ตั้งตัวกันได้ตอนอายุ เท่าไหร่ครับ ผม30ต้นๆ ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยขอคำแนะนำสำหรับคนตั้งตัวได้แล้วหน่อยครับ

สวัสดีครับ ทุกคน กระทู้นี้ผมอยากทราบว่า เพื่อนๆ ตั้งตัวได้ตอนอายุเท่าไหร่
-มีบ้าน
-มีรถ
-มีเงินออม
-ได้ใช้ชีวิตแบบที่ปรารถนา
คือผมก็30ต้นๆ แต่ก็รู้สึกว่าชีวิตยังไม่ไปถึงไหน
มีงานที่มั่นคงทำ, ไม่มีเงินออม
ยังไม่มีบ้าน-รถ นี่ก็คิดว่าจะตั้งตัว ตั้งตนใหม่
ก่อนที่จะอายุมากกว่านี้ ก็เลยอยากได้คำแนะนำจากเพื่อนๆครับ

ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ตอน อายุ 34-35  ตอนนั้น ผมพึ่งเคลียร์หนี้สิน จนโล่ง
ชีวิต ตั้งต้น กันใหม่ๆเลย  ครับ

คำแนะนำ 10 ปี  ถัดจากนี้ คือ
อดทน อดออม ให้มากที่สุด  
ลืมเรื่องความอยากได้โน่นนี่ ไปได้เลย ทำให้ได้  ไม่ยากหรอก
อยากเก็บเดือนละเท่าไร  ก็ตั้งเป้าทำให้ได้
เงินเล็กเงินน้อย  อย่าควักง่าย
เพื่อนมีอะไร  เราไม่ต้องมี  เราแค่มองๆพอแล้ว  ขอแค่เรามีเงินเพิ่มขึ้นจะดีกว่ามาก
บ้านรู้จักเลือก  มือ 2 ที่ดีๆมีเย่อะแย่ะ
รถ ถ้าเลือกเป็น ก็หามือ 2  แต่ถ้าไม่เป็น ก็จำต้องมือ 1
พอมีเงินเหลือ  ก็หาทางเอาเงินไปลงทุน  แล้วได้กำไรแน่ๆ    ถ้าไม่แน่ไม่ลงทุน

..... ที่สำคัญมากๆ  อย่าเลือกคู่ชีวิตที่มีนิสัยควักเงินง่าย....

.....ไม่ต้องให้ใครยืมตัง.....ไม่ต้องไปค้ำใคร....


แล้วชีวิตจะดีขึ้นเย่อะครับ
ความคิดเห็นที่ 23
หลายๆคนก็เริ่มตอน 30 ต้นๆนะคะ เราก็เป็น 1 ในนั้น ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้สึกปลอดภัยทางการเงินแต่ก็ดีขึ้นค่ะ  คุณอายุ 30 ต้นๆ เริ่มต้นวันนี้ยังมีเวลานะคะและคุณโชคดีมากที่มีงานมั่นคง

เราเองช่วงเรียนจบถึงอายุ 30 ไม่มีความรู้ทางการเงินเลย เริ่มทำงานเงินเดือน 15,000 อ่านเรื่องวางแผนเกษียณแล้วไม่รู้เรื่อง ยิ่งเครียด ไม่เห็นความเป็นไปได้ ตอนนั้นก็ประหยัดเอา จนเงินเดือนขึ้นมาเรื่อยๆ ในสายงานที่ไม่มั่นคง อายุ 2X ปลายๆซื้อคอนโดเพราะอยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองและบ้านไกลที่ทำงานมาก คอนโดจะย่นเวลาจาก 2 ชม.เป็น 1 ชม.

ถึงจะงงกับการตั้งเป้าชีวิต แต่มีฝันคืออยากเรียนเมืองนอก ช่วงนั้นก็ใช้เงินเก็บไปเรียนภาษาอังกฤษ&สอบTOEFL จนได้ทุนค่าเรียนป.โทแบบไม่ต้องใช้คืน โชคดีที่ได้โรงเรียนค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่ต้องจ่ายค่ากินอยู่เอง ตอนกลับมาปี 2018 น่าจะเหลือเงินในกองทุนธรรมดาset50 (กองเดียวที่รู้จักในตอนนั้น) ใกล้ๆแสนนึง ต่อมาเจอโควิด กองนี้ยังติดลบอยู่จนปัจจุบัน

จุดสำคัญที่ได้จากการไปเรียน 2 ปีโดยไม่ได้กลับบ้านเลยก็คือ 1.การประหยัด 2. ได้สัมผัสคนที่มีอิสรภาพทางการเงินตัวเป็นๆ เป็นแรงบันดาลใจมากค่ะ เจ้าของบ้านเราทำงานตั้งแต่อายุ 15 ตอนเราไปเรียนเค้าอายุ36 มีอพาร์ทเมนท์ให้เช่าหลายที่ มีธุรกิจ ตอนเราเรียนจบเค้าซื้อเรือลำเล็กๆไปล่องตามฝันรอบโลกด้วยตัวเอง  เพื่อนบ้านเราเคยเป็นทนาย&เจ้าของlaw firmที่ออส ย้ายมาอยู่ประเทศนี้ วันๆตระเวนกินและแวะมาคุยเล่น ชอบเอาหนังสั้นทำเองมาให้ดู เพื่อนอีกคนอายุ30กลางๆ ที่เจอกันในคอร์สพิเศษของโรงเรียนเป็นคนอินเดียที่ปัจจุบันอยู่อังกฤษ เรียนป.เอก มั่งคั่งมากๆมาจากการลงทุน เค้าเลยเรียนป.เอกในสาขาที่เกี่ยวกับเรื่องมนุษยธรรม

พอกลับมาอายุ 32 นอกจากเอาความรู้+วุฒิมาใช้อัพตำแหน่งงาน รู้สึกเลยว่าชีวิตต้องเปลี่ยน มันเหมือนตัวเองเริ่มแก่ และเพิ่งเริ่มนับ1 ในขณะที่เวลาทำงานเหลือไม่กี่ปี สายงานเราก็ไม่มั่นคง เราเลยตั้งเป้าประหยัดจริงจัง เงินพิเศษพวกเบี้ยเดินทางก็เน้นเก็บ พยายามปลีกตัวจากการสังสรรค์หลังเลิกงาน น้องๆในออฟฟิศเราชอบกินข้าวแพงมาก เราก็ปฏิเสธตรงๆว่าเกินงบพี่ และเราไม่ซื้ออะไรที่ไม่จำเป็น ของจุกจิก ของกินเล่นนี่ลดจนแทบไม่ซื้อ มันเสียสุขภาพด้วย เวลาเจอเพื่อนสนิท ก็นัดกินอะไรที่ไม่แพงเพราะแค่เจอเพื่อนก็รู้สึกพิเศษแล้ว โชคดีที่เพื่อนสนิทเราก็เป็นแบบนี้ บางทีแค่กินข้าวมันไก่หน้าออฟฟิศเพื่อนแล้วเค้ากลับไปทำงานต่อแค่นั้นเอง  ศึกษาการลงทุนมากขึ้น อ่านเยอะๆ ฟังเยอะๆ เดี๋ยวนี้หาได้ง่ายๆในอินเตอร์เนท จากที่เคยอ่าน/ฟังไม่รู้เรื่องก็รู้เรื่องขึ้นเรื่อยๆ เปิดพอร์ตหุ้นจากงงๆไม่รู้อะไรก็ทดลองส่งคำสั่งจากเงินน้อยๆ จนคล่องขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็ยังหาความรู้เพิ่มค่ะ

ปัจจุบันอายุใกล้ 35 ทรัพย์สินในหุ้น กองทุนไทย เทศ ทอง อยู่ที่ 7 หลัก  หนี้คอนโดยังจ่ายตามงวดปกติ ไม่ได้โปะเพราะอัตรากำไรจากการลงทุนสูงกว่าดอกเบี้ยผ่อน ก็พยายามต่อไป อยากรู้สึกปลอดภัยและอยากทำอะไรที่มีประโยชน์แบบเลือกเองได้

ถ้าย้อนเวลาได้ (1) เราจะไม่ซื้อคอนโด ถ้าจำเป็นเช่าเอาจะดีกว่า ทั้งมีภาระผ่อนและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆอีกเยอะค่ะ ขายก็ไม่ง่าย ตอนไปเรียนเราประกาศขาย 2 ปี มีแต่คนขอซื้อแบบต่ำกว่าทุน เลยไม่ขาย
(2) ใส่เงินในกองทุนหลายๆแบบให้เร็วขึ้น .. แต่ก็นั่นล่ะ เราทำได้แค่เท่าที่มีความรู้ แนะนำให้รีบศึกษาเรื่องนี้

ปล. อย่าเก็บเงินจนเครียดเกินนะคะ อีกสิ่งสำคัญสำหรับเราที่ต้องทำในปัจจุบัน คู่กันไปกับการสร้างเนื้อสร้างตัวคือทำบุญ กับให้ความสำคัญคนในครอบครัว เราอยากให้แม่เที่ยวตอนที่เค้ายังเดินไหว ช่วงปี2019หลังกลับจากเรียน เราพาแม่ไปเที่ยวยาวๆที่ตุรกี กับ พม่า 2ประเทศนี้ไม่แพง และสวยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
จะตั้งตัว จะลงทุน จะมั่นคง ถ้าไม่มีมรดกก็ต้องเริ่มจากเงินออมก่อนครับ

1. คำนวณค่าใช้จ่ายจำเป็นของตัวเองก่อนว่าเดือนละเท่าไหร่ พยายามให้คงเดิมให้นานที่สุด ขยับได้จากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นแต่ถ้าไม่จำเป็นไม่ขยับ
2. เงินเดือนขึ้นทุกปี แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิมหรือขึ้นน้อยมาก เราจะมีเงินออมเพิ่มขึ้นในแต่ละปี
3. ตั้งไมล์สโตนของตัวเองในเงินออม ว่าครบ 1 หมื่น 5 หมื่น ให้รางวัลอะไรกับตัวเอง
4. ไมล์สโตน 1 แสน, 5 แสน วางแผนเราจะต่อยอดลงทุนอะไร
5. พอแตะ 1 ล้านได้ คุณมีประสบการณ์ประมาณนึงแล้ว คงไม่ต้องให้ไกด์ไลน์อะไร ต่อยอดได้เอง

การให้รางวัลกับตัวเองจะเป็นการลดความเครียดในการเก็บเงินครับ บางครั้งเก็บไม่ใช้เลยเราจะเครียด ต้องผ่อนคลายบ้าง แต่ของรางวัลที่ให้กับตัวเองก็ไม่ควรมากเกิน 10% ของเงินออมนะครับ หรือจะไม่เอาก็ได้

ส่วนใหญ่ก็มาเริ่มกันที่ 30 นี่แหละ

ที่คนไม่ค่อยมีเงินเก็บต้นเหตุ คือปาร์ตี้หลังเลิกงาน สังสรรค์คืนวันศุกร์-เสาร์ พวกนี้ค่าใช้จ่ายสูง และมักจะตามมาด้วยค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ บุหรี่ ตัดออกไปได้เหลือเก็บทุกคน

บางคนเขาไม่เดือดร้อนเพราะเงินเดือนเขาเยอะ แต่คนที่เงินเดือนไม่เยอะแต่ต้องเข้าสังคมกลางคืนกับเพื่อนบ่อย ๆ มันจะไม่ไหวแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่