เล่าประสบการ์เจอแฟน 12 วันหลังจากไม่ได้เจอกันมา 15 เดือนเพราะโควิดค่ะ

สวัสดีค่ะ เราอยากมาแชร์เรื่องราวของเราและเป็นกำลังใจให้คนที่ต้องห่างกับคนรักเพราะโควิดค่ะ

เราไม่ได้เจอแฟนมาทั้งหมด 15 เดือนนับจากการเจอกันครั้งล่าสุดคือเดือนตุลาคม 2019 
ซึ่งตอนนั้นเจอกันแค่ 2 วัน และก็ไม่คิดว่าจะเจอกันอีกทีตั้ง 15 เดือน(1ปี3เดือน)ให้หลัง

วันนี้ครบรอบ 1 เดือนที่เราส่งแฟนกลับประเทศ 1 เดือนเต็มๆที่ต้องห่างกัน(อีกครั้ง)
กว่าจะได้เจอกันในช่วงโควิดไม่ง่ายเลยค่ะ อุปสรรคเยอะมาก แต่ก็เป็น 12 วันที่คุ้มค่ามาก
12 วันที่รักษาความสัมพันธ์เอาไว้ในอนาคต

เราเจอกับแฟนตอนเราไป work and tavel 2019 
ตอนแรกเริ่มจากการเป็นเพื่อน คุยกันปกติเพราะเขามีแผนการมาไทย ตอนตุลาคม 2019 กับเพื่อน
พอคุยกันสักพักก็มีใจให้กัน เลยตกลงกันว่าจะลองคบหาดูใจ 2 เดือน จากนั้นต่างคนต่างแยกย้าย
เพราะเราต้องกลับมาเรียนที่ไทยอีก 3 ปีถึงจะจบ ทั้งคู่ไม่มีใครอยากทำ Long Distance Relationship  
เราเองมี Trust Issue จากความสัมพันธ์กับแฟนเก่าที่อยู่คนละหจังหวัด
ถ้าต้องคบคนที่ห่างกันคนละซีกโลกเราคงอกแตกตาย ระแวงหนักกว่าเดิม

เกลียดอะไรได้อย่างนั้น เราทั้งคู่ผู้บอกว่าจะไม่ทำ Long DIstance Relationship 
แต่แล้วความรักระยะสั้น 2 เดือนก็เปลี่ยนเป็น Long DIstance Relationship ตอนนี้เราคบกับแฟนเกือบจะ 2 ปีแล้วค่ะ

หลังจากจบ Work เรากลับมาเรียนต่อไทย แล้วก็เจอแฟนเดือนตุลาคม 2019 แต่เจอแค่ 2 วัน
คือวันที่ 2 ที่เขาอยู่กรุงเทพและวันสุดท้ายก่อนที่เขาจะกลับอเมริกา
เขามาเที่ยวกับเพื่อนละครอบครัว ไม่อยากเสียมารยาทปลีกตัวมาหาเรา เพราะเขาวางแผนมาไทยไว้ตั้งแต่ก่อนเจอเรา 
เราก็เข้าใจ อย่างน้อยเจอกัน 2 วันก็ดีกว่าไม่เจอกันเลย

เราวางแผนจะกลับไป Work อีก แต่เคราะห์ร้าย โควิดทำให้เราไม่สามารถเจอกันได้
จากเราวางแผนว่าจะไปเซอร์ไพส์วันเกิดเขาในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2020 ซึ่งเป็น 7 เดือนหลังจากที่เจอกันตอนตุลาคม 2019
หลังจากโครงการเราโดนยกเลิกเพราะวีซ่าไม่เปิดให้สัมภาษณ์ แผนการที่จะได้เจอกันช่วงฤดูร้อน 2020 ก็ล้มเหลว
ตั้งแต่นั้นมาเราก็สิ้นหวังเพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกทีตอนไหน
จากที่บอกว่า see you in the next 7 months  ในปี 2019
ก็กลายเป็น see you when the time is right

มิถุนายน 2020 แฟนเราจองตั๋วมาไทยช่วง ธันวาคม 2020 เพราะคิดว่าสถานการณ์คงดีแล้ว
7 ตุลาคม 2020 ตั๋วที่จองไว้โดนยกเลิก แฟนเราบอกว่าเจอกัน winter 2021 นะ ตอนนั้นสถานการ์คงดีขึ้นอย่างแน่นอนแล้วละ

เรา ณ ตอนนั้นขอแค่ได้เจอกัน  เราตอบตกลง เจอกันธันวา 2021 ก็ได้ จะให้ฉันรอเธอ 2 ปีฉันก็จะรอ
You are worth waiting for babe

หลังจากนั้นตุลาคม 2020 สถานทูตอเมริกาเปิดให้สัมภาษณ์วีซ่า เราไปสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวแต่โดนปฏิเสธ
ตอนนั้นไทยยังไม่เปิดให้อเมริกันเข้าประเทศ เพราะยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง
เราเสียใจมากและเริ่มท้อแท้กับความสัมพันธ์ เราไม่รู้ว่าที่เรายังอยู่ด้วยกันเป็นเพราะรักกันหรือเพราะเคยชินที่ได้คุยกัน

Long Distance ไม่ใช่แค่ระยะทางและเวลาที่ห่างกัน 16 ชม. แต่พอเราไม่ได้เจอกันนานมาก ๆ เราก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น
ความรู้สึกดีๆที่มีให้กันก็อาจจะเปลี่ยนไป มีจืดจางลงบ้าง ลืมความรู้สึกว่าการมีกันอยู่มันดีขนาดไหน ลืมว่ากอดของเธอมันอุ่นขนาดไหน
และอีกฝ่ายก็เริ่มเฉยชาจนเราไม่รู้ว่ายังรักเราเหมือนเดิมไหม หรือเธอคุยกับเราแค่แก้เหงา

เราเลยขอเขาว่า เจอกันครั้งสุดท้ายได้ไหม ถ้าความรู้สึกเราไม่เหมือนเดิม
เราก็ไม่ต้องเจอกันอีกก็ได้ ฉันแค่อยากรู้ว่าเรายังรักกันอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า

หลังจากนั้นพฤศจิกายน 2020 ประเทศไทยเปิดให้อเมริกันเข้าได้แต่ต้องยื่นเอกสารขอเข้าประเทศ
แฟนเราซึ่งใช้เงินหมดไปแล้ว เพราะเสียใจกับตั๋วที่ยกเลิกและไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกเร็ว ๆ นี้เลยใช้เงินหมดไปกับการซื้อของเข้าบ้าน

หลังจากนั้นเราก็โน้มน้าวให้แฟนมาหาและก็โน้มน้าวสำเร็จ
เราช่วยกันเตรียมเอกสาร จนแฟนได้เอกสารเข้าประเทศเรียบร้อยพร้อมเดินทาง

เหมือนชะตาเล่นตลก แฟนเราซึ่งทำงานจนวันสุดท้ายก่อนบินออกจากเมกา เลยตรวจโควิดแบบ Rapid ที่ได้ผลไว 
แต่เป็นการตรวจโควิดแบบผิดประเภทเพราะต้องใช้ RT PCR ทำให้ไม่สามารถบินออกจากเมกาได้
เลยต้องกลับไปตั้งหลักที่บ้านใหม่เพราะต้องขอเอกสารใหม่หมดเลย

แฟนเราเลยเปลี่ยนตั๋วให้บินออกเมกาใหม่วันที่ 2 มกราคม 2021 จากกำหนดเดิมคือ 26 ธันวาคม 2020
ซึ่งโชคร้าย ตั๋วใหม่ที่จองนั้นโดนยกเลิก เพราะไต้หวันปิดไม่ให้ Transit หลังจากวันที่ 1 มกราคม 2021 เวลา 00:00 เป็นต้นไป
วันที่ 30 ธันวาคม 2020 ตอน 9.00 LA time เป็นตอนที่แฟนเราทราบข่าวเรื่องไฟท์ยกเลิก
แฟนเราเลยเลื่อนตั๋วเข้าเป็นบินวันที่ 30 ธันวาคม 2020 บินออกตอน 17.30 เที่ยวบินสุดท้ายที่ transit ที่ไต้หวันได้
วันนั้น 30 ธันวาคมที่เมกา คือ 31 ธันวาคมที่ไทย หลังจากที่แฟนเปลี่ยนตั๋ว เรานั่งติดต่อหนังสือเข้าประเทศ COE ให้แฟน กับสถานทูตไทยที่ LA
จนได้ COE มา 40 นาทีก่อนกงศุลปิดทำการ(ปีใหม่) และเป็น 3 ชมก่อนเครื่องออก เราร้องไห้หนักมาก เพราะเราดีใจมากๆ เราอยากเจอเขา เรารู้ว่าการเจอกันครั้งนี้สำคัญกับเราทั้งคู่มาก ๆ 

ถ้าเราไม่อดทน (อดนอน) ติดต่อ COE แบบกระทันหัน เราต้องเจอเขาอีกทีคือธันวา 2021 ซึ่งเราไม่รู้ว่า เรากับเขาจะรอดไหม
เพราะขนาด 15 เดือนความรู้สึกที่มีให้กันก็เริ่มสั่นคลอนแล้ว อีก 10 เดือนถัดไป เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

จนในที่สุดแฟนเราเข้าไทยได้สำเร็จและกักตัว 15 วันเสร็จ
เราไม่ได้เจอแฟนมา 15 เดือนเต็ม ความรู้สึกที่เจอกันวันแรกคือกลัวมาก ไม่กล้าแม้แต่จะจับมือ
พูดคุยก็ลิ้นรัว ได้แต่นั่งเงียบ 1 วันเต็ม ๆ หลังจากนั้นใช้เวลาด้ายกัน ก็สนิทกันเหมือนเดิมที่เจอกันตอนปี 2019 เลยค่ะ

วันสุดท้ายที่ไปส่งที่สนามบิน เราร้องไห้ไม่หยุด แต่เราก็รู้ว่ายังไงสถานการณ์นี้ก็ต้องเกิด
เราต้องกลับไปเรียน (เรายังเรียนไม่จบค่ะ) แฟนเราก็ต้องกลับไปทำงาน
ไม่ได้เจอกัน 15 เดือน เขาต้องกักตัว 15 อยู่ด้วยกันจริงๆแค่ 12 วัน

แม้ระยะเวลาจะสั้นมาก แต่ก็คุ้มค่า ต่อให้เวลาจะผ่านไป 15 เดือน เราก็ยังรักกันเหมือนตอนที่เริ่มคบใหม่ ๆ 
ตอนที่ได้กอดกันครั้งแรกเป็นอะไรที่อบอุ่นมาก คุ้มค่าที่รอคอยมากจริง ๆ ค่ะ

เราเชื่อว่าทุกความสัมพันธ์ย่อมมีอุปสรรคเสมอ ทั้งใหญ่และเล็ก
โควิดก็เป็นอุปสรรคเหมือนกัน เพราะเป็นการรออย่างไร้จุดหมาย
เราไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกทีตอนไหน ไม่รู้ว่าจะยังมีเราอยู่ไหมพอถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะได้เจอกัน
แต่อย่าลืมว่ามันเป็นแค่การรอเวลาเอง ยังไม่ได้มีเรื่องครอบครัว เรื่องอื่น ๆ มาเกี่ยวข้อง ยิ่งคบกันนานยิ่งเจอปัญหา
เพราะอย่างงั้น ต่างฝ่ายควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก่อน เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมให้เราได้เจอกัน
ถ้าเราทำความเข้า ณ จุดนั้นทั้งสองฝ่าย พอก้าวผ่านมาได้แล้วได้เจอกันจริง ๆ 
เป็นอะไรที่มีความสุขมากเลยค่ะ เพราะเราได้ผ่านอุปสรรค คือ การรอ มาแล้ว
เป็นบทเรียนที่สำคัญให้กับชีวิตคู่เลยค่ะ

พยายามพูดคุย ปรับความเข้าใจ และมีความหวังค่ะ หวังว่าเราจะต้องได้เจอกัน

the right person is the person who wait for the right time

we meant to be met for some reasons even we are so far away but our hearts can reach to each other

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่ตื่นมายังมีกันและกันในทุก ๆ วันค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่