนังส่วนใหญ่จะเป็นผนังช่องลมมากกว่าการติดตั้งหน้าต่าง เพราะนอกจากจะช่วย ระบายความร้อนในบ้าน ให้ลมพัดหมุนเวียนระหว่างห้องต่าง ๆแล้ว ยังช่วยให้บ้านสวยและมีดีไซน์เพิ่มมากขึ้น
ช่องลมระบายอากาศบ้าน แบบจั่วช่องลม ส่วนใหญ่แล้วนิยมติดตั้ง เป็น ช่องระบายลมใต้หลังคา เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งทั้งภายใน ภายนอกบ้าน และสถานที่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุไม้ผ่านกระบวนการกำจัดความชื้น เคลือบสารป้องกันปลวก เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งาน
ช่องลมระบายอากาศบ้าน แบบสี่เหลี่ยม เป็นที่นิยมใช้ของหลาย ๆ บ้านครับ เพราะมีลักษณะเป็นรูปทรงพื้นฐาน คือเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ติดตั้งมาพร้อมกับมุ้งลวดเพื่อป้องกันฝุ่น แมลง สิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปในตัวบ้าน ส่วนใหญ่นิยมติดตั้งภายใน ห้องครัว
ช่องลมระบายอากาศบ้าน แบบวงกลม ใช้ติดตั้งเพื่อ ระบายความร้อนในบ้าน บริเวณผนัง และเพดานของห้องครัว ห้องน้ำ และห้องเก็บของ เพราะเป็นระบบระบายอากาศตามธรรมชาติครับ ตัวรูระบายอากาศจะมีลักษณะเป็นแบบตะแกรง หรือบานเกล็ด ซึ่งแต่ละบ้านสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ครับ
จุดติดตั้ง ช่องลมระบายอากาศบ้าน ที่เหมาะสม
ช่องลมระบายอากาศบ้านที่ดีควรวางอยู่ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกัน หรืออยู่เยื้องกัน มากกว่าที่จะอยู่ในแนวเดียวกัน เพื่อช่วยให้ ระบายความร้อนในบ้าน ได้ทั่วทั้งห้อง และไม่ควรนำเฟอร์นิเจอร์มาวางขวางช่องระบายลมภายในบ้าน เพราะจะยิ่งทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกครับ โดยขนาดของช่องลมก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะมีผลต่อการระบายความร้อนภายในบ้าน เพราะหากช่องลมมีขนาดเล็ก แต่ลมที่จะถ่ายเทออกมีปริมาณมาก หรือช่องลมมีขนาดใหญ่ แต่ลมที่จะถ่ายเทออกมีปริมาณเล็ก ก็จะส่งผลต่อความเร็วของลมในการระบายได้เช่นกัน
หากต้องการติดตั้งช่องลมระบายอากาศบ้านเพิ่มเติม แนะนำให้เจาะ ระบบระบายอากาศในบ้าน บริเวณมุมห้อง โดยเจาะให้สูงขึ้นจากพื้นประมาณ 2 – 2.5 เมตร ส่วนความกว้างนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ และที่สำคัญอย่าลืมดูทิศทางของลมก่อนการติดตั้งด้วยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และบางครั้งแม้จะเลือกจุดติดตั้ง ช่องลมระบายอากาศบ้าน ที่เหมาะสมแล้ว แต่ยังรู้สึกร้อนอบอ้าว อากาศไม่ถ่ายเทอยู่ ก็ควรสังเกตการณ์วางตั้งเฟอร์นิเจอร์ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าบังช่อง ระบายความร้อนในบ้าน หรือไม่ หรือทำกิจกรรมที่ต้องเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนระหว่างวันอยู่หรือไม่ เช่น เปิดเตารีดรีดผ้า ทำอาหารที่ต้องใช้ระยะเวลาในการอุ่นเป็นระยะเวลานาน ก็ทำให้ภายในบ้านเกิดความร้อนขึ้นได้ แม้จะมีช่องลมระบายอากาศบ้านเป็นตัวช่วยระบายความร้อนครับ
การออกแบบบ้านที่ดีไม่เพียงแต่เน้นเรื่อง ความสวยงาม และการตกแต่งภายในตามความชอบของเจ้าของบ้านเท่านั้นนะครับ การให้ความสำคัญกับโครงสร้าง และการเลือกวัสดุที่มีคุณภาพให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของบ้านเราที่ต้องพบเจอกับฤดูร้อนเกือบตลอดทั้งปี ด้วยการเลือกช่องลมระบายอากาศบ้านเพื่อ ระบายความร้อนในบ้าน ตามที่ HomeGuru กล่าวไว้ข้างต้น ก็จะช่วยให้บ้านมีสุขภาพดี หมดปัญหาเรื่องการซ่อมแซมที่จุกจิกได้เช่นกันครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE