🔴โควิดวันนี้ 175 ราย! ศบค.แถลงไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 24,961 ราย
17 ก.พ. 64 (11:30 น.)



วันนี้ (17 ก.พ.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โฆษก ศบค.) แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า....✏

ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 175 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 24,961 ราย หายป่วยแล้ว 23,697 ราย ยังรักษาใน รพ. 1,182 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิตสะสม 82 ราย

รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 17 ก.พ. 2564 จำนวน 175 ราย มีดังนี้
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 54 ราย 
2.ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 114 ราย
3.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 7 ราย
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย
เมียนมา 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
ญี่ปุ่น 2 ราย
ออสเตรีย 1 ราย

https://www.sanook.com/news/8349790
  
🔴สธ.ยกทีมผู้บริหาร แถลงโต้ปมวัคซีนโควิดถึงสภาฯ



วันนี้ ( 17 ก.พ.64 ) ทีมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงประเด็นการจัดซื้อวัคซีน ภายในอาคารรัฐสภา โดย นพ.เกียรติภูมิ วงศรจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ประเทศไทยได้จองและเตรียมให้บริการฉีดให้ประชาชนถึง 63 ล้านโดส เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันระดับประเทศ โดยวางแผนการฉีดให้แล้วเสร็จ ภายในปี 2564 เพื่อให้ควบคุมการแพร่ระบาดและเพื่อให้สามารถดำเนินเศรษฐกิจต่อไปได้ และคาดว่าภายในเดือน ก.ย.-พ.ย.64 วัคซีนจะล้นตลาด  จะมีการจองซื้อเพื่อฉีดเป็นวงรอบ บางประเทศที่ฉีดวัคซีนก่อน 1-2 พันโดส ไม่มีผลต่อการควบคุมโรค ป้องกันได้แค่ระดับบุคคล หากไม่มีภูมิคุ้มกันระดับประเทศก็ไม่สามารถเปิดประเทศได้

“ยืนยันว่า ไทยสามารถควบคุมโรคได้ดี จากการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขและความร่วมมือจากประชาชน ทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 20 เท่า และการแพร่กระจายโรคต่ำกว่าในหลายประเทศ”นพ.เกียรติภูมิกล่าว 

ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่าการจองซื้อวัคซีนกับบริษัทอื่น คือซื้ออย่างเดียว แต่การจองซื้อกับแอสตราเซนเนกา เราได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนระดับโลกไว้กับเราด้วย ไม่ว่าจะอยู่กับภาครัฐหรือเอกชนไม่สำคัญ เพราะอยู่ในประเทศไทย ส่วนประเด็นค่าจองซื้อวัคซีน แอสตราเซเนกาจะคืนให้เป็นวัคซีน ส่วนวัคซีนโคแวกซ์เงินค่าจองเป็นค่าบริหารจัดการ ส่วนราคาวัคซีนจะกำหนดภายหลังโดยบริษัทผู้ผลิต ซึ่งไทยยังเดินหน้าเจรากับโคแวกซ์ต่อไป ถ้าได้เงื่อนไขที่เหมาะสม แต่หากดูในเนื้อรายละเอียดจะเห็นว่าเป็นวัคซีนจากแอสตราเซเนกาเป็นส่วนมาก เพราะบริษัทไฟเซอร์เพิ่งเข้าร่วมโครงการกับโคแวกซ์ เราจึงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการที่ได้วัคซีนซ้ำเดิมกับวัคซีนที่ไทยสามารถผลิตได้เอง

ทั้งนี้การอภิปรายที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วนจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด เช่นเดียวกับการข้อมูลที่ระบุว่าอินเดียให้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาฟรีให้กับไทย แต่ไทยปฏิเสธไม่รับก็เป็นข่าวเท็จ ความจริงเป็นการเสนอความร่วมมือทางการวิจัยกับอีกบริษัทหนึ่ง ส่วนราคาวัคซีนของแอสตราเซนเนกาที่ระบุว่าประเทศไทยซื้อแพงกว่าในราคา 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดสนั้น ความจริงคือราคาอ้างอิงวัคซีนของแอสตราเซนเนกาในเว็บไซต์ยูนิเซฟ หรือสหภาพยุโรป หรือของสหรัฐอเมริกา เป็นราคาที่ไม่รวมเงินสนับสนุนวิจัย ราคาจึงอยู่ที่ประมาณ 4 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส นอกจากนี้ ในแต่ละแหล่งผลิต ราคาต้นทุนวัตถุดิบมีความแตกต่างกันตามช่วงเวลา หากเป็นวัตถุดิบตั้งแต่ปีที่แล้วราคาจะถูกกว่า จึงเกิดความต่างเรื่องของราคา

“ข้อมูลจากการเปิดเผยของแอสตราเซเนกา คือ มีประเทศเสนอเป็น HUB ในการผลิตวัคซีน 60 ประเทศทั่วโลก แอสตราเซนเนกาเลือก 25 ประเทศ มีสยามไบโอไซเอนซ์ ของไทยรวมอยู่ด้วย ชี้ให้เห็นว่าศักยภาพของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก เราไม่จำเป็นต้องมีวัคซีนหลากหลายชนิด ขอให้ได้วัคซีนปริมาณมากพอ ฉีดให้ครอบคลุมประชากร และจัดระบบการฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพ” นพ.นครระบุ

https://news.ch7.com/detail/468240

🔴“นายกฯ ตู่” ลุกแจง “วิโรจน์” ปมวัคซีนโควิด ย้ำ ไม่เคยทำงานเช้าชามเย็นชาม (คลิป)



“พล.อ.ประยุทธ์” ลุกแจงหลัง “วิโรจน์” อภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีวัคซีนโควิด-19 ล่าช้า ย้ำ ไม่เคยทำงานเช้าชามเย็นชาม ทุกอย่างต้องรอบคอบ ประชาชนต้องปลอดภัย ลั่น พูดง่าย ลองทำดูจะรู้เป็นอย่างไร

เมื่อเวลา 14.22 น. วันที่ 1 ก.พ. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกะทรวงกลาโหม ชี้แจงหลัง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจโดยพุ่งเป้าเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่ล่าช้า รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมาจากทั้ง นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เพราะไม่ใช่นักโต้วาที ยืนยันว่ารับรู้ความเดือดร้อนประชาชน อยู่ตรงนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ อาจจะรู้มากกว่าเพราะไม่ได้เปิดจากกูเกิล แต่ต้องหารือใน ศบค. ตนฟังแพทย์อาวุโส แพทยสภา ผู้มีประสบการณ์ มีคนเหล่านี้เป็นคณะทำงาน นำข้อมูลมาเรื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 การบริหารจัดการ จนถึงการที่ไทยจะได้รับวัคซีนเร็วที่สุด ดูแลทุกภาคส่วน และเชื่อว่าน่าจะดีขึ้นในเร็ววัน ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะได้ผล 100% หรือไม่ต้องรอดู ตอนนี้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ไม่ได้ใช้ปกติเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่แม้ได้รับวัคซีนก็ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่

นายกรัฐมนตรี ยังระบุต่อไปว่า รัฐบาลไม่เคยชักช้า แต่ไม่ใช่สั่งปุ๊บได้ปั๊บ ต้องเจรจาต่อเนื่อง ลงนามสัญญาต่างๆ เราเริ่มตั้งแต่แรกๆ แล้ว ที่หารือใน ศบค. พูดมันง่าย ลองทำดูเองจะรู้ว่าเป็นอย่างไร พูดก็เร็ว ดูดี ดูเก่ง ไม่เคยนิ่งนอนใจ เราต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการเลือกวัคซีนที่ปลอดภัยเหมาะสมกับไทย เราพยายามทำอย่างเต็มที่ ส่วนแผนการกระจายวัคซีนก็ดำเนินการอยู่ ทุกประเทศไม่ใช่ว่าจะสั่งจอง 100 ล้านโดส 1,000 ล้านโดส แล้วจะมาในวันเดียว ไม่มีทาง เพราะแจกจ่ายไปทั่วโลก และเราโชคดีที่มีการผลิตในประเทศ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงผลสำรวจว่าคนไทยพร้อมฉีดวัคซีน 80% ไม่อยากฉีด 10% และลังเล 10%
 
อย่างไรก็ตาม คงรอดูว่าการฉีดลอตแรกจะเกิดอะไรขึ้น แต่เชื่อว่าเมื่อถึงระยะหนึ่งจะดีขึ้นเพราะมีการผลิตเพียงพอ แต่การสวมหน้ากากที่ถูกต้องสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ถึง 96.5% และไทยยังมีข่าวดีที่สามารถวิจัยทดลองในมนุษย์เฟสแรก วัคซีนเทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก ชนิดเชื้อตาย ที่เคยมีการแถลงไปก่อนหน้านี้ของทีมแพทย์และองค์การเภสัชกรรม

https://www.thairath.co.th/news/politic/2034396



🔴“อนุทิน” ตอกกลับ “วิโรจน์” แบบเจ็บๆ ลั่น กลิ่นหนูตายก็เน่าพอๆ กับกลิ่นปากเหม็น ชี้ ควรภูมิใจไทยผลิตวัคซีนโควิด-19 หนึ่งเดียวในอาเซียน แนะ ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรเพื่อประชาชน

ร่วมมือกับรัฐบาล  เราจะชนะไปด้วยกันค่ะ



✏แก้ไขวันที่  จาก18  เป็น17 ก.พ.ค่ะ(แก้ที่หัวกระทู้ไม่ได้ค่ะ เกินเวลาที่แก้ได้)

มาลาริน/17ก.พ.ไทยพบโควิด175ราย รักษาอยู่1,182ราย/สธ.ยกทีมแถลงถึงสภาฯ/นายกฯ-อนุทินโต้ก้าวไกลพูดโกหก