1.มีนักวิชาการทางศาสนาอิสลามหลายท่านที่พยายามที่จะอ้างว่า คัมภีร์อัลกุรอานสอนตรงกับ หลักการทางวิทยาศาสตร์
เพือที่จะสร้างความหนักแน่นในความศรัทธาต่อมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลาม และเป็นที่จูงใจหรือดึงดูดผู้ต่างศาสนาให้
มาสนใจและมีความศรัทธาในศาสนาอิสลาม ในปัจจุบันมีนักวิชาการทางศาสนาอิสลามพยายามที่จะพิสูจน์ว่า พระเจ้ามี
จริง โดยการตั้งสมติฐานง่ายๆว่า ถ้าพระเจ้ามีจริง คำสอนใอัลกุรอานจะต้องพิสูจน์ได้ด้วยทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์ หรือมี
ความถูกต้องของคำพยากรณ์ที่บัญญัติไว้ในอัลกุรอานเมื่อ 1400 กว่าปีที่ผานมา
2.ถ้าหากว่าในปัจจุบัน มุสลิมสามารถอ้างอิงบัญญัติต่างๆในอัลกุรอาน ที่มีข้อมูลหรือการพยากรณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับปรากฏ
การณ์ทางธรรมชาติได้อย่างถูกต้องนั้นก็แสดงว่า
"พระเจ้ามีจริง"อะไรจะเกิดขึ้นในภายหลังถ้าพบในภายหลังว่า ทฤษฏี
ทางวิทยาศาสตร์มีการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ถูกต้อง และมีทฤษฏีใหม่มาลบล้าง ซึ่งหมายความว่าอัลกุรอานไม่เป็นไปตาม
หลักการทางวิทยาศาสตร์ นั้นก็คือแสดงให้เห็นว่า
"พระเจ้าไม่มีอยู่จริง" เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วมุสลิมจะทำอย่างไร หลักความ
ศรัทธาของศาสนาอิสลามจะลบล้างไป กระนั้นหรือ?
ดังนั้นในการอ้าง วิทยาศาสตร์ หรือ ปรากฏการทางธรรมชาติ ยืนยันการพยากรณ์ของพระเจ้า มุสลิมจะต้องมีความรู้ทางวิท
ยาศาสตร์อย่างมั่นคง และเข้าใจอัลกุรอานอย่างถูกต้อง เพื่อดำรงไว้ด้วยความศรัทธาต่อบัญญัติของพระเจ้า มีหนังสือเกี่ยว
กับความมหัศจรรย์ของอัลกุรอานเขียนไว้เป็นจำนวนมากโดยมุสลิม ซึ่งเป็นสิ่งที่มุสลิมจะต้องมีความสามารถที่จะอธิบายได้
ในอนาคต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3.ถ้าหากมุสลิมไม่อาจจะตอบได้ก็แสดงว่า การโยงวิทยาศาสตร์เข้ากับคำสอนของศาสนานั้นเป็นอันตราย ต่อความศรัทธา
ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆก็ตาม ทั้งนี้เพราะว่า คำสอนของศาสนาที่มีบัญญัติไว้ในคัมภีร์ของแต่ละศาสนานั้น เป็นหลักการที่
กำหนดมารตฐานและคุณค่าทางคุณธรรมและจริยาธรรมสำหรับมนุษย์ เป็นเรื่องทางจิตวิญญาณ เราจะต้องมีคามศรัทธา
ต่อศาสดาของศาสนานั้นๆก่อน แล้วเราจึงจะเข้าใจและเชื่อฟังคำสอน และถ้าคำสอนเป็นบัญญัติของพระเจ้า ผู้ที่มีศรัทธา
ต่อพระเจ้าก็จะปฏิบัติตามคำสอน ด้วยควมรักหรือความเกรงกลัวต่อพระเจ้า เนื่องจากความเชื่อทางจิตวิญญาณ จะต้องไม่
มาจากหลักวิทยาศาสตร์ แต่จะต้องมาจากหลักความศรัทธา
4.เราจะทราบได้อย่างไรว่าคำสอนใดได้ผล และเมื่อปฏิบัติแล้ว ได้ผลสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ปฏิบัติ เราจะ
ทราบได้จากการใช้ชีวิตประจำวันของผู้นับถือศาสนานั้นๆ และความเจริญสมบูรณ์ของสังคมในด้านคุณธรรมและจริยาธรรม
ของส่วนมากของผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆ เช่น อบายมุขต่างๆในสังคมนั้นๆ มีมากน้อยเท่าใด มีผู้รักษาวินัยในการถือศีลมากน้อย
เท่าใด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่าง สิ่งที่มุสลิมควรใช้อธิบายและมีเหตุผลในการ บัญญัติห้ามและเงื่อนไข ที่มีอยู่ในอัลกุรอาน ที่เป็นความจริงอยู่เสมอ และมีอยู่หลายบัญญัติในอัลกุรอาน โดยไม่จำเป็นจะต้องนำมาโต้เถียงกัน เพราะเป็นสิ่งที่เห็นจริงแล้ว
[Shakir 5:3] Forbidden to you is that which dies of itself, and blood, and flesh of swine, and that on which any other name than that of Allah has been invoked, and the strangled (animal) and that beaten to death, and that killed by a fall and that killed by being smitten with the horn, and that which wild beasts have eaten, except what you slaughter, and what is sacrificed on stones set up (for idols) and that you divide by the arrows; that is a transgression. This day have those who disbelieve despaired of your religion, so fear them not, and fear Me. This day have I perfected for you your religion and completed My favor on you and chosen for you Islam as a religion; but whoever is compelled by hunger, not inclining willfully to sin, then surely Allah is Forgiving, Merciful.
คำสังและเงื่อนไขในอัลกุรอาน. หลักการและการค้นพบทางวิทยาศาสตร์. การปฏิบัติ
ห้ามบริโภคสิ่งสกปรกโสมม เนื้อสุกร พยาธิ์, Bact. anthrax,poison และ โรคฯลฯ เชื่อฟัง ไม่ฝ่าฝืน
เลือดสัตว์ สัตว์ที่ตายเอง และอื่นๆ. มุสลิมปลอดภัยจากโรคเหล่านี้
เว้นแต่(กินได้) เมื่อมีความจำเป็น (5:3)
สมควรหรือไม่ ที่เราพยายามที่จะพิสูจน์ คำสอนของศาสนาด้วยวิทยาศาสตร์
เพือที่จะสร้างความหนักแน่นในความศรัทธาต่อมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลาม และเป็นที่จูงใจหรือดึงดูดผู้ต่างศาสนาให้
มาสนใจและมีความศรัทธาในศาสนาอิสลาม ในปัจจุบันมีนักวิชาการทางศาสนาอิสลามพยายามที่จะพิสูจน์ว่า พระเจ้ามี
จริง โดยการตั้งสมติฐานง่ายๆว่า ถ้าพระเจ้ามีจริง คำสอนใอัลกุรอานจะต้องพิสูจน์ได้ด้วยทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์ หรือมี
ความถูกต้องของคำพยากรณ์ที่บัญญัติไว้ในอัลกุรอานเมื่อ 1400 กว่าปีที่ผานมา
2.ถ้าหากว่าในปัจจุบัน มุสลิมสามารถอ้างอิงบัญญัติต่างๆในอัลกุรอาน ที่มีข้อมูลหรือการพยากรณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับปรากฏ
การณ์ทางธรรมชาติได้อย่างถูกต้องนั้นก็แสดงว่า"พระเจ้ามีจริง"อะไรจะเกิดขึ้นในภายหลังถ้าพบในภายหลังว่า ทฤษฏี
ทางวิทยาศาสตร์มีการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ถูกต้อง และมีทฤษฏีใหม่มาลบล้าง ซึ่งหมายความว่าอัลกุรอานไม่เป็นไปตาม
หลักการทางวิทยาศาสตร์ นั้นก็คือแสดงให้เห็นว่า "พระเจ้าไม่มีอยู่จริง" เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วมุสลิมจะทำอย่างไร หลักความ
ศรัทธาของศาสนาอิสลามจะลบล้างไป กระนั้นหรือ?
ดังนั้นในการอ้าง วิทยาศาสตร์ หรือ ปรากฏการทางธรรมชาติ ยืนยันการพยากรณ์ของพระเจ้า มุสลิมจะต้องมีความรู้ทางวิท
ยาศาสตร์อย่างมั่นคง และเข้าใจอัลกุรอานอย่างถูกต้อง เพื่อดำรงไว้ด้วยความศรัทธาต่อบัญญัติของพระเจ้า มีหนังสือเกี่ยว
กับความมหัศจรรย์ของอัลกุรอานเขียนไว้เป็นจำนวนมากโดยมุสลิม ซึ่งเป็นสิ่งที่มุสลิมจะต้องมีความสามารถที่จะอธิบายได้
ในอนาคต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3.ถ้าหากมุสลิมไม่อาจจะตอบได้ก็แสดงว่า การโยงวิทยาศาสตร์เข้ากับคำสอนของศาสนานั้นเป็นอันตราย ต่อความศรัทธา
ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆก็ตาม ทั้งนี้เพราะว่า คำสอนของศาสนาที่มีบัญญัติไว้ในคัมภีร์ของแต่ละศาสนานั้น เป็นหลักการที่
กำหนดมารตฐานและคุณค่าทางคุณธรรมและจริยาธรรมสำหรับมนุษย์ เป็นเรื่องทางจิตวิญญาณ เราจะต้องมีคามศรัทธา
ต่อศาสดาของศาสนานั้นๆก่อน แล้วเราจึงจะเข้าใจและเชื่อฟังคำสอน และถ้าคำสอนเป็นบัญญัติของพระเจ้า ผู้ที่มีศรัทธา
ต่อพระเจ้าก็จะปฏิบัติตามคำสอน ด้วยควมรักหรือความเกรงกลัวต่อพระเจ้า เนื่องจากความเชื่อทางจิตวิญญาณ จะต้องไม่
มาจากหลักวิทยาศาสตร์ แต่จะต้องมาจากหลักความศรัทธา
4.เราจะทราบได้อย่างไรว่าคำสอนใดได้ผล และเมื่อปฏิบัติแล้ว ได้ผลสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ปฏิบัติ เราจะ
ทราบได้จากการใช้ชีวิตประจำวันของผู้นับถือศาสนานั้นๆ และความเจริญสมบูรณ์ของสังคมในด้านคุณธรรมและจริยาธรรม
ของส่วนมากของผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆ เช่น อบายมุขต่างๆในสังคมนั้นๆ มีมากน้อยเท่าใด มีผู้รักษาวินัยในการถือศีลมากน้อย
เท่าใด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้