7 วิธี ที่จะให้กำลังใจตัวเอง ในวันที่ท้อ .
.
“ทุกคนมีโอกาสล้มได้ และลุกขึ้นมาได้เช่นกัน”
เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนมีโอกาสล้มได้เหมือนกัน ไม่ว่าคนนั้นจะมีความสามารถมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะรวยมาจากไหน หรือจะจนแค่ไหน ก็มีโอกาสล้มได้เสมอ บางคนล้มลงเพราะว่าถูกผลัก บางคนก็ล้มเองเพราะความประมาท หรือไม่ระมัดระวังในเส้นทางที่ตัวเองเดินอยู่ แต่รู้หรือไม่ว่าการล้มเหลวหรือการล้มลงไม่ใช่จุดจบของชีวิต
ในยามที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง ท้อแท้ และต้องการกำลังใจจากใครสักคน แต่เหลียวแลไปทางไหน ก็มีแต่ความว้าเหว่ แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปตามวันเวลาที่หมุนผ่าน จนไม่อาจรอกำลังใจจากใครอื่นได้ ฉะนั้นจะดีกว่าไหม ถ้าหากเรารู้จักสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันและเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ถ้าคุณกำลังล้มเหลว แล้วจะทำอย่างไรจึงจะลุกให้เร็ว และนี้คือ 7 วิธีที่จะให้ลุกขึ้นสู้
1.หยุดคิดในด้านลบ
เพราะว่าการที่เราคิดในด้านลบ ดูถูกตัวเองว่าแย่ ตัวเองไม่มีความสามารถอะไรเลย ความคิดเหล่านี้จะไปบั่นทอนความคิดด้านบวกของเรา เพราะฉะนั้นเราต้องหยุดความคิดเหล่านี้ให้หมด เช่นถ้าเรามีปัญหาว่าจะแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ให้ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า ใช่ เราได้ทำไปแล้วนะ เต็มที่แล้วนะ อย่างน้อยก็มีคนสนใจระดับหนึ่ง ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ต้องการก็ตาม ดีกว่านั่งเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรอย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์
2.หยุดเปรียบเทียบ
ก่อนที่จะเริ่มต้นให้กำลังใจตัวเอง คุณจะต้องหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ๆ เพราะการเปรียบเทียบมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ยิ่งเปรียบเทียบกับคนที่มีหลายสิ่งเหนือกว่า ก็จะยิ่งทำให้แย่หนักขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือหันมาดูตัวเอง ว่ามีดีอะไรบ้าง แล้วทำในสิ่งดี ๆ สิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด ซึ่งเมื่อผลลัพธ์ออกมาดี คุณก็จะมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
3.ให้คิดบวก
ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ดี หรือเหตุการณ์ที่เลวร้าย จงเรียนรู้ไว้เป็นบทเรียนเพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ให้กับชีวิตของเรา เราควรขอบคุณกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา และขอบคุณกับทุกคนที่ต้องเผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีบุญคุณกับเรา หรือคนที่โกงเราไปก็ตาม เพราะว่าเขาเป็นครูที่สำคัญ ที่จะสร้างเสริมประสบการณ์ และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งนั่นเอง ให้คิดเสมอว่าบทเรียนและอุปสรรคนี้จะส่งเราไปยังจุดที่ดีกว่า และเราจะต้องไปถึงจุดที่ดีที่สุดเสมอ
4.หมั่นชมตัวเอง
คุณอาจจะมองกระจกและพูดสิ่งที่คุณชื่นชมในตัวเอง หรือเขียนลงในสมุดบันทึก เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะหลายครั้งที่เรามักกล่าวชมเชยผู้อื่นถึงความสำเร็จของเขา แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะชมตัวเองเมื่อประสบความสำเร็จเพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จหรือทำสิ่งดี ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จงพูดให้กำลังใจตัวเอง โดยไม่ต้องรอคำชมจากใคร กำลังใจที่ดีที่สุด คือกำลังใจจากตัวเอง
5.ให้อภัยตัวเอง
เพราะทุกคนมีโอกาสผิดพลาดได้เสมอ เมื่อทำผิดพลาด อย่าซ้ำเติมตัวเอง แต่ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง และถือเป็นบทเรียนที่ดีในการมุ่งมั่นต่อไปให้ถึงจุดหมาย จำไว้ว่า แม้แต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ก็ล้วนผ่านความผิดหวังมาแล้วทั้งสิ้น แต่พวกเขาเรียนรู้จากข้อผิดพลาด แล้วนำมาแก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต คุณเองก็ต้องทำได้เช่นกัน
6.โฟกัสที่วิธีการแก้ปัญหา
โดยปกติถ้าเราโฟกัสไปกับอะไร เราจะเห็นแต่สิ่งนั้น ถ้าเรามองแต่ปัญหา เราก็จะเห็นแต่ปัญหา ไม่เห็นทางออก ฉะนั้นสิ่งสำคัญอย่าไปโฟกัสที่ตัวปัญหา ในบางครั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องของการเงินในชีวิต บางคนก็ไปโฟกัสเรื่องเงิน บางคนก็ไปโฟกัสเรื่องของหนี้ วิตกกังวลว่าเรามีหนี้อยู่ก้อนโตจะทำยังไงดี วิธีการที่ดีที่สุดก็คือว่า จะต้องหาวิธีการหาเงินเพื่อมาชำระหนี้นั้น อย่าไปวิตกกังวลมากกับตัวก้อนหนี้ ให้เน้นที่วิธีการที่จะเพิ่มรายได้ เพื่อมาสะสางปัญหาและก็ฝ่าวิกฤตของเราต่อไป ตามปกติแล้ว ถ้าเรามองอะไรโฟกัสไปที่อะไร เราจะเห็นแต่สิ่งนั้น ถ้าเรามองแต่ปัญหา เราก็จะเห็นแต่ปัญหา ไม่เห็นทางออก ดังนั้นเปลี่ยนโฟกัส
7.ลุกขึ้นให้ไว
ข้อนี้สำคัญมาก หลังจากที่เราอาจจะเผชิญความล้มเหลว แน่นอนว่าจะมีความเศร้า มีความผิดหวัง เกิดขึ้น แต่อย่าให้ความรู้สึกนี้อยู่กับเรานาน เอาความรู้สึกด้านบวกนั้นกลับมาให้ไวที่สุด พยายามนึกถึงเป้าหมายของเราว่า เราอยากทำตามความฝันเดิมไหม เรายังคงเป้าหมายเดิมไหม ถ้าเรายังอยากคงเป้าหมายเดิม เราก็เอาพลังเราเหลืออยู่ทั้งหมดนี้มาปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อมุ่งไปสู่เดิม วิธีการมันเปลี่ยนแปลงได้ และอย่าลืมว่ายังมีวิธีการที่มันใช่รอเราอยู่ เพราะฉะนั้นรีบลุกขึ้นมาแล้วไปหาวิธีการใหม่ให้ได้
ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบของชีวิต แล้วผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคน ล้วนเคยผ่านความล้มเหลวมาทั้งสิ้น แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ เขาไม่ล้มเลิก แน่นอนว่าวันนี้เราอาจจะเจ็บ แต่ว่าถ้าเราไม่ลุกขึ้นจะเป็นการเจ็บถาวร แต่ถ้าลุกให้ไวความเจ็บก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นรีบลุกขึ้นมา อย่ามัวแต่ท้อล่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า วิธีที่กล่าวมาข้างต้น เหมาะที่สุดกับการให้กำลังใจตัวเอง ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าตอนนี้กำลังท้อแท้ หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์
7 วิธี ที่จะให้กำลังใจตัวเอง ในวันที่ท้อ
ในยามที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง ท้อแท้ และต้องการกำลังใจจากใครสักคน แต่เหลียวแลไปทางไหน ก็มีแต่ความว้าเหว่ แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปตามวันเวลาที่หมุนผ่าน จนไม่อาจรอกำลังใจจากใครอื่นได้ ฉะนั้นจะดีกว่าไหม ถ้าหากเรารู้จักสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันและเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ถ้าคุณกำลังล้มเหลว แล้วจะทำอย่างไรจึงจะลุกให้เร็ว และนี้คือ 7 วิธีที่จะให้ลุกขึ้นสู้
1.หยุดคิดในด้านลบ
เพราะว่าการที่เราคิดในด้านลบ ดูถูกตัวเองว่าแย่ ตัวเองไม่มีความสามารถอะไรเลย ความคิดเหล่านี้จะไปบั่นทอนความคิดด้านบวกของเรา เพราะฉะนั้นเราต้องหยุดความคิดเหล่านี้ให้หมด เช่นถ้าเรามีปัญหาว่าจะแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ให้ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า ใช่ เราได้ทำไปแล้วนะ เต็มที่แล้วนะ อย่างน้อยก็มีคนสนใจระดับหนึ่ง ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ต้องการก็ตาม ดีกว่านั่งเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรอย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์
2.หยุดเปรียบเทียบ
ก่อนที่จะเริ่มต้นให้กำลังใจตัวเอง คุณจะต้องหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ๆ เพราะการเปรียบเทียบมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ยิ่งเปรียบเทียบกับคนที่มีหลายสิ่งเหนือกว่า ก็จะยิ่งทำให้แย่หนักขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือหันมาดูตัวเอง ว่ามีดีอะไรบ้าง แล้วทำในสิ่งดี ๆ สิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด ซึ่งเมื่อผลลัพธ์ออกมาดี คุณก็จะมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
3.ให้คิดบวก
ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ดี หรือเหตุการณ์ที่เลวร้าย จงเรียนรู้ไว้เป็นบทเรียนเพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ให้กับชีวิตของเรา เราควรขอบคุณกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา และขอบคุณกับทุกคนที่ต้องเผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีบุญคุณกับเรา หรือคนที่โกงเราไปก็ตาม เพราะว่าเขาเป็นครูที่สำคัญ ที่จะสร้างเสริมประสบการณ์ และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งนั่นเอง ให้คิดเสมอว่าบทเรียนและอุปสรรคนี้จะส่งเราไปยังจุดที่ดีกว่า และเราจะต้องไปถึงจุดที่ดีที่สุดเสมอ
4.หมั่นชมตัวเอง
คุณอาจจะมองกระจกและพูดสิ่งที่คุณชื่นชมในตัวเอง หรือเขียนลงในสมุดบันทึก เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะหลายครั้งที่เรามักกล่าวชมเชยผู้อื่นถึงความสำเร็จของเขา แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะชมตัวเองเมื่อประสบความสำเร็จเพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จหรือทำสิ่งดี ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จงพูดให้กำลังใจตัวเอง โดยไม่ต้องรอคำชมจากใคร กำลังใจที่ดีที่สุด คือกำลังใจจากตัวเอง
5.ให้อภัยตัวเอง
เพราะทุกคนมีโอกาสผิดพลาดได้เสมอ เมื่อทำผิดพลาด อย่าซ้ำเติมตัวเอง แต่ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง และถือเป็นบทเรียนที่ดีในการมุ่งมั่นต่อไปให้ถึงจุดหมาย จำไว้ว่า แม้แต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ก็ล้วนผ่านความผิดหวังมาแล้วทั้งสิ้น แต่พวกเขาเรียนรู้จากข้อผิดพลาด แล้วนำมาแก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต คุณเองก็ต้องทำได้เช่นกัน
6.โฟกัสที่วิธีการแก้ปัญหา
โดยปกติถ้าเราโฟกัสไปกับอะไร เราจะเห็นแต่สิ่งนั้น ถ้าเรามองแต่ปัญหา เราก็จะเห็นแต่ปัญหา ไม่เห็นทางออก ฉะนั้นสิ่งสำคัญอย่าไปโฟกัสที่ตัวปัญหา ในบางครั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องของการเงินในชีวิต บางคนก็ไปโฟกัสเรื่องเงิน บางคนก็ไปโฟกัสเรื่องของหนี้ วิตกกังวลว่าเรามีหนี้อยู่ก้อนโตจะทำยังไงดี วิธีการที่ดีที่สุดก็คือว่า จะต้องหาวิธีการหาเงินเพื่อมาชำระหนี้นั้น อย่าไปวิตกกังวลมากกับตัวก้อนหนี้ ให้เน้นที่วิธีการที่จะเพิ่มรายได้ เพื่อมาสะสางปัญหาและก็ฝ่าวิกฤตของเราต่อไป ตามปกติแล้ว ถ้าเรามองอะไรโฟกัสไปที่อะไร เราจะเห็นแต่สิ่งนั้น ถ้าเรามองแต่ปัญหา เราก็จะเห็นแต่ปัญหา ไม่เห็นทางออก ดังนั้นเปลี่ยนโฟกัส
7.ลุกขึ้นให้ไว
ข้อนี้สำคัญมาก หลังจากที่เราอาจจะเผชิญความล้มเหลว แน่นอนว่าจะมีความเศร้า มีความผิดหวัง เกิดขึ้น แต่อย่าให้ความรู้สึกนี้อยู่กับเรานาน เอาความรู้สึกด้านบวกนั้นกลับมาให้ไวที่สุด พยายามนึกถึงเป้าหมายของเราว่า เราอยากทำตามความฝันเดิมไหม เรายังคงเป้าหมายเดิมไหม ถ้าเรายังอยากคงเป้าหมายเดิม เราก็เอาพลังเราเหลืออยู่ทั้งหมดนี้มาปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อมุ่งไปสู่เดิม วิธีการมันเปลี่ยนแปลงได้ และอย่าลืมว่ายังมีวิธีการที่มันใช่รอเราอยู่ เพราะฉะนั้นรีบลุกขึ้นมาแล้วไปหาวิธีการใหม่ให้ได้
ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบของชีวิต แล้วผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคน ล้วนเคยผ่านความล้มเหลวมาทั้งสิ้น แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ เขาไม่ล้มเลิก แน่นอนว่าวันนี้เราอาจจะเจ็บ แต่ว่าถ้าเราไม่ลุกขึ้นจะเป็นการเจ็บถาวร แต่ถ้าลุกให้ไวความเจ็บก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นรีบลุกขึ้นมา อย่ามัวแต่ท้อล่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า วิธีที่กล่าวมาข้างต้น เหมาะที่สุดกับการให้กำลังใจตัวเอง ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าตอนนี้กำลังท้อแท้ หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์