*เตือนภัย* โดน scammer หลอกให้โอนเงินค่าดำเนินพิธีศุลกากร (customs clearance) แบบมีพิรุธ แต่ไหวตัวทัน

กระทู้สนทนา
เราเข้าใจค่ะว่ามันไม่ใช่เรื่องใหม่ โดนหลอกกันมาแล้วมากมายทุกวัน เราไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองด้วยค่ะ แต่ก็อยากเตือนภัยค่ะ

เราเป็นผู้ใช้งาน Facebook เหมือนคนทั่วๆไปค่ะ มีวันนึงใครก็ไม่รู้ หน้าตาโอปป้ามา add friend เรา เราส่อง Facebook เค้าก่อนว่ามีอะไรที่ดูไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า mutual friend ก็ไม่มีค่ะ ใน profile เขาบอกว่าเขาทำงาน Petroleum Engineering เราก็คิดว่าเป็นไปได้ว่า Facebook algorithm อาจจะทำงานอะไรแปลกๆ อีกแล้ว เพราะล่าสุดเราเพิ่ง add เพื่อนที่มีตัวตนจริงๆ ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม oil & gas ไปค่ะ เราก็เลยตัดสินใจรับ add คุณโอปป้าไป คุณโอปป้าส่ง messenger มาชวนคุยค่ะ เราบอกว่าไม่รู้จักกันมาก่อนนะ เขาบอกว่าชื่อเรามันเด้งขึ้นมาจาก People you may know เราลองคุยดูค่ะ เพราะที่เราส่องใน Facebook post โอปป้า เขาดูเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ดูเขียนอะไรไว้แบบมี mindset ดูดีพอที่เราจะกล้าคุยด้วย เราคุยกันปกติมากใน Messenger คุยเหมือนเพื่อนใหม่คุยกันธรรมดาๆ เลยค่ะ (อันนี้หลงกลไปโดยไม่รู้ตัวค่ะ)

เอ๊ะที่ 1 : ทำไม Facebook เขาไม่มี friend list เลยนะ ถามไป เขาก็ตอบว่าเขาตั้งเป็น private account น่ะ เราเองเคยมีคนรู้จักที่นิสัยไม่น่ารักคนนึงที่ตั้ง private account แบบนี้เช่นกันค่ะ เราเลยทดความแปลกไว้ในใจก่อน ต่อมาคุณโอปป้าขอให้เราย้ายจากคุยใน Messenger ไปคุยใน Whatsapp แทน เราก็ย้ายไปตามที่ขอ เราพยายามจะ video call เพื่อเช็คตัวตนของเขาว่าหน้าที่เห็นกับคนที่มา add friend นี่คนเดียวกันหรือเปล่า แต่โทรกันแล้วมีปัญหารับสายกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไม เราลองหลายทีก็ video call กันไม่ได้สักที

เราบอกคุณโอปป้าว่าเราจะคุยกันอย่างสุจริตและในแบบที่เราเป็นตัวตนของเราเท่านั้นนะ ถ้ามีอะไรที่เรารู้สึกไม่ดีกับเขา เราจะก็เลิกคุยนะ เขาก็โอเคกับข้อตกลงนี้ คุณโอปป้าบอกว่าเขาทำงานอยู่ที่รัฐๆ หนึ่งทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา เราคุยเรื่องอาหารการกิน สภาพอากาศ ปัญหาสิ่งแวดล้อม เรื่องหมา เรื่องแมว ให้กำลังใจกันไปมาทำนองนี้ คุยกันผ่านไป 6 วัน อยู่ๆเขาบอกว่าเขาจะต้องไปสัมภาษณ์เพื่อเข้าทีมงานทำโครงการใหม่ในบริษัท เขาตื่นเต้นมากและอยากขอกำลังใจจากเรา เราก็บอกว่าให้มีสมาธิตอนสัมภาษณ์แล้วกัน เราเชื่อว่าเธอต้องทำได้แหละน่ะ ผ่านไปอีกหลายชั่วโมงเขามาบอกเราว่าได้เข้าร่วมทีมงานทำโครงการใหม่นั้นแล้วและต้องเดินทางไปอีกประเทศนึงในอีก 5 วันข้างหน้า (เดินทางข้ามประเทศในช่วง COVID เนี่ยนะ! ต่อมเอ๊ะเริ่มทำงานอีกแล้ว)  

เอ๊ะที่ 2 : คุณโอปป้าเล่าว่าไปช้อปปิ้งก่อนเดินทางก็เลยซื้อของฝากเราด้วย เพราะอยากจะส่งมาขอบคุณว่าเป็นกำลังใจที่ดีให้เขามาตลอดหลายวัน เราถามว่าของอะไรเหรอ เขาบอกว่าเป็นของขวัญ surprise เราค่ะเราคิดว่าเพิ่งคุยกันได้ไม่กี่วัน ต้องซื้อของให้เราด้วยเหรอ เขาขอที่อยู่จัดส่งพัสดุ เราเลยให้ที่อยู่บริษัทที่เราทำงานอยู่ไปค่ะ เราไม่ต้องการให้ที่อยู่ที่บ้าน มันน่ากลัวเกินไปค่ะ ในอดีตเราเคยมีเพื่อนใหม่น่ารักที่ส่งเครื่องสำอางชิ้นเล็กๆมาให้เราจริงๆมาแล้วค่ะ เลยเฉยๆกับเรื่องนี้ บอกเลยว่ารอบนี้พลาดมาก

เอ๊ะที่ 3 : คุณโอปป้าส่ง tracking number กับเว็บบริษัทขนส่ง (ที่ดูแปลกๆ แล้วท้ายที่สุดเราเรียกว่าขนส่งปลอม) มาให้เรา คือเราเองก็เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงที่ไม่ได้อยู่สายงานขนส่ง เราไม่คุ้นชื่อบริษัทขนส่งนั่นหรอก ก็ google หาข้อมูล ไม่ค่อยเจออะไรค่ะ หรือว่าบริษัทจะเพิ่งตั้ง เราอ่านที่อยู่บริษัทขนส่งปลอมที่แสดงอยู่บน website แล้ว มันดูเหมือนพิมพ์ที่อยู่ผิดๆ เพราะมีระบุว่าบ้านเลขที่เดียวกันแต่อยู่ใน 2 รัฐที่ห่างกันไกล เราเข้าไปหาข้อมูลบริษัทในเว็บสำนักงานทะเบียนบริษัทของรัฐทั้งสองรัฐนั้นก็หาชื่อบริษัทนั้นไม่เจออีก พยายามเชื่อมั่นว่าทุกคนทำด้วยใจสุจริตเพื่อที่จะดูเกมต่อว่าเป็นอย่างไร

เอ๊ะที่ 4 : เราเอา tracking number เข้าไปเช็คสถานะการส่งในเว็บขนส่งปลอม พบว่ามีพัสดุ 2 กล่อง น้ำหนักพัสดุรวมทั้งหมด 17.5 ปอนด์ เราว่ามันเยอะไปสำหรับของขวัญที่จะส่งให้คนที่เพิ่งรู้จักกันค่ะ เลยถามคุณโอปป้าว่าทำไมส่งอะไรมาเยอะแยะ เขาบอกว่าก็อยากซื้อให้น่ะ เรานี่คิดแค่ว่าเราจะต้องจ่ายภาษีศุลกากรขาเข้าอีกหรือเปล่า แล้วจ่ายเท่าไหร่

เอ๊ะที่ 5 : คุณโอปป้าบอกว่าที่จะต้องเดินทางไปอีกประเทศนึงน่ะ ตารางเดินทางมันเลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้น เขามีเวลาเหลือแค่วันเดียวในการจัดกระเป๋าแล้ว เราก็คิดว่ามันแปลกๆอยู่นะ 

เอ๊ะที่ 6 : โอปป้าบอกว่าเวลาที่เรารับของน่ะ ให้ทำตามที่บริษัทขนส่งบอกนะ อาจจะต้องจ่าย customs clearance fee ด้วย และเขาคิดว่าเราคงจะชอบของขวัญที่ส่งให้นะ เราบอกว่าเราอยากรู้ว่าส่งอะไรมา ทำไมไม่บอกซะที เขาบอกว่าบอกแล้วมันจะ surprise ได้ยังไง เราบอกว่าเราอยากรู้เพราะจะได้คำนวณภาษีนำเข้าไว้ล่วงหน้าเลย เขาบอกว่าทุกอย่างอยู่ใน tracking ในเว็บบริษัทขนส่งแล้วนะ แต่เราไม่เห็นจะมีรายละเอียด tracking เท่าไหร่เลย โอปป้าย้ำอีกทีว่าถ้าได้รับพัสดุแล้วให้แจ้งด้วย

เอ๊ะที่ 7 : เรามีเพื่อนทำงานบริษัท logistic หลายคน เราเลยโทรไปปรึกษา เพื่อนบอกว่าให้ระวังว่าจะเป็นการหลอกลวง พอพัสดุเข้าไทยอาจจะมีการอ้างว่าติดด่านศุลกากรและอาจจะมีการหลอกให้โอน customs clearance fee ก่อน เพราะมีคนโดนหลอกให้โอนเงินทั้งๆ ที่ไม่มีพัสดุส่งมาจริงๆ เจอแบบนี้แล้วหลายราย บางคนโดนหลอกให้โอนเงินถึงสองหมื่นบาทแล้วไม่ได้พัสดุอะไรด้วย

เอ๊ะที่ 8 : เราพยายามถามโอปป้าว่าที่ส่งมามันคืออะไร เพื่อนเราที่เป็น shipping agent จะได้ช่วยดูพิกัดอัตราภาษีศุลกากรให้ โอปป้าถามว่าทำไมต้องบอกเพื่อนด้วย ทำไมต้องให้คนอื่นรู้ด้วย นี่มันเป็นความลับระหว่างเขากับเรานะ เขาส่งแบบ door-to-door นะ แค่เราทำตามที่บริษัทขนส่งแจ้งไว้ เราก็จะได้รับของเลย แต่อันนี้เราไม่โอเคค่ะ เราบอกว่าถ้าเรามีอะไรที่ไม่แน่ใจเราก็ต้องตรวจสอบและถามกับคนที่ทำงานในแวดวงนั้นๆ เราโปร่งใสและเราขอให้โอปป้าโปร่งใสกับเราด้วย

เอ๊ะที่ 9 : เวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมงคนที่อ้างว่ามาจากบริษัทขนส่งปลอมนั้นใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทย ส่ง Whatsapp เข้ามาที่โทรศัพท์เราแจ้งว่าพัสดุมาถึงแล้ว และขอให้เราโอนค่า clearance กับ overweight cost รวมทั้งหมด 60,000 บาท ไปให้ด้วยเพื่อจะได้ส่งพัสดุมาให้เราได้ อ่านไม่ผิดค่ะ “หกหมื่นบาท” ซึ่งเราก็งงว่า overweight cost มันมาได้ยังไง แล้วของที่ส่งมาเป็นอะไรก็ยังไม่รู้ เราแจ้งให้เพื่อนที่อยู่บริษัท logistic ลองโทรที่เบอร์ตาม Whatsapp ก่อน ให้โทรไปถามในฐานะที่เป็น shipping agent ของเราว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อนเราบอกว่ามันเข้าบริการรับฝากข้อความค่ะ เรากับเพื่อนเลยตกลงกันว่า งั้นทำตามที่ขนส่งปลอมบอกดูก่อนมั้ย เล่นไปตามเกมเพื่อจับพิรุธกัน แต่ให้มีสติตลอดเวลานะ

เอ๊ะที่ 10 : เราถามขนส่งปลอมใน Whatsapp ไปว่าให้เราทำอะไรบ้างถึงจะเอาพัสดุออกมาได้ ตอนนี้พัสดุอยู่ที่ด่านศุลกากรด่านไหน คลังไหน ขอชื่อผู้ประสานงานคนไทยและขอเบอร์มือถือติดต่อ ขอ invoice กับ packing list ทาง email หน่อย ขนส่งปลอมบอกว่าเขามีหน้าที่ส่งเฉยๆ นะ แค่คนรับทำตามก็พอ แล้วนี่เขาเป็นบริษัทอเมริกันนะ ทำนองว่าอย่ามาจู้จี้กับขนส่งได้ไหม เราบอกว่าเราต้องการให้ shipping agent เราตรวจสอบทุกอย่าง

เอ๊ะที่ 11 : ขนส่งปลอมบอกว่าไม่สามารถให้รายละเอียดต่างๆที่เราขอในเอ๊ะที่ 10 ได้ เราว่ามันไม่ใช่แล้วหละ ถ้าไม่มีรายละเอียดพวกนั้นจะคำนวณค่าภาษีศุลกากรและค่าดำเนินพิธีศุลกากรเพื่อออกของได้อย่างไร 

เอ๊ะที่ 12 : ขนส่งปลอมบอกว่าให้เราโอนเงินเดี๋ยวนี้ เราถามขนส่งปลอมว่าให้โอนไปไหนล่ะ เรายังไม่ได้เลขบัญชีเลย ขนส่งปลอมก็ให้เลขบัญชีพร้อมชื่อบัญชีคนไทยมาคนนึงค่ะ เราเอาชื่อบัญชีคนไทยคนนี้ไปหาใน google เลยพบว่าเจ้าของบัญชีนี่เป็น blacklist seller เราเลยดีดนิ้วดังเป๊าะ! จับโป๊ะได้อีกแล้ว ชื่อคนไทยคนนี้ถูกขึ้นชื่อว่าโกงผู้ซื้อไปหลายรายค่ะ ถึงขั้นมีกลุ่มใน Facebook ตามล่าหาคนนี้กัน แต่เรายังเข้ากลุ่มนั้นไม่ได้เลย เขายังไม่รับเราเข้ากลุ่มค่ะ 

เอ๊ะที่ 13 : เราต่อรองขนส่งปลอมค่ะว่าเรายังไม่มีเงินหรอกนะ รอให้เงินเดือนออกก่อนแล้วค่อยจ่ายได้ไหม แต่ยังไงก็ขอ invoice กับ packing list ด้วยนะ ขนส่งปลอมบอกว่าอย่ารอเลย มันจะมีค่าฝากของในคลังสินค้างอกมาอีกทุกวันเลยนะ เราถามไปอีกว่าแล้วของที่ส่งมาคืออะไร ขนส่งปลอมบ่นว่าเราไม่น่ารักเลยเพราะขอรายละเอียดของสินค้าที่ส่งมาแต่ไม่ยอมรับพัสดุ (บ่นลูกค้าแบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย) แล้วก็บอกว่าให้เราโอนเงินให้ขนส่งเถอะ จะได้ส่งพัสดุแล้วจะได้จบ เรายืนยันไปอีกรอบค่ะว่าจะขอดู invoice กับ packing list ก่อน แล้วจะให้ shipping agent ไปรับพัสดุแทนด้วย

เอ๊ะที่ 14 : เราส่งข้อความไปอ้อนโอปป้าว่า clearance cost แพงจัง ตั้งหกหมื่นบาทแน่ะ โอปป้าโอนเงินให้ขนส่งหน่อยได้ไหมคะถ้าอยากให้ของขวัญเราจริงๆน่ะ แล้วบอกโอปป้าว่าให้ส่งหลักฐานการโอนมาให้เราด้วยนะ เราจะได้เอาไปแจ้งขนส่งได้ โอปป้าหงุดหงิดค่ะ เริ่มโวยวาย เราปล่อยค่ะ อยากโวยวายอะไรก็เชิญ เราไม่ยุ่งด้วยแล้ว

เอ๊ะที่ 15 : ขนส่งปลอมบอกว่าไม่ได้ว่างมาตอบอะไรกับผู้รับปลายทางที่ไม่พร้อมรับพัสดุหรอกนะ ถ้าเราไม่รับพัสดุก็จะโดนเจ้าหน้าที่ยึดนะ (เราคิดในใจว่าก็ยึดไปสิ เราไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินซื้อนะ) เราถามขนส่งปลอมว่าทำไมถึงไม่สามารถส่ง invoice กับ packing list ให้เราดูได้ล่ะ ขนส่งปลอมบอกว่าเขาอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถส่งเอกสารพวกนี้ให้เราได้ (โอ๊ย เราว่าตลกมากค่ะ)  

เอ๊ะที่ 16 : เราเสนอไปว่าจะให้ shipping agent คุยกับขนส่งปลอมแทนเรา ทางขนส่งปลอมบอกว่าไม่คุยกับคนอื่น จะคุยกับเราคนเดียวเท่านั้น (ขำค่ะ)

เอ๊ะที่ 17 : เราบอกว่างั้นส่งพัสดุคืนต้นทางหรือไม่ก็ปล่อยของให้กรมศุลกากรยึดไปเถอะ ขนส่งปลอมตอบมาว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว นิสัยไม่ดี ไม่เห็นใจต้นทางที่เขาส่งมาเลยว่าเขาอยากจะส่งพัสดุให้เราจริงๆ และยังบ่นอีกว่าเราคิดได้ยังไงว่าจะให้ต้นทางเขาจ่ายเงินทุกอย่างให้น่ะ (อ้าวส่งแบบ DDP term ก็ได้นี่นา หรือถ้าอยากส่งเป็นของขวัญให้เราจริงๆ มันก็ควรจะทำทุกอย่างให้มันดูเป็นของขวัญสิ ไม่ใช่มาให้เราจ่ายเงินอะไรที่เราไม่ได้อยากจ่ายแบบนี้)

เอ๊ะที่ 18 : ขนส่งปลอมบอกว่าถ้าส่งพัสดุคืนต้นทางมันก็มีค่าส่งอีกนะ เราบอกว่างั้นก็ทิ้งไว้ที่ด่านศุลกากรแล้วกันนะ เราไม่สนใจแล้ว
 
ผ่านไปอีกสองวันโอปป้าตามมาถามว่าหายตัวไปไหน ทำไมไม่ติดต่อกลับมา แต่เราไม่อยากคุยด้วยแล้วค่ะ block ไปแล้ว ส่วนขนส่งปลอมนั่นก็เงียบไปเลย เราลบ Whatsapp ทิ้งไปเลย ตอนนี้เรารอดตัวไป ไม่ได้เสียเงินอะไร แค่เสียเวลา เราพยายามเก็บหลักฐานที่มีให้เยอะที่สุดค่ะ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต 

เราเอาที่อยู่ปลอมๆ บน website ของขนส่งปลอมไป google ค่ะ เจอว่ามีขนส่งปลอมอีกที่นึงใช้ที่อยู่เดียวกันเลย พิมพ์มาผิดๆ เหมือนกันเลย แต่เบอร์โทรศัพท์คนละเบอร์กันค่ะ เรายังไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายนะคะก็เลยไม่รู้จะแจ้งความว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายได้อย่างไร 

เรารู้ค่ะว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ โดนหลอกกันวันนึงเป็นร้อยๆราย แต่อยากเตือนอีกที มีข้อมูลในเพจ Thai Anti Scam เตือนลักษณะต่างๆที่คนอาจจะโดนหลอกลวงได้นะคะ ลองศึกษากันดูค่ะ

เราอยากเตือนเพื่อนๆคนอื่นค่ะว่า ไม่ว่าจะเป็นคนรู้จักหรือไม่ก็ตามให้เช็คเอกสารการขนส่งดีๆ ถามหา invoice (เอามาดูพิกัดอัตราภาษีกับดูราคาสินค้าที่จะต้องคำนวณภาษี) กับ packing list (ดูว่าได้รับอะไรมาเท่าไหร่ มาในรูปแบบไหน) ระวังตัวกันให้มากที่สุดนะคะ ถ้าไม่แน่ใจอะไรให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ คนใจดีและพร้อมแนะนำในทางที่ถูกยังมีอยู่เยอะค่ะ เราไม่อยากให้โดนหลอกเป็นเหยื่อกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่