ถ้าพลเรือเอกไม่โผลมา ภาควาโนะน่าจะไม่ใหญ่เท่ามารีนฟอร์ดจริงๆ
อย่างที่ก่อนหน้านี่ผมได้ตั้งกระทู้พูดถึงความกร่อยของภาควาโนะ ที่ดูจะไม่สมกับที่ อ.โอดะพูดถึงว่า
"สงครามภาควาโนะ จะยิ่งใหญ่เทียบเท่ามารีนฟอร์ด"
ก็ตามบริบทครับ ทัวย์ลงเพราะมองว่า ผมอยากเห็นแต่ฉาก ฉู้กน ฉู้กันนน ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้
ซึ่งผมก็พยายามอธิบาย ว่า สิ่งที่อยากเห็น คือคว่ามยิ่งใหญ่ที่ อ.เปรยว่า จะเทียบเท่ามารีนฟอร์ด
โดยส่วนตัวผมเอง ประทับใจภาคมารีนฟอร์ด ตรงที่ มันมีหลายฝ่าย หลายขั้วอำนาจ มองไม่เห็นว่าใครอยู่ฝ่ายใครบ้าง
มันเป็นมนต์สเน่ห์สำหรับผม ที่ลุ่มหลงในนิยาย มังงะ ที่ชื่นชอบเวลา เรื่องนั้นๆ มันมีหลายขั้วอำนาจมาพัวพัน
มีความสัมพันธ์ของตัวละครที่ เหมือนจะเป็นศัตรู แต่ก็ต้องอยุ่ฝั่งเดียวกันไปก่อนเฉพาะหน้า มันสนุกดีนะครับแบบนั้น
แต่จนถึงตอนนี้ ภาควาโนะสำหรับผม มันยังขับความสนุกของระดับ มารีนฟอร์ดได้ยากจริงๆ
ผมคิดไปคิดมา อะไรคือมนต์สเน่ห์ที่หายไป ที่ผมรู้สึกว่า เห้ยมันต้องมีนะ ไม่งั้น ภาควาโนะ มันจะแตกต่างจากเดรสโรซ่าตรงใหน
ผมว่า มันคือความแปลกใหม่ ของตัวละครที่เราไม่เคยเห็น การเปิดตัวของตัวละคร ที่เราว้าว เพราะอยู่ดีๆ มันก็โผล่เข้ามา
(โดยไม่คาดคิด และต่อให้เรารู้ว่า มันโผล่มา เราก็ยังว้าวกับความสามารถ ของตัวละครไปอีก เช่น เปิดตัวมัลโก้ เปิดตัวโจ้ส ผมนี่แบบบบ เข้โหดจังว่ะ)
เมื่อเทียบกันแล้ว ตอนเปิดตัวคิง เปิดตัวควีน เรียกได้ว่า ออกจะจืดไปหน่อยสำหรับผมที่ รู้สึกว่า เฮ้ยว้าวให้หน่อยเปิดเผยมือขวาไคโดเลยนะ
เอาตรงๆ ตอนเปิดตัวคาตะคุริ ผมยังว้าวกว่าอีก เพราะมาคู่ฮาคิสังเกตุแบบมองเห็นอนาคต คือเนี่ยมันต้องแบบ เห้ยเปิดตัวแล้วมีลูกเล่นเข้ามา
เหมือนตอนเปิดตัว มัลโก้ ทำให้เรารู้ว่า มือขวาจักรพรรดิ รับมือพลเอกได้ ที่เราอ่านมาตั้งแต่ต้นว่าน่ากลัวแค่ใหน แต่ก็มีคนสู้ตัวๆได้
ผมว่ากิมมิคลูกเล่นตรงนี้มันหายไป
ผสมโรงกับที่ไปๆมาๆ เรื่องก็ปูแบบเช่นเคย คือ ทุกคนรวมพลังส่งกลุ่มลูฟี่ไปสู้บอส มันเลยทำให้ความรู้สึกว่า
เอ ตอนนี้ผมควรสนุกแล้วใช่มั้ย ที่เห็น 5 ยุคสมัย เจอกับ 2 จักรพรรดิ ไม่รู้สิ ผมว่ามันยังให้ความรู้สึกไม่แต่ต่างจากภาคอื่นๆอะ
ยังคงมองเห็นว่า ภาคนี้มาเพื่อล้มไคโด ซึ่งมันแตกต่างจากมารีนฟอร์ด ที่เป็นแบบลูฟี่มันจะช่วยเอสได้ไหมว่ะ
ท่ามกลางแสนยานุภาพสูงสุดแห่งกองทัพเรือ ท่ามกลางเหล่าวายร้าย มีทั้งมิตรทั้งศัตรู
คือมองไม่ออกว่า จะออกมาหน้าใหน ตอนนั้นสิ่งที่ผมชอบคือ ตัวละครมันเยอะ แต่เกลี่ยความสมดุลได้ดีในระดับนึงเลย
ซึ่งมันแตกต่างจากภาคนี้ ที่ตัวละครเยอะก็จริงๆ แต่ธีมหลัก หรือระดับ สเกลความยิ่งใหญ่ ให้สมกับเป็น ภาคที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามารีนฟอร์ด
มันไม่ถึงจริงๆ อาจเพราะตอนนั้น ตัวผมเองมอง ว่า
ภาคมารีนฟอร์ด
7 เทพ + แสนยานุภาพสูงสุดแห่งกองทัพเรือ นี่คือไพ่ทั้งหน้าแล้ว
ชนกับ จักรพรรดิ กลุ่มเดียวที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก+เหล่าดาวดังแห่งอิมเพลดาว
เมื่อเอามาเทียบกันกับภาควาโนะ
5 ยุคสมัยที่เลวร้าย + กองทัพซามูไร
ชนกับ 2 จักรพรรดิ ที่ 1 จักรพรรดิกำลังพลครบ อีก 1 จักพรรดิ+เปรอส
เอาตรงๆส่วนตัวสเกลตอนนี้ ผมกลับมองว่ามันตลกไปซะแล้ว บิ๊กมัม + ไคโด ช่วงพีค นี่ชนกับ แสนยานุภาพกองทัพได้หมดเลยนะ
พวกลูฟี่เก่งจริง แต่ แต่ แต่ ช่างมันเราไม่ว่ากัน ที่เขาเก่ง แต่ความรู้สึกผม ทำไมผมไม่เห็นถึงความเหนือชั้น ของ 2 จักรพรรดิเลย
ที่ว่า
"ต้องใช้ 7 เทพ บวกกองทัพเรือ ถึงจะยันอยู่ " จากคำพูดปู่การ์ป
คำพูดนี้โดนภาควาโนะ ลบซะเกลี้ยง แต่ผมก็เข้าใจนะ ตัวละครมาถึงใกล้จบแล้ว มันต้องเก่งสุดๆ อ่าเข้าใจ
เพียงแต่ในความคิดพื้นฐาน ผมว่า สเกลมันยังเล็กไปจริงๆ
สำหรับผมต่อจากนี้ไป ถ้ายังไม่มีใครมาเพิ่ม ระดับฝีมือ พลเอกขึ้นไป ความคิดเห็นส่วนตัวก็แทบไม่ต่างจากภาค เดรสโรซ่า
ที่สามัคคีชุมนุมกันด้วยซ้ำ
อาจจะเพราะ ความรวดเร็วของพระเอกเรา ที่เติบโตแบบรวดเร็วภานใน 2 ปี ที่ตอนนี้ สามารถ รวมพักพวก สู้กับ 2 จักรพรรดิได้แล้ว
มันคงเป็นความคิดของผมว่า จักรพรรดิคงเป็นตัวละครที่ไม่ได้เก่งจริง อย่างที่ว่า ต้องใช้ 7เทพ +กองทัพเรือ ถึงจะยันจักรพรรดิอยู่ซะละมั้งครับ
ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผมตอนนี้ สเกลของภาควาโนะจะใหญ่ขึ้นจริง และว้าวจริง
คงต้องใช้ พลเอก "เรียวคุกิว" ที่มาพร้อม พลังใหม่ เปิดโหมด AOE ทั้งเกาะ แบบนั้น คงยกระดับให้เทียบมารีนฟอร์ดได้
ต่อให้ตำนานแบบล็อคมาเอง แต่ถ้าขาดขั้วอำนาจฝั่งกองทัพเรือออกจะกล่อย
ประเด็นคือ ผมไม่ได้มองหากำลังเสริมนะสิครับ
ไม่ได้มองหาว่าลูฟี่ หรือไคโดจะมีพันธมิตรมาช่วยเพิ่มไหม
ผมกำลังมองหาขั้วอำนาจอื่นที่จะเข้ามาตะลุมบอนเพิ่ม
จะให้เสือ สิงห์ กระทิง แรด ซัดนัวกันไปมา
สงครามแบบคาดเดาไม่ได้ แบบนั้นสนุกกว่าเยอะเลย
ถ้า สเกลยังเท่านี้ เอาตรงๆ ผมก็รับได้ เพียงแต่รู้สึกว่า "ทำไมถึงบอกว่า สเกลจะใหญ่เท่ามารีนฟอร์ด" ให้หลงดีใจเล่นหว่า
#ทั้งหมดเป็นความคิดห็นส่วนตัว
สเกลวาโนะยังคงกร่อยอยู่จริงๆ หากขุมพลังระดับพลเอกขึ้นไปไม่โผล่มา 💢💢💢
อย่างที่ก่อนหน้านี่ผมได้ตั้งกระทู้พูดถึงความกร่อยของภาควาโนะ ที่ดูจะไม่สมกับที่ อ.โอดะพูดถึงว่า
"สงครามภาควาโนะ จะยิ่งใหญ่เทียบเท่ามารีนฟอร์ด"
ก็ตามบริบทครับ ทัวย์ลงเพราะมองว่า ผมอยากเห็นแต่ฉาก ฉู้กน ฉู้กันนน ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้ฉู้
ซึ่งผมก็พยายามอธิบาย ว่า สิ่งที่อยากเห็น คือคว่ามยิ่งใหญ่ที่ อ.เปรยว่า จะเทียบเท่ามารีนฟอร์ด
โดยส่วนตัวผมเอง ประทับใจภาคมารีนฟอร์ด ตรงที่ มันมีหลายฝ่าย หลายขั้วอำนาจ มองไม่เห็นว่าใครอยู่ฝ่ายใครบ้าง
มันเป็นมนต์สเน่ห์สำหรับผม ที่ลุ่มหลงในนิยาย มังงะ ที่ชื่นชอบเวลา เรื่องนั้นๆ มันมีหลายขั้วอำนาจมาพัวพัน
มีความสัมพันธ์ของตัวละครที่ เหมือนจะเป็นศัตรู แต่ก็ต้องอยุ่ฝั่งเดียวกันไปก่อนเฉพาะหน้า มันสนุกดีนะครับแบบนั้น
แต่จนถึงตอนนี้ ภาควาโนะสำหรับผม มันยังขับความสนุกของระดับ มารีนฟอร์ดได้ยากจริงๆ
ผมคิดไปคิดมา อะไรคือมนต์สเน่ห์ที่หายไป ที่ผมรู้สึกว่า เห้ยมันต้องมีนะ ไม่งั้น ภาควาโนะ มันจะแตกต่างจากเดรสโรซ่าตรงใหน
ผมว่า มันคือความแปลกใหม่ ของตัวละครที่เราไม่เคยเห็น การเปิดตัวของตัวละคร ที่เราว้าว เพราะอยู่ดีๆ มันก็โผล่เข้ามา
(โดยไม่คาดคิด และต่อให้เรารู้ว่า มันโผล่มา เราก็ยังว้าวกับความสามารถ ของตัวละครไปอีก เช่น เปิดตัวมัลโก้ เปิดตัวโจ้ส ผมนี่แบบบบ เข้โหดจังว่ะ)
เมื่อเทียบกันแล้ว ตอนเปิดตัวคิง เปิดตัวควีน เรียกได้ว่า ออกจะจืดไปหน่อยสำหรับผมที่ รู้สึกว่า เฮ้ยว้าวให้หน่อยเปิดเผยมือขวาไคโดเลยนะ
เอาตรงๆ ตอนเปิดตัวคาตะคุริ ผมยังว้าวกว่าอีก เพราะมาคู่ฮาคิสังเกตุแบบมองเห็นอนาคต คือเนี่ยมันต้องแบบ เห้ยเปิดตัวแล้วมีลูกเล่นเข้ามา
เหมือนตอนเปิดตัว มัลโก้ ทำให้เรารู้ว่า มือขวาจักรพรรดิ รับมือพลเอกได้ ที่เราอ่านมาตั้งแต่ต้นว่าน่ากลัวแค่ใหน แต่ก็มีคนสู้ตัวๆได้
ผมว่ากิมมิคลูกเล่นตรงนี้มันหายไป
ผสมโรงกับที่ไปๆมาๆ เรื่องก็ปูแบบเช่นเคย คือ ทุกคนรวมพลังส่งกลุ่มลูฟี่ไปสู้บอส มันเลยทำให้ความรู้สึกว่า
เอ ตอนนี้ผมควรสนุกแล้วใช่มั้ย ที่เห็น 5 ยุคสมัย เจอกับ 2 จักรพรรดิ ไม่รู้สิ ผมว่ามันยังให้ความรู้สึกไม่แต่ต่างจากภาคอื่นๆอะ
ยังคงมองเห็นว่า ภาคนี้มาเพื่อล้มไคโด ซึ่งมันแตกต่างจากมารีนฟอร์ด ที่เป็นแบบลูฟี่มันจะช่วยเอสได้ไหมว่ะ
ท่ามกลางแสนยานุภาพสูงสุดแห่งกองทัพเรือ ท่ามกลางเหล่าวายร้าย มีทั้งมิตรทั้งศัตรู
คือมองไม่ออกว่า จะออกมาหน้าใหน ตอนนั้นสิ่งที่ผมชอบคือ ตัวละครมันเยอะ แต่เกลี่ยความสมดุลได้ดีในระดับนึงเลย
ซึ่งมันแตกต่างจากภาคนี้ ที่ตัวละครเยอะก็จริงๆ แต่ธีมหลัก หรือระดับ สเกลความยิ่งใหญ่ ให้สมกับเป็น ภาคที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามารีนฟอร์ด
มันไม่ถึงจริงๆ อาจเพราะตอนนั้น ตัวผมเองมอง ว่า
ภาคมารีนฟอร์ด
7 เทพ + แสนยานุภาพสูงสุดแห่งกองทัพเรือ นี่คือไพ่ทั้งหน้าแล้ว
ชนกับ จักรพรรดิ กลุ่มเดียวที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก+เหล่าดาวดังแห่งอิมเพลดาว
เมื่อเอามาเทียบกันกับภาควาโนะ
5 ยุคสมัยที่เลวร้าย + กองทัพซามูไร
ชนกับ 2 จักรพรรดิ ที่ 1 จักรพรรดิกำลังพลครบ อีก 1 จักพรรดิ+เปรอส
เอาตรงๆส่วนตัวสเกลตอนนี้ ผมกลับมองว่ามันตลกไปซะแล้ว บิ๊กมัม + ไคโด ช่วงพีค นี่ชนกับ แสนยานุภาพกองทัพได้หมดเลยนะ
พวกลูฟี่เก่งจริง แต่ แต่ แต่ ช่างมันเราไม่ว่ากัน ที่เขาเก่ง แต่ความรู้สึกผม ทำไมผมไม่เห็นถึงความเหนือชั้น ของ 2 จักรพรรดิเลย
ที่ว่า
"ต้องใช้ 7 เทพ บวกกองทัพเรือ ถึงจะยันอยู่ " จากคำพูดปู่การ์ป
คำพูดนี้โดนภาควาโนะ ลบซะเกลี้ยง แต่ผมก็เข้าใจนะ ตัวละครมาถึงใกล้จบแล้ว มันต้องเก่งสุดๆ อ่าเข้าใจ
เพียงแต่ในความคิดพื้นฐาน ผมว่า สเกลมันยังเล็กไปจริงๆ
สำหรับผมต่อจากนี้ไป ถ้ายังไม่มีใครมาเพิ่ม ระดับฝีมือ พลเอกขึ้นไป ความคิดเห็นส่วนตัวก็แทบไม่ต่างจากภาค เดรสโรซ่า
ที่สามัคคีชุมนุมกันด้วยซ้ำ
อาจจะเพราะ ความรวดเร็วของพระเอกเรา ที่เติบโตแบบรวดเร็วภานใน 2 ปี ที่ตอนนี้ สามารถ รวมพักพวก สู้กับ 2 จักรพรรดิได้แล้ว
มันคงเป็นความคิดของผมว่า จักรพรรดิคงเป็นตัวละครที่ไม่ได้เก่งจริง อย่างที่ว่า ต้องใช้ 7เทพ +กองทัพเรือ ถึงจะยันจักรพรรดิอยู่ซะละมั้งครับ
ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผมตอนนี้ สเกลของภาควาโนะจะใหญ่ขึ้นจริง และว้าวจริง
คงต้องใช้ พลเอก "เรียวคุกิว" ที่มาพร้อม พลังใหม่ เปิดโหมด AOE ทั้งเกาะ แบบนั้น คงยกระดับให้เทียบมารีนฟอร์ดได้
ต่อให้ตำนานแบบล็อคมาเอง แต่ถ้าขาดขั้วอำนาจฝั่งกองทัพเรือออกจะกล่อย
ประเด็นคือ ผมไม่ได้มองหากำลังเสริมนะสิครับ
ไม่ได้มองหาว่าลูฟี่ หรือไคโดจะมีพันธมิตรมาช่วยเพิ่มไหม
ผมกำลังมองหาขั้วอำนาจอื่นที่จะเข้ามาตะลุมบอนเพิ่ม
จะให้เสือ สิงห์ กระทิง แรด ซัดนัวกันไปมา
สงครามแบบคาดเดาไม่ได้ แบบนั้นสนุกกว่าเยอะเลย
ถ้า สเกลยังเท่านี้ เอาตรงๆ ผมก็รับได้ เพียงแต่รู้สึกว่า "ทำไมถึงบอกว่า สเกลจะใหญ่เท่ามารีนฟอร์ด" ให้หลงดีใจเล่นหว่า
#ทั้งหมดเป็นความคิดห็นส่วนตัว