เปลือกตาบวม อาการที่เป็นกันบ่อย เกิดจากอะไรได้บ้าง?

อาการบวมรอบตา เป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญ และความกังวลให้กับผู้ป่วย โดยเฉพาะสุภาพสตรี เพราะมีผลต่อความงาม บุคลิกภาพ และความมั่นใจ การบวมของเปลือกตาหรือรอบดวงตา จำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือเปลือกตาบวมเป็นครั้งคราว และเปลือกตาบวมถาวร
 
การบวมของเปลือกตาแบบเป็นครั้งคราว หรือบวมๆ ยุบๆ ไม่คงที่ อาการเช่นนี้จะเกิดกับผิวหนังบริเวณเปลือกตาได้บ่อยกว่าผิวหนังส่วนอื่นของร่างกาย เนื่องจากชั้นผิวหนังของเปลือกตามีลักษณะบางและมีความยืดหยุ่นมาก ไม่ได้ยึดติดกับเนื้อเยื่อชั้นที่อยู่ข้างใต้ จึงมีโอกาสซึบซับน้ำไว้ได้มาก
 
สาเหตุ
ภาวะเกลือในร่างกายสูงกว่าปกติ 
คุณสมบัติประการหนึ่งของเกลือ คือความสามารถในการดึงน้ำจากอาหารเค็มที่รับประทานเข้าไปแล้วกระจายสู่เนื้อเยื่อทั่วร่างกายรวมทั้งเปลือกตา หากเรารับประทานอาหารเค็มมากตอนมื้อค่ำ ในตอนเช้าอาจพบว่าเปลือกตาบวมขึ้น ทั้งนี้เพราะเกลือจะดึงน้ำไว้มาก ตลอดจนผู้ที่ชอบนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่ง เปลือกตาข้างนั้นอาจจะบวมกว่าอีกข้างก็ได้ เพราะน้ำจะไปขังอยู่มากตามแรงดึงดูดโลก ผู้ที่เป็นโรคไตหรือโรคหัวใจ จะมีน้ำในร่างกายมากกว่าปกติ จึงทำให้เปลือกตาบวมได้
 
ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ฮอร์โมนเพศหญิงมีคุณสมบัติในการดึงน้ำด้วย สตรีบางท่านอาจเกิดอาการบวมของเปลือกตาในขณะมีประจำเดือน หรือรับประทานยาคุมกำเนิด นอกจากจะเกิดจากภาวะเกลือในร่างกายสูงมากกว่าปกติ ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายที่ได้กล่าวไปแล้วยังพบว่ามีสาเหตุอื่นๆ อีกคือ
 
การอักเสบของเปลือกตา สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการติดเชื้อแบคทีเรืย ทำให้เปลือกตาอักเสบหรือเป็นกุ้งยิง ซึ่งทำให้เปลือกตาบวมแดง ร้อน ปวด และเจ็บเวลากด ส่วนการอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ มีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว น้ำเหลืองรั่วซึมออกมาใต้ผิวหนังทำให้คันจนต้องขยี้ตา มีผลทำให้เปลือกตาบวมมากขึ้นด้วย
 
ไซนัสอักเสบ 
ไซนัสเป็นโพรงอากาศที่ติดกับเบ้าตา เมื่อเกิดการอักเสบ อาจทำให้เปลือกตาบวมขึ้นได้
 
การขยี้ตา 
ทำให้เกิดการอักเสบจนเป็นอันตรายต่อผิวหนัง และยังทำให้หลอดเลือดฝอยบริเวณเปลือกตาช้ำ จนเกิดการรั่วซึมของน้ำเหลืองหรือเลือดได้ด้วย นอกจากเปลือกตาจะบวมแล้ว อาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีสีคล้ำลงด้วย
 

การบวมของเปลือกตาอย่างถาวร
 
สาเหตุ
การเปลี่ยนแปลงตามวัย 
ทำให้ผิวหนังหย่อนยาน และมีก้อนไขมันที่อยู่ภายในห้อยลงมาดันเปลือกตาให้บวมซึ่งเรียกว่า “ถุงน้ำตา”
 
พฤติกรรมส่วนตัวบางอย่าง อาจมีส่วนเร่งทำให้ผิวหนังเกิดการเสื่อมขึ้นก่อนวัย เช่น การได้รับรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต (UV) จากแสงแดดมาก การสูบบุหรี่ และดื่มสุรา เป็นต้น 
 
ลักษณะทางพันธุกรรม คนเอเชียจะมีไขมันพอกอยู่มากบริเวณรอบดวงตา เปลือกตาจึงบวมมากกว่าคนเชื้อชาติอื่น
 
การรักษา
การรักษาอาการเปลือกตาบวมมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น
1.  ลดการรับประทานอาหารรสเค็มจัด
2.  ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยทำให้หัวใจและปอดแข็งแรง การไหลเวียนของโลหิตดีและมี
ผลทำให้การดูดซึมของเหลวในร่างกายมากขึ้นด้วย
3.  หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางประเภทครีม หรือโลชั่นบำรุงความชุ่มชื้นของผิวหนัง 
(Moisturizer) บริเวณเปลือกตา เพราะบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของฮอร์โมนที่ทำให้เกิดการดึงน้ำใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการบวมบริเวณที่ทาได้
4.  นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
5.  งดสูบบุหรี่ ซึ่งมีผลเสียต่อระบบไหลเวียนของโลหิต
6.  ป้องกันผิวหนังจากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต (UV) โดยทาครีมกันแดดสวมแว่นตาตลอดจนสวม
หมวกปีกกว้าง หากต้องโดนแดดเป็นเวลานาน
7.  การทำผ่าตัดดึงเปลือกตา อาจเป็นทางเลือกสำหรับท่านที่มีปัญหาเปลือกตาบวมแบบถาวร แต่
ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เช่น จักษุแพทย์ หรือแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่