พิษศก.-โควิดทำวาเลนไทน์กร่อย ร้านดอกไม้ยอดขายดิ่งเหว
https://www.dailynews.co.th/regional/825169
เจ้าของร้านดอกไม้เมืองเชียงใหม่บ่นอุบ! วาเลนไทน์ปี 64 บรรยากาศเงียบเหงาแทบไม่มีลูกค้าขาจรที่เคยมาซื้อดอกไม้ให้กันเหมือนปีก่อน ส่งผลให้ยอดขายตกลงไปถึง 80% คาดเหตุจากพิษเศรษฐกิจ และ "โควิด-19"
พิษศก.-โควิดทำวาเลนไทน์กร่อย ร้านดอกไม้ยอดขายดิ่งเหว
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจยังตลาดดอกไม้ กาดหลวงเชียงใหม่ ที่เป็นแหล่งหาซื้อดอกไม้แหล่งใหญ่ของตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าบรรยากาศช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักซึ่งทุกปีจะมีประชาชนทั้งหนุ่ม สาว ต่างหาของขวัญให้คนรัก โดยเฉพาะดอกไม้หลากสี แต่ในปีนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา สาเหตุเกิดจากภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ที่ได้รับจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้ยอดการขายดอกไม้ร่วงลงไปเป็นอย่างมาก มีประชาชนมาซื้อดอกไม้น้อยมาก จนยอดขายลดลงกว่าร้อยละ 80 ของยอดขายเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบเจ้าของร้านดอกไม้ในกาดหลวงเชียงใหม่ชื่อดังแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า บรรยากาศการขายดอกไม้ที่ร้านของตนขณะนี้ยังคงมีลูกค้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ แต่หากเทียบกับปีที่แล้วก็พบว่ามียอดการขายและคนที่มาซื้อน้อยลงกว่า 80% ทางร้านตนก็ต้องปรับตัว ใช้ของที่มีคุณภาพ และสามารถจำหน่ายให้กับทางลูกค้าประจำที่พอมีกำลังซื้อได้ แต่จากที่เคยซื้อในราคา 4-5 พันบาท และราคา 1-2 พัน ก็ลดลงไปมากกว่าครึ่ง แต่ทางร้านก็ยังพอมีลูกค้าประจำที่มาอุดหนุนอยู่ค่อนข้างมาก สำหรับช่อดอกไม้ที่ยังคงได้รับความนิยมยังเป็น "ดอกกุหลาบสีแดง" และ "ดอกกุหลาบสีขาว" โดยดอกกุหลาบเกรด A ขนาดจัมโบ้ จะมีราคา 1 ดอกอยู่ที่ประมาณ 500 บาท.
นี่คือเหงา..นี่แหละเหงา! 'ตรุษจีนภูเก็ต'หงอย-เงียบสุดๆ
https://www.dailynews.co.th/regional/825205
เทศกาลตรุษจีน ถนนคนเดินภูเก็ตเงียบเหงา งดจัดงานหลังเจอพิษโควิด ต่างจาก 21 ปีที่ผ่านมา ชาวไทยเชื้อสายจีนเลือกฉลองกับครอบครัวตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาด
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. บรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 64 หลังจากชาวไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ตเสร็จสิ้นภารกิจการไหว้เจ้าและบรรพบุรุษแล้ว บางส่วนจะออกไปไหว้พระขอพรและแสดงความเคารพญาติผู้ใหญ่และออกไปไหว้พระขอพรตามศาลเจ้าและท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญต่างๆ
สำหรับสถานที่ต่างๆ ที่เคยเป็นจุดจัดงานตรุษจีนของทุกปีอย่าง ถนนถลาง หรือ ถนนคนเดินในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งมีการจัดงานย้อนอดีต "
ตรุษจีนภูเก็ต" ซึ่งทางเทศบาลนครภูเก็ตได้จัดติดต่อกันมาแล้ว 21 ครั้งที่ผ่านมา และมีการติดตั้งประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง ที่สวยสดงดงาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความสิริมงคลในการดำรงชีวิตของการเข้าสู่ปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้คนมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวถนนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
แต่สำหรับปี 64 นี้ ทางเทศบาลนครภูเก็ตไม่ได้จัดงานเพราะผลกระทบจากโควิด-19 คนส่วนใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตจะเลือกฉลองกับครอบครัวและเพื่อนเป็นการส่วนตัว ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้งานฉลองในหลายจุดต้องถูกระงับไป บรรยากาศตรุษจีนในปีนี้จึงเป็นไปด้วยความเงียบเหงา.
ม็อบเมียนมาแค้นหนัก กองทัพบุกจับผู้เห็นต่างทั่วประเทศกลางดึก
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2576674
ม็อบเมียนมาแค้นหนัก กองทัพบุกจับผู้เห็นต่างทั่วประเทศกลางดึก
การประท้วงในเมียนมายังคงเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ในวันเสาร์นี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนได้มารวมตัวกันบนท้องถนนในนครย่างกุ้ง เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาแสดงจุดยืนที่กรุงเนปยีดอ เมืองหลวงของเมียนมา และเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รวมถึงเมืองอื่นๆ แม้จำนวนผู้ออกมาประท้วงจะไม่มากเท่าวันก่อนหน้าก็ตาม
กลุ่มผู้ประท้วงแสดงความโกรธแค้นและไม่พอใจกับการที่กองทัพใช้วิธีบุกจับกุมผู้คนในช่วงค่ำคืน โดยมีการเขียนป้ายประท้วงว่า “
หยุดลักพาตัวคนในเวลากลางคืน” ความไม่พอใจดังกล่าวยิ่งรุนแรงขึ้นหลังมีภาพวิดีโอแสดงให้เห็นว่า มีการจับกุมผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงแพทย์ที่เข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวด้วยการแสดงอารยะขัดขืนไม่เข้าทำงาน
การจับกุมในบางกรณีเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน โดยโซเชียลมีเดียมีข้อความที่ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางว่า “
กลางคืนของเราไม่ปลอดภัยอีกต่อไป” และ “
กองทัพลักพาตัวคนในเวลากลางคืน” ซึ่งรอยเตอร์ระบุว่า กองทัพเมียนมาไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับการจับกุมตัวบุคคลตามที่มีการกล่าวอ้าง
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มองค์การที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักโทษการเมืองแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์จับกุมที่เกิดขึ้นในเมียนมา โดยระบุว่าครอบครัวของผู้ที่ถูกจับกุมไม่ทราบถึงข้อกล่าวหา ที่ที่พวกเขาถูกนำไปกักขัง หรือสภาพความเป็นอยู่ของผู้เป็นที่รัก สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีแค่กรณีเดียว แต่การบุกจับในช่วงค่ำคืนพุ่งเป้าไปที่ผู้เห็นต่าง และมันเกิดขึ้นทั่วประเทศ
JJNY : 5in1 วาเลนไทน์กร่อย│ตรุษจีนภูเก็ตหงอย-เงียบสุดๆ│ม็อบเมียนมาแค้นหนัก│พท.รับฟังภาคท่องเที่ยว│ติวรมต.ซักฟอกสุดกร่อย!
https://www.dailynews.co.th/regional/825169
เจ้าของร้านดอกไม้เมืองเชียงใหม่บ่นอุบ! วาเลนไทน์ปี 64 บรรยากาศเงียบเหงาแทบไม่มีลูกค้าขาจรที่เคยมาซื้อดอกไม้ให้กันเหมือนปีก่อน ส่งผลให้ยอดขายตกลงไปถึง 80% คาดเหตุจากพิษเศรษฐกิจ และ "โควิด-19"
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจยังตลาดดอกไม้ กาดหลวงเชียงใหม่ ที่เป็นแหล่งหาซื้อดอกไม้แหล่งใหญ่ของตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าบรรยากาศช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักซึ่งทุกปีจะมีประชาชนทั้งหนุ่ม สาว ต่างหาของขวัญให้คนรัก โดยเฉพาะดอกไม้หลากสี แต่ในปีนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา สาเหตุเกิดจากภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ที่ได้รับจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้ยอดการขายดอกไม้ร่วงลงไปเป็นอย่างมาก มีประชาชนมาซื้อดอกไม้น้อยมาก จนยอดขายลดลงกว่าร้อยละ 80 ของยอดขายเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบเจ้าของร้านดอกไม้ในกาดหลวงเชียงใหม่ชื่อดังแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า บรรยากาศการขายดอกไม้ที่ร้านของตนขณะนี้ยังคงมีลูกค้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ แต่หากเทียบกับปีที่แล้วก็พบว่ามียอดการขายและคนที่มาซื้อน้อยลงกว่า 80% ทางร้านตนก็ต้องปรับตัว ใช้ของที่มีคุณภาพ และสามารถจำหน่ายให้กับทางลูกค้าประจำที่พอมีกำลังซื้อได้ แต่จากที่เคยซื้อในราคา 4-5 พันบาท และราคา 1-2 พัน ก็ลดลงไปมากกว่าครึ่ง แต่ทางร้านก็ยังพอมีลูกค้าประจำที่มาอุดหนุนอยู่ค่อนข้างมาก สำหรับช่อดอกไม้ที่ยังคงได้รับความนิยมยังเป็น "ดอกกุหลาบสีแดง" และ "ดอกกุหลาบสีขาว" โดยดอกกุหลาบเกรด A ขนาดจัมโบ้ จะมีราคา 1 ดอกอยู่ที่ประมาณ 500 บาท.
นี่คือเหงา..นี่แหละเหงา! 'ตรุษจีนภูเก็ต'หงอย-เงียบสุดๆ
https://www.dailynews.co.th/regional/825205
เทศกาลตรุษจีน ถนนคนเดินภูเก็ตเงียบเหงา งดจัดงานหลังเจอพิษโควิด ต่างจาก 21 ปีที่ผ่านมา ชาวไทยเชื้อสายจีนเลือกฉลองกับครอบครัวตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาด
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. บรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 64 หลังจากชาวไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ตเสร็จสิ้นภารกิจการไหว้เจ้าและบรรพบุรุษแล้ว บางส่วนจะออกไปไหว้พระขอพรและแสดงความเคารพญาติผู้ใหญ่และออกไปไหว้พระขอพรตามศาลเจ้าและท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญต่างๆ
สำหรับสถานที่ต่างๆ ที่เคยเป็นจุดจัดงานตรุษจีนของทุกปีอย่าง ถนนถลาง หรือ ถนนคนเดินในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งมีการจัดงานย้อนอดีต "ตรุษจีนภูเก็ต" ซึ่งทางเทศบาลนครภูเก็ตได้จัดติดต่อกันมาแล้ว 21 ครั้งที่ผ่านมา และมีการติดตั้งประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง ที่สวยสดงดงาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความสิริมงคลในการดำรงชีวิตของการเข้าสู่ปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้คนมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวถนนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
แต่สำหรับปี 64 นี้ ทางเทศบาลนครภูเก็ตไม่ได้จัดงานเพราะผลกระทบจากโควิด-19 คนส่วนใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตจะเลือกฉลองกับครอบครัวและเพื่อนเป็นการส่วนตัว ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้งานฉลองในหลายจุดต้องถูกระงับไป บรรยากาศตรุษจีนในปีนี้จึงเป็นไปด้วยความเงียบเหงา.
ม็อบเมียนมาแค้นหนัก กองทัพบุกจับผู้เห็นต่างทั่วประเทศกลางดึก
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2576674
ม็อบเมียนมาแค้นหนัก กองทัพบุกจับผู้เห็นต่างทั่วประเทศกลางดึก
การประท้วงในเมียนมายังคงเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ในวันเสาร์นี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนได้มารวมตัวกันบนท้องถนนในนครย่างกุ้ง เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาแสดงจุดยืนที่กรุงเนปยีดอ เมืองหลวงของเมียนมา และเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รวมถึงเมืองอื่นๆ แม้จำนวนผู้ออกมาประท้วงจะไม่มากเท่าวันก่อนหน้าก็ตาม
กลุ่มผู้ประท้วงแสดงความโกรธแค้นและไม่พอใจกับการที่กองทัพใช้วิธีบุกจับกุมผู้คนในช่วงค่ำคืน โดยมีการเขียนป้ายประท้วงว่า “หยุดลักพาตัวคนในเวลากลางคืน” ความไม่พอใจดังกล่าวยิ่งรุนแรงขึ้นหลังมีภาพวิดีโอแสดงให้เห็นว่า มีการจับกุมผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงแพทย์ที่เข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวด้วยการแสดงอารยะขัดขืนไม่เข้าทำงาน
การจับกุมในบางกรณีเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน โดยโซเชียลมีเดียมีข้อความที่ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางว่า “กลางคืนของเราไม่ปลอดภัยอีกต่อไป” และ “กองทัพลักพาตัวคนในเวลากลางคืน” ซึ่งรอยเตอร์ระบุว่า กองทัพเมียนมาไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับการจับกุมตัวบุคคลตามที่มีการกล่าวอ้าง
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มองค์การที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักโทษการเมืองแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์จับกุมที่เกิดขึ้นในเมียนมา โดยระบุว่าครอบครัวของผู้ที่ถูกจับกุมไม่ทราบถึงข้อกล่าวหา ที่ที่พวกเขาถูกนำไปกักขัง หรือสภาพความเป็นอยู่ของผู้เป็นที่รัก สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีแค่กรณีเดียว แต่การบุกจับในช่วงค่ำคืนพุ่งเป้าไปที่ผู้เห็นต่าง และมันเกิดขึ้นทั่วประเทศ