อาจพูดได้ว่า โครงสร้างที่เรียบง่ายที่อยู่ในกำแพงนี้ เป็นโครงสร้างที่มีไว้เพื่อป้องกันผู้บุกรุก แต่เบื้องหลังการสร้างมีความคิดบางอย่างที่น่าประหลาดใจอยู่ ตัวอย่างหนึ่งคือ กำแพงสวนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า " crinkle-crankle wall "
crinkle-crankle wall เป็นกำแพงที่นิยมในเขต Suffolk ทางตะวันออกของอังกฤษ ที่มีส่วนโค้งขึ้นลงของผนัง ซึ่งจะช่วยป้องกันผนังไม่ให้ล้มโดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำยัน และกำแพงที่แปลกตาอีกแห่งหนึ่งที่มีไว้เพื่อป้องกันผู้บุกรุกคือ กำแพงในศตวรรษที่ 18 ที่มีชื่อว่า “ Ha-Ha” ซึ่งพบในที่ดินหลายแห่งของประเทศทั่วสหราชอาณาจักร
โดย ha-ha ประกอบด้วยพื้นสนามหญ้าที่ต่ำลงเป็นร่องอยู่ด้านนอก และมีกำแพงแนวตั้งที่สูงกว่าที่ด้านใน ซึ่งส่วนที่สูงด้านบนนั้นจะยกพื้นสนามหญ้าขึ้นให้อยู่ในระดับเดียวกัน เพื่อป้องกันปศุสัตว์ที่หลงทางไม่ให้เข้าไปในบริเวณได้ ในขณะเดียวกัน จะได้ไม่บดบังมุมมองที่ชัดเจนของบ้านในที่ดินด้วย
ซึ่งถ้ามองจากด้านข้างของบ้าน กำแพงแทบกลืนกันไปเป็นหนึ่งเดียวเหมือนไม่มีการแบ่งแยกภูมิทัศน์ เชื่อกันว่า "ha-ha" ชื่อที่น่าขบขันของกำแพงมาจากคำอุทานที่แสดงความประหลาดใจของผู้ที่พบเห็น เนื่องจากกำแพงได้รับการออกแบบโดยเจตนาเพื่อไม่ให้มองเห็นได้บนระนาบของภูมิทัศน์ อีกความหมายหนึ่งอาจเป็นคำว่า "ha-hah" ที่เป็นคำย่อของ "half and half" ที่มีเป็นกำแพงครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งเป็นคูน้ำ
การเปรียบเทียบ ha-ha (ด้านบน) และผนังปกติ (ด้านล่าง) ที่กำแพงทั้งสองป้องกันการเข้าถึง แต่ไม่มีใครปิดกั้นมุมมองที่มองออกไปด้านนอก
ตัวอย่างรูปแบบของกำแพง " ha-ha " ที่ใช้ใน Yarra Bend Asylum ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ประมาณปี 1900
ในยุคแรก ๆ ก่อนจะมีเครื่องตัดหญ้าแบบกลไก แกะและวัวมักได้รับอนุญาตให้กินหญ้าบนพื้นดินเพื่อตัดแต่งสนามหญ้าไปในตัว แต่สำหรับ ha-ha
จะถูกสร้างขึ้นระหว่างสวนของที่ดินและบริเวณภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ข้ามไปกินหญ้าในสนามหญ้า และสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามที่อยู่ติดกับบ้าน
และ ha-ha ยังช่วยให้ที่ดินอยู่ในสภาพที่ไร้ที่ติ โดยสร้างทัศนียภาพที่ต่อเนื่องของสวนและภูมิทัศน์ที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งแตกต่างจากคูน้ำธรรมดาที่อาจกลายเป็นคูน้ำหรือรกไปด้วยวัชพืชต่างๆ แต่ปศุสัตว์ก็สามารถเข้าไปกินหญ้าจนถึงกำแพงได้
การออกแบบขั้นพื้นฐานของ ha-ha นั้น คล้ายกับที่เรียกว่า "deer-leap" ซึ่งสร้างขึ้นในสวนกวาง(พื้นที่ปิดล้อมที่มีกวางอยู่ภายใน) ในอังกฤษยุคกลางตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งการพิชิตนอร์มัน แต่ ha-ha กลับมีการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเป็นประเทศฝรั่งเศสในปี 1709 ในสวนที่เป็นทางการในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 โดย Dezallier d'Argenville ผู้ที่ชื่นชอบการทำสวน ในหนังสือที่ชื่อว่า " La Theorie et la Practique du jardinage " (The Theory and Practice of Gardening)
" crinkle-crankle wall "
Ha-Ha ด้านหน้าของ Heaton Hall, Heaton Park, ในแมนเชสเตอร์
สวนที่ Stowe เป็นหนึ่งในสวนแห่งแรกในอังกฤษที่มี ha-ha กำแพงที่แปลกตานี้ดึงดูดความสนใจของผู้มาเยือนจำนวนมาก โดยเฉพาะในสังคมชั้นสูง
ที่มีการลอกเลียนการออกแบบไปไว้บนที่ดินของตนเอง ซึ่ง John Perceval ท่านเอิร์ลแห่ง Egmont ที่ 1 ที่มีความประทับใจอย่างมาก และได้นำ ha-ha ไปสร้างในสวนที่ Stowe ในปี 1724
นอกเหนือจากที่ Stowe แล้ว ha-has ยังสามารถเห็นได้ที่บ้านและที่ดินขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ในศตวรรษที่ 18
และ Ha-has ยังถูกใช้ในโรงพยาบาลคนบ้าในยุควิกตอเรียในออสเตรเลีย เช่นที่ Yarra Bend Asylum, Beechworth Asylum, Kew Lunatic Asylum และ Parkside Lunatic Asylum ในออสเตรเลียใต้ ซึ่งจากร่องลึกด้านในหลังกำแพง นอกจากจะป้องกันผู้ป่วยไม่ให้หลบหนีออกไปแล้ว ผู้ป่วยยังสามารถมองเห็นภูมิทัศน์ที่กว้างขึ้นของด้านบนได้
ปัจจุบัน นักออกแบบภูมิทัศน์สมัยใหม่กำลังใช้ประโยชน์จากกำแพง ha-has อีกครั้ง เพื่อสร้างขอบเขตที่สวยงามและไม่กีดขวางทางสายตา ซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่ในอนุสาวรีย์แห่งหนึ่งที่วอชิงตันในสหรัฐอเมริกา ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2000
ต่อมา หลังจากเหตุการณ์ 9/11 เจ้าหน้าที่ได้วางกำแพงกั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ยานยนต์ขนาดใหญ่เข้าใกล้อนุสาวรีย์วอชิงตัน กำแพงกั้นชั่วคราวถูกแทนที่ด้วยกำแพง ha-ha ใหม่ ซึ่งเป็นกำแพงหินแกรนิตเตี้ย 0.76 ม. (30 นิ้ว) ที่ได้รับรางวัล Park / Landscape Award of Merit ประจำปี 2005
ha-ha ที่บริเวณบ้าน Hopetoun ใกล้ South Queensferry ในสกอตแลนด์
Cr.ภาพ Andrew Shiva / Wikimedia Commons
"deer-leap" of Richmond Park ในยุคกลาง Cr.flickr.com/
"Deer leap" ของ Richmond Park เป็นแนวของที่ดินกว้าง 1 rod (คือ 16'6″ หรือ 5m) ที่มีกษัตริย์เป็นเจ้าของ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่รอบ ๆสวนสาธารณะ
มีหน้าที่หลักคือ เพื่ออนุญาตให้เข้าถึงด้านนอกของกำแพงเขตแดน
ประวัติศาสตร์ของ Richmond Park นั้น ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของพระเจ้า Charles ที่ 1 ในปี 1637 เพื่อสร้างพื้นที่ล่าสัตว์ของราชวงศ์สำหรับตัวเขาเอง และเพื่อน ๆ สำหรับงานอดิเรกของชนชั้นสูงในการล่ากวาง แต่ปัจจุบัน เป็นสวนกวางที่มีกวางสีแดงและกวางป่าหลายร้อยตัวสามารถสัญจรไปมาได้
และคำว่า “deer leap” นั้น บางครั้งเป็นรูปแบบที่ถูกใช้เพื่อบอกว่า กำแพงในพื้นที่แถบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้กวางสามารถหลบหนีจากนักล่าของมันได้ และถ้ากวางสามารถกระโดดพ้นจากกำแพงนี้ มันก็จะไม่ถูกจับ
"deer-leap" ในปี 2017 Cr.Flickr.com
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
' Ha-Ha ' กำแพงปรับภูมิทัศน์ในช่วงศตวรรษที่ 18
จะถูกสร้างขึ้นระหว่างสวนของที่ดินและบริเวณภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ข้ามไปกินหญ้าในสนามหญ้า และสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามที่อยู่ติดกับบ้าน
และ ha-ha ยังช่วยให้ที่ดินอยู่ในสภาพที่ไร้ที่ติ โดยสร้างทัศนียภาพที่ต่อเนื่องของสวนและภูมิทัศน์ที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งแตกต่างจากคูน้ำธรรมดาที่อาจกลายเป็นคูน้ำหรือรกไปด้วยวัชพืชต่างๆ แต่ปศุสัตว์ก็สามารถเข้าไปกินหญ้าจนถึงกำแพงได้
การออกแบบขั้นพื้นฐานของ ha-ha นั้น คล้ายกับที่เรียกว่า "deer-leap" ซึ่งสร้างขึ้นในสวนกวาง(พื้นที่ปิดล้อมที่มีกวางอยู่ภายใน) ในอังกฤษยุคกลางตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งการพิชิตนอร์มัน แต่ ha-ha กลับมีการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเป็นประเทศฝรั่งเศสในปี 1709 ในสวนที่เป็นทางการในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 โดย Dezallier d'Argenville ผู้ที่ชื่นชอบการทำสวน ในหนังสือที่ชื่อว่า " La Theorie et la Practique du jardinage " (The Theory and Practice of Gardening)
และ Ha-has ยังถูกใช้ในโรงพยาบาลคนบ้าในยุควิกตอเรียในออสเตรเลีย เช่นที่ Yarra Bend Asylum, Beechworth Asylum, Kew Lunatic Asylum และ Parkside Lunatic Asylum ในออสเตรเลียใต้ ซึ่งจากร่องลึกด้านในหลังกำแพง นอกจากจะป้องกันผู้ป่วยไม่ให้หลบหนีออกไปแล้ว ผู้ป่วยยังสามารถมองเห็นภูมิทัศน์ที่กว้างขึ้นของด้านบนได้
ปัจจุบัน นักออกแบบภูมิทัศน์สมัยใหม่กำลังใช้ประโยชน์จากกำแพง ha-has อีกครั้ง เพื่อสร้างขอบเขตที่สวยงามและไม่กีดขวางทางสายตา ซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่ในอนุสาวรีย์แห่งหนึ่งที่วอชิงตันในสหรัฐอเมริกา ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2000
ต่อมา หลังจากเหตุการณ์ 9/11 เจ้าหน้าที่ได้วางกำแพงกั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ยานยนต์ขนาดใหญ่เข้าใกล้อนุสาวรีย์วอชิงตัน กำแพงกั้นชั่วคราวถูกแทนที่ด้วยกำแพง ha-ha ใหม่ ซึ่งเป็นกำแพงหินแกรนิตเตี้ย 0.76 ม. (30 นิ้ว) ที่ได้รับรางวัล Park / Landscape Award of Merit ประจำปี 2005
มีหน้าที่หลักคือ เพื่ออนุญาตให้เข้าถึงด้านนอกของกำแพงเขตแดน
ประวัติศาสตร์ของ Richmond Park นั้น ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของพระเจ้า Charles ที่ 1 ในปี 1637 เพื่อสร้างพื้นที่ล่าสัตว์ของราชวงศ์สำหรับตัวเขาเอง และเพื่อน ๆ สำหรับงานอดิเรกของชนชั้นสูงในการล่ากวาง แต่ปัจจุบัน เป็นสวนกวางที่มีกวางสีแดงและกวางป่าหลายร้อยตัวสามารถสัญจรไปมาได้
และคำว่า “deer leap” นั้น บางครั้งเป็นรูปแบบที่ถูกใช้เพื่อบอกว่า กำแพงในพื้นที่แถบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้กวางสามารถหลบหนีจากนักล่าของมันได้ และถ้ากวางสามารถกระโดดพ้นจากกำแพงนี้ มันก็จะไม่ถูกจับ