สวัสดีค่ะ วันนี้ จะมาเล่า การเที่ยวจอร์แดน และอียิปต์ครั้งแรกในชีวิต และที่สำคัญคือไปกับคนไม่รู้จัก 555
(ทริปนี้ ออกเดินทางปี 2020 ปลายเดือนมกราคม ช่วงตรุษจีน โควิดเริ่มระบาดแล้ว แต่ยังไม่ได้ปิดประเทศกัน
หลังจากนี้ไปอีก 2 เดือน คือเดือนมีนาคม 2020 โควิดได้ระบาดไปทั่วโลก หลายประเทศเริ่มไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว
เที่ยวทริปนี้เสร็จกลับมา โลก lock down เลยจ้า)

(แรกๆรูปสาระน้อยอาจจะเยอะ อาจจะยังไม่เขียนไม่ดีเท่าไรขออภัยล่วงหน้าจ้า)

ก่อนอื่น ต้องเกริ่นก่อนว่า ทริปนี้ได้มาอย่างไร
เริ่มต้นคือ วันนั้น เราอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดนิดหน่อย แล้วกำลังเล่น facebook 
ทีนี้เราเลื่อนเจอ feed ของเพจหาเพื่อนเที่ยว ว่าหาเพื่อนไปเที่ยวอียิปต์ จอร์แดน 
จากเดิมจะไปทั้งหมด 4 คน โดนเทไป 3 เหลือตัวคนเดียว 555
แผนการเที่ยวทั้งหมด 15 วัน เราอ่านแล้วอะไรไม่รู้ดลใจ เลยทักไป ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
 
เราทักไปว่า เราสนใจขอแผนหน่อยได้ไหม น้องเค้าบอกว่า เป็นไปจอร์แดนก่อน ไปเพตรา แล้วไปเดดซี หลังจากนั้นบินไปอียิปต์ ไปลักซอร์ 
อาสวาน ไคโร ที่อ่านมาทั้งหมดนั้นรู้จักไม่กี่อัน 555 เอาวะ ไปกินเกลือเดดซี แล้วได้ไปปิรามิต น่าจะโอ
 
เริ่มจองตั๋วเครื่องบินและทำวีซ่า โดยการไปเที่ยวครั้งนี้เดินทางโดย Thai airways / Etihad airways ไปต่อเครื่องที่กรุงเทพ และอาบูดาบี
ทั้งจอร์แดนและอียิปต์ต้องใช้วีซ่า สำหรับจอร์แดนให้เลือกซื้อ Jordan pass (บัตรเบ่งเข้าได้หลายที่)
ดรีมทีม(คนที่ไปด้วย)แจ้งว่าให้ซื้อแบบ Jordan Explorer (106USD)เพราะเราจะไปเพตรากัน 2 วัน
ส่วนวีซ่าอียิปต์ทำง่ายมาก สำเนาหนังสือเดือนทาง(ทุกหน้าที่มีวีซ่าของทุกประเทศที่ไปมา)
ตั๋วเครื่องบิน application และเงิน 555 ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ถ้าจำไม่ผิด 
 
ระหว่างนี้ก็เริ่มคุยไลน์กลุ่มกับดรีมทีม เรื่องอากาศจะเป็นแบบไหน เอาเสื้อหนาวไปไหม เอาเสื้อแบบไหนไปดี เตรียมอาหารแห้งกัน นั่นโน่นนี้ 
โดยดรีมทีมนี้ รวมตัวเองไปด้วยมีทั้งหมด 3 เป็นผู้หญิงหมดเลย และไม่รู้ด้วยว่า แต่ละคนอายุเท่าไร มาจากไหน ทำงานอะไร 
พูดง่ายๆ คือ ไม่รู้อะไรเบยยยยยยยย รู้แค่ เราจะเจอกันที่จอร์แดน ที่โรงแรม 55 
  
วีซ่าพร้อมแล้วเริ่มเดินทางกันได้
ไฟลท์แรก NRT – BKK
ความจริงแล้ว connecting flight (domestic – inter) ของสนามบินฮาเนดะดีกว่า แต่จุดมุ่งหมายในครั้งนี้คือ
เราจะต้องนั่ง A380 upper deck เลยต้องถ่อไปถึงนาริตะ เพราะฮาเนะดะใช้ BE747 




 
พักที่ไทย 1 คืน พร้อมต่อเครื่องแล้ว
แต่.... ก้อยังมีปัญหาตอน check in .....คือ หนังสือเดินทาง เหลือไม่ถึง 6 เดือนจ้า.... ขาดไปประมาณ 3 วัน
เราก้อยืนรอค้างเติ่งตรง counter check-in รอเจ้าหน้าที่ เมลไปถามที่ Jordan กับ Egypt ว่าจะรับไหม
ระหว่างรอคืออุทานในใจ ซวยแล้ว ฮือออ ในรอบสองสามปีที่ผ่านมา บินมาตลอด จนลืมเรื่องหนังสือว่าจะหมดอายุเมื่อไรไปเลย 
ก็ลุ้นอยู่ในใจ สุดท้ายเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าโอเค ไม่มีปัญหา เดินทางได้ ก้อค่อยโล่งใจหน่อย
 
การเดินทางไปจอร์แดนครั้งนี้ ไปโดย Etihad โดยเราจะไปต่อเครื่องที่อาบูดาบีจ้า......
BKK - AUH  BE 777 ER ก็ดีปกติ
AUH - AMM BE787 เครื่องใหม่ทันสมัยนน ที่นั่งสบาย


มีความโชคดีในความโชคร้ายนิดนึงคือ หูฟังคู่ชีพหายยยยย ไม่รู้ทำหล่นหรือลืมไปบนเครื่องไหม หาเท่าไรก้อหาไม่เจอ นี่เพิ่งแค่เริ่มต้นเดินทางของทริป ก้อไม่มีหูฟัง (อุปกรณ์ให้ความบันเทิงส่วนบุคคล) เหลือทริปอีก 15 วัน เราจะรอดไหมเนี่ย เลยตัดสินใจซื้อหูฟังใหม่โดย จัดหูฟังโซนี่ไปจ้า.....



มาถึงแล้วจ้า... ด่านแรกเลย ตม. เราก็ยื่นหนังสือเดินทางกับ Jordan pass ให้ 
ในใจแอบกลัวเหลือเกินเพราะเรามีบาดแผลจากการที่หนังสือเดินทางอายุไม่ถึง 6 เดือนนน 555 สุดท้ายก้อไม่ได้ถามอะไร ปล่อยไปชิวๆ
ไฟลท์ที่เรามาถึงจอร์แดนนั้นเป็นช่วงบ่าย ในขณะที่ดรีมทีม มาถึงตอนเช้า เค้าไปเที่ยวของเค้าแล้ว
เรามีเวลาที่อัมมาน (เมืองหลวงของจอร์แดน) ก้อเลย เออ เราก็จะไปเที่ยวที่ๆเราไฝ่ฝัน

 
หลายคนต้องคิดแน่เลยว่า เราต้องไป Amman Citadel กับ Roman Theater แน่เลย อิอิอิ
ป่าวจ้า..... เนื่องมาจากว่าเราเป็นคริสต์ชน เป็นคาทอลิค สถานที่ๆเราอยากจะไปตอนที่มีเวลาที่อัมมานนั้นก็คือ เราจะไปแสวงบุญที่ The Baptism site of Jesus Christ หรือ สถานที่ๆพระเยซูเจ้าได้ได้รับการล้างบาปนั้นเอง

https://www.baptismsite.com/
 
สถานที่แห่งนี้อยู่ติดแม่น้ำจอร์แดนฝั่งตะวันออก ในเมือง Balqa (อ่านว่า บัลกา) ห่างจากทะเลเดดซีประมาณ 10 กิโลเมตร นั่งรถจากสนามบินไปประมาณ 45 นาที
 
The Baptism site of Jesus Christ มีชื่อเรียกอีกชื่อคือ Bethany
สถานที่แห่งนี้ ถือว่าสำคัญมากในทางศาสนาคริสต์ มีอ้างอิงในเอกสารโบราณ เช่น หนังสือเรื่องราวในพันธสัญญาเดิม บทที่ 36 เอลียาและเอลีชา เดินข้ามแม่น้ำจอร์แดน หรือแม้แต่พระคัมภีร์ไบเบิลก็มีพูดถึงแม่น้ำจอร์แดน และเมืองเบธานีเช่นกัน


 
พันธสัญญาเดิม บทที่ 36 เอลียาและเอลีชา
พระผู้เป็นเจ้าทรงบอกเอลียาห์ว่าเอลีชาจะเป็นศาสดาพยากรณ์คนต่อไป เอลียาห์บอกให้เอลีชาไปที่แม่น้ำจอร์แดน เอลียาห์ตีน้ำด้วยเสื้อคลุมของท่าน น้ำแยกออก ท่านทั้งสองเดินข้ามแม่น้ำบนแผ่นดินแห้ง
 
พระคัมภีร์ไบเบิล มัทธิว 3:1-12
การเทศน์สอนของยอห์น ผู้ทำพิธีล้าง
(1) ในครั้งนั้น ยอห์น ผู้ทำพิธีล้างมาประกาศสอนในถิ่นทุรกันดารแห่งยูเดีย (2) ยอห์นกล่าวว่า “จงกลับใจเถิดอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว” (3) ยอห์นผู้นี้คือผู้ที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวถึงว่า
คนคนหนึ่งร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า
“จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า
จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด”
(4)ยอห์นนุ่งห่มด้วยผ้าขนอูฐ มีสายหนังรัดเอว กินตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่าเป็นอาหาร (5)ประชาชนจากกรุงเยรูซาเล็ม จากทั่วแคว้นยูเดีย และจากทั่วเขตแม่น้ำจอร์แดนพากันไปพบเขา  (6)รับพิธีล้างจากเขาในแม่น้ำจอร์แดนโดยสารภาพบาปของตน (7)เมื่อยอห์นเห็นชาวฟาริสีและสะดูสีหลายคนมารับพิธีล้าง จึงกล่าวว่า “เจ้าสัญชาติงูร้าย ผู้ใดแนะนำเจ้าให้หนีการลงโทษที่กำลังจะมาถึง (8)จงประพฤติตนให้สมกับที่ได้กลับใจแล้วเถิด  (9)อย่าอวดอ้างเองว่า “เรามีอับราฮัมเป็นบิดา” ข้าพเจ้าบอกท่านทั้งหลายว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นลูกของอับราฮัมได้  (10)บัดนี้ขวานกำลังจ่ออยู่ที่รากของต้นไม้แล้ว ต้นไม้ต้นใดที่ไม่เกิดผลดีจะถูกโค่นและโยนใส่ไฟ  (11)ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย เพื่อให้สำนึกผิดกลับใจ แต่ผู้ที่จะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะถือรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและไฟ  (12)เขากำลังถือพลั่วอยู่แล้ว จะชำระลานนวดข้าวให้สะอาด จะรวบรวมข้าวใส่ยุ้ง ส่วนฟางนั้นจะเผาทิ้งในไฟที่ไม่รู้ดับ”

วิวทั่วไปมีแต่ทุ่งหญ้าแห้งๆ มีทางเดินเล็กๆ ซึ่งที่นี่เค้าจะไม่ให้เราเข้าไปเอง เราจะต้องรอเจ้าหน้าที่พาเข้าไปเป็นรอบๆ

เดินไปสักพัก เราก็มาถึงจุดที่ พระเยซูทรงรับบัพติศมา
อ่านมาตั้งนาน บัพติศมา คืออะไร คือพิธีรับเข้าเป็นคริสต์ศาสนิกชน นั้นเอง


อาจจะงงว่ามันคืออัลลัย 55
ในอดีตกาล ตรงนี้เป็นจุดที่แม่น้ำจอร์แดนไหลมาถึง 
เป็น hlighlight ของที่นี่ ทุกคนที่มาที่นี่ จะต้องมาจุดนี้ ถ้าเป็นคนบุคคลสำคัญ (เช่น โป๊ป) จะได้เดินตรงบันไดลงไปถึงทางน้ำเลย
เพราะจุดนี้ คือสถานที่ ที่พระเยซูเจ้า ได้เดินลงไปทำการจุ่มน้ำ (เอาตัวลงไปในน้ำ) นั้นเอง


เดินเลยไปก่อนที่จะถึงแม่น้ำจอร์แดน จะมีโบถส์ Saint John the Baptist สร้างใหม่แต่ใช้สถาปัตยกรรมจากสมัยโรมันและอาณาจักรไปแซนไทน์




มาถึงอีกจุด highlight คือ ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน  
แม่น้ำจอร์แดน ถือเป็นจุดในการแบ่งเขตของสองประเทศระหว่างจอร์แดนและอิสราเอล
ในความรู้สึกของเราเอง จอร์แดน เป็นอะไรที่ รักษาความ original มาก มีความคงสภาพเดิมให้มากที่สุด
ในขณะที่อิสราเอล ได้พัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น 

อันนี้รูปฝั่งจอร์แดน คือ ดิบๆแบบเดิมๆ เป็นศาลาไม้เล็กๆ และเนื่องจากว่าน้ำขึ้น เลยท่วมหมดแบบที่เห็น


อันนี้รูปฝั่งอิสราแอลจ้า อลังงงงการ และคนเยอะกว่าฝั่งจอร์แดนมาก

The Baptism site of Jesus Christ ได้รับการบันทึกเป็นแหล่งมรดกโลก
โดยผ่านหลักเกณฑ์ทางวัฒนธรรม ข้อ 3 และ 4
(3) - เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว
(4) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์
อ่านเพิ่มเติมได้ https://whc.unesco.org/en/list/1446/

ตามรอยพระเยซูรับบัพติศมา จบเพียงเท่านี้
ได้แสวงหาสิ่งที่มีความสำคัญทางจริยธรรมต่อจิตใจ (แสวงบุญ) เรียบร้อยแล้ว
หลังจากนี้กลับโรงแรม เตรียมไปเพตรา วันรุ่งขึ้น

ตอนต่อไป 【CR】เที่ยวกับคนไม่รู้จัก (ตอนที่2) 6ชั่วโมง 16กิโลเมตรในเพตรา จอร์แดน
https://ppantip.com/topic/40529256