คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) แถลงผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๓


เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์  ๒๕๖๔ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล  ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔  นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และรองประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้แถลงผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ จำนวน ๑๒ คน ประกอบด้วย 

๑.สาขาทัศนศิลป์ จำนวน ๔ คน ได้แก่
๑.๑ ศาสตราจารย์กิตติคุณกำจร  สุนพงษ์ศรี (จิตรกรรม)
๑.๒ นายอำมฤทธิ์  ชูสุวรรณ (จิตรกรรม-สื่อผสม)
๑.๓ นายประภากร  วทานยกุล (สถาปัตยกรรมร่วมสมัย)
๑.๔ นายสำเริง  แดงแนวน้อย (ประณีตศิลป์-แกะสลักไม้)
           
๒.สาขาวรรณศิลป์ จำนวน ๒ คน ได้แก่
๒.๑ นายอเนก  นาวิกมูล
๒.๒ นางสาวอรสม  สุทธิสาคร
           
๓.สาขาศิลปะการแสดง จำนวน ๖ คน ได้แก่
๓.๑ นายประทีป  สุขโสภา (เพลงพื้นบ้าน)
๓.๒ นายประเมษฐ์  บุณยะชัย (นาฏศิลป์ - โขน)
๓.๓ นายปี๊บ  คงลายทอง (ดนตรีไทย)
๓.๔ นางสุดา  ชื่นบาน (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง)         
๓.๕ นางรุ่งฤดี  เพ็งเจริญ (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง)
๓.๖ นายปง  อัศวินิกุล (ผู้กำกับระบบเสียง – สร้างสรรค์ และบันทึกเสียงภาพยนตร์)  


รองประธานกวช.กล่าวต่อว่า ผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ จะได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเข็มและโล่เชิดชูเกียรติ และรับค่าตอบแทน เดือนละ ๒๕,๐๐๐ บาท(สองหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโดยอนุโลม เว้นแต่มีสิทธิเบิกจากหน่วยงานอื่น ให้เบิกจากหน่วยงานนั้นก่อน ถ้าเบิกจากหน่วยงานนั้นได้ต่ำกว่าสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ให้มีสิทธิเบิกในส่วนที่ยังขาดอยู่ได้อีกภายในวงเงินไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ต่อปีงบประมาณ  ค่าช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัย ครั้งละไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท ต่อครั้ง ค่าของเยี่ยมในยามเจ็บป่วยหรือในโอกาสสำคัญเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน ๓,๐๐๐ บาท ต่อครั้ง และกรณีเสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศลศพ รายละ ๒๐,๐๐๐ บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท  เป็นต้น   
                             
ในการนี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รองประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เปิดเผยถึงเกณฑ์การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ประกอบด้วย ๓ หลักเกณฑ์ใหญ่ ดังนี้

เกณฑ์ที่ ๑. คุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ  มี ๖ ประการ  ได้แก่ เป็นผู้มีสัญชาติไทยและยังมีชีวิตอยู่ในวันประกาศยกย่อง / เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะในสาขานั้น / เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่อง / เป็นผู้ผดุง ถ่ายทอด เผยแพร่ หรือเป็นต้นแบบศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่อง / เป็นผู้มีคุณธรรม ทุ่มเท และเสียสละเพื่องานศิลปะ / และเป็นผู้มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ
 
เกณฑ์ที่ ๒. คุณค่ามาตรฐานผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ  ผลงานต้องสื่อให้เห็นถึงคุณค่าในความดี ความจริง ความงาม อารมณ์ และคุณค่าทางจิตวิญญาณ แสดงออกถึงแนวคิด สร้างพลังความรู้และพัฒนาสติปัญญาแก่มนุษยชาติ ก่อให้เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์ และส่งเสริมจินตนาการ และเป็นผลงานสร้างสรรค์มีเอกลักษณ์ มีทักษะสูงส่ง มีกลวิธีเชิงสร้างสรรค์ ไม่แสดงเจตนาหรือจงใจคัดลอกหรือเลียนแบบผลงานของผู้อื่นทั้งเปิดเผยและแอบแฝง

เกณฑ์ที่ ๓. การเผยแพร่และการยอมรับคุณค่าผลงานของศิลปินแห่งชาติ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิลปินแห่งชาติ จะต้องมีการเผยแพร่ผลงานและได้รับการยอมรับ คุณค่าในผลงาน ดังนี้ เป็นผลงานที่ได้รับการจัดแสดง ถ่ายทอดหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง มีหลักฐาน อ้างอิง โดยเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิด พัฒนาการทางงานศิลปะอย่างเด่นชัด และเป็นผลงานได้รับรางวัล หรือเกียรติคุณระดับภูมิภาค ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ซึ่งมีกระบวนการพิจารณาที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ  

ซึ่งการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ นี้ จะทำการคัดเลือกใน ๓ สาขา ได้แก่

๑. สาขาทัศนศิลป์ หมายถึง ศิลปะที่มองเห็นได้ด้วยตา แบ่งเป็น วิจิตรศิลป์ และประยุกต์ศิลป์  วิจิตรศิลป์ ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และภาพถ่าย ส่วนประยุกต์ศิลป์ ได้แก่ สถาปัตยกรรมแบบประเพณีและร่วมสมัย  มัณฑนศิลป์  การออกแบบผังเมือง  การออกแบบอุตสาหกรรม และประณีตศิลป์ เป็นต้น

๒. สาขาวรรณศิลป์ หมายถึง บทประพันธ์ที่แต่งอย่างมีศิลปะทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ ความรู้สึกสะเทือนใจ ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการและกลวิธีเสนอเรื่องที่น่าสนใจ

๓. สาขาศิลปะการแสดง หมายถึง ศิลปะที่มีการแสดง ที่เป็นได้ทั้งวิจิตรศิลป์ ประยุกต์ศิลป์ รวมทั้งศิลปะพื้นบ้าน โดยแบ่งเป็น ๓ ประเภท  ได้แก่  ๑.ดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทยและศิลปะการแสดงพื้นบ้าน  ๒.ดนตรีสากลและนาฏศิลป์สากล  ๓.ภาพยนตร์และละคร
          
นับตั้งแต่เริ่มโครงการศิลปินแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ มีศิลปินแห่งชาติ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๘ - ๒๕๖๒ แล้วจำนวน ๓๑๙ คน และในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๑๒ คน รวมทั้งสิ้น ๓๓๑ คน  ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ๑๕๔ คน โดยยังมีชีวิตอยู่ ๑๖๕ คน   
          
อนึ่ง กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสนำศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ทั้ง ๑๒ คน เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเข็มและโล่เชิดชูเกียรติ ในวัน เวลา ตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะได้จัดงานเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ อันประกอบด้วย งานเลี้ยงแสดงความยินดี งานนิทรรศการและสื่อเผยแพร่ชีวประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ ผ่านสื่อต่างๆ ต่อไป
          
สำหรับเยาวชนและประชาชนผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติเพิ่มเติมได้ที่ www.culture.go.th/ หรือ www.facebook.com/DCP.culture และ line@วัฒนธรรม 

คลิปวีดีโอแถลงผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2563 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




พาพันไฟท์ติ้งพาพันเคลิ้มพาพันรดน้ำต้นไม้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่